HTG2.club
Home Theater Guide webboard => รวมวงจรและผลงาน DIY (circuit) => มุม Thai DIY Audio => ห้องสมุด DIY => ข้อความที่เริ่มโดย: santi ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2006, 03:29:40 pm
-
ช่วยกันดูหน่อยครับ ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า
ผมยังไม่ได้ต่อ i/v stage ทำไงผมถึงจะรู้ว่า digital board มันทำงาน/ไม่ทำงานครับ
ผมลองป้อน input เข้าไปแล้ว LED ไม่ติด
รูปแรก เต็มๆครับ
รูปที่ 2 ท่อนบน
-
รูปที่ 3 ท่อนล่าง
รูปที่ 4 close-up CS8414
-
รูปที่ 5 CS8414 อีกซักรูป
รูปที่ 6 pulse trans. ใช้ได้มั๊ยครับ
-
Jumper ระหว่างฮีทซิ้งค์สองตัวในรูปที่สองน่ากลัวมากครับ :o
-
หวัดดีครับ พี่santi ลองดูครับพี่ปัญหาเดียวกันครับ ของผมดัง แต่ภาดI/V รอหลอดกะ หม้อแปลง ครับ
1.กลับ LED ก่อนครับ
2.jumper ใต้ ic 74hc74
3.ไฟเขา +8 vdc กับ GND
4.Jumper ระหว่างฮีทซิ้งค์สองตัวในรูปที่สองน่ากลัวมากครับ อย่างทีคุณ 100bd ว่าหาท่อหดใส่หน่อยก็ดีครับ
5.ถ้ายังไม่มีภาด I/V สัญญานขาออกทีboard 1451A นั้นปกติจะวัดได้ประมาณ + หรือ - 96mV ครับถ้าเปลี่ยน R I/V ค่าก็จะเปลี่ยนตามครับที่สัญญานออกค่อยก็เพราะยังไม่ได้ต่อ ภาค Tube I/V ครับ เป็นเรื่องปกติที่ถ้ายังไม่ต่อ Tube I/V มาขยายสัญญานขึ้นอีกเสียงก็จะเบามากๆ ครับ
-
ขอบคุณคุณ Wasin, คุณ 100db, คุณ Ra ครับ
1. ลองแล้วครับ
2.-3. ไม่ผิดครับ
4. มันน่ากลัวจริงๆครับ ตอนใส่ jumper ผมไม่ได้ลองวัดดูก่อนว่ามันจะใกล้ heatsink ขนาดนั้น
แต่ว่า heatsink ผมรองฉนวนและไม่ได้ลงกราวด์ก็เลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหา+ความขี้เกียจ
เดี๋ยวผมจะแก้ไขโดยถอยสกรู heatsink ออกนิดหน่อยแล้วหาแผ่นฟิล์มบางๆวางทับ jumper
แล้วไขกรูให้แน่น น่าจะ OK
5. ผมวัดไฟที่ขา 26 ได้ 0 V ขณะป้อนสัญญาณเข้า
เดี๋ยวลองต่อ dac board แบบไม่มี I/V ดูก่อนครับครับ (D1 I/V ยังไม่เสร็จ)
จะได้มั่นใจว่า 8414 กลับบ้านเก่าไปแล้ว
:showoff
-
หวัดดีคุณ Santi ครับ เรื่อง LED ติดไม่ติดไม่ใช่ประเด็นครับ ผมเคยลองกับ CD-Rom บางรุ่นที่มี Laser Memory รู้สึกกว่า LED จะไม่ติดตอน Play ครับแต่เสียงดีมากเล่นออกได้เป็นปกติ :headphone คุณ Santi ลองง่ายๆครับเอา Spdif จาก CD ต่อเข้า กด Play จากนั้นเอา DVM ตั้งย่าน MV/ AC วัดคร่อม R I/V ถ้า Meter คุณมี Bar Graph จะเห็นสัญญาน ขยับตามจังหวะเพลงถือว่า Work ครับ ถ้าเงียบสนิท ต้องลองตรวจสอบ B+ ตามจุดขาต่างๆของ IC ดูครับ ถ้าปกติ ก็เตรียมงัด CSxxxx Replace ทิ้งไปซะครับ 2f 2f
-
ขอบคุณคุณ DIY Man วันนี้ได้ทดลองแล้วครับ
ต่อทั้งหมดเข้าด้วยกัน CDROM, PS board, Digital board, DAC board+R I/V, PC speaker
กด play ผลคือเงียบครับ เร่งโวลลุ่มสุดมีจี่เล็กน้อยแต่ไม่มีเสียงเพลง
วัด VAC (mV) คล่อม R I/V ก็แทบไม่กระดิก
มีอาการผิดปกติบน PS board ด้วยครับ IC2 (LM317 ตัวสุดท้าย) ร้อนมาก ???
ถอด DAC board ออก ก็ยังร้อนมาก ???
ถอด Digital board ออก ---> ค่อยๆร้อนน้อยลง K)
ผมคิดว่าพรุ่งนี้จะลองกับ CDROM ตัวอื่น ถ้ายังไม่ได้ จะตรวจดูจุดบัดกรีทั้งหมดบน Digital board
ให้แน่ใจว่าไม่ชอร์ต แล้วถอด CS8414 ออก หามาเปลี่ยนใหม่...
:help ขอความคิดเห็นด้วยคร้าบ
-
;D หวัดดีครับคุณ Santi โดยรวมทั้งหมดวงจรคงยังไม่ทำงานครับ มาว่าเรื่อง PS ก่อน IC ที่ตัวที่ร้อนนี่ปกติครับ ไม่พังง่ายๆ ครับของผมเล่นมา 2 เดือนจน PCB เหลืองเลย แต่มันอึดครับ ว่างๆว่าจะเปลี่ยน Heatsink ให้มันใหม่หรือขยับไปใช้ T0-3 เลย แต่พักนี้ยังขี้เกียจอยู่มากๆๆ ครับ
เอาเน้นๆ ครับ ไฟเลี้ยงตามขาต่างๆของ IC ทั้ง CSxxxx และ 1541 ต้องได้ตามที่กำหนดครับ ถ้ายังไม่ดัง/ลงอุปกรณ์ไม่ผิด/บัดกรีเนี๊ยบ/ ที่ผมเจอ IC มักไปครับ โดยเฉพาะ CSxxxx ไปง่ายมากครับ :bye1
-
คุณ santi ลองเปลี่ยน TL431 ดูหรือยังครับ อาจจะมีปัณหาก็ได้นะครับ ผมเคยมีปัญหาเหมือนกันเช็คหมดแล้ว เปลี่น CSxxxx ก็แล้วยังไม่มีเสียงสุดท้ายเปลี่ยน tl431 ครับ ดังเลยครับ อีกอันคือ 74xx74 ที่ reclock ครับเสียค่อนข้างง่ายเลยครับ มีอันนึงฟังมาตลอด ลองเอาบอร์ดอีกอันเปลี่ยนดู พอเอาอันเก่าใส่กลับคืน เงียบสนิทครับ ทำอย่างไรก็ไม่ดัง ก็เลยต่อตรงเลย อ้าวดังนี่หว่างมโข่งอยู่ตั้งนาน ผมว่าของคุณ santi อาจจะมีปัญหาที่ 74xx74 ก็ได้ครับ
-
พักไปหลายวัน วุ่นกับการรื้อเปลี่ยนฝ้าเพดาน ตีกิ๊บเดินสายไฟ
:o ไม่น่าเชื่อ... ผมเจอรังผึ้ง (ร้าง) ขนาดไม่เล็กกว่าจานข้าว เรียงกัน 10 รัง
:victory D1 hardwire ก็จวนเสร็จแล้ว K] ยังไม่มี power supply +30, 0, -30 เลยนี่หว่า
เข้าเรื่อง:
ผมดูจุดบัดกรีต่างๆบน digital board ไม่น่ามีปัญหาครับ Y]
ลองวัดไฟดูอีกรอบ
CS8414 pin 7, 22, 24
74HC74 pin 1, 4, 10, 13, 14 (ทั้ง 3 ตัว)
OSC pin 14
ได้ประมาณ 5V +/- .01 Y]
:wiggle เย็นนี้จะลองต่อสายจาก CS8414 ไป DAC board โดยไม่ผ่านวงจร reclock ดูครับ
ถ้ายังไม่มีเสียงผมจะงัดเปลี่ยน CS8414 ตัวใหม่ (จอดรอในลิ้นชักแล้ว) ลงไปแทน :cry2
:inv
-
คนโบราณว่ามีรังผึ้งในบ้านมีเรื่องเงินเรื่องทองในทางดีนะครับ :clap
-
คนโบราณว่ามีรังผึ้งในบ้านมีเรื่องเงินเรื่องทองในทางดีนะครับ :clap
Y] ผมก็เคยได้ยินมาอย่างงั้นเหมือนกันครับ
:D โอ้ว... ว้าว... นี่ตั้ง 10 รัง
แค่ไม่โดนลูกหนี้ชักดาบผมก็ดีใจแล้วละครับ :giveup
-
คุณ Santi ของผมก็ทำเสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่ร้องเพลงเหมือนกัน ที่ led มีไฟตามสัญญานระหว่างดูสัญญาน นึกอยากแต่งขาที่เชื่อม CS ไว้
ได้เรืองเลยครับ สัญญานหายเลย ติดว่ากลับบ้านเก่าแล้วครับ :cry2 แต่มีสำรองไว้หนึ่งตัว คืนนี้ว่ากันอีกที่ เอาใจช่วยคุณ Santi ด้วย
-
นึกอยากแต่งขาที่เชื่อม CS ไว้ ได้เรืองเลยครับ
;D 555 ดีใจ มีเพื่อน นึกว่าของผมไม่ดังคนเดียวซะอีก dd
:-\ วันนี้ผมคงต้องงดอีก ไม่มีที่ น้อง SE เล่นรื้อ notebook ออกมากองซะเต็มโต๊ะ
:victory สู้ๆ ครับ อย่างน้อยคุณ DIY C ก็ได้เห็นไฟสัญญาณแล้ว
คุณ DIY C ใช้ transformer หรือ C input ครับ ???
-
:headphone คุณ santi ลองยาเสร็จเมื่อไหร่ ส่งข่าวคราวบ้างนะครับ จะได้ตามไปลองบ้าง :victory
-
:headphone คุณ santi ลองยาเสร็จเมื่อไหร่ ส่งข่าวคราวบ้างนะครับ จะได้ตามไปลองบ้าง :victory
:showoff กำลังพยายามอยู่ครับ ถ้าสำเร็จให้คุณ ganesha จะเอาไปลองฟังดูก่อนก็ได้
ว่าแต่... กลับมาหรือยังครับ
-
คนโบราณว่ามีรังผึ้งในบ้านมีเรื่องเงินเรื่องทองในทางดีนะครับ :clap
บ้านผมก็เคยมีครับมันทำรังอยู่ใต้ฝ้าเพดาน รังมันใหญ่มากกก ซ้อนกันหลายชั้นเหมือน Condo เลย เค้าว่าดีนะคงจะดี แต่ขอเสียคือ(ผึ้งในปี 2006)เวลากลางคืนผึ้งมันชอบแอบลงมาเล่นแสงไฟครับ พากันมาเป็นฝูงๆ พอมันมึนๆ หล่นพื้นใครเผลอเดินไปเหยียบมันละ....จ๊ากเลย... :black_eye
ตกลง DAC V2 ถึงไหนกันแล้วครับ :showoff
-
กำลังพยายามอยู่ครับ ถ้าสำเร็จให้คุณ ganesha จะเอาไปลองฟังดูก่อนก็ได้
ว่าแต่... กลับมาหรือยังครับ
:drunk กลับมาแล้วครับว่าจะปั่น CCS-X BZLS ให้เสร็จซะทีค้างไว้นานมากแล้ว :'(
-
คุณ DIY C ใช้ transformer หรือ C input ครับ
ตอนแรกใช้ C ครับ แต่ได้เปลี่ยนเป็น tran เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา และ ได้ลอง
ลองหลายอย่างแล้ว ยังเงียบอยู่เลยครับ ตอนนี้ขอพักสักครู่ก่อน นี่ครับของผม
อิจฉาคุณ DIY MAN จริงๆ..........ฟังซะ แผ่น PCB เหลือง แล้ว :(
-
:drunk กลับมาแล้วครับว่าจะปั่น CCS-X BZLS ให้เสร็จซะทีค้างไว้นานมากแล้ว :'(
ถ้าหาโครง step volumn 4 ชั้นได้กระซิบบอกด้วยนะครับ หรือหยิบมาเผื่อผมเลยก็ได้
ลองหลายอย่างแล้ว ยังเงียบอยู่เลยครับ ตอนนี้ขอพักสักครู่ก่อน :(
:giveup ผมก็พัก digital board ไว้ก่อนครับ จะต่อ D1 ให้เสร็จก่อน (บัดกรีวันละ 4 จุด) แล้วค่อยกลับมาแก้แค้น CS8414 ทีหลัง :boxing
-
step volume เห็นร้านข้างๆร้านแสงทองที่บ้านหม้อมีอยู่ครับ
-
สวัสดีครับ
ต้องขอโทษด้วยครับที่ไม่ค่อยได้เข้ามาซะนาน
แบบว่าบางทีก็เข้ามาอ่าน ... แว็บๆ...น่ะครับ
ผมว่าปัญหาหลักๆ ของ Digital Board นี่
ตรวจสอบการลงอุปกรณ์ แม้กระทั้งลวดจั้มทั้งหมดว่าไม่ลืมใส่
ตรวจสอบการบัดกรี่ว่าไม่มีช็อต
จากนั้นก็เช็คไฟที่ป้อนเข้า IC แต่ละตัวครับว่าได้ +5VDC หรือไม่ห้ามเกิน 5.25V ครับ
(เกินกว่านี้ IC CS8414 จะเสียได้ครับ )
เริ่มเช็คที่ตัว IC CS8414 ก่อนเลยครับ วัดที่ขาตัวต้านทาน ค่า 100 โอห์ม
ที่ต่ออยู่กับขา 26 โดยป้อนสัญญานดิจิติอลเข้า แล้ววัดที่ขาตัวต้านทานตัวนี้
ด้านไหนก็ได้ จะต้องได้ไฟออกมา 1V ขึ้นครับ ถ้าวัดได้อย่างเช่น
56mV อะไรประมาณนี้ CS8414 เสียครับ
ถ้าเปลี่ยน IC แล้วป้อนสัญญานเข้า ใส่ LED ตรง Signal lock จะกระพริบติดครับ
และมีไฟออกจากขา 26 แสดงว่า IC ใช้ได้ เพื่อความชัวร์ลองจั้มสายเอ้าท์พทุ ทั้ง 3 เส้น
โดยไม่ผ่านชุด Reclock เข้า DAC บอร์ด น่าจะได้ยินเสียงครับ
ต่อไปก็เริ่มตรวจสอบ ภาค Reclock อาจจะเป็น IC เบอร์ 74HC74 ตัวใดตัวหนึ่งเสียก็ได้ครับ
ลองหาตัวใหม่มาเปลี่ยนดู หรืออาจเป็นที่ Osc เสียครับ หรือความถี่ไม่ได้ครับ ถ้าความถี่สูงเกิน
อย่างของคุณ DIY C นี่ปัญหาน่าจะอยู่ที่ภาค Reclock ครับ ค่อยๆลองไล่ดูนะครับ
บางทีถ้าภาค Reclock เสียนี่อาจจะพาลให้ CS8414 เสียตามไปด้วยก็ได้ครับ
เอาใจช่วยทั้ง 2 ท่านอยู่นะครับ
-
สวัสดีครับ คุณ วศิน
ผมได้ลองทำหมดแล้วครับเมื่อสามวันที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้ลองคือเปลี่ยน ตัว osc
อยากทำให้เสร็จ เร็ว ตอนนี้ลูกชายผม เห็นผมหายไปเขาบอกว่า เขารู้นะ ว่าป้าแอบไปทำไฟอยู่ใช่ไม้............... 2f
ขอบคุณมากครับคุณ วศิน
-
เอาใจช่วยเพื่อนๆทุกท่านครับ ไล่ๆดูอีกทีผมว่าต้องมีอะไรผิดพลาดครับ ดูสภาพการกัดของลาย PCB ด้วยก็ดีครับ อาจกัดลายทองแดงไม่ไมดก็เป็นได้ครับ
ผมว่าจะทำ V2 เล่นๆอีกซักชุดนึงแต่ลงอุปกรณ์ Quality ต่างไปจากเดิม ดูว่าเสียงจะแตกต่างไหมครับ???
DAC V2 ของผมยัง Still Running ครับ
-
คุณ Wasin ครับ ผมรอ Wasin's Zero V.3.0 อยู่นะครับ 2f 2f 2f หรือว่าถ้ามี Small Brd. มา Up V1 ให้ Re CLK ได้ ก็คงจะดีครับเห็นเพื่อนๆกัด PCB V1 กันมาหมดตังค์ไปก็หลายอยู่ เผื่อจะได้เอามากัดกับ V2 ครับ :headphone
-
วันนี้เปลี่ยน CS8414 เสร็จแล้วครับ
ยังไม่ได้ต่อสายไปยัง DAC board และ IV board
ทดลองป้อนไฟเข้า
LED ไม่ติดครับ
ทดลองป้อนสัญญาณเข้า (play)
LED ติดสว่าง (ไม่ได้กระพริบครับ สว่างค้างเลย)
CS8414: 26 = 1.26V
(26) IC6: 9 = 1.26V
(12) IC7: 9 = 2.42V
(11) IC8: 9 = 2.48V
พอกด stop : LED ดับ
ผลแบบนี้ดีหรือเสียครับ ???
-
ยินดีด้วยครับ CS8414 ทำงานแล้วครับ :yahoo
-
ขอบคุณคุณ Wasin และเพื่อนๆทุกท่านครับ
วิธีบัดกรีของผม ใช้เศษอลูฯขนาดใกล้เคียงกับตัว IC วางทับบนตัว IC เพื่อช่วยถ่ายเทความร้อน
เอาดินสอวางทับอลูฯอีกที ใช้หนังยางรัดปลายดินสอทั้งสองด้านให้ยึดแน่นกับ PCB กันไม่ให้ IC เคลื่อน
จ่อปลายหัวแร้งตามรูป (สีแดง) เลยครับ ให้แค่ส่วนปลายหัวแร้งแตะรอยต่อระหว่างขา IC กับลาย PCB เท่านั้น
ไม่ถึง 1 วินาทีป้อนตะกั่ว (สีเขียว) เข้าตรงรอยต่อระหว่างปลายหัวแร้ง, ขา IC, ลาย PCB
บัดกรีทีละ 1 ขาแล้วพัก เป่าลม แล้วค่อยบัดกรีต่อ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ รู้งี้บัดกรีเองตั้งแต่ตัวแรกดีกว่า
ที่สำคัญจัดสภาพแวดล้อมให้ดีครับ หาแผ่นอะไรหนืดๆวางรอง PCB ไม่ให้เคลื่อนได้ ผมใช้ mouse-pad หงายท้อง
จะท่าทางให้เหมาะ มืออย่าสั่น ถ้ามือสั่นหาอะไรมาหนุนข้อมือครับ
-
อ่านที่คุณ Santi บรรยายแล้วอยากจะทำอีกซักชุดจังเลยครับ O0
-
ขอบคุณคุณ santi ที่แนะนำ trick ดี ๆ ให้ครับ .... แล้วในกรณีที่ต้องการถอด IC ที่เสียออกต้องทำอย่างไรบ้างครับ
...................... คือกลัวลาย PCB เสียครับ
ขอบคุณครับ
-
เมือวานยังนึกถึงคุณ Santi ว่าไปถึงไหนแล้ว ส่วนของผมก็ยังเงีบยอยู่
ลองไป IC H74 แล้ว สามตัวไม่ได้ผล เลย ได้แต่ดูทุกวันแลยเมือจะร้องสักที่
-
เมือวานยังนึกถึงคุณ Santi ว่าไปถึงไหนแล้ว ส่วนของผมก็ยังเงีบยอยู่
ลองไป IC H74 แล้ว สามตัวไม่ได้ผล เลย ได้แต่ดูทุกวันแลยเมือจะร้องสักที่
คุณ DIY C ลองวัดไฟที่ขา 26 ของ CS8414 ขณะป้อนสัญญาณหรือยังครับ
มันควรจะได้ 1 โวลท์กว่าๆ ถ้าได้แสดงว่า CS8414 น่าจะปกติ ปัญหาน่าจะเป็นที่ชุด reclock
ซึ่งสามารถต่อ output ของ CS8414 ไป DAC board โดยไม่ผ่าน reclock ก็ได้ครับ
ขอบคุณคุณ santi ที่แนะนำ trick ดี ๆ ให้ครับ .... แล้วในกรณีที่ต้องการถอด IC ที่เสียออกต้องทำอย่างไรบ้างครับ
...................... คือกลัวลาย PCB เสียครับ
ตอนถอดออกยากกว่าตอนบัดกรีหลายเท่าเลยครับ
ผมใช้ปลายที่คีบ แหลมๆบางๆสอดไปใต้ขา หัวแร้งจี้ พอตะกั่วละลายรีบงัดขาขึ้น
ไล่ทำเรียงทีละขา ช้าๆครับ ทำไปพักไป ทำด้านเดียวให้เสร็จก่อน เหลืออีกด้านก็ไม่ยากแล้วครับ
พอถอด IC ออกได้แล้ว PCB จะไม่เรียบเพราะมีตะกั่วเหลือติดอยู่ มันจะทำให้ขา IC ตัวใหม่ไม่แนบกับ PCB
ผมใช้ปลายหัวแร้งลากให้ตะกั่วมันใหลไปที่อื่น แล้วค่อยดูดออก
ตอนแรกเอาหัวแร้งจี้แล้วดูด ฟุ่บ..ๆ..ๆ.. ลายทองแดงหลุดไปกับตะกั่วด้วย โชคดีเป็นขา 1 ไม่ได้ใช้งาน
แต่ของผมก็ยังไม่มีเสียงนะครับ... ยังไม่ได้ต่อสายไป DAC board
-
ผมลองต่อสายเข้า DAC board (R I/V), PC speaker
:yahoo :yahoo :yahoo
เย้... ยะฮู้... มีเสียงแล้วครับ
แต่ผมต้องเร่งโวลลุ่มจนสุด
เสียงกีต้าร์จากแผ่น กีต้าร์ลายไทย อืม... เสียงใสครับ ไพเราะ 8)
แผ่น The Linsays : Beethoven String Quartet Op.59
เสียงไวโอลินไม่ใช่อย่างที่เคยเป็นครับ โดยเฉพาะเชลโล่
มันขาดน้ำหนัก แรงสั่นของอากาศ
เอาไว้ power supply I/V stage เสร็จมาว่ากันอีกที ???
*** ปัญหาอื่นๆ ***
1. ใน DAC board ต้องกลับขั้ว LED ด้วยนะครับ
2. Power supply board: IC2 ร้อนมากๆเลยครับ ผมเอามือแตะ heatsink ไม่ได้เลย
-
ดีใจด้วยครับ O0 สุดยอดของงาน DIYอยุ่ตรงนี้ครับ มีเสียงออกมานี่ละครับ
ถ้ายังไม่มีภาด I/V สัญญานขาออกทีboard 1451A นั้นปกติจะวัดได้ประมาณ + หรือ - 96mV ครับถ้าเปลี่ยน R I/V ค่าก็จะเปลี่ยนตามครับที่สัญญานออกค่อยก็เพราะยังไม่ได้ต่อ ภาค Tube I/V ครับ เป็นเรื่องปกติที่ถ้ายังไม่ต่อ Tube I/V มาขยายสัญญานขึ้นอีกเสียงก็จะเบามากๆ ครับ ของผมก็เหมือนกันครับ
ระ
-
:clap :clap :clap ยินดีด้วยครับๆ :headphone :headphone :headphone
:secret :secret :secret ถึงเวลาผมทำ จะได้มีที่ปรึกษาใกล้ตัว dd dd dd
-
:D... c)
-
:clap :clap :clap ยินดีด้วยครับที่สำเร็จจนได้ :drunk ไม่ทราบว่าของท่าน DIY C ดังหรือยังครับ ????
เห็นเพื่อนๆทำกัน ผมเลยรู้สึกคันไม้คันมือ อยากทำ V2 เล่นอีกซักตัว ผลเลยจึงออกมาอย่างที่เห็นนี้แหละครับ "Wasin's Zero DAC with Passive I/V" เสียงดีมากกกครับ เด็ดกว่า V2 ตัวแรกที่ผมทำเล็กน้อยO0 :headphone
-
"Wasin's Zero DAC with Passive I/V" เสียงดีมากกกครับ เด็ดกว่า V2 ตัวแรกที่ผมทำเล็กน้อยO0 :headphone
Pasive I/V คืออะไรครับ?
ดูจากในรูปใช้ R + transformer ใช่มั๊ยครับ ระดับสัญญาณได้เท่า I/V ทั่วๆไปมั๊ยครับ
-
Pasive I/V คืออะไรครับ?
ดูจากในรูปใช้ R + transformer ใช่มั๊ยครับ ระดับสัญญาณได้เท่า I/V ทั่วๆไปมั๊ยครับ
^-^ ผมตั้งชื่อมันเล่นๆ ขึ้นมาเองแหละครับ คุณ Santi เจ้า Passive I/V ของผมก็คือมีแต่ R+Transformer ครับ แล้วเอา Signal ไปต่อใช้งานเลย คือเนื่องจากผมมีความคิดว่า แอมป์หลอดที่ผมทำทุกตัวนั้นมี Line Stage เบอร์หลอดแบบที่ผมชอบทำคั่นอยู่ทุกตัวอยู่แล้ว ความแรงแค่นี้มันหายห่วงสำหรับผม
แต่อาจจะไม่เท่า I/V ที่ใช้ไฟเลี้ยง หรืออาจไม่ดีพอถ้าไปขับ Solid Amp
ที่สำคัญผมสามารถลด Stage หลอดที่ซ้ำซ้อนลงไปได้อีกหนึ่ง การทำแบบนี้เสียงกลางจะ Sweet ดีมากครับ ขยะทาง Digital ต่างๆ ก็ผ่านออกมาไม่ได้ เสียงฟังดูว่าสะอาดและละเอียดขึ้นอีกระดับนึง :headphone ครับ
-
ดูใกล้ๆชัดๆ กว่านี้ได้ไหมครับ น่าสนใจครับ Passive I/V 0)
-
อืมมม ใช้ Step-up Transformer ก็น่าจะดีนะครับ ว่าแต่พี่ DIY Man Bid มาจาก EBAY หรือสั่งพันในบ้านเราครับ ถ้าสั่งพันในบ้านเราพอจะบอกแหล่งได้ป่าวครับ น้องๆจะได้เอามาลองแต่งซิ่งมั่ง O0 O0 O0
-
ผมยังไม่สบายใจกับ PS board ครับ IC2 (317) มันร้อนมากๆ
ผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะเกิดจากการที่ตัวมัน drop volt ลงมามาก
เลยทำให้ร้อนมาก ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า
ถ้าใช่อย่างที่ผมคิด ผมอยากปรับให้มันทำงานในจุดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ผมอยากลองแก้โดยการลด VAC ลง 1 ข้าง
ของเดิมผมใช้ 18VAC--0--18VAC อาจจะเปลี่ยนเป็น
18VAC--0, 12VAC--0 ซึ่งน่าจะมีปัญหาอย่างอื่นพ่วงมาด้วยคือ
1. ต้องแยก bridge rectifier เป็น 2 ชุด และแต่ละชุดจะต่อ VAC--ground
แทนที่จะต่อระหว่าง VAC--VAC เหมือนเดิม
2. ต้องปรับการทำงานของ IC1 (317) ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับ Vin ที่ลดลง
คุณวศินและเพื่อนๆคิดว่าอย่างไรครับ ถ้าไม่มีข้อเสียหรืออันตรายใดๆ รบกวนแนะนำด้วยครับ
ผมต้องเปลี่ยน R3 (3K3) เป็นค่าเท่าไรเพื่อให้ V drop ที่ IC1 เท่ากับ/ใกล้เคียงกับ
V drop ที่ IC2 เพื่อให้มันรับภาระใกล้เคียงกัน
-
ผมยังไม่สบายใจกับ PS board ครับ IC2 (317) มันร้อนมากๆ
ของผมก็ร้อนมากจนแตะไม่ได้เลยครับ แต่ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดนะครับ คุณวศินก็เคยบอกไว้เหมือนกันว่าตัวนี้จะร้อนมากแต่ไม่มีปัญหา
:euro
-
ผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะเกิดจากการที่ตัวมัน drop volt ลงมามาก
เลยทำให้ร้อนมาก ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า
ถูกต้องครับ
ผมต้องเปลี่ยน R3 (3K3) เป็นค่าเท่าไรเพื่อให้ V drop ที่ IC1 เท่ากับ/ใกล้เคียงกับ
V drop ที่ IC2 เพื่อให้มันรับภาระใกล้เคียงกัน
วิธีง่ายที่สุดก็ลองเปลี่ยนค่า R3 เป็น 2K55 ดูนะครับ
คิดว่าความร้อนก็คงน้อยลงครับแต่ก็ยังร้อนอยู่ดีครับ
เนื่องจากฝั่งไฟบวกนี่ IC ตัวนี้จะถูกดึงกระแสมากกว่าฝั่งไฟลบอยู่หลายเท่าอยู่ครับ
-
ผมยังไม่สบายใจกับ PS board ครับ IC2 (317) มันร้อนมากๆ
ของผมก็ร้อนมากจนแตะไม่ได้เลยครับ แต่ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดนะครับ คุณวศินก็เคยบอกไว้เหมือนกันว่าตัวนี้จะร้อนมากแต่ไม่มีปัญหา
:euro
ตัวถังของ LM317 ทั้งสองตัว ( ic1 & ic2 ) สัมผัสกันได้ไหมครับ ?
ถ้าได้จะได้เอาฮีทซิ้งค์ตัวใหญ่หน่อยพาดยาวขวาง pcb เลยครับ
???
-
ตัวถังของ LM317 ทั้งสองตัว ( ic1 & ic2 ) สัมผัสกันได้ไหมครับ ?
ถ้าได้จะได้เอาฮีทซิ้งค์ตัวใหญ่หน่อยพาดยาวขวาง pcb เลยครับ
ไม่ได้ครับ ถ้าจะใส่ Heatsink ตัวใหญ่แผ่นเดียวกันให้กับ IC ทั้ง 2 ตัว
ให้รองฉนวนไมก้ารวมทั้งทาซิลิโคนด้วยครับ จากนั้นก็ต้องใส่แหวนพลาสติก
กันช็อตระหว่างตัวถังของ IC กับน็อตตัวผู้ ที่จะขันยึดติดกับ heatsink ด้วยครับ
เพื่อความแน่นอน ก่อนจ่ายไฟเข้า ลองตั้ง โอห์ม มิเตอร์วัดที่ตัวถังส่วนที่เป็นเหล็ก
ของ IC ทั้ง 2 ก่อนว่าเข็มไม่กระดิก ถ้าเข็มกระดิกมาที่ 0 โอห์ม ก็แสดงว่า
ตัวถังของ IC ทั้ง 2 ยังช็อตกันอยู่ครับ
-
:clap :clap :clap ยินดีด้วยครับที่สำเร็จจนได้ :drunk ไม่ทราบว่าของท่าน DIY C ดังหรือยังครับ ????
เห็นเพื่อนๆทำกัน ผมเลยรู้สึกคันไม้คันมือ อยากทำ V2 เล่นอีกซักตัว ผลเลยจึงออกมาอย่างที่เห็นนี้แหละครับ "Wasin's Zero DAC with Passive I/V" เสียงดีมากกกครับ เด็ดกว่า V2 ตัวแรกที่ผมทำเล็กน้อยO0 :headphone
ของผมยังไม่รอ้งเพลงเลย คืนนี้สู้ ๆๆๆ
-
ผมก็กำลังลงมือทำอยู่เหมือนกันครับ จากที่ผมดูวงจรทั้ง V1,V2 แล้ว เน้นที่ภาคจ่ายไฟต้องนิ่งมากๆจึงใช้ Regulateหลายชั้น อุปกรณ์ก็ค่อนข้างเยอะ ผมเลยจะลองใช้ถ่าน 9V. แยก 5 ชุด สำหรับ CS8414 2ชุด และ TDA1541 อีก 3 ชุด ต่อตรงเข้า TL431 เพื่อ Regulate และลดแรงดันลงอีกที เพราะดูจาก Data sheet แล้วตัว IC ไม่ได้กินกระแสมากมายนัก ประหยัด IC ลงเยอะเลย เสีย LM317 แค่หนึ่งตัวไว้ทำวงจร Charger เท่านั้นเองครับ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะPost ให้ดูอีกทีนะครับ :showoff
-
ตัวถังของ LM317 ทั้งสองตัว ( ic1 & ic2 ) สัมผัสกันได้ไหมครับ ?
ถ้าได้จะได้เอาฮีทซิ้งค์ตัวใหญ่หน่อยพาดยาวขวาง pcb เลยครับ
ไม่ได้ครับ ถ้าจะใส่ Heatsink ตัวใหญ่แผ่นเดียวกันให้กับ IC ทั้ง 2 ตัว
ให้รองฉนวนไมก้ารวมทั้งทาซิลิโคนด้วยครับ จากนั้นก็ต้องใส่แหวนพลาสติก
กันช็อตระหว่างตัวถังของ IC กับน็อตตัวผู้ ที่จะขันยึดติดกับ heatsink ด้วยครับ
เพื่อความแน่นอน ก่อนจ่ายไฟเข้า ลองตั้ง โอห์ม มิเตอร์วัดที่ตัวถังส่วนที่เป็นเหล็ก
ของ IC ทั้ง 2 ก่อนว่าเข็มไม่กระดิก ถ้าเข็มกระดิกมาที่ 0 โอห์ม ก็แสดงว่า
ตัวถังของ IC ทั้ง 2 ยังช็อตกันอยู่ครับ
เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นแยกดีกว่าครับ
ผมยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ด้วย ไม่อยากลุ้น
:black_eye
-
เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นแยกดีกว่าครับ
ผมยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ด้วย ไม่อยากลุ้น
:black_eye
ถ้าอยากใช้ heatsink อันใหญ่ รองฉนวนไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ
ของผมใช้แผ่นฉนวนซิลิโคน, แหวนพลาสติค (ย้อนกลับขึ้นไปดูข้างบนครับ)
ผมห่วงเรื่องเจาะรูให้ตรง+ต้าฟเกลียว มากกว่าครับ
-
เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นแยกดีกว่าครับ
ผมยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ด้วย ไม่อยากลุ้น
:black_eye
ถ้าอยากใช้ heatsink อันใหญ่ รองฉนวนไม่ยากอย่างที่คิดหรอกครับ
ของผมใช้แผ่นฉนวนซิลิโคน, แหวนพลาสติค (ย้อนกลับขึ้นไปดูข้างบนครับ)
ผมห่วงเรื่องเจาะรูให้ตรง+ต้าฟเกลียว มากกว่าครับ
ใช้อยู่เหมือนกันครับ ซื้อมาเป็นชุด ชุดละ 3 บาทแบบมีตัวเมียด้วย
ผมก็เลยเจาะให้มันร้อยน๊อตได้แล้วเอาตัวเมียหนีบเอาครับ
แต่ทุกทีจะเป็นชิปแบบมีฉนวน ( lm3875 ) พอมาเจอไฟเต็มๆเลยป๊อดดด
:cold
แต่ได้ฟังอย่างนี้ก็โอเคครับ :)
-
วันนี้ D1 power supply เสร็จแล้วครับ ได้ฟังครบเซ็ทซะที :victory
แผ่น The Linsays : Beethoven String Quartet Op.59
เสียงไวโอลินและเชลโล่ ใช่แล้วครับ น้ำหนักเสียง แรงสั่นของอากาศ อู้ว...ซี้ด.... สุดยอด
แผ่น Diana Krall: The Girl in Other Room
เสียงอะไรต่อมิอะไรที่ไม่เคยได้ยินออกมาเพียบเลยครับ เสียง distrotion ของสาย double bass ที่สั่นไปกระทบคอ
เสียงเครื่องเคาะต่างๆ สุดยอด...อีกแล้วครับท่าน
แผ่นกีต้าร์ลายไทย 2
เพลงม้าย่อง เสียงกีต้าร์สองตัวมันแยกออกจากกันอย่างชัดเจนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ใส ใสมาก เฮ้อ... สุดยอดอีกแล้ว
พอดีกว่าไม่บรรยายเสียงแล้ว ขี้เกียจพิมพ์คำว่าสุดยอดซ้ำแล้วซ้ำอีกๆๆๆๆ แต่มันสุดยอดจริงๆนะ
นี่ผมใช้แค่อุปกรณ์ถูกเท่านั้นยังสุดยอดได้ขนาดนี้ ถ้าใช้ของดีๆไม่รู้จะสุดยอดขนาดใหน
ไม่อยากจะบอกเลย ที่ลองฟังทั้งหมดนี้ฟังกับ PC speaker Phillips ตัวเล็กๆเท่านั้น
ถ้าได้ลองกับ system ดีๆละก็...
วันจันทร์ค่อยมาต่อนะครับ
-
โอววววว ฟังคุณสันติบรรยายแล้ว คงต้องรีบๆทำแล้วละครับ สำหรับท่านที่สั่ง PCB ไปแล้วยังไม่มีผลงาน แฮะๆ รวมทั้งตัวผมด้วยอีกคน :-* ของผมเพิ่งบัดกรีเสร็จไปเมื่อคืนนี้ครับ ยังไม่ได้ลองเลยไม่รู้จะ work ป่าว แต่ปัญหาหย่ายยยยก็คือยังไม่ได้ทำ I/V stage อ้ะดิเพราะติดปัญหาคาใจนิดหน่อย รบกวนท่านพี่ที่เคยทำแล้วช่วยดูให้หน่อยนะครับ ตรง L 0.13 mH.ต้องค่านี้เป๊ะๆ เลยป่าว คือผมมี L แบบที่รูปร่างคล้าย Resistor อ้ะครับ โค้ดสีมันคือ Brown Black Red อย่างนี้อ่านได้ 1000 uH.= 1 mH.ใช่ป่าวครับ วัดค่า DC.Resistance = 22 Ohm พอจะใช้แทนในวงจรได้ป่าวครับ หรือถ้าไม่ได้เราจะพันLตัวนี้ขึ้นมาเองได้ไหมครับ :help :help :help
-
รบกวนสอบถามคุณsanti ครับ ไม่ทราบว่า D1 I/V จำเป็นต้องจับคู่ irf610 ด้วยมั้ยครับ และถ้าต้องจับคู่มีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากมั่งมั้ยครับ :D อ้อที่สำคัญได้ลองเทียบกับแบบหลอดมั้ยครับ แตกต่างกันยังไงมั่ง :wiggle
แล้วยังไงเอารูปล่าสุดมาให้ผมและเพื่อนๆดูมั่งนะครับ :victory :victory :victory
-
IRF610 ไม่ต้อง match ครับ
output ที่ได้แรงดีมากเลย ผมลองต่อ headhone ฟังได้ระดับความดังแบบฟัง relax ครับ
อาจจะไม่ต้องใช้ pre-amp ก็ได้นะครับ
DAC V2 + D1 นี่เป็นโครงงานแรกของผมเลยครับ เลยยังไม่มีโอกาสได้เทียบกับแบบอื่นๆ
ผมเลือก D1 เพราะว่าชอบแนวทางของ อ.Nelson Pass และ อ.Wasin ครับ
ข้อดีอีกข้อของ D1 คือ :secret ใช้อุปกรณ์ราคาถูกๆครับ
mosfet 4 ตัว ตัวละ 20, R C หยิบมือนึง, power supply +/- 30V, หม้อแปลง 24--0--24
จะหาโอกาสเอาไปชนกับหลอดดูครับ
-
เอารูปมาอวดครับ
รูปที่ 1
D1 I/V stage: hardwire ครับ ใครยังไม่เคย hardwire ขอแนะนำเลยครับ สนุกกว่าการประกอบลง PCB ที่มีลายมาก
เป็นการฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี เพื่อนๆที่เป็นคอหลอดคงรู้ว่าสนุกยังไง
-
รูปที่ 2
หงายท้องให้ดู เป็นโครงงานแรกไม่ค่อยเรียบร้อยครับ ยังต้องฝึกอีกมาก (ไม้แก่ดัดยาก)
ผมรู้สึกว่าเส้นที่เป็นกราวน์มันจะเล็กไปหน่อย แต่ก็ไม่มีผลอะไรครับ
-
รูปที่ 3
power supply: (ซ้าย) ดัดแปลงเอา PCB power supply DAC V2 มาใช้ครับ ได้ +30/-30 VDC ตามที่ D1 ต้องการ
ที่จริงผมตั้งใจจะ hardwire ครับ จะแยก แ้ชนแนลซ้ายขวา แต่ไม่มีเวลาไปซื้ออุปกรณ์ก็ได้ออกมาอย่างที่เห็นครับ
-
รูปที่ 4
digital board: จุดที่หลายท่านแนะนำครับ พอได้ ferrite bead มาพอดี
ผมไม่สามารถยัดมันเข้าไปอยู่ระหว่าง heatsink ก็... เอาให้มันน่าเกลียดน้อยที่สุดละกัน
-
รูปที่ 2
หงายท้องให้ดู เป็นโครงงานแรกไม่ค่อยเรียบร้อยครับ ยังต้องฝึกอีกมาก (ไม้แก่ดัดยาก)
ผมรู้สึกว่าเส้นที่เป็นกราวน์มันจะเล็กไปหน่อย แต่ก็ไม่มีผลอะไรครับ
อืมม ถ้าขนาดนี้ยังไม่สวย ไม่เรียบร้อยก็ไม่รู้จะว่าไงละครับ ;D ผมว่าพี่เดินฮาร์ดไวร์กับปรินท์เอนกประสงค์ได้เหมือนลายวงจรเลยนะครับเนี่ย O0 ถ้าไม่ต้องจับคู่เฟตก็ค่อยสบายใจหน่อย เดี๋ยวจะลองฮาร์ดไวร์แบบพี่แล้วก็จะทำหลอดด้วย เอามาลองเสียงกันดู ถ้าได้ผลเมื่อไหร่จะมาส่งข่าวอีกทีครับผม อ้อ ว่าแต่ไอ้เจ้า ferrite bead ซื้อมาจากไหนครับผม :secret
-
รูปที่สองมันเบลอๆครับ จะมองไม่เห็นความไม่เรียบร้อย layout ผมวางตามแบบลาย PCB ของคุณ Wasin เลยครับ
แต่หาค่า C 2700pF ไม่ได้เลยใช้ 2200pF ขนานกับ 470pF แทน
อ้อ ว่าแต่ไอ้เจ้า ferrite bead ซื้อมาจากไหนครับผม :secret
ผมก็หาไม่ได้เหมือนกัน น้องคนที่รับ PCB V1 ไปเขาส่งมาให้ครับ
-
สวัสดีครับ พี่สันติ
ยินดีด้วยครับได้ฟัง DAC ร้องเพลงแล้ว เดี๋ยวผมจะลอง D1. ดูบ้าง ว่าแต่ หม้อแปลง 24-0-24 ขนาดกี่แอมป์ครับ คุณนกสีเหลือง PM ที่อยู่ให้ผมน่ะ แล้วผมส่ง ferrite bead ไปให้ พอดีไปได้มา 20 ตัว เดี๋ยวแบ่งไปให้ 10 ตัว
-
หม้อแปลง 24-0-24 ขนาดกี่แอมป์ครับ
ผมใช้ 1 A ครับ ฟังเพลงเป็นชั่วโมง แตะดูก็ไม่รู้สึก
power supply ผมใช้ PCB power supply DAC V2 ลงอุปกรณ์ตามรูปที่ 3 ครับ
C ตัวใหญ่ใช้ 1000 uF 50V เพราะมีอยู่แล้ว
R 3K3 ทั้งสองตัวเปลี่ยนเป็น 5K1
IC2 (317) และ IC4 (337) ไม่ใช้ jump ขา 2--3
D1 น่าจะ bi-cap C output ด้วย แต่ผมยังไม่ได้ลอง ลืมเผื่อที่เอาไว้ด้วย คงต้องแปะใต้ PCB ครับ
เอ... จะใช้ C ยี่ห้ออะไรดี
-
ของผมยังไม่ดังเช่นเคย ตอนนี้หันทำตู้ลำโพงก่อน อืม ฝากไว้ก่อน :bye1
-
วันนี้ D1 power supply เสร็จแล้วครับ ได้ฟังครบเซ็ทซะที
แผ่น The Linsays : Beethoven String Quartet Op.59
เสียงไวโอลินและเชลโล่ ใช่แล้วครับ น้ำหนักเสียง แรงสั่นของอากาศ อู้ว...ซี้ด.... สุดยอด
แผ่น Diana Krall: The Girl in Other Room
เสียงอะไรต่อมิอะไรที่ไม่เคยได้ยินออกมาเพียบเลยครับ เสียง distrotion ของสาย double bass ที่สั่นไปกระทบคอ
เสียงเครื่องเคาะต่างๆ สุดยอด...อีกแล้วครับท่าน
แผ่นกีต้าร์ลายไทย 2
เพลงม้าย่อง เสียงกีต้าร์สองตัวมันแยกออกจากกันอย่างชัดเจนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ใส ใสมาก เฮ้อ... สุดยอดอีกแล้ว
พอดีกว่าไม่บรรยายเสียงแล้ว ขี้เกียจพิมพ์คำว่าสุดยอดซ้ำแล้วซ้ำอีกๆๆๆๆ แต่มันสุดยอดจริงๆนะ
นี่ผมใช้แค่อุปกรณ์ถูกเท่านั้นยังสุดยอดได้ขนาดนี้ ถ้าใช้ของดีๆไม่รู้จะสุดยอดขนาดใหน
ไม่อยากจะบอกเลย ที่ลองฟังทั้งหมดนี้ฟังกับ PC speaker Phillips ตัวเล็กๆเท่านั้น
ถ้าได้ลองกับ system ดีๆละก็...
วันจันทร์ค่อยมาต่อนะครับ
0) 0) 0) 0) 0) 0) 0) 0) 0) 0) 0)
-
คุณ DIY C เก็บนานเดี๋ยวสนิมขึ้นนะครับ
คุณ ganesha มะม่วงที่บ้านเหลืองคาต้นว่าจะชวนมาสอย เห็นหายตัวไปก็เลยคิดว่ายุ่งไม่กล้ากวน
ตอนนี้สอยแจกชาวบ้านเกลี้ยงไม่มีเหลือแล้ว
10-12 มี.ค.ผมจะไปบ้านแม่ ช่วงนั้นเอา DAC V2 + D1 ไปฟังมั๊ยครับ มีข้อแม้นิดหน่อย PM ละกัน
-
คุณ ganesha มะม่วงที่บ้านเหลืองคาต้นว่าจะชวนมาสอย เห็นหายตัวไปก็เลยคิดว่ายุ่งไม่กล้ากวน
ตอนนี้สอยแจกชาวบ้านเกลี้ยงไม่มีเหลือแล้วขอบคุณมากๆ เลยครับ 0) แหม! เสียดายจัง :'(
10-12 มี.ค.ผมจะไปบ้านแม่ ช่วงนั้นเอา DAC V2 + D1 ไปฟังมั๊ยครับ มีข้อแม้นิดหน่อย PM ละกัน
c) c) c) ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ c) c) c)
-
update: Digital board
เปลี่ยนจาก C input เป็น Pulse transformer ทดสอบเบื้องต้นทำงานได้ปกติครับ แต่ยังไม่ได้ลองฟังเสียง
Pulse transformer ผมพันด้วยใส้สายโทรศัพท์ (มีใส้ 4 เส้น ผ่าเอามาใช้แค่ 2 เส้น) พันเต็มแกนได้ประมาณ 21 รอบ
-
:headphone หลังจากที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากพี่ท่าน Santi ให้หยิบยืม Wasin's DAC 2.2 +CD ROM LG มาลองฟัง ได้ฟังไปซักอาทิตย์หนึ่งจนคุ้นหู พอสรุปความได้ว่า DAC ได้มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเสียงในเชิงบวกครับ ประเด็นแรกที่ฟังออกชัดๆ เลยก็คือรายระเอียดของเสียงครับมามากมายจริงๆ (ฟังกับอัลบั้ม ABRASAX Remaster ของ Santana) โดยเฉพาะเสียงเครื่องเคาะไม่ต้องเงี่ยงหูฟังก็ได้ยินครับใครชอบดนตรี Latin, Afro Cuba, Rock น่าจะชอบ DAC เวอร์ชั่นนี้ครับ ผมมีความรู้สึกเหมือน DAC มาช่วยปรับเพิ่ม Gain มากขึ้น เพราะผมบิดโวลุมแค่ประมาณ10 นาฬิกาก็เพียงพอกับการฟังแล้วแล้ว (ปกติผมต้องหมุนไปที่11นาฬิกา) แต่กับบางอัลบั้มและบาง System ก็รู้สึกว่าเสียงมีความชัดเจนมากไปจนอาจรู้สึกว่าคมจัดไปหน่อย แต่ท่านที่ชอบ Hard Rock, Speed Metal ฯ อาจชอบครับ เพียงแต่ผมรูสึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับดนตรี Jazz เท่าไหร่
:headphone หลังจากนั้นผมจึงลองสลับปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ ต่างที่ผมมีเช่น เปลี่ยนจาก CD ROM LG มาเป็น DVD 533K เสียงก็แตกต่างไปอีกแบบครับ ฟังดูบุคลิคเสียงเปลี่ยนไปพอสมควรเสียงไม่ดุเท่ากับ CD ROM LG อาการของเสียงที่ดูเหมือนชัดเจนมากไปหายไปเลยครับ ฟังแล้วเสียงนวลเนียนกว่าเหมาะกับดนตรี Jazz ครับ ผมชอบเสียงของ ไฮแฮทที่ถูกฟาดด้วยแซ่ มันทอดตัวไปไกลกว่าเดิมที่เคยฟัง ปลายเสียงไม่ฮ้วนครับ แต่ค่อยๆโรยตัวแล้วจางหายไป :headphone
:drunk ตัวสุดท้ายที่ผมนำมาลองเปลี่ยนคือ CD ROM ฟิลลิป ที่ถอดออกมาจากคอมฯ บุคลิคเสียงมันก้ำกึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง CD ROM LG กับ DVD 533K ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเสียง CD ROM ฟิลลิป ที่สุดครับให้ค่าเฉลี่ยที่น่าพึ่งพอใจกับดนตรีหลายๆ แนว
:drunk แต่ส่วนใหญ่ผมจะฟังกับ DVD 533K ครับ เพราะมันให้ความสะดวกสบายที่สุด เนื่องจากมีรีโมทคอนโทรลครับ 2f
:shutup มาถึงตอนนี้ผมมีความรู้สึกว่าอยากฟังภาค I/V หลอดมากครับ และอีกอย่างที่อยากบอกถึงพี่ท่าน Santi :secret ผมไม่อยากให้ Wasin's DAC 2.2 ถูกเรียกคืนเลยจริงๆ จอร์จ :clap ;D ;D ;D :clap
-
ผมมีความรู้สึกเหมือน DAC มาช่วยปรับเพิ่ม Gain มากขึ้น
ตัว DAC จริงๆสัญญาณมันเบามากๆครับ ที่ได้ระดับสัญญาณที่แรงมากนั่นมาจาก D1
ซึ่งตามวงจรต้นฉบับของ Passlabs เป็นแบบ balanced และสามารถปรับระดับสัญญาณได้
แต่ผมลอกเขามา (ที่จริงลอกจากคุณ Wasin อีกต่อหนึ่ง) เป็นแบบ single end จึงได้ระดับสัญญาณ
ที่ค่อนข้างแรงครับ
CD ROM ฟิลลิป ที่ถอดออกมาจากคอมฯ บุคลิคเสียงมันก้ำกึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง CD ROM LG กับ DVD 533K ครับ
:D น่าสนใจครับ ผมมี CDROM อยู่หลายตัว แต่ไม่รู้หูผมจะฟังออกมั๊ย :headphone
ผมไม่อยากให้ Wasin's DAC 2.2 ถูกเรียกคืนเลยจริงๆ จอร์จ
;D เอาไว้ผมลงมือกับ Zeny แล้วค่อยคืนครับ
ถ้าคุณ ganesha อยา่กลองยำ D1 นะครับ
ลองเอา C MKP ค่าเท่าไรก็ได้ในช่วง 0.01 - 0.47 uF บัดกรีด้านล่างคล่อมกับ C output
(220uF ตัวที่อยู่ตรงกลางระหว่า IRF610) น่าจะเห็นผลชัดเจน
-
จดๆจ้องมานานผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเก็บเงินซื้อเครื่องเล่นซีดีดีๆที่ราคาซัก15,000(C.E.C CD3300)
กับทำ Wasin's DAC 2.2 อย่างไหนคุ้มค่ากว่ากัน(คุณภาพเสียง/ราคา)
ขอความเห็นหน่อยครับ