HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: eak355 ที่ 21 ตุลาคม, 2014, 10:07:12 am
-
ในรูปใช้เป็นเอ้าพุทพุชพูลได้ไหมครับ
ใช้กับหลอดเบอร์ไหนถึงจะเหมาะ
Pri 1,2,3 =9000โอมหมายถึงสองขดรวมกันและมีเซนเตอร์ตรงกลาง หรือขดละ9000
Sec ไม่มี4~8โอมแล้วใช้ชุดไหนแทน
-
รูปรายละเอียด
-
ใช้ขด 30 โอหมครับ แต่พอต่อลำโพง 8 โอหม จะเหลืออิมพีแดนซ์ที่pri แค่ 2.4k p-p
-
แล้ว2.4k p-pเหมาะกับหลอดเบอร์ไหนบ้างครับ
-
807 ,8417, 1624 ได้ไหมครับ หลอดไหนน่าจะเหมาะกับเอ้าพุดตัวนี้
-
1624
-
8417
-
ดูจากค่าอะไรของหลอด
-
ลากเส้นโหลดไลน์ ตามรูปหลอด 807 ได้ RL 3.5K
(http://image.ohozaa.com/i/4a5/NMLfRB.GIF) (http://image.ohozaa.com/view2/xVfICALmCp3X1A5W)
-
ถ้าเป็นหลอดออดิโอ ดูจากดาต้าชีต
(http://image.ohozaa.com/i/ed2/ipPJgW.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/xVfQq7LBoZJtsj22)
-
แล้ว2.4k p-pเหมาะกับหลอดเบอร์ไหนบ้างครับ
2.4k-2.5k ก็พวก EL34(6CA7),6L6(5881),6550,KT88,KT66,7027,2A3,6B4 ประมาณนี้ครับ ส่วนพวก 807,1624 ส่วนใหญ่จะใช้ 5k ครับ d_d
นึกว่า SE ถ้า PP ก็หนีไม่พ้นพวก RP ต่ำๆ 6080,6AS7,6528 ครับ
SE ใช้ 1.2k ถ้า PP ก็ใช้ 2.4k ครับ Y]
-
แบบนี้ได้ไหมครับ
p-p ได้กี่วัตต์ครับแล้วเอ้าพุทจะไหวรึเปล่าครับเพราะที่เอ้าพุทเขียนไว้20w
-
แบบนี้ได้ไหมครับ
p-p ได้กี่วัตต์ครับแล้วเอ้าพุทจะไหวรึเปล่าครับเพราะที่เอ้าพุทเขียนไว้20w
วงจรนี้มัน 10Kp-p เลยนะครับ
-
มีวงจรแนะนำไหมครับช่วยแนะให้หน่อยครับ
-
ลองดูใน google ครับ 6080 SE
-
ขด sec แต่ละคู่ เมื่อต่อกับลำโพง 8R จะ refect ไปยังขด pri. เป็นกี่ K ครับ
อันนี้สงสัยมากเลย
-
ถ้าเป็น6080วงจรนี้พอไหวไหมครับ
แล้วออกมาประมาณกี่วัตต์
-
ถ้าเป็นวงจรแบบนี้ไม่ต้องใช้ปรีใช่ไหมครับ
พอดีทำปรี12au7ไว้เครื่องหนึ่งวงจรในเวปนี่ละ่ครับ
-
12Au7
-
ผมกลัว่าทำแล้วมันจะขับลำโพงปะผุตัวนี้ไม่ดัง
เลยอยากรู้ว่าจะได้สักกี่วัตต์
-
วงจร ข้างบน ดุเดือด มากๆ ครับ น่าจะระดับ เผาหลอด กันเลย ... ไม่ต้องมี Pre เลย ด้วย แต่ โครงสร้าง วางหลอดก็ดูดี นะครับ ...
น่าจะ Bias เอียงไป B มากหน่อย (ไฟสูง กระแสต่ำ) คือเอาดัง เลย น่าจะมี 20W ขึ้น (เดาเอา) แต่ก็น่าจะ OK นะ แต่เรียกว่า ทำยากเลยแหละ
แต่ที่ ไฟสูง ขนาด นี้ น่าจะต้องใช้ OPT สูงหน่อย เช่น 5K P-P เป็นต้น (เดาเอา)
6080 PP มีวงจร ของ สถาบัน อะไร ซักอย่าง จำชื่อไม่ได้ มี PCB ขายด้วย ครับ น้าลำว่า วงจร OK นะครับ
6080 ขับยาก นิด (ต้องการ swing ขา grid สูงหน่อย) แต่ก็ไม่ยาก เกิน ไป ... เสียงดี ราคา ถูกด้วย เหมาะกับ OPT 2.5-3 K plate-to-plate ครับ ที่ไฟ ไม่เกิน 280V นะ like
วงจรทั่วไป (ไม่ใช่วงจรข้างบน) น่าจะได้ ประมาณ 8-15W (เดาเอา) ขับลำโพงที่เห็น สบาย ครับ
-
วงจรไหนน่าจะเหมาะครับ
-
หรือวงจรในกระทู้ของคุณJADIS แบบไหนดีครับถ้าท่านไหนเคยทำแล้วโอ
ขอวงจรด้วยนะครับ
-
น้า eak355 มีอะไรแล้วมั่งครับ นอกจาก opt ตัวข้างบน
หม้อจ่ายไฟ หลอดเพาเวอร์ หลอดไดร์ หลอดปรีไดร์
จะทำเพาเวอร์แอมป์ หรืออินติเกรตแอมป์
ทำ se หรือ pp
ว่ามาเลย เดี๋ยวจัดให้
วงจรดังเอามาทำใช่ว่าเสียงจะดีตามเขา ทำเองสบายกระเป๋ากว่าครับ
-
6080 ใช้แรงดันต่ำ กระแสสูง จะจัดภาคไดร์ได้ง่ายกว่าครับ
-
ไม่มีอะไรยากครับ
ได้วงจรภาคเพาเวอร์แล้วครับ
-
ของผม เป็นทางเลือก นะครับ ออกแบบ มาใช้ กับ 2.5-3K
กระแส ไหล 110 mA ไม่มากกว่า ที่ หม้อ รับได้ ครับ
6W คือ ทำงาน Class A นะครับ ถ้าเป็น Class AB ไปได้ อีก ครับ
-
กริด -86V มันไดร์ยากครับ ภาคหน้าต้องมีเกน 86*2 = 172 เป็นอย่างต่ำ ที่สำคัญไดร์เวอร์ต้องสวิงแรงดันให้ได้ 172Vp-p ด้วย ทำให้ใช้ไฟสูงเวอร์เลยครับ
.........เดา
-
ตอนนี้คือเอ้าพุทที่มี สองต้วตามรูป
หลอด rca 6080 สองหลอดแต่ยังไม่แน่ใจว่าใช้ได้ชัวร์รึเปล่า ขอโทษครับมีท่านใดพอจะเทสให้ได้บ้างครับ
ส่วนภาคไดร์ พอมีหลายเบอร์ 12a...x,t,u,y7 6s..n,l7 6au6 หรือพวก 6005(6aq5)
rec 80,6x4, 6x5, 5(u,y)4g, oc3,ob3,
อุปกรณ์บ้านหม้อครับ
-
อยากใช้เอา้พุทที่มีเป็นหลักและหลอดที่มีแพราะไม่ค่อยมีงบครับ
ที่อยากได้pp เพราะอยากให้ขับลำโพงได้ง่ายๆ
ถ้าเป็นseแล้วขับลำโพงไหวก็ได้ครับมีหลายเบอร์ 807,1624,8417 อย่างละคู่สองคู่
(6i6g,6l6ga,10y,2a3ทรงโค้ก)อย่างละ1หลอดไม่รู้ใหม่หรือเก่าใช้ได้ไ้ม่รู้
ทุกหลอดเป็นเก่าเก็บหมด
ลองเลือกจัดให้หน่อยครับ
-
6080 ที่ให้มาคือข้างละ 1 หลอดถูกต้องไหมครับ
-
6080 ที่ให้มาคือข้างละ 1 หลอดถูกต้องไหมครับ
6080 หลอดหนึ่งมีสองข้าง เป็นหลอด twin power triode
สองหลอดทำ pp stereo ได้พอดีครับ
-
อยากใช้เอา้พุทที่มีเป็นหลักและหลอดที่มีแพราะไม่ค่อยมีงบครับ
ที่อยากได้pp เพราะอยากให้ขับลำโพงได้ง่ายๆ
ถ้าเป็นseแล้วขับลำโพงไหวก็ได้ครับมีหลายเบอร์ 807,1624,8417 อย่างละคู่สองคู่
(6i6g,6l6ga,10y,2a3ทรงโค้ก)อย่างละ1หลอดไม่รู้ใหม่หรือเก่าใช้ได้ไ้ม่รู้
ทุกหลอดเป็นเก่าเก็บหมด
ลองเลือกจัดให้หน่อยครับ
opt เป็น pp ก็ต้องทำแบบ pp ครับ
ถ้าจะทำใช้หลอด 807,1624,8417 จะง่ายและประหยัดกว่าหลอด 6080 ครับ
-
ใช้ opt ที่มีครับ ตัวข้างบนตามรูป เลือกใช้หลอด 8417 triode mode เพราะเป็นหลอดออดิโอ และไดร์ง่าย
-
ภาคหน้าใช้หลอด 12at7
เป็นอินติเกรตแอมป์
แก้ไข เพิ่มอุปกรณ์ให้ครบ
-
ภาคจ่ายไฟ ให้ไว้เป็นแนวทาง
ไม่รู้ว่าผมขนานหลอด 5u4 ถูกหรือเปล่า เช็คดูอีกทีด้วยครับ
-
ขอบคุณมากครับน้าตอนนี้ขอเตรียมของก่อนครับ
ยังขาดอุปกรณ์กับหม้อแปลงเพาเวอร์ครับ
ไกล้เงินเดือนออกพอดีเลยต้นเดือนซื้อของครบแล้วจะขอรบกวนใหม่ครับ
-
ตัวต้านทาน, ตัวเก็บประจุคับปลิ้ง , c oil ภาคจ่ายไฟ ซื้อจากน้าเบนครับ ในห้องซื้อขาย
http://www.htg2.net/index.php?topic=90142.0
-
หม้อแปลงจ่ายไฟที่รับพันมีน้าชาตรี เจ้านี้เงียบจังเลยสงสัยงานล้นมือพันไม่ทัน
น้าช่างหรั่งโรงต้ม
ผู้พันคนอื่นๆ ผมนึกไม่ออก
ถ้าไม่มีคนรับพันก็ร้านแสงทอง ที่แถบแบนเนอร์ครับ
ราคาหม้อเอาเรื่องอยู่นะครับ น่าจะสองพันบาทขึ้นครับ
-
ผมแก้วงจรใหม่กลับไปดูนะครับ ทำเป็นอินติเกรตแอมป์ โดยใส่วอลุ่ม ต้องนี่ห้อ ALPS 100KA นะครับ
-
ว่าแต่หม้อ opt รับกระแส idle ได้กี่ mA ครับ
-
เรื่องหม้อผมมีข้อมูลเท่านี้ครับรอบๆหม้อเขียนไว้แค่ในรูป
และขอถามเพิ่มเติมครับน้า
1 ขอถามเกี่ยวกับ c ในวงจร ตรงที่ใส่ c 2ตัวขนานกัน 0.1-0.47 400v เป็น(0.1 500vขนานกับ0.1 300vได้ไหมครับ)มีของแบบนี้หรือต้องค่าต่างกันหรือเป็นค่าเท่าไรถึงจะดีครับ
คือตัวนึงคับปิ้งตัวนึงไบแคบ หรือขนานเพื่อเพิ่มค่า หรือมีข้อดียังไง
2 ขอถามเกี่ยวกับเพาเวอร์ ตรง R 109โอม40w มันเป็นRแบบไหนปรับค่าได้ด้วหรือเป่ลา40w ตัวใหญ่ไหมครับ
3 การแยกขดจุดไส้หลอดออกเป็นชุดๆในวงจรมีข้อดียังไงครับ
ขด5vของ5u4g x2
ขด3.15-0-3.15 x3
-
ข้างกล่อง
-
เรื่องหม้อผมมีข้อมูลเท่านี้ครับรอบๆหม้อเขียนไว้แค่ในรูป
และขอถามเพิ่มเติมครับน้า
1 ขอถามเกี่ยวกับ c ในวงจร ตรงที่ใส่ c 2ตัวขนานกัน 0.1-0.47 400v เป็น(0.1 500vขนานกับ0.1 300vได้ไหมครับ)มีของแบบนี้หรือต้องค่าต่างกันหรือเป็นค่าเท่าไรถึงจะดีครับ
คือตัวนึงคับปิ้งตัวนึงไบแคบ หรือขนานเพื่อเพิ่มค่า หรือมีข้อดียังไง
2 ขอถามเกี่ยวกับเพาเวอร์ ตรง R 109โอม40w มันเป็นRแบบไหนปรับค่าได้ด้วหรือเป่ลา40w ตัวใหญ่ไหมครับ
3 การแยกขดจุดไส้หลอดออกเป็นชุดๆในวงจรมีข้อดียังไงครับ
ขด5vของ5u4g x2
ขด3.15-0-3.15 x3
1. ซีไบแคป เอาค่าต่ำมาขนานเพื่อให้ความถี่ผ่านได้ดี ได้มาก และผ่านได้เร็ว ใช้ค่า 0.01uF
2. เป็น R wire wound วัตต์สูง ปรับค่าได้ หรือ R caddog ก็ได้
3. ขดจุดใส้หลอด 5U4 สองหลอด สองขด อันนี้ต้องแยกออกจากไฟสูง ไม่ใช้กราวน์ร่วมกับไฟสูง และควรจะแยกหลอดใครหลอดมัน เพราะถ้าจุดสองหลอดกระแสจะสูง ต้องใช้ลวดเส้นใหญ่ มันทำงานยากครับ
ขด3.15-0-3.15V สองขดแรกจุดใส้หลอดเพาเวอร์ขดละสองหลอด กินกระแสพอสมควร ถ้ารวมกันจุดสี่หลอด ก็คือกินกระแสเยอะ ใช้ลวดเส้นใหญ่ ทำงานลำบาก
ขดที่สามจุดใส้หลอดไดร์ แยกแบบนี้ดีกว่า แต่คนพันไม่ค่อยอยากพัน
-
ผมเคยสั่งหม้อจุดใส้หลอด แยกต่างหากหม้อเดียว 6.3-0V 8A มันทำงานยากครับ เพราะต้องใช้ลวดเส้นใหญ่ ดัด งอ ยาก
-
C 0.1microf.300vdc vitamin q
-
และได้ตัวใหญ่มาสองตัว0.1 500 vdc เป็นห้าตัวถ้าตัว300โวลทใช้ได้ขาดอีกหนึ่งตัวครับ
-
สามตัวนี้ใส่แทนตรงไหนได้บ้างไหมครับ68ไไมโคร350โวล
-
ในภาคเพาเวอร์ใช้560ไมโคร400โวลแทนตัวไหนได้บ้างครับ
-
สามตัวนี้ใส่แทนตรงไหนได้บ้างไหมครับ68ไไมโคร350โวล
ในภาคเพาเวอร์ใช้560ไมโคร400โวลแทนตัวไหนได้บ้างครับ
ที่มีสองค่านี้ยังไม่เหมาะสมครับ
ซีฟิลเตอร์ตัวที่ 1 ควรจะเป็นออยล์ตามสูตรของแอมป์หลอด เสียงจะได้นิ่มนวล แรงดันควรทดได้อย่างต่ำ 450V
ตัวที่สองเพื่อลดริปเปิ้ลลง ใช้ค่าตามนั้น 100uF 450V เป็นอิเลคทรอไลต์ก็ได้ครับ
ตัวที่สามกรองแรงดัน ลดริปเปิ้ล และชาจกระแสให้หลอดเพาเวอร์ 4 หลอด สำหรับพุชพูลใช้ค่ามากกว่า 1000uF ได้ครับ ทนแรงดัน 450V เป็นอิเลคทรอไลต์ก็ได้ครับ
ตัวที่สี่กรองแรงดัน ลดริปเปิ้ลและชาจกระแสให้หลอดปรี/ไดร์ ใช้ค่าตามนั้น 47uF-100uF 350-400V เป็นอิเลคทรอไลต์ก็ได้ครับ
-
ขอบคุณครับเดี๋ยวต้องค่อยๆหาทีละอย่างครับ
-
ตัวนี้0.022 600โวลwest_capไก้ลเคียง0.01. แทนได้ไหมครับมี10ตัวหรืออนุกลมเอาได้ไหมครับ
-
เจอของไม่รู้จักอีกแล้วครับใช้ทำอะไรดีมีสองตัวๆเล็กๆ
-
ตัวนี้ RL Zo 225WLมีสองตัวZo 307WLหนึ่งตัว
พรุ่งนี้ทำงานเช้าคงไม่ได้รวบรวมอุปกรณ์
-
วัดความต้านทาน secondary มาทีครับ ถ้ามากกว่า 1 โอมห์ เอาไปทำอย่างอื่น เช่น ไปขับ A2 ครับ
-
ตัวนี้0.022 600โวลwest_capไก้ลเคียง0.01. แทนได้ไหมครับมี10ตัวหรืออนุกลมเอาได้ไหมครับ
ใช้แทนได้ครับ
-
เจอของไม่รู้จักอีกแล้วครับใช้ทำอะไรดีมีสองตัวๆเล็กๆ
ไม่ทราบครับ
-
ตัวนี้ RL Zo 225WLมีสองตัวZo 307WLหนึ่งตัว
พรุ่งนี้ทำงานเช้าคงไม่ได้รวบรวมอุปกรณ์
ค่ากี่โอมห์ ทนได้กี่วัตต์ครับ
เอามาอนุกรม หรือขนาน ให้ได้ค่าที่ใกล้เคียงได้ครับ
-
สามตัวนี้ค่าเท่าไรอ่านไม่เป็นครับ
-
c-oil 50 ไมโคร450Vตัวแรกในวงจร เป็นซีมีขั้วหรือไม่มีขั้วครับไปเดินดูเป็นแคบรันชนิดออยล์ไฟเอซีไม่มีขั้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนิ้วครึ่งยาวสามนิ้ว
หรือต้องเป็นซีมีขั้วเท่านั้นครับ
-
ระยะระหว่างหลอด8417 ควรห่างกันกี่เซน
และหลอดกับหม้อควรห่างกันเท่าใด
วางตามรูปดีหรือควรแก้อะไรบ้างครับหาแผ่นสแตนเลสได้แล้ว 35*40,40*78หนา2มม ได้มาสองแผ่น
ตรงหม้อคงต้องเสริมไม้ไว้รับน้ำหนักมีแต่ตัวหนักๆ
-
วาดเลเอ้าคร่าวๆบอกระยะมาผมจะลองวัดแล้วเจาะยึดซอกเกทและเอ้าทพุทรอ ระหว่างการหาอุกรณ์
ขอบคุณครับ
-
สามตัวนี้ค่าเท่าไรอ่านไม่เป็นครับ
ไม่รู้ครับ
-
c-oil 50 ไมโคร450Vตัวแรกในวงจร เป็นซีมีขั้วหรือไม่มีขั้วครับไปเดินดูเป็นแคบรันชนิดออยล์ไฟเอซีไม่มีขั้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนิ้วครึ่งยาวสามนิ้ว
หรือต้องเป็นซีมีขั้วเท่านั้นครับ
มีขั้วก็ได้ ก็ต่อบวกเข้าไฟสูง ลบลงกราวน์
ไม่มีขั้วก็ได้ครับ ต่อขั้วไหนก็ได้
ซีออยล์ส่วนใหญ่ไม่มีขั้วครับ มันก็คือ ซีมอเตอร์รัน แหละครับ แต่แบบที่ใช้ในออดิโอก็มี
-
8417 จุดใส้หลอด 6.3V*1.5A = 9.45W*4 หลอด = 37.8W
5u4 จุดใส้หลอด 5V*3A = 15W*2 หลอด = 30W
12at7 จุดใส้หลอด 6.3V*0.3A = 1.89W*2 หลอด = 3.78W
วงจรจ่ายไฟสูง 360V*0.336A = 120.96W
รวมพลังงานความร้อนที่ปล่อยออกมาจากหลอด 192.54W
มันร้อนขนาดไหนลองเทียบดูครับ ไม่นับความร้อนจากหม้อจ่ายไฟ หม้อ opt แต่หลอดเขาออกแบบมาให้อยู่กับความร้อน เกิดมาพร้อมกับความร้อนเขาทนได้ครับ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ จะอยู่กับความร้อนได้นานแค่ไหน
การวางเลย์เอ้าก็ดูความร้อนด้วย
ดูการกวนกันของคลื่นความถี่ที่ปล่อยออกมา รับเข้าไปด้วย
-
น้าเล่น สแตนเลส เลยหรือ ตายแล้ว มันเจาะยากครับ เอาอะลูมิเนี่ยมขนานหนา 2mm ก็พอแล้วครับ เจาะง่าย ตะไบง่าย
-
แกนหม้อจ่ายไฟ วางให้ขวาง ตั้งฉากกับแกนของ opt อย่าวางกันตามกัน สนามแม่เหล็กจะกวนกัน
-
ขอบแถวของ 8417 อยู่ห่างจากแถวของหม้อแปลงมากกว่า 3 cm ก็ได้ครับ ระยะห่างระหว่างหลอดพองามและพื้นที่
ขอบแถวของ 12at7 (ความร้อนไม่มาก) อยู่ห่างจากหลอด 8417 เท่าไหร่ก็ได้ แต่ดูว่าจะไวร์ริ่ง c coupling ไปหากันง่ายไหม ,พองาม,พื้นที่
-
อุปกรณ์สมัยนี้ราคาค่อนข้างสูงเนอะ
-
ขอถามเรื่องหม้ออีกตัวตัวนี้ถ้าเอามาทำเอ้าพุทได้กี่เคครับ
-
สอบถามวิธีใช้หม้อครับ
ดูแล้วก็งงๆ ขด12,ขด34 120/240 50-450Hz สรุปแล้วไฟเข้าชุดไหน12หรือ34หรือ1 (2+3) 4 หรือสองชุดขนานกันเลย
ขาออก567 1050vct 0.125ADC ความหมายคือ5,7=1050หริอ5,6=1050 6,7=1050v
ค่ากระแสทำไมถึงเป็นo.125Adcเพราะหม้อแปลงน่าจะออกเป็นไฟacหรือ Adc=Aac
แล้วจุดดำๆที่แสดงไว้ที่ 1,3,5 คือ?ทิศทางการพันลวดหรืออะไรสักอย่างผมไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไรมีผลอะไร
ถ้าต่อ2+3 23จะเป็นแทบctหรืออย่างไร
ขอสอบถามผู้รู้ก่อนครับกลัวจะระเบิดถ้าจะลองจ่ายไฟดู
สุดท้ายน่าจะเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้างครับมีสองตัว
-
อาทิตย์หน้าน่าจะได้หม้อpowerแล้วครับร้านชี้ให้ดูตัวอย่าง ใหญ่และหนักมาก
-
หม้อแปลงไฟขาเข้า แบบ 110/220V จะมีขาเข้า สองขด 1,2 และ 3,4 ถ้าไฟขาเข้าเป้น 220Vac ให้ ช็อต ขา 2,3 และไฟ 220Vac เข้าระหว่าง ชา 1 กับ ขา 4 ถ้าไฟเข้าเป็น 110Vac ต้องขนานสองขด โดยช็อต ขา 1 กับขา 3, และช็อตขา 2 กับขา 4 ไฟ 110Vac เข้าขา 1 กับ ขา 2
-
แล้วขาออก 1050v125ma คือ 1050-0-1050 ถูกไหมครับหรือ 3,7=1050v
vสูงขนาดนี้เอาไปทำอะไรได้บ้างครับ
-
วางแบบไหนครับ
-
แกนหม้อจ่ายไฟ วางให้ขวาง ตั้งฉากกับแกนของ opt อย่าวางกันตามกัน สนามแม่เหล็กจะกวนกัน
ผมลองวางดูก็เลยสงสัยว่าแกนเหล็กของoptนั้นหันทางไหนเพราะมองไม่เห็นครับวัดดูได้ ก=8cm,ย=8.5cm,ส=11cmสูงคือด้านที่ยึดนอทถึงข้างบน
-
คือจะเอาด้าน8cm หรือ8.5cmไว้ด้านหน้าครับ
-
แกนหม้อจ่ายไฟ วางให้ขวาง ตั้งฉากกับแกนของ opt อย่าวางกันตามกัน สนามแม่เหล็กจะกวนกัน
ผมลองวางดูก็เลยสงสัยว่าแกนเหล็กของoptนั้นหันทางไหนเพราะมองไม่เห็นครับวัดดูได้ ก=8cm,ย=8.5cm,ส=11cmสูงคือด้านที่ยึดนอทถึงข้างบน
แกนเหล็กของoptนั้นหันทางไหนเพราะมองไม่เห็นครับ >> ต้องแกะกล่องครอบดูถึงจะรู้ครับว่าแกนเหล็กหันแนวไหน
ถ้าไม่อยากแกะOPT ก็ต้องลองดูนะครับว่าวางแนวไหนแล้วสนามแม่เหล็กไม่กวนกัน
หรือไม่ก็แยก OPT ไปอยู่อีกแท่นไปเลยจะได้หมดปัญหาเรื่อง สนามแม่เหล็กจะกวนกัน
-
แกะไม่ได้optมีฝาครอบแบบเชื่อมปิดหมดมีแต่หมุดต่อสาย
ถ้างั้นคงต้องเจาะรูเผื่อสลับด้านไว้ครับ
ผมวางห่าง2cmพอไหมครับ ขอบแกนเหล็กหม้อไฟกับขอบopt
แล้วอาการมันจะเป็นอย่างไรถ้าสนามแม่เหล็กกวนกันครับ
-
น่าจะวางแนวไหนก็ได้นะครับ เพราะคลื่น(สนามแม่เหล็ก)ไม่น่าจะสามารถวิ่งทะลุฝาครอบ(โลหะ)ได้นะครับ
-
แผ่นสแตนเลสทำยากพอสมควรครับตะไบแทบไม่เข้า :showoff
-
น้าก็แหม เค้าเอาแผ่นอะลูหนา 2mm มาทำครับ ตะไบง่าย
-
:help K] :D :cry2
ตอนนี้เตรียม อา บ้านหม้อไว้ครับ และมีอาค่า 1kเป็นอาคาบอน
จะถามว่า อา ตัวไหนที่ ถ้าเป็นอาคาบอนแล้วจะดี เอาตัวหลักๆก็พอครับ
ซีพอมีอยู่บ้างครับเหมือนกันบ้างไม่เหมือนบ้างแต่ค่าเท่ากันส่วนใหญ่ค่า0.1uf 250v,400v,600v แต่เอามิเตอร์วัดดูแล้วค่าไม่ค่อยเท่ากันเลย ผมมีค่า10uf600v เจนเซ่น อยู่5-6ตัวใส่ตรงไหนได้บ้างครับ
ขอถามวิธีวัดค่าซีครับใช้มิเตอรวัดเลยหรือต้องช๊ดตขาซีก่อนไหมครับ(ผมมีมัลติมิตเตอรดิจิตอลแต่ไม่มีเร้นวัดค่าซี)จะวัดได้ไหมครับ แต่เคยยืมของพี่ๆที่มีเร้นวัดค่าซีมาวัดแต่ค่าที่ได้ไม่ตรงกับที่เขียนไว้กับตัวซีบางตัวหนีไป
ไกลเลยไม่แน่ใจว่าเป็นที่ซี หรือ มิเตอร หรือ วิธีการวัด
น้าออ บอกค่าซีมาในวงจร 0.1-0.47uf ผมมี 0.1uf กะว่าจะใส่0.1ทั้งหมดเลยจะได้ไหมครับ หรือเอาค่ามากกว่าเช่น2uf,10uf ที่มีใส่ได้แล้วผลจะเป็นอย่างไรครับ
-
น้าออ บอกค่าซีมาในวงจร 0.1-0.47uf ผมมี 0.1uf กะว่าจะใส่0.1ทั้งหมดเลยจะได้ไหมครับ หรือเอาค่ามากกว่าเช่น2uf,10uf ที่มีใส่ได้แล้วผลจะเป็นอย่างไรครับ
ใส่ 0.1uF ทั้งหมดเลยก็ได้ครับ โดยที่ R grid อยู่ในช่วง 200K - 470K
สำหรับ 2uF, 10uF และมากกว่า จะใช้ในแอมป์ SS , solid state , ทรานซิสเตอร์ พวกนี้เพราะเค้ามีอิมพีแด้นต่ำ ประมาณหลักร้อยโอมห์
2uF, 10uF ก็ยังใช้กับวงจรหลอดได้อยู่ น้าลองดูก็ได้
C coupling กับ R grid ประกอบกันในวงจรแล้วจะเป็นวงจรกรองความถี่สูงผ่าน ผ่านไปยังภาคถัดไป โดยมีสูตรว่า
C = 1/(2*3.14*fc*R)
C ก็คือค่าของ c coupling
fc ก็คือความถี่เริ่มที่จะยอมให้ผ่านไปได้ สำหรับเครื่องเสียงบ้านปกติใช้ 10Hz เพราะต่ำกว่านี้หูคนไม่ได้ยิน เว้นบางคนหูพิเศษฟังได้ต่ำถึง 5Hz
R ก็คืออิมพีแดนซ์ ก็เท่ากับค่า R grid
ลองแทนค่าแก้สมการออกมาก็จะได้ค่าออกมา
ส่วนเสียงก็ต้องลองฟังดูครับ
-
สวัสดีครับมีน้าๆท่านใดที่อยู่ กทม สามารถวัดหลอดได้บ้างครับจะขอแรงช่วยวัดหลอดให้หน่อยจะจับคู่8417ppผมอยู่ สาทร ครับ
-
ดูเหมือน กะคู่ไม่เหมือน
-
ไม่เหมือน
-
ภาคหน้าใช้หลอด 12at7
เป็นอินติเกรตแอมป์
แก้ไข เพิ่มอุปกรณ์ให้ครบ
วงจรนี้ครับ
-
พรุ่งนี้จะทำฐานไม้ครับงบกำลังมาเรี่อยๆคาดว่าใช้เวลาไม่นาน
-
ทำแท่นเสร็จแล้วครับสีเดี๋ยวลงแลคเกอรทีหลัง
ถามหน่อยครับใช้อะไรเซาะร่องด้านบนสำหรับวางแผ่นอะลูมิเนียม ผมทำร่องไม่ได้เลยจับประกบกันเลย55
ดูแปลกๆแต่ไม่เหมือนใคร
-
ทำบังใบไม้ ต้องใช้เราต์เตอร์กัดไม้ครับ หรือไม่ก็กบไสไม้
-
รอบต่อไปคงต้องลองทำดูแท่นนี้ขอให้มีเสียงก่อนครับ
-
วันนี้ว่างมานั่งประกอบหม้อลงแท่นแล้วก็เดินสายไฟเฉพาะจุดไส้หลอดครับ และแล้วก็งงอีกละคือหม้อพาวเวอร์ที่พันมาตามสเปก
pri=220 สายไฟสีดำเล็กสองเส้น
sec=300-0-300 สายสี ม่วง-ดำ-ม่วง
5-0 สายสีแดง,แดง
5-0 สายสีชมพู,ชมพู
3.15-0-3.15 g-b-g
3.15-0-3.15 y-b-y
3.15-0-3.15 b-black-b
ส่วนที่งงสงสัยคือชุด5-0ทั้งสองชุดครับเวลาต่อขนานหลอดเร็คติไฟเอาไฟ5vacจากสองขดมาต่อขนานกันแล้วสายทั้งสองเส้นของแต่ละขดมีสีเดีวยกัน
ถามว่าจะหาเส้น5v,0vอย่างไรครับมันเป็นacวัดได้5vสลับสายก็ได้5v หรือไม่จำเป็นครับ
ผมกลัวว่าไฟacสองขดมาขนานกันแล้วเฟสไม่ตรงกันจะมีปัญหาป่าวครับ
ดูวงจรที่น้าออดิโอ. ขนานหลอดเร็คติไฟเอา 0vจ่ายจุดไส้หลอดแต่ละหลอดส่วน5vเอารวมกันเป็นไฟบวกแต่ถ้ามีชุดใดชุดหนึ่งสลับเฟสผลจะเป็นยังไงหรืออยู่หลังหลอดเร็คติไฟแล้วไม่มีผล
ผมกลัวบึ้มไฟลุก :help :help :help
-
ถามน้าออ.ครับถ้าเดินสายลงอุปกรณ์เรียบร้อยควรเช็คจุดไหนบ้างตามลำดับ
ถ้าปล่อยไฟแต่ละจุดควรมีไฟเท่าไหร๋ถือว่าปกติ
กลัวจิงๆ
ในวงจรนื้ถ้าจะใส่ฟิวทางpri 220vกระแสประมาณเท่าไร
-
ท่านใดที่เคยต่อไฟแบบนี้ช่วยให้ความชัดเจนหน่อยครับว่าไฟac 5vต้องสนใจขั้วหรือเฟสไหมครับ
พอสงสัยแล้วไม่กล้าทำต่อ
-
ขด 0-5V สองขด วงจรเก่าพื้นที่วาดน้อยเลยต่อกันไปเลย อาจจะดูแล้วไม่สบายใจ วาดใหม่ มันก็ต่อกันอยู่ดีแหละครับ
ขดจุดใส้หลอดแต่ละขด ไม่ลงกราวน์แท่น กระแสจุดใส้หลอด เมื่อผ่านใส้หลอดแล้ว จะวิ่งกลับขดของตัวเอง (ต่อตามดาต้าชีต เอา 0V เข้าขา 2 ส่วนขา 8 จะเป็น 5V และใช้ร่วมกับไฟสูง)
แต่ใส้หลอดเป็นแคโทดด้วย ทูอินวัน กระแสไฟสูง จะวิ่งออกจากขา 8 ไปวงจรไฟสูง แล้ววิ่งลงกราวน์แท่น กลับขดของตัวเอง ที่ center tap
แล้วขดใส้หลอดสายไหนเป็น 0V สายไหนเป็น 5V มีนสีแดงเหมือนกัน อีกขดก็สีชมพูเหมือนกัน ....ติดต่อผู้ผลิต....ถ้าไม่รู้ก็ต่อไปก่อนครับ อาการมันน่าจะฟ้องออกมา เช่น หม้อร้อนจัด ไฟสูงไม่ได้ค่าที่ใกล้เคียง ต่างออกไปมาก
-
การหาฟิวส์
power input = power out put
Vin * Iin = Vout * Iout
220V * Iin = (360Vout * 0.336A) + 2*(5Vout *3A) + 2*(6.3Vout * 3.2A) + (6.3Vout * 0.6A)
220Vin * Iin = 120.96W + 30W + 40.32W + 3.78W
220Vin * Iin = 195.06W
Iin = 195.06W/220Vin = 0.887A
เผื่อ 3 เท่า = 0.887A *3 = 2.661A ปัดเป็น 3A
ใช้ฟิวส์ 3A ครับ
-
ถามน้าออ.ครับถ้าเดินสายลงอุปกรณ์เรียบร้อยควรเช็คจุดไหนบ้างตามลำดับ
ถ้าปล่อยไฟแต่ละจุดควรมีไฟเท่าไหร๋ถือว่าปกติ
กลัวจิงๆ
ในวงจรนื้ถ้าจะใส่ฟิวทางpri 220vกระแสประมาณเท่าไร
ก่อนเดินสายไฟ ใส่อุปกรณ์ลงแท่น เอามิเตอร์วัดโอมห์ วัดทุกขากับแท่น เข็มต้องไม่กระดิก (เอ RCA ขากราวน์มันกระดิกหรือเปล่า ผมจำไม่ได้)
แล้วเดินสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ ใช้สายไฟ ที่ทนแรงดัน และกระแสได้มากกว่า แรงดัน และกระแส ที่ระบุไว้ในวงจร
เมื่อเดินสายไฟและอุปกรณ์ครบทุกจุดแล้ว วัดความต้านไฟไม่ได้ ต้องเปิดไฟเข้าเครื่องทีนี้จะเช็คแรงดันและกระแสแทน
อ้อ ต้องมีดัมมี่โหลดต่อแทนลำโพงนะครับ ไม่งั้นเสียงออกลำโพงอาจทำลายลำโพงได้
วัดแรงดันทุกจุดแหละครับ พิมพ์วงจรที่ให้ไว้ ทั้งวงจรจ่ายไฟ และวงจรหลอด แล้วจดค่าแรงดันที่วัดได้ ตรงที่มีตัวต้านทานจะคำนวนกระแสไฟได้
แล้วเอามาลงในกระทู้.....ช่วยกันดูครับ
-
สำหรับขดจุดใส้หลอด 0-5V มีสองขด ขดละสี มันอยู่ด้านเดียวกันไหมครับ เขาน่าจะพันขดแรกเสร็จ แล้วพันขดที่สอง ในแบบเดียวกัน ดังนั้น ขั้ว ควรจะเริ่มต้นเหมือนกัน (ผมไม่เคยพันหม้อแปลง ผมไม่รู้ ต้องให้น้าที่เคยพันหม้อมาเฉลย) จับสายไฟจุดใส้หลอด คลี่ ออกมา เรียงเส้น เส้นแรกน่าจะเป็น 0V เส้นที่สองน่าจะเป็น 5V ส่วนเส้นไหนเป็นเส้นแรก น้าสุ่มเอาครับ ;D ;D ;D ;D
-
ขอบคุณครับ
ผมเช็คด้วยดิจิตอลมิตเตอร์ย่าน2Mไม่มีส่วนไหนลงกราวด์แท่นครับ
ขด5_0โวลท์อยู่ฝั่งเดียวกันติดกันเลยครับ. คงต้องสุ่มดูใช่ไหมครับ
ขอถามและขอคำแนะนำเรื่องกราวด์ครับผมมีเบ้าต่อสายACมี3ขาL_N_Gมีฟิลเตอร์ในตัว220v10a
ในวงจรกะว่าจะใช้สายเดี่ยว2.5เดินแนวตรงใต้ขาหลอดล่างสุดจากซ้ายไปขวาแล้วไปต่อที่ขาGของเบ้าต่อสายACส่วนเซนเตอร์ไฟสูงจะต่ออยู่ตรงกลางระหว่างหลอดเรคติไฟบนสายกราวด์ที่เดินไว้. อุปกรณ์ที่ต่อลงกราวด์ใกล้สายกราวด์ตรงไหนก็จะบัดกรีหันมาตรงนั้นตอนนี้แผ่นสแตนเลสที่เป็นแท่นยังไม่ลงกราวด์ต้องต่อลงกราวด์ด้วยไหมครับ
เซ็นเตอร์ของขดจุดไส้หลอดแต่ละขดไม่ลงกราวด์แท่นคืออย่างไรครับตอนแรกว่าจะต่อจุดเดียวกันหมดเลยทุกชุด
ขอคำแนะนำเรื่องกราวด์ด้วยครับ
-
การขนาน. ขด0-5 V. ทั้งสอง. เพื่อการเพิ่มกระแส. และสามารถจ่ายไฟจุดไส้หลอด rectifierx2 หลอด. นับเป็น Idea ที่ดีครับ
ส่วนตัว. ก็ชอบทำแนวๆนี้เช่นกันครับ. และชอบเป็นพิเศษกับหม้อแปลงยุคเก่า/สภาพดี ของตปท
โดยตะต่อ/ลองวัด. เฉพาะหม้อแปลงก่อนครับ
จะได้ไม่งงเอง(เป็นบ่อย555)
แบบที่เห็นรูปของน้ามีนั่นแหละ
หม้อไฟสูง 1050Vct 125mA (วัดไฟขาออก หวังว่า/น่าจะเป็น 525-0-525VAC)
-
ผมเช็คด้วยดิจิตอลมิตเตอร์ย่าน2Mไม่มีส่วนไหนลงกราวด์แท่นครับ...............โอเคครับ
ขด5_0โวลท์อยู่ฝั่งเดียวกันติดกันเลยครับ. คงต้องสุ่มดูใช่ไหมครับ................จับหันหน้าเข้าตัวเอง 0V,5V และ 0V,5V มันคงไม่เรียงสลับกัน เทียบกับฝั่ง primary ด้วยก็ดี 0V น่าจะอยู่ตรงกับ 0V
ขอถามและขอคำแนะนำเรื่องกราวด์ครับผมมีเบ้าต่อสายACมี3ขาL_N_Gมีฟิลเตอร์ในตัว220v10a..............อันนี้ผมไม่รู้ ผมใช้เต้าแบบของคอมพิวเตอร์ ใช้ขา L กับ N ขา G ที่อยู่ตรงกลางไม่ได้ใช้ เพราะเต้าไฟบ้านเป็ฯแบบสองขา
ในวงจรกะว่าจะใช้สายเดี่ยว2.5เดินแนวตรงใต้ขาหลอดล่างสุดจากซ้ายไปขวาแล้วไปต่อที่ขาGของเบ้าต่อสายACส่วนเซนเตอร์ไฟสูงจะต่ออยู่ตรงกลางระหว่างหลอดเรคติไฟบนสายกราวด์ที่เดินไว้. อุปกรณ์ที่ต่อลงกราวด์ใกล้สายกราวด์ตรงไหนก็จะบัดกรีหันมาตรงนั้นตอนนี้แผ่นสแตนเลสที่เป็นแท่นยังไม่ลงกราวด์ต้องต่อลงกราวด์ด้วยไหมครับ
เซ็นเตอร์ของขดจุดไส้หลอดแต่ละขดไม่ลงกราวด์แท่นคืออย่างไรครับตอนแรกว่าจะต่อจุดเดียวกันหมดเลยทุกชุด...........จับ center tap ไฟสูง และจุดใส้หลอดเพาเวอร์ จุดใส้หลอดไดร์ รวบกันลงกราวน์แท่น..........(เฉพาะขั้ว 0V ของจุดใส้หลอด 5U4 ไม่ได้ลงกราวน์)
-
น้าขึงสายกราวน์ตามสะดวกแต่อย่าต่อให้เป็นวงกลม โดยขึงกับหลักพักสาย ซึ่งหลักพักสายจะไม่ต่อลงแท่น เว้นตัวเดียวจะลงแท่น
ดูวงจรภาคจ่ายไฟก่อน
ปลายข้างหนึ่งของสายกราวน์ยึดกับหลักพักสาย (ผมวาดไม่เหมือน) เอา center tap ของขดไฟสูง ต่อกับสายกราวน์ที่จุด A เอา center tap ของขดจุดใส้หลอดสามสายต่อเข้ากับสายกราวน์ที่จุด B เอา C ตัวแรกต่อสายกราวน์ที่จุด C
ต่อแบบนี้ C ตัวแรกจะกักสัญญาณสลับที่ปนออกมากับสายกราวน์ไว้ไม่ออกไปกวนภาคอื่น ช่วงแรกยังเป็นไฟสลับอยู่ หลังจาก C ตัวแรกไปแล้วถึงจะเริ่มเป็นไฟตรง
-
ดูวงจรภาคขยาย
ที่ปลายสุดของสายกราวน์อีกปลายหนึ่ง เอากราวน์ของ RCA ที่รับสัญญาณอินพุททุกตัวที่มีเดินสายกราวน์ร่วมกัน ลงหลักพักสายและลงแท่น ที่ตำแหน่ง D ลงแท่นที่นี่ที่เดียว
สายกราวน์ทั้งสามท่อนรวมภาคจ่ายไฟต่อถึงกันนะครับ ตามรูปวาดแยกกัน
-
ขอบคุณครับน้าออ.
คงต้องพรุ่งนี้สองสามทุ่มครับถึงจะได้ลุยต่อครับออกมาต่างจว. ยังไม่ได้กลับ
ดูภาพแล้วพอทำได้ครับแต่ก็อดถามไม่ได้ว่าa,b,c,dอยู่บนสายทองแดง2.5เส้นเดียวกันไม่ถือว่าเป็นจุดเดีววกันหรือครับ :kickingในทางงานออดิโอ. ปกติผมพอซ่อมไฟฟ้าได้บ้างครับแต่อิเลคทรอนิกนี่ยังงงอยู่ครับ. ความหมายคล้ายๆผมต่อหลอดไฟที่บ้านเอาสายดินที่ไหนก็ได้ไฟติดแน่แต่นี่สายทองแดงระยะ20-30ซม.มีจุดa,b,c,dบนเส้นเดียวกันไม่เหมือนกันเพราะอะไรครับ(ขอถามเป็นความรู้จริงๆ)
แท่นของผมหงายท้องขึ้นมาด้านซ้ายเป็นหลอดขยาย2หลอดไดร1หลอด สองหลอดกลางเป็นหลอดเร็คติไฟ ด้านขวา2หลอดขยาย1หลอดไดร ผมใช้สายทองแดงวางจากซ้ายไปขวาเทียบกับในรูปเป็นdถูกไหมครับ. ส่วนa,b,cผมต้องทำเป็นส่วนถาคเพาเวอแล้วค่อยไปจุดdประมาณนี้หรือเปล่าครับ
-
A,B,C ก็อยู่ใกล้ๆกันครับ แต่อยู่ปลายข้างหนึ่ง ส่วน D อยู่ปลายอีกข้างหนึ่ง
ดูรูป วางสายกราวน์แบบสี่เหลี่ยม แต่ปลายไม่ต่อถึงกัน ถึงปลายจะอยู่บนที่พักสายตัวเดียวกัน
ที่พักสายมีสามตัวยึด
ปลายด้าน D จะต่อกับกราวน์ของ RCA แล้วต่อกับที่พักสายแล้วโยงกับขากลางของที่พักสาย ขากลางน็อตยึดกับแท่น ลงแท่นจุดเดียว
ในทางไฟฟ้ามันก็จุดเดียวกันทั้ง A,B,C,D คือเป็นกราวน์ของวงจร
แต่ ในทางไหนดี แต่มันเป็นคนละข้าง A,B จะถือว่าแยกจากจุด C เป็นต้นไปจนถึง D งง ป่าว
หนังสือที่ผมซื้อมาอ่านเขาว่ามันแก้ฮัมได้ครับ แต่บางแท่นก็ยังมีฮัมอยู่ บางแท่นก็เงียบ
บางแท่นผมต่อลงกราวน์เลยตรงที่ใกล้ที่สุดเนื่องจากสายไฟจากหม้อสั้น ก็ไม่ฮัมนะครับ
ยังไงก็ต่อแบบมีหลักหน่อยก็แล้วกันนะครับ :D
-
ผมลืมภาคpsuไปยังไม่ได้คิดว่าจะวางไว้ตรงไหนคงจะเป็นช่องว่างใต้หม้อไฟละครับ
พอลงมือทำถีงรู้ว่ายังขาดอีกหลายอย่าง c)เช่นขั้วลำโพง,ขั้วอาซีเอ,หมุดพักสาย๚
ถามถึงอาร์ปรับค่าภาคเพาเวอร์ให้ปรับไว้ประมาณเท่าไหร่ครับ100โอมเลยป่าวครับ
-
ขอบคุณอีกครั้งครับน้า
มันเป็นหลักการวางกราวด์แก้ฮัมผมก็เคยอ่านเจอแต่ไม่เข้าใจ555ตอนนี้พอทำต่อได้สบายใจหน่อยครับ
-
เรื่องของเรื่องคือ หลอดเป็น gain stage หรือ voltage gain หรือภาคขายสัญญาณ ขยายแรงดัน ต้องการไฟตรงจริงๆ มาเลี้ยงวงจร ถ้ามีสัญญาณสลับเล็ดลอดเข้ามา มันโดนขยายออกลำโพงด้วย
เป็นที่มาของเสียงฮัม ว่างั้น
สัญญาณสลับที่เล็ดลอดออกมาอย่างหนึ่งคือที่ center tap ของหม้อแปลง อย่าคิดว่า center tap เป็น 0V นะครับ และขด secondary ก็เป็นไฟสลับ
ถัดจากขั้วบวกของ C 50uF 450V ถึงจะเริ่มเป็นไฟตรงแต่ยังมี ripple เพราะค่าตวามจุมีน้อยไม่มาก
loop ระหว่างกราวน์ที่ A เข้า center tap ของหม้อจ่ายไฟ เข้า anode ของหลอด 5U4GB ออกไปที่ catode ของหลอด 5U4GB วนผ่าน C 50uF มาลงกราวน์ที่ C ผ่าน B ไป A ครบรอบ
จะกักสัญญาณสลับเอาไว้ไม่ให้ไปปนกับไฟตรงหลัง C 50uF ครับ
ขดจุดใส้หลอดก็เหมือนกัน
เป็นเรื่องของคนคิดมากน่ะครับ
แล้วน้าไม่สงสัยเกี่ยวกับสายลำโพงหรือครับ ทำไมเขาใช้เส้นละหลายพันบาท
-
ถามถึงอาร์ปรับค่าภาคเพาเวอร์ให้ปรับไว้ประมาณเท่าไหร่ครับ100โอมเลยป่าวครับ
ค่าที่คำนวณไว้ 109R 40W ใช้ R wire wound ที่มากกว่า เช่น 200R 40W แล้วเอามิเตอร์วัดไว้ที่ประมาณ 100R
พอทำเสร็จวัดแรงดันทุกจุดก็ต้องมาปรับให้ได้แรงดันที่ใกล้เคียงกับที่ออกแบบไว้ครับ ไม่ได้ค่าที่เป๊ะทันทีครับ
-
ผมกลับมาดึกเลยไม่ได้อะไรเท่่าไร แต่ลองไล่สาย5-0vดูแล้วสายที่ออกมาทางด้านี้มีไฟสูง300-0-300, แล้วตามด้วยห้าโวลท์สองชุด,3.15-0-3.15ครับ
ท่านใดเคยใช้หม้อยี่ห้อtronคิดว่าไล่จากชุดไฟสูงลงมาชุดห้าโวลท์สายที่ออกมาจะเป็นเส้น5vหรือ0v ครับ
น้าออ.คิดว่าไงครับ
ผมไล่สายดูแล้วตอนนี้สลับเส้นกันอยู่ครับคงสลับเพราะผมตีเกลียวสายแต่ไล่แล้วสายบนเข้าขา8หนี่งหลอดสายล่างเข้าขา8หนึ่งหลอดยังไม่ได้แก้รอฟังความเห็นอยู่ครับว่า5v--0vอะไรน่าจะอยู่บน
คงต้องแก้พรุ่งนี้
ยังไงก็ยังต้องรออุปกรณ์บางส่วนครับเมื่กี้ก็เลยจัดอุกรณ์วัดค่าให้ได้ไกล้เคียงกันในแต่ละตำแหน่ง
-
แหม ไม่มีใครมาช่วยเลย
-
เดาครับ
-
แก้แล้วครับแตรออุปกรณ์บางรายการอยู่
-
ขั้วลำโพงครับยังไม่ได้ยึดต้องหาดอกสว่านมาเจาะก่อนครับ
ซีตัวนี้ซีออยหรืออป่าวครับ
-
น่าจะใช่ครับ ตัวใหญ่
-
วันนี้ได้อุปกรณ์บางอย่างเลยนั่งประกอบโวลุ่ม,ขั้วลำโพง,อาร์ซีเอ,ฟิวส์. ยังขาดสวิทปิดเปิด
ที่น้าออ. แนะนำว่าให่ลงกราวด์แท่นที่rcaจุดเดียวถามว่าจะเปลี่ยนเป็นลงกราวด์แท่นที่โวลุ่มได้ไหมครับเพราะติดตั้งแล้วโวลุ่มไม่มีฉนวนรองแต่rcaมีฉนวนรองตอนนี้มีที่โวลุ่มลงกราวด์จุดเดียวที่ลงกราวด์แท่นจะให้ลงกราวด์แท่นที่ไหนดีครับ
ถ้าลงที่rcaเท่ากับว่ามีลงกราวด์แท่นสองจุดคือrca,volumeครับ
-
ลองดูครับ ความจริงก็ไม่ได้เคร่งครัดหรอกครับ ถ้าไม่เป็นเหตุของการฮัมก็อใช้ได้ครับ
-
http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/book-08.html
ใช้กับกรณีของผมก็ได้ใช่ไหมครับ
ผมมีแต่ดิจิตอลต้องใช้แบบเอซีใช่ไหม
-
ขอแจมหน่อยครับ ผม
หลอด 5u4g ใช้ C ตัวแรกไม่เกิน 40uf ครับ ถ้าเกินจากนั้น อายุการใช้งานหลอด จะสั้น ก่อนวันอันควร ครับผม
-
http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/book-08.html
ใช้กับกรณีของผมก็ได้ใช่ไหมครับ
ผมมีแต่ดิจิตอลต้องใช้แบบเอซีใช่ไหม
ผมไม่เคยทำครับ
-
อ่านเจอเลยสนใจครับว่าจะลองดูเลยสอบถามหลายๆท่านดูก่อนเผื่อมีข้อควรระวัง
-
6l6gc pp ผมหม้อร้อนฉ่าเลย หรือเป็นเพราะจุดใส้ 5u4g ขั้วไม่ถูก
-
ผมคิดว่า กระแสน่าจะไม่พอ มากกว่าครับป๋า ลองปลดไฟออกข้างหนึ่งเป็นโมโน ถ้าหม้อไม่ร้อน แสดงว่า กระแสไม่พอ ครับ ผม
-
ผมคิดว่า กระแสน่าจะไม่พอ มากกว่าครับป๋า ลองปลดไฟออกข้างหนึ่งเป็นโมโน ถ้าหม้อไม่ร้อน แสดงว่า กระแสไม่พอ ครับ ผม
ปลดออกดุ๋ยๆ เลยหรือครับ กระแสจะไม่ไหลเยอะจนทำลายแอมป์ข้างที่เหลือหรือครับ
-
ผมคิดว่า กระแสน่าจะไม่พอ มากกว่าครับป๋า ลองปลดไฟออกข้างหนึ่งเป็นโมโน ถ้าหม้อไม่ร้อน แสดงว่า กระแสไม่พอ ครับ ผม
ปลดออกดุ๋ยๆ เลยหรือครับ กระแสจะไม่ไหลเยอะจนทำลายแอมป์ข้างที่เหลือหรือครับ
V=IR
I=V/R
ดังนั้นกระแสที่ไหลผ่านหลอดจะถูกควบคุมโดยR Cathode กับ V+
ถ้าเราไม่ได้เพิ่ม V+ หรือลดR cathode กระแสที่ไหลผ่านวงจรก็ไม่เปลี่ยนครับ
การที่น้าtualek บอกว่า กระแสน่าจะไม่พอ น่าจะมาจากหม้อแปลงที่มีอยู่จ่ายกระแสให้วงจรทั้งสองข้างไม่เพียงพอ เช่นวงจร2ข้างกินกระแส 300mA แต่หม้อแปลงจ่ายได้ 250mA ถ้าเราลองปลดไฟออก 1 ข้างแสดงว่าวงจรกินกระแสแค่ 150mA และหม้อแปลงยังมีความสามารถจ่ายกระแสได้ถึง250mA แต่จ่ายจริงแค่ 150mA หม้อแปลงก็จะไม่ร้อนครับ
-
r ตัวแรกของภาคจ่ายไฟ ได้กำหนดให้กระแสไหลเต็มแล้วนี่ครับ
-
r ตัวแรกของภาคจ่ายไฟ ได้กำหนดให้กระแสไหลเต็มแล้วนี่ครับ
R/L ภาคจ่ายไฟ ทำหน้าที่กรองไฟให้เรียบครับ วงจรแอมป์หลอด ตัวที่ควบคุมการไหลของกระแส คือ r cathode ครับ ตามสูตร V=IR ครับ
-
ได้แอบเก็บความรู้อีกแล้วเกี่ยวกับเรื่องกรแสไหลในวงจร
-
พึ่งกระจ่างก็เที่ยวนี้แหละครับ
หลักๆเลยก็คือกระแสไหลในวงจรมาจากตัวที่ตั้งค่ากระแสไหลในแต่ละส่วน เช่น Rk, R bleeding
รวมกันแล้วได้เท่าไหร่ภาคจ่ายไฟก็ควรจะจ่ายได้เท่านั้น
ส่วนภาคฟิลเตอร์ก็ทำหน้าที่ไป แต่ก็ต้องใส่ R ที่สัมพันธ์กับแรงดันและกระแสที่ไหลผ่านตัวเอง.............ไม่ใช่ตัวตั้งกระแสให้วงจร
เวลาต่อวงจรเสร็จแล้วแรงดันคร่อมหลอดและกระแสไหลผ่านหลอดไม่ได้ตามที่คำนวณ ผมพยายามปรับ R filter มันถึงไม่ได้ซักที่ K] K] K] K] K] K] K]
-
บ่ายว่างนั่งบัดกรีได้แค่ข้างเดียวครับ งงๆก็เลยต้องหยุดเดี๋ยวต้องไล่ใหม่อีกทีครับ
-
ดูแล้วงงไม่เหมือนลงปริ้นเลย
-
พึ่งกระจ่างก็เที่ยวนี้แหละครับ
หลักๆเลยก็คือกระแสไหลในวงจรมาจากตัวที่ตั้งค่ากระแสไหลในแต่ละส่วน เช่น Rk, R bleeding
รวมกันแล้วได้เท่าไหร่ภาคจ่ายไฟก็ควรจะจ่ายได้เท่านั้น
ส่วนภาคฟิลเตอร์ก็ทำหน้าที่ไป แต่ก็ต้องใส่ R ที่สัมพันธ์กับแรงดันและกระแสที่ไหลผ่านตัวเอง.............ไม่ใช่ตัวตั้งกระแสให้วงจร
เวลาต่อวงจรเสร็จแล้วแรงดันคร่อมหลอดและกระแสไหลผ่านหลอดไม่ได้ตามที่คำนวณ ผมพยายามปรับ R filter มันถึงไม่ได้ซักที่ K] K] K] K] K] K] K]
ใช้วิธีคำนวนกระแสในวงจรของแต่ละเสตจครับ รวมออกมาแล้วได้เท่าไหร่ ให้เผื่อไว้สัก 20-30 % (รวมกันทั้ง 2 ข้าง)
ภาคจ่ายไฟจ่ายกระแสเกินไว้ก่อนเป็นดี แต่เผื่อมาก ๆ มันก็เปลือง เช่น หม้อแปลงใหญ่เกินไป หลอดเรค จ่ายกระแสสูง ๆ หายาก
ความสามารถในการจ่ายกระแสของภาคจ่ายไฟ มากไปไม่ทำให้วงจรเสียหาย หากแรงดันเหมาะสมกับวงจรแล้ว เหมือนกับการเอา
หลอดไฟ 12 โวลท์ 25 วัตต์ (กินกระแส = 25/12 = 2.08 A) ไปต่อกับหม้อแบตเตอรี่ 100 A หลอดก็ไม่ขนาด เพราะหลอดไฟต้องการ
กระแสเท่าที่ตัวมันเองรับได้
สูตรไฟฟ้าเบื่องต้น
V=IR
และ
P=IV
ตามน้าเขียวหวานยกมา จำเป็นมาก ช่วยคำนวณผลที่วัดได้จากวงจรที่ทำ เปรียบเทียบกับวงจรที่ออกแบบว่าไกล้เคียงตามที่ออกแบบหรือไม่ หากไม่ได้ตามที่ออกแบบ
ยังช่วยคำนวณหาค่า R ที่เหมาะสมเพื่อปรับกระแสไนวงจรได้อีกด้วย