หัวข้อ: Rob-b-Hood-วิ่งกระเตงฟัด เมื่อเฉินหลงไม่หลงทาง

[รักเสียง]

คุณ  poppy เค้าให้ดูหนัง ไม่ใช่ไปดูคนข้าง ๆ ครับ
.
.
.
.
.
.
แต่ถ้า  ก็น่าดูครับ อิ อิ

[poppy]

หนังยาวมากครับ  เข้าห้องน้ำหลายครั้ง ดีแต่คนนั่งข้างๆ  คนอื่นพามา  สวยดี

คนข้างๆนี่ใช่แฟนรึเปล่าคับ 

แฟนคับ แต่แฟนคนอื่น เผอิญพี่เค้าใจกว้าง 

[Jeab]

เคยอ่านเจอเมื่อสักระยะหนึ่งมาแล้วน๊ะครับ แต่จำไม่ได้ว่าจากที่ไหน ว่าที่ เฉินหลง ไม่สามารถเล่นหนัง Hollywood ให้ออกมาเป็น action สะใจสุดเหมือนหนังฮ่องกงนั้น ไม่ได้เกี่ยวว่าอายุมากหรือบทหนังไม่ให้ แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะบริษัทประกันห้าม เพราะถือว่ามีความเสี่ยงเกินกว่าจะยอมรับได้ โดยเฉพาะการเล่นฉากต่างๆโดยไม่ใช้ Stunt ดังนั้นเฉินหลงจึงได้เล่นแต่บทตลกเบาสมอง action ครึ่งๆกลางๆอย่างที่ผ่านมา และน่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไป

[ต ต้น]

หนังยาวมากครับ  เข้าห้องน้ำหลายครั้ง ดีแต่คนนั่งข้างๆ  คนอื่นพามา  สวยดี

คนข้างๆนี่ใช่แฟนรึเปล่าคับ 

[poppy]

หนังยาวมากครับ  เข้าห้องน้ำหลายครั้ง ดีแต่คนนั่งข้างๆ  คนอื่นพามา  สวยดี

[kenn]

Rush hour 3 ทำแน่นอนคับ ดารา+ผู้กำกับกลับมาครบทีม ปีหน้าได้ดูจ้า 

[โต้ง ช.ม.]

หนังเรื่องนี้ผมได้ดูแล้วครับ แต่ไม่ได้เอามาเล่าให้ฟัง

ความรู้สึกของผมก็คือ เฉินหลงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คือแกแก่แล้ว จะให้มาเล่นผาดโผน เสี่ยงตายเหมือนตอนหนุ่มๆคงไม่ไหว ( แต่ฉากที่เฮียเฉินได้แสดงความสามารถเฉพาะตัวก็ยังพอมีอยู่ ) เรื่องหลังๆแกก็เลยหันมาเน้นแนวดราม่ามากขึ้น ซึ่งผมยอมรับว่าแกแสดงได้ดีนะ หมายถึงลีลา ท่าทาง แอคติ้ง อะไรต่างๆดีใช้ได้เลย ( เจ็ทลีอีกคนที่ผมชอบ ดาราไทยอย่างจาพนม ถ้าหวังจะโกอินเตอร์ ต้องปรับปรุงจุดนี้ด่วน ) ส่วนข้อด้อยของหนัง ผมคิดว่าฉากแสดงอารมณ์บางฉาก มันลากยาว ดูเยิ่นเย้อไปหน่อย ( อย่างฉากสุดท้าย ) และโทนหนังโดยรวมออกจะไปทางขี้เล่น ตลกขบขันมากไปครับ ( เหมือนหนังโจวชิงฉือเลย ) มันเลยขาดความสมจริงสมจังไปนิดนึง สุดท้ายถ้าชอบเฉินหลงก็ต้องไปดูครับ ผมอยากเห็นเฉินหลงเล่นหนังกับฮอลิวูดอีก ( Rush hour 3 ก็ว่าจะทำ ) อยากเห็นเฉินหลงเล่นหนังแบบฮอลิวูด แอ็คชั่นจริงๆจังๆ เหมือนอย่างเจ็ทลีครับ ( อย่างเรื่องคนหมาเดือดเป็นต้น ) ผมว่าถ้าทำออกมา คงจะน่าดูทีเดียว

[Klos.]

อิจฉาคนมีสาวๆไปดูหนังด้วย หุๆๆ

[TONSON]

 K)เรื่องนี้ผมตั้งใจว่าจะดู...ขอบคุณนะครับที่มาช่วยให้อยากดูมากขึ้น

[kenn]

เรื่องย่อ:

สลิปเปอร์ (เฉินหลง) โตมาในครอบครัวยากจน และถูกไล่ออกจากโรงเรียนตอนวัยรุ่น ดูเหมือนชีวิตเขาไม่มีอะไรดีเลย นอกจากความเจ้าเล่ห์หัวหมอที่มี สลิปเปอร์ติดการพนันงอมแงมจนพ่อแม่พี่น้องเอือมระอาเขาเต็มที เจ้าหนี้ก็ตามทวงเงินยิกๆถึงหน้าประตูบ้าน แต่แล้ววันหนึ่ง เจ้าของบ้านเช่า (ไมเคิล ฮุย) ก็ยุให้เขาตั้งขบวนการปล้นเพื่ออยู่รอด โดยมี อ๊อคโตพุส (กู่เทียนเล่อ) เพื่อนของสลิปเปอร์เข้ามาร่วมด้วย พวกเขากลายเป็นแก๊งโจรเงอะงะ ที่แม้จะอยู่อีกฟากหนึ่งของกฎหมาย แต่ก็ไม่เคยคิดก่อความรุนแรงใดๆ

และแล้ววันหนึ่ง เงินก้อนโตก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา ม่านอี้ ทายาทสาวแห่งตระกูล ติง ผู้มั่งคั่ง ได้ให้กำเนิดลูกชายหน้าตาน่ารักชื่อ บีบี แต่ก่อนที่พ่อแม่และ แคลวิน (แอนดรู ลิน) สามีของเธอจะได้ฉลองเรื่องเจ้าตัวน้อย บีบีก็ถูกลักพาตัวไปโดย แม็กซ์ (เทอร์เรนซ์ หยิน)คนรักเก่าของม่านอี้ ที่คิดว่าบีบีเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน โชคร้ายที่แม็กซ์เสียชีวิตในอุบัติเหตุก่อนเวลาอันควร ทำให้พ่อมาเฟียของเขาหาทางแก้แค้นตัวต้นเหตุ และออกตามหาบีบี ผู้เป็นหลานชาย เงินค่าจ้างลักพาตัวบีบีสูงถึง 30 ล้านดอลล่าร์ฯ จนโจรทั้งสามไม่อาจปฏิเสธ แต่พอได้ตัวหนูน้อยมาเรื่องวุ่นก็บังเกิด เพราะสามคนนี้เลี้ยงเด็กไม่เป็น พวกเขาจึงต้องหาผู้หญิงมาช่วย ซึ่งก็ได้แก่ เมโลดี้ นางพยาบาลสาวใจงามที่สลิปเปอร์ตกหลุมรัก แถมภรรยาจอมจุ้นของเจ้าของห้องเช่าก็เอ็นดูบีบีมากเป็นพิเศษ และไม่ยอมปล่อยบีบีไปไหนเพราะเธอเองไม่มีลูก ส่วนปักหยิน (ชาร์เลน ชอย) แฟนสาวของอ๊อคโตพุส ก็ดันเพิ่งรู้ตัวว่าท้อง เหตุชุลมุนเกิดขึ้น เมื่อแก๊งโจรหลงรักเจ้าหนูบีบี และเริ่มสับสนระหว่างค่าไถ่กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจพาหนูน้อยกลับสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากต้องวิ่งหนีตำรวจแล้วยังต้องปกป้องบีบีจากแก๊งมาเฟียอีกด้วย


อ่า...........แบบว่าไปดูในโรงหนังแล้วชื่อตามที่อ่านมานั้น มันเปลียนไปหมดเลย ฮ่าๆๆๆ ช่างมันเถอะคับ ตามความคิดของผมนั้น เรื่องนี้เดินตามทางของหนังเฉินหลงอย่างที่ควร หลังจากที่หนังเรื่องหลังๆของเขาเป๋ออกไปข้างทางนิดหน่อย เน้นความรู้สึก ตัวละคร และเนื้อเรื่อง ดูไปยิ้มไป ซึ้งไป ยิ่งหากมีคนไปดูด้วย (โดยเฉพาะสาวๆ ฮี่ๆ) คงได้กุมมือกันมั่งหล่ะแอ๊คชั่นพอมีนะคับ แบบเนื้อๆเน้นๆไม่ได้ใส่พร่ำเพรื่อ รู้สึกเลยว่าแกแก่แล้ว (แต่ก้อยังสู้อยู่นะ) ตัวละครแต่ละตัวมีที่มาที่ไปพอจับใจความได้ แต่ละคนต้องทำเพื่ออะไร แล้วการที่ไปขโมยเด็กมาแล้วต้องรับผิดชอบเค้าแล้วตัวหนังทำให้ตัวละครเองกลับมาคิดในแบบที่คนดีๆเค้าควรคิดนั้น ก็พอยอมรับได้ ไม่รวบรัดเกินควร ดูเอาตลกได้ดี ดูเอาความรู้สึก อารมณ์ ก็แจ๋วอ่ะ ยกโป้งให้ 2 นิ้วเลยคับ เอาเป็นว่า ลองไปทดสอบตัวเองดูแล้วกันว่า คุณได้อะไรจากหนัง แอ็คชั่น คอมเมดี้ เรื่องนี้บ้าง ส่วนตัวผมได้ความรักที่อบอุ่นของพ่อ-แม่กลับบ้านพร้อมรอยยิ้มคับ...(หวังว่าทางไทยอย่ามัวแต่หลงทางกับไม่ใช้สลิง ไม่ใช้สแตนด์อิน จนลืมนึกถึงบทหนังที่ดีๆนะคับ เพราะ.........เบื่อแล้ว)