ไม่รู้จิ ผมว่าสั้นๆ นะดีกว่า แต่เขาว่ามามันก็มีเหตุผล แต่คงเลือกสายที่มีเส้นใหญ่ๆหน่อย หรือที่มีความต้านทานของสาย (R, Resistance) น้อยๆ คำว่า 75 โอหม์ มันเป็นค่า Impedance ก็คือค่า L และ C ที่เขาว่า และมองเข้าไปจะมีค่า Impedance มีค่า 75 โอห์ม Impredance ของ Transport O/P, ของสาย และ DAC Input จะมีค่าเท่ากันเพื่อให้ได้ Maximum Power Transfer, จริงๆ ต้องมีความถี่มาเกียวข้อง และถ้าตัดสายให้ยาวเป็นสัดส่วนกะความยาวคลื่น ก็จะส่งผลให้การ Resonance และก็จะทำให้ส่งผ่านสัญญาณได้ดีที่สุดเช่นกัน ดังนั้นการคำนวณจริงๆ ผมว่าไม่ใช่ยาวจะดี แต่ควรจะ ยาวตามความยาวคลื่นที่ว่า ตามหลัก transmission line แต่นั้นและ R หรือ Resistance ของสายยิ่งยาวยิ่งมาก จึงต้องใช้สายใหญ่ๆ หรือสายที่มีความต้านทานน้อยๆ เพราะถ้ามี R มันก็จะมีแรงดันตกคร่อมสาย ทำให้มีค่าแรงดันของสัญญาณ ตกไป สัญญาณ Digital (ผมจำตัวเลขเด่นชัดไม่ได้ ผมขอสมมุติตัวเลขแล้วกัน ถ้าใครมีค่าที่ถูกต้องแก้ไขให้ผมด้วย) ค่าแรงดันสัญญาณ 0 - 1.5 โวลท์ จะมีค่าเป็น 0 และ 3.5 - 5 โวลท์ จะมีค่าเป็น 0 ดังนั้น 1.6 -3.4 โวลท์ จะเป็นค่าที่ไม่ได้ใช้งาน จะเห็นว่าถ้า Transport ส่งสัญญาณต่า 3.7 V มามันก็คือ 1 แต่เนื่องจากสายมันถูกความต้านทานในสายทำให้ค่าแรงดันหายไป เหลือถึง DAC แค่ 3.3 โวลท์ มันก็เลยทำให้ DAC ไม่รู้ว่ามันคือ 1 หรือ 0 เสียงที่ได้อาจจะเพี้ยนๆ ไป ผมเคยทำยาวๆครับสาย Digital แต่เสียงมันออกบางๆ กว่าสั้น ทั้งๆที่ใช้สายและหัว เหมือนกัน