HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม review (รวมกระทู้เด็ด) => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => มุมอื่นๆ (นอกเรื่อง) : => ข้อความที่เริ่มโดย: leo2029 ที่ 04 กุมภาพันธ์, 2006, 07:20:16 am
-
ในการจ่ายผ่านบัตรเครดิตเมื่อซื้อสินค้าในเวปเราต้องแจ้งข้อมูลต่างๆ บนบัตร
ฉะนั้นในเรื่องความปลอดภัย เป็นไปได้ไหมว่า เค้าสามารถเอาข้อมูลเหล่านี้ นำบัตรของเราไปใช้
ใครมีข้อมูล ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยครับ
-
เป็นไปได้ครับ และ เป็นบ่อยด้วยครับ
ควรใช้ จ่ายผ่านเฉพาะ web ที่ มีรับรองความปลอดภัย เช่น veritrust visapass ...etc
หรือถ้าจำเป็น ก็ใช้บัตรที่วงเงินต่ำๆนะครับ :D:D เพราะส่วนใหญ่ บริษัทบัตรเครดิต ในไทย ไม่ยอม ลบยอดที่สงสัยออกให้อ่ะครับ จ่ายอย่างเดียวเท่านั้น
-
งั้นเวลาผมจะสั่งซื้อของทางเว็บ ผมก็สามารถเอาการ์ดของสาวๆมาใช้ได้ใช่ไหมคับ ;D
-
ขึ้นอยู่กับระบบรักษาความปลอดภัยครับ
เกือบทั้งหมดจะไม่มีปัญหาครับ
ให้ดูว่า เมื่อเราป้อนข้อมูลที่ URL ขึ้นเป็น https://... หรือไม่ (ไม่ใช่ http://... ตามปกติ)
และมีรูปกุญแจล๊อค แสดงอยู่ที่ bar ด้านล่างของ browser
ให้ดูว่า การทำรายการนั้น ใช้บริการ payment gateway ของใคร
หากเป็น payment gateway ของธนาคารขนาดใหญ่ หรือ Broker ที่ใช้บริการ payment gateway ของธนาคาร ก็ปลอดภัยครับ
(broker ก็เช่น paysbuy หรือ Thaiepay เป็นต้น)
ให้ดูว่า ร้านค้า online นั้น จดทะเบียนการค้าถูกต้องไหม อยู่ในระบบภาษีไหม
เพราะร้านค้าที่มีหลักมีฐาน จะไม่ขโมยข้อมูลลูกค้าครับ
หลีกเลี่ยงร้านค้าเถื่อนที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ โดยไม่สามารถตรวจสอบได้
ดูให้มั่นใจว่า จะไม่มีการเก็บข้อมูลบัตรของลูกค้าไว้บน server ของร้านค้าโดยเด็ดขาด
ซึ่งอาจจะสังเกตุง่ายๆว่า ชำระเป็นระบบ online หรือไม่
แจ้งผลให้ทราบทันทีหรือไม่
หากเป็นระบบ offline คือไม่แจ้งผลทันที ก็ไม่ปลอดภัยครับ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะมีการเก็บข้อมูลไว้บน server ของร้านค้า
ให้ดูว่า เวลาทำรายการชำระบัตรเครดิต ทำบน server ของใคร
หาก url เปลี่ยนไปเป็น url ของ Broker หรือ ธนาคาร ก็ถือว่าปลอดภัย
หากไม่เปลี่ยน ยังคงอยู่บน server ของร้านค้า
(มีในร้านค้าใหญ่ๆมากบางร้าน สามารถลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัย และมี server เป็นของตัวเองเลย ซึ่งของไทยจะมีอยู่ค่อนข้างน้อย)
ก็ต้องสังเกตุต่อว่า url เป็น https://.... หรือไม่
หากไม่ใช่ ก็ไม่ปลอดภัยครับ
สุดท้าย ใช้บริการ verified by visa จะเป็นการป้องกันได้อีกชั้นหนึ่งครับ
โดยสรุปแล้ว การชำระเงินด้วย credit card online ในปัจจุบันมีความปลอดภันที่เชื่อถือได้ หากเราสังเกตุและระมัดระวังตามสมควร ผมเองก็ใช้บัตรเครดิต ซื้อสินค้า online อยู่บ่อยๆ ผมยังไม่เคยโดนใครขโมยบัตรผมไปใช้ได้เลยครับ จึงขอให้สบายใจ และมั่นใจในระบบ payment online เถอะครับ
สำหรับคำถามที่ว่า ร้านค้าจะมีการเอาข้อมูลบัตรไปใช้ได้หรือไม่
สำหรับผมเอง จะไม่เห็นข้อมูลบัตรของลูกค้าครับ จะเห็นแค่ 4 หลักสุดท้ายเท่านั้น เพื่อใช้ตรวจสอบและอ้างอิงกับทาง paysbuy ส่วนข้อมูลอื่นๆ ผมจะไม่เห็นเลย จะแสดงเป็น xxxx-xxxx-xxxx จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ร้านค้าจะเอาข้อมูลของลูกค้าไปใช้
และร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีความตั้งใจจะทำการค้าจริงจัง จะไม่ทำความชั่วดังกล่าวแน่นอนครับ เพราะเป็นการทำลายการค้าของตนเองในระยะยาว ไม่มีใครคิดสั้นอย่างนั้นแน่นอนครับ
ผมเชื่อว่า การชำระเงิน online จะได้ความนิยมมากขึ้นไปเรื่อยๆในอนาคต ยอดขายของผมเองทุกวันนี้มีอยู่ประมาณ 25-30% ที่ลูกค้าจ่ายด้วยบัตรเครดิต ซึ่งเป็นที่พอใจมากของลูกค้าในแง่ของความสะดวกรวดเร็วครับ และผมไม่เคยมีปัญหาใดๆในการใช้บริการ payment online ครับ
-
คุณ Poj อธิบายได้ดีจริงๆ ครับ ผมชอบใช้การจ่ายผ่านบัตรเครดิตซื้อสินค้าในเวปพวก DVD,CD เวปในประเทศ (ต่างประเทศยังไม่เคย) เพราะสะดวกดี ใช้มานานแล้วยังไม่เคยมีปัญหาเลยครับ
-
แล้วถ้าใครจำ รหัสที่อยู่บนบัตรเราได้ก็สามารถเอาไปใช้ได้เลย นะสิครับ
-
ผมเคยซื้อของผ่านเว็บ โดยใช้บัตรเครดิตของธนาคารหนึ่ง และไม่เคยโดนแบบที่ว่า
แต่บัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง ผมไม่เคยใช้ผ่านเว็บ แต่โดนคนเอาข้อมูลไปซื้อของ และมีใบเรียกเก็บเงินมาที่ผม ผมจึงปฏิเสธการจ่าย ทางธนาคารขอตรวจสอบ 1 สัปดาห์ และได้ตัดยอดนี้ออกไป แตถ้าผมมีประวัติเคยซื้อของด้วยบัตรใบนี้ ก็ไม่ทราบว่าเขาจะตัดให้ง่าย ๆ หรือไม่ หลังจากนั้นผมจึงยกเลิกบัตรนี้ไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำสอง
พี่สาวที่อเมริกาบอกว่า เวลาเขาซื้อของในอเมริกา สามารถโทร.ไปสั่งซื้อ พร้อมแจ้งเลขบัตรเครดิตได้เลย ไม่ต้องใช้ลายเซ็นอะไร และถ้ามีใครเอาเลขเราไปใช้ เราก็ปฏิเสธได้ และทางร้านค้าหรือธนาคาร จะไปเก็บเงินจากบริษัทประกัน แล้วบริษัทประกัน จะไปไล่หาเองว่า ใครเป็นผู้นำเลขบัตรนี้ไปใช้ แต่นั่นไม่ใช่การซื้อผ่านเว็บ และเป็นการซื้อในประเทศ ผู้ซื้ออยู่ในประเทศ จึงไม่ค่อยมีใครโกง แต่ถ้าคนซื้อมาจากต่างประเทศแบบซื้อผ่านเว็บนี้ คงยากเหมือนกันที่จะตามจับ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองปราบของไทย ก็โชว์ผลงานจับชาวต่างชาติ ที่มาทำแบบนี้ในเมืองไทยได้รายหนึ่ง สั่งซื้อตั๋วเครื่องบินของอินเดีย ไปขายต่อไม่รู้ว่ากี่ใบต่อกี่ใบ
-
แล้วถ้าใครจำ รหัสที่อยู่บนบัตรเราได้ก็สามารถเอาไปใช้ได้เลย นะสิครับ
แนะนำให้ใช้บริการ Verified by visa หรือ Master secure code ครับ จะช่วยป้องกันได้แน่นอนครับ
-
ผมเคยซื้อของผ่านเว็บ โดยใช้บัตรเครดิตของธนาคารหนึ่ง และไม่เคยโดนแบบที่ว่า
แต่บัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง ผมไม่เคยใช้ผ่านเว็บ แต่โดนคนเอาข้อมูลไปซื้อของ และมีใบเรียกเก็บเงินมาที่ผม ผมจึงปฏิเสธการจ่าย ทางธนาคารขอตรวจสอบ 1 สัปดาห์ และได้ตัดยอดนี้ออกไป แตถ้าผมมีประวัติเคยซื้อของด้วยบัตรใบนี้ ก็ไม่ทราบว่าเขาจะตัดให้ง่าย ๆ หรือไม่ หลังจากนั้นผมจึงยกเลิกบัตรนี้ไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำสอง
การโดนขโมยเลขบัตร มักจะโดนขโมยจากการนำบัตรไปใช้กับร้านค้าทั่วไปมากกว่าครับ
โดยอาจจะเป็นตัวพนักงาน หรือ เจ้าของร้าน ร่วมมือกับแก๊งค์ปลอมบัตร ครับ
ดังนั้นการนำบัตรไปรูดที่หน้าร้าน แนะนำให้หลีกเลี่ยงร้านค้าที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น แหล่งเที่ยวกลางคืน
หากเป็นไปได้ ตามไปดูการรูดบัตรด้วยตนเอง ว่าจะไม่มีการ copy ข้อมูลไปทำบัตรขาวครับ
และ ควรกำหนดวงเงินไว้ให้ต่ำๆ เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นครับ
พี่สาวที่อเมริกาบอกว่า เวลาเขาซื้อของในอเมริกา สามารถโทร.ไปสั่งซื้อ พร้อมแจ้งเลขบัตรเครดิตได้เลย ไม่ต้องใช้ลายเซ็นอะไร และถ้ามีใครเอาเลขเราไปใช้ เราก็ปฏิเสธได้ และทางร้านค้าหรือธนาคาร จะไปเก็บเงินจากบริษัทประกัน แล้วบริษัทประกัน จะไปไล่หาเองว่า ใครเป็นผู้นำเลขบัตรนี้ไปใช้ แต่นั่นไม่ใช่การซื้อผ่านเว็บ และเป็นการซื้อในประเทศ ผู้ซื้ออยู่ในประเทศ จึงไม่ค่อยมีใครโกง แต่ถ้าคนซื้อมาจากต่างประเทศแบบซื้อผ่านเว็บนี้ คงยากเหมือนกันที่จะตามจับ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองปราบของไทย ก็โชว์ผลงานจับชาวต่างชาติ ที่มาทำแบบนี้ในเมืองไทยได้รายหนึ่ง สั่งซื้อตั๋วเครื่องบินของอินเดีย ไปขายต่อไม่รู้ว่ากี่ใบต่อกี่ใบ
ในย่านนี้ประเทศที่อันตรายที่สุดคือ มาเลเซียครับ หากว่าใครไปมาเลเซีย ให้หลีกเลี่ยงการใช้บัตร หรือไม่ กลับมาก็ให้ยกเลิกบัตรใบเก่าไปเลยก็ได้ครับ เพื่อความปลอดภัย
ส่วนการใช้บัตรของเราไปซื้อที่ต่างประเทศนั้น หากเราแสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ และผู้ขายไม่มีหลักฐานในการส่งสินค้ามาให้เรา ไม่มีหลักฐาน sale slip ที่เราเซ็นไว้ เราไม่ต้องรับผิดชอบครับ
ในส่วนของร้านค้าเอง ทุกวันนี้ เวลารูดบัตรที่หน้าร้าน จะขอจดเลขที่บัตรประชาชน หรือ passport ของลูกค้าไว้เสมอ เพื่อป้องกันการแอบใช้บัตรที่ขโมยมาครับ จึงขอให้ทุกท่านให้ความร่วมมือกับร้านค้าด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ถือบัตรเองครับ
-
ข่าวร้าย "การจ่ายเงินใน eBay"
http://www.htg2.net/index.php?topic=6396.0
ช่วยอธิบายว่าถ้าเราจะซื้อของทางเน็ตกับต่างประเทศหรือจะประมูลของเราต้องทำยังไงครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=8619.0
ถามผู้รู้เกี่ยวกับ Bidpay หน่อยครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=1991.0
-
การโดนขโมยเลขบัตร มักจะโดนขโมยจากการนำบัตรไปใช้กับร้านค้าทั่วไปมากกว่าครับ
โดยอาจจะเป็นตัวพนักงาน หรือ เจ้าของร้าน ร่วมมือกับแก๊งค์ปลอมบัตร ครับ
ใช่ครับ ผมโดนไปทีหนึ่ง ตอนไปซื้อของแถวหัวหิน โดนแอบเอาไปใช้เกือบแสนบาทครับ แต่พอเราทำเรื่องยืนยันทางแบงค์ (Citibank) ทางธนาคารก็ทำการหักยอดเหล่านั้นออกจากบัญชีผมครับ
ในย่านนี้ประเทศที่อันตรายที่สุดคือ มาเลเซียครับ หากว่าใครไปมาเลเซีย ให้หลีกเลี่ยงการใช้บัตร หรือไม่ กลับมาก็ให้ยกเลิกบัตรใบเก่าไปเลยก็ได้ครับ เพื่อความปลอดภัย
ถูกต้องครับ ถ้าเป็นบัตร Citibank เนี่ยไม่ต้องยกเลิกเองครับ พอเค้าเห็นว่าเรามีการใช้จ่ายในมาเลเซีย เค้าจะยกเลิกบัตรให้เองแล้วส่งบัตรใหม่มาเลยครับ
-
ขอต้อนรับกระทู้ใหม่ ประจำ มุม นอกเรื่องครับ c)
-
c)
-
c) :clap c) :clap c) :clap
-
dd
-
:drunk
-
ขอออกความเห็นด้วยค่ะ (อาจจะถูกหรือเปล่าไม่รู้นะคะ)
ปกติ ข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับธนาคาร
เราจะไม่อิงกับระบบ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกอะไรเลยค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์เนตแบงค์ มือถือ
ส่วนบัตรเครดิตยิ่งไม่เคยคิดจะใช้กับระบบที่เราไม่เห็นเครื่องรูดการ์ดเลย
คือ ต้องเห็นเค้ารูดการ์ดต่อหน้าน่ะ
เวลาจ่ายเรายังเลือกที่จ่ายเลยค่ะ
ที่ไหนไม่น่าจ่ะปลอดภ้ยเราจะจ่ายเงินสด
เพราะว่าไม่รู้เดี๋ยวนี้ โจรเก่งไปถึงไหนแล้ว
ิฺBAY เราเคยเปิดใช้ น่ะ(ตอนนั้นจะเอาของแถม)
พอได้รับอนุมัติ เค้าให้เราเปิดใช้กับระบบอัตโนมัติ+พนักงานไม่ทำงาน 24 ชั่วโมง
อย่างนีุุุ้้้ถ้าบัตรเรามีปัญหา หลัง 4 ทุุ่่ม ไม่ต้องเช็คกันพอดี
เราปิดบัตรทันทีเลย เพราะเราถือว่าเค้าทำงานไม่รอบคอบน่ะ
เพราะเวลาเราเช็คอะไรก็ตาม(กับบัิตรเครดิตปัจจุบัน) เรามีเวลาก็ตอน เที่ยงคืนไปแล้ว
คือเราไม่อยากให้เกิดเรื่องแล้วค่อยตามแก้น่ะ ขี้เกียจ...
-
ขึ้นอยู่กับระบบรักษาความปลอดภัยครับ
เกือบทั้งหมดจะไม่มีปัญหาครับ
ให้ดูว่า เมื่อเราป้อนข้อมูลที่ URL ขึ้นเป็น https://... หรือไม่ (ไม่ใช่ http://... ตามปกติ)
และมีรูปกุญแจล๊อค แสดงอยู่ที่ bar ด้านล่างของ browser
ให้ดูว่า การทำรายการนั้น ใช้บริการ payment gateway ของใคร
หากเป็น payment gateway ของธนาคารขนาดใหญ่ หรือ Broker ที่ใช้บริการ payment gateway ของธนาคาร ก็ปลอดภัยครับ
(broker ก็เช่น paysbuy หรือ Thaiepay เป็นต้น)
ให้ดูว่า ร้านค้า online นั้น จดทะเบียนการค้าถูกต้องไหม อยู่ในระบบภาษีไหม
เพราะร้านค้าที่มีหลักมีฐาน จะไม่ขโมยข้อมูลลูกค้าครับ
หลีกเลี่ยงร้านค้าเถื่อนที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ โดยไม่สามารถตรวจสอบได้
ดูให้มั่นใจว่า จะไม่มีการเก็บข้อมูลบัตรของลูกค้าไว้บน server ของร้านค้าโดยเด็ดขาด
ซึ่งอาจจะสังเกตุง่ายๆว่า ชำระเป็นระบบ online หรือไม่
แจ้งผลให้ทราบทันทีหรือไม่
หากเป็นระบบ offline คือไม่แจ้งผลทันที ก็ไม่ปลอดภัยครับ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะมีการเก็บข้อมูลไว้บน server ของร้านค้า
ให้ดูว่า เวลาทำรายการชำระบัตรเครดิต ทำบน server ของใคร
หาก url เปลี่ยนไปเป็น url ของ Broker หรือ ธนาคาร ก็ถือว่าปลอดภัย
หากไม่เปลี่ยน ยังคงอยู่บน server ของร้านค้า
(มีในร้านค้าใหญ่ๆมากบางร้าน สามารถลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัย และมี server เป็นของตัวเองเลย ซึ่งของไทยจะมีอยู่ค่อนข้างน้อย)
ก็ต้องสังเกตุต่อว่า url เป็น https://.... หรือไม่
หากไม่ใช่ ก็ไม่ปลอดภัยครับ
สุดท้าย ใช้บริการ verified by visa จะเป็นการป้องกันได้อีกชั้นหนึ่งครับ
โดยสรุปแล้ว การชำระเงินด้วย credit card online ในปัจจุบันมีความปลอดภันที่เชื่อถือได้ หากเราสังเกตุและระมัดระวังตามสมควร ผมเองก็ใช้บัตรเครดิต ซื้อสินค้า online อยู่บ่อยๆ ผมยังไม่เคยโดนใครขโมยบัตรผมไปใช้ได้เลยครับ จึงขอให้สบายใจ และมั่นใจในระบบ payment online เถอะครับ
สำหรับคำถามที่ว่า ร้านค้าจะมีการเอาข้อมูลบัตรไปใช้ได้หรือไม่
สำหรับผมเอง จะไม่เห็นข้อมูลบัตรของลูกค้าครับ จะเห็นแค่ 4 หลักสุดท้ายเท่านั้น เพื่อใช้ตรวจสอบและอ้างอิงกับทาง paysbuy ส่วนข้อมูลอื่นๆ ผมจะไม่เห็นเลย จะแสดงเป็น xxxx-xxxx-xxxx จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ร้านค้าจะเอาข้อมูลของลูกค้าไปใช้
และร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีความตั้งใจจะทำการค้าจริงจัง จะไม่ทำความชั่วดังกล่าวแน่นอนครับ เพราะเป็นการทำลายการค้าของตนเองในระยะยาว ไม่มีใครคิดสั้นอย่างนั้นแน่นอนครับ
ผมเชื่อว่า การชำระเงิน online จะได้ความนิยมมากขึ้นไปเรื่อยๆในอนาคต ยอดขายของผมเองทุกวันนี้มีอยู่ประมาณ 25-30% ที่ลูกค้าจ่ายด้วยบัตรเครดิต ซึ่งเป็นที่พอใจมากของลูกค้าในแง่ของความสะดวกรวดเร็วครับ และผมไม่เคยมีปัญหาใดๆในการใช้บริการ payment online ครับ
c)
-
อันตรายน่ะครับ ถ้าจะทำอะไรผ่านเวบ ควรดูที่หน้าที่เป็น https น่ะครับ เพราะมันจะมีการ encode ไว้ จะทำให้ปลอดภัยครับ K)
-
พี่พจน์ตอบ ละเอียดดีจัง
ผมซื้อสินค้าโดยใช้บัตรเครดิต ทั้งในและนอกประเทศ ยังไม่มีปัญหาครับ
-
ยังไม่เคยเจอปัญหาครับทั้งเวปไทยนอก