หัวข้อ: เรามาว่าเกี่ยวกับแอมป์ที่ใช้หลอด 807 (VT100) กันไหมครับ

[saranyo]

ผมกะจะลองใช้ 6J5 ซี้ง single medium mu triode drive 807 โดยทำเป็น 1 stage แบบ anode follower .....  จะเหมาะสมไหมครับ

[มุมคนรักหลอด]

ลองใช้ 6sn7 แทนดูซิครับ ใช้ได้เช่นกันครับ

[darkman]

เอาวงจรใน Sound Practices มาฝากครับ  ผมกะจะทำวงจรนี้แต่ว่ายังหาหลอด pre 6072A ไม่ได้ว่าจะหาเบอร์อื่นแทนอยู่  วงจรนี้เป็น pentode ครับ ได้ 10W   ถ้าดูไม่ชัด load file PDF ไปดูนะครับ  เพราะมันเป็น PDF อยู่ผมย่อขยายแล้วคุณภาพมันเสียน่ะครับ   

อีกอย่างนึงในนี้เค้าแนะนำ OPT ที่ 6K นะครับ

[Karin Preeda]

ถ้าเป็น Inductance load หล่ะครับค่า Vg input จะมีค่าเท่าใด +/-25 หรือ +/-(25/2) ครับนี้เป็นโจทย์ข้อที่ 2 อันนี้ผมไม่รู้ยังหาคำตอบไม่ได้ แล้วผมจะกำหนดจุดการทำงานของหลอด interstage drive อย่างไร

ปกติพวก inductive load จะเสมือนว่ามี impedance สูงมากๆครับ เส้น loadline จะขนานกับแกน X เลย ซึ่ง gain จะเท่ากับ mu ส่วน Vg จะอยู่ในช่วง +/-25 V หารด้วย mu ของหลอด driver ครับ

[สุรศักดิ์]

ผมแทปออกที่ประมาณ 5 K. ครับ เสียงที่ได้ลดอาการจัดจ้านของหลอด 807 ลงไปเยอะทีดียวครับ

ผมใช้อยู่ที่ 2.8K เองครับ คงต้องหาวันหยุดยาวสักหน่อย พันใหม่ที่ประมาณ 5-7K อย่างที่พี่มุมคนรักหลอดแนะนำบ้างแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับ 

[มุมคนรักหลอด]

วิธีที่ดีที่สุดในเรื่องการพันหม้อแปลง OPT คือ เมื่อออกแบบ OPT ที่ 7 K.แล้ว อย่าพึงนำแต่ละแทปมาต่อกัน ทดลองต่อดูแต่ชั้นดูก่อน ว่ามันเหมาะกับหลอด 807 ที่ตำแหน่งใด บางชั้นเราอาจจะนำมาต่อขนานกัน บ้างชั้นเราอาจจะนำมาต่ออนุกรมครับ เพื่อให้หม้อแปลงเหมาะกับ 807 มากที่สุดครับ 807 ของผม ผมแทปออกที่ประมาณ 5 K. ครับ เสียงที่ได้ลดอาการจัดจ้านของหลอด 807 ลงไปเยอะทีดียวครับ ส่วยแทบที่เหลืออาจจะต่อบแบบ UL ได้ด้วยครับ ทดลองดูครับ

[PajoneC]

ขอแนะนำครับ OPT ที่ 3  K. สำหรับ 807 น้อยเกินไปครับ ที่ 3 k. แม้จะได้จากการคำนวณ แต่เมื่อนำมาใช้งานจริง ๆ แล้ว มวลของเสียง 807 จะบางมาก ๆ เทียบสียงกับ หลอด 12AX7 ถ้าเพิ่ม OPT เป็น 5 -7 K. เสียงของ 807 เหมือนกับ 12AU7 ลองนำไปพิจารณาดูครับ

ขอบคุณครับคุณ มุมคนรักหลอด แล้วผมจะลองพัน OPT เผื่อถึงค่าสัก 7k ดูครับ ไม่รู้จะล้นแกนป่าวนะซิครับ 

สำหรับตอนนี้ผมได้ ภาคเพาเวอร์แล้วครับ   ในส่วนของภาค Interstage ผมเลือกใช้หลอด 1626 หรือบ้างครั้งเรียก VT137 ก็ได้เบอร์เดียวกันครับ คราวนี้มาดูว่าจากวงจรภาคเพาเวอร์พิจารณาเส้นโหลด Line ค่าสูงสุดของ Vg ผมต้องการไม่ให้เกิน 0 V ถ้าผมต้องการให้ Voltage input ก่อนเข้าภาคเพาเวอร์มีค่าอยู่ในช่วง +/- 22.5V กรณีภาคเพาเวอร์เป็น Resistance load แล้วถ้าเป็น Inductance load หล่ะครับค่า Vg input จะมีค่าเท่าใด +/-25 หรือ +/-(25/2) ครับนี้เป็นโจทย์ข้อที่ 2 อันนี้ผมไม่รู้ยังหาคำตอบไม่ได้ แล้วผมจะกำหนดจุดการทำงานของหลอด interstage drive อย่างไร ขอหาข้อมูลก่อนนะครับ     

[มุมคนรักหลอด]

ขอแนะนำครับ OPT ที่ 3  K. สำหรับ 807 น้อยเกินไปครับ ที่ 3 k. แม้จะได้จากการคำนวณ แต่เมื่อนำมาใช้งานจริง ๆ แล้ว มวลของเสียง 807 จะบางมาก ๆ เทียบสียงกับ หลอด 12AX7 ถ้าเพิ่ม OPT เป็น 5 -7 K. เสียงของ 807 เหมือนกับ 12AU7 ลองนำไปพิจารณาดูครับ

[PajoneC]

มาว่ากันต่อครับจุดประสงค์ผมอยากให้ 807 ทำงานอยู่ใน Mode ไตรโอด แต่วงจรที่ผมลงตอนแรกเป็นอัลตร้าลิเนียร์ ดังนั้นถ้าผมต้องการให้หลอดทำงานในโหมด Triode ก็สามารถทำได้โดยต่อ Grid #2 (ขา5) เข้ากับ Plate (a) เท่านี้ก็เป็น ไตรโอด แล้ว ต้องขอบคุณคุณMC มากครับที่ช่วยแนะนำ    ครับ

[PajoneC]

อยากเห็นวงจรและ แท่น 807 ของคุณsurasakp จังเลยครับ

[PajoneC]

จากค่าที่ได้จากการคำนวนทั้งหมดผมได้วงจรภาค Output แล้วครับตามรูปครับ จากวงจรผมเลือกใช้วงจรแบบ Fix bias เพราะว่าโอกาสที่จุดการทำงานของหลอดจะเปลี่ยนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ Auto self bias และผมเลือกใช้ตัวต้านทานแบบปรับค่าได้ต่อร่วมด้วยเพื่อง่ายในการปรับจุดการทำงานของหลอดซึ่งก็สะดวกดีครับ ข้อเสียของการ bias แบบ Fix bias ต้องระวังเรื่องแรงดัน Bias จะต้องจ่ายให้กับ Grid ของหลอดตลอดเวลาขณะที่หลอดทำงาน (มี Vbb จ่ายให้กับหลอด) เพราะถ้า -Vg หายหลอดจะมีกระแสไหลสูงมาก อาจให้หลอดเสียได้ครับ แต่โอกาสนี้จะไม่เกิดถ้าเราระวังครับ  

[สุรศักดิ์]

ดีเลยครับ ทุกวันนี้นั่งปรับ 807SE อยู่ว่าจะไปทิศทางไหนอยู่ครับ เดิมใช้หลอด 6SN7 ขับแบบ single stage แล้วต่อหลอด 807 ในโหมด triode ซึ่งเปลี่ยนจากการต่อในโหมดเพนโธด ก็ลดความจัดจ้านของเสียงลงได้บ้างครับ แต่ผมก็ยังฟังว่าเสียงต่ำยังขาดน้ำหนักอยู่บ้างครับ กำลังหาทางให้มันบึกขึ้นมาบ้างครับ  

[Karin Preeda]

6L6GT มันจะคล้ายๆกับ 6V6 มากกว่าครับ เทียบแล้ว maxium rating จะต่ำกว่าพวก 6L6GC อยู่ประมาณ 30% ครับ

[PajoneC]

807 นี่เสปค เดียวกับ 6L6GT ไม่ใช่หรือครับ

http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/082/6/6L6.pdf
http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/082/6/6L6.pdf

จาก Datasheet ของหลอด 6L6GT ผมว่าสเปคใกล้เคียงกันครับไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ แต่ที่เหมือนกันคือเป็นหลอดเพนโทรดเหมือนกันครับ 
หากจะใช้กับวงจรเดียวกันกับ 807 คงต้องปรับจุด Bias นิดหน่อยถ้าไม่ซีเรียสมากก็เสียบแทนได้เลยครับ (ไม่แน่ใจว่า Secket ใช้ร่วมกันได้ไหมน่ะครับ ผมไม่มี 6L6GT ใช้งานนะครับ) แต่ต้องระวังเรื่อง Plate voltage ดูเหมือนว่าแรงดัน 6L6GT จะทนได้น้อยกว่า 807 นิดหน่อยครับ

[Night_Angel]

807 นี่เสปค เดียวกับ 6L6GT ไม่ใช่หรือครับ

[PP]

ตามมาเชียร์ด้วยครับ ...     

[PajoneC]

คุณ PajoneC ได้แท่นแล้วเหรอครับ 

ยังไม่มีแท่นครับ ตั้งใจจะต่อแบบกระสือก่อนแล้วค่อยลงแท่นครับ 

ผมได้อ่านบทความแล้วก็โทรขอคำปรึกษาและสอบถามจากหลายๆ ท่าน (ต้องขอขอบคุณทุกท่านมากเลยครับ  ) เกี่ยวกับวงจรที่ต่อแบบ Choke load/Inductance Load (OPT) ซึ่งเป็น Load ตัวเหนี่ยนำ พอสรุปได้ว่า
1.       หากเราลองพิจารณาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางไฟตรงเราจะพบตัวเหนียวนำจะมีค่าความต้านทานเพียงค่า DCR ของขดลวดเท่านั้นซึ่งเท่ากับค่าความต้านทานที่เราใช้โอมห์มิเตอร์วัดที่ขดลวด Primary ของ OPT  สำหรับ OPT ที่ผมจะใช้ ผมคำนวณค่า DCR ของลวดที่จะใช้ก่อนที่จะเริ่มพัน OPT จริงคิดว่าได้ DCR ประมาณ 190 ohm
2.       เมื่อวงจรมีความถี่ของสัญญาณเข้ามาเกี่ยวของ ค่าความต้านทานจะไม่เท่ากับ DCR แต่จะมีค่าเท่ากับ DCR+jXL=รากที่2 ของ (DCR^2 + (2(22/7)xfxL)^2)
เพราะฉนั้นหากเรากำหนด จุด DC Bias ณ. จุดใดๆ ค่าแรงดัน Supply ของวงจรจะมีค่าเท่ากับ Vb+V DCR ของ RL+Vk=Vbb

จาก Load line ที่ได้แก้ไข ผมให้ค่า RL ซึ่งเท่ากับค่าความชันของเส้น Load line เดิมเท่ากับ 3000 Ohm ขยับขึ้นตามแนวเส้น rp (เส้นสีเหลือง) จนกระทั้ง ผมได้ ip=50mA (จากกราฟคือ Load Line เส้นที่ 2) เพราะว่าณ. จุด Loadline เดิมที่ Vg ต่ำๆ ค่าไม่เป็นเชิงเส้นมีโอกาสที่วงจรจะ Cut-off ผมก็เลยขยับ load line ขึ้น ซึ่งผมพบว่าจากกราฟ แรงดันตกคร่อมหลอด 807 เท่ากับ 290V
หากไม่มีอะไรผิดพลาดจากการพัน OPT ผมจะทราบว่า DCR ของ OPT ค่าความต้านทานน่าจะอยู่แถว 190 ohm ดังนั้น VRL ช่วงไม่มีสัญญาณเข้ามาจะมีค่าประมาณ RLxIp=190x0.050=9.5V
และจากกราฟเช่นกันผมทราบอีกว่า Vg=-22.5V, ดังนั้นหากผมเลือกที่จะใช้ Auto self bias Vk=-(Vg) เมื่อเทียบกับ กราวน์วงจร และ Ik=Ip ผมสามารถหา Rk=Vk/Ik=22.5/0.050=450 Ohm
พอจะสรุปได้ว่า
Vbb=Vb+VRL+Vk=290+9.5+22.5=322V กรณี Auto self bias
Vbb=Vb+VRL=290+9.5=299.5V~>300V กรณี Vg fix bias

แล้วค่อยมาว่ากันต่อนะครับ  ผิดถูกช่วยแก้ไขด้วยนะครับ 

 

[AnalogLism]

คุณ PajoneC ได้แท่นแล้วเหรอครับ 

[bird]

   ของผมจะทำวงจรนี้ครับ

[PajoneC]

Grid No2 : -50V max.
Grid No2 : -25V max.

ขอแก้ไข
Grid No2 input : 50W max.
Grid No2 input : 25W max. ครับ  
ผมยังตอบคำถามข้างบนไม่ได้ครับ ถ้าได้คำตอบแล้วค่อยลุยออกแบบวงจรต่อไปครับ  

[Karin Preeda]

งงคำถามครับ 

[PajoneC]

โดยส่วนตัวผมคิดว่าการที่เรารู้หลักการทำงานและคุณสมบัติของหลอดที่เราใช้งานอยู่บ้างก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร กับเป็นการดีเสียอีกที่จะทำให้เราระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหายกับหลอดอันเนื่องมาจากการกำหนดจุดการทำงานเกินขีดความสามารถที่หลอดจะรับได้
มาดูสเปคหลอด 807 กันครับ
Triode connection (CCS)
DC Plate voltage : 400V max.
Plate current : 125mA max.
Grid No2 : -50V max.
Grid No2 : -25V max.
Heater nagative   respect to cathode : 135V max.
Heater positive   respect to cathode : 135V max.
เพราะฉนั้นหากต้องการให้หลอด 807 ทำงานในโหมดไตรโอดค่าใช้งานสูงสุดต้องไม่เกินค่านี้นะครับ สำหรับผมผมใช้ที่ Vp = 262.5 (65%) ของค่าสูงสุด อาจจะต่ำไปสักนิดแต่ผมว่าหลอดน่าจะไม่รับภาระมากจนเกินไป มาดูโหลด Line ของผมนะครับ

จาก loadline ผมคำนวนค่า
rp=dVp/dIp=(320.0-252.5)/(0.070-0.030)=1450 Ohm
gm=dIp/dVg=(0.030-0.030)/(-22.5-(-7.5))=2mA/vg
u=rp x gm=1450x0.002=2.9
RL=(Vbb-Vp)/Ipq=(350.0-262.5)/(0.06-0.03)=2916 Ohm >> 3000 Ohm
Av=(-uRL)/(rp+RL)=(-2.9x3000)/(1450+3000)=-1.95
Vg=-22.5V นั้นคือ Rk=Vgq/ipq=22.5/0.030=750ohm กรณีเลื่อกการ bias แบบ auto self bias  
คราวนี้มาเจอคำถามว่าค่าที่คำนวณได้เป็นค่าที่เราให้ RL เป็น Resistanc load แต่การใช้งานจริง Load เราเป็น Inductance load ค่า 3000Ohm ตามค่า Load line ซึ่งค่า ZL=R+jXL สมมุติว่า DCR ของ load OPT=190 Ohm ค่า L= 58.5H อยากข้อความรู้เพิ่มด้วยครับไม่ทราบว่าผมต้องเปลี่ยนค่า Vbb จาก 350V เป็นค่าเท่าใด รบกวนด้วยครับ ตอนนี้ยังงง อยู่ครับ 



 

[saranyo]

หลอดผม 807 nos ของ RSD

[saranyo]

รูปครับ

[saranyo]

ผมเองก็มีโครงการกับ หลอดเบอร์นี้อยู่ครับ แนวทางที่น่าสนใจก็เป็นวงจรตามรูปครับ  แต่ภาค drive คงเปลี่ยนหลอดไป  ลักษณะวงจรเป็น SEPP ครับ  จึงขอความรู้เรื่องนี้ด้วยครับ.. เดี๋ยวทำไปด้วยครับ ตอนสุดท้ายกะจะลอง class A2 ตามแบบที่พี่นิกรลอง ในกระทู้ที่ผมเห็นว่ามีประโยชน์มากกระทู้หนึ่งครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=10743.0

[LOUIS]

ตามมาเชียร์ครับ 

ด้วยคน อิอิ..    

[Mc]

  ตามมาเชียร์ครับ 

[PajoneC]

สำหรับวงจรหลายท่านเลือกที่จะประกอบตามแบบวงจรที่ได้มีการออกแบบไว้แล้ว สำหรับกรณีวงจรของผมเนื่องจากผมต้องการให้ภาค Drive ทั้งหมดใช้หลอดไตรโอดตามเบอร์ที่ผมบอกไป เพื่อนำมา Drive หลอด Power ดังนั้นผมจึงต้องเลือกที่จะออกแบบและกำหนดจุดการทำงานเอาเองใหม่ แล้วผมจะทำอย่างไรหล่ะครวมนี้ นี้ซิครับต้องปวดหัวอีกแล้ว และเป็นโจทย์ปัญหาหล่ะครับว่าผมต้องเริ่มออกแบบและพิจารณาที่จุดไหนก่อนดี  แล้วผมจะเอาที่ผมออกแบบไว้มาบอกนะครับ แต่ตอนนี้ ผมอยากจะรวบรวมวงจรที่ใช้ 807 ให้มากที่สุดเพื่อใช้เป็นแนวทางและต่อยอด งานออกแบบ คงต้องขอรบกวนท่านที่มีวงจรอยู่ช่วย ลงวงจรให้ด้วยนะครับ 

[PajoneC]

สำหรับวงจรที่ผมตั้งใจจะทำ คิดเอาไว้ว่าจะใช้วงจรเบบ 3 Stage โดยภาค input stage (RC- Coulping) ผมเลือกใช้หลอดไตรโอดเบอร์ 8532W (SYLVANIA), ภาค Drive interstage (IST coupling) ใช้หลอดไตรโอดเบอร์ฮิตอีกเบอร์หนึ่ง 1626 VT137 (RCA) และภาค Power output stage (OPT coulping) ใช้หลอดเพนโทด เบอร็ VT100 หรือบ้างครั้งเรียก 807 ครับ

ส่วนภาคจ่ายไฟเนื่องจากแรงดันใช้งานค่าสูงไม่เกิน 500V หลอด 5R4 และ 5U4G เป็นอีก 2 คู่ที่เลือกใช้ในการทำแอมป์ แยกเป็น Mono block ที่ตั้งใจไว้ ข้างละคู่
ท่านที่คิดอยากจะลองสร้างแอป์ที่ใช้ หลอด 807 ควรศึกษา Datasheet ของหลอดไปพรางๆ ก่อนนะครับ 

807 : http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/141/g/GL807.pdf
1626 : http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/049/1/1626.pdf
8532W : http://www.pmillett.com/

5R4 : http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/049/5/5R4GY.pdf
5U4G : http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/137/5/5U4G.pdf

 

[PajoneC]

ถึงผมจะอยู่ในยุคปี 2006 ผมก็มีคตินิยมขอถือเคล็ดครับ  (ก็ผมคนไทย นิครับ) กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผม post ใน Htg2 ครั้งที่ 99 พอดิบพอดี กอปร์กับผมมีโครงการที่จะทำ SE807 ก็เลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากทุกท่านที่ใช้งานหลอด 807 อยู่ในขณะนี้หรือมีโครงการที่จะนำหลอด 807 มาปัดฝุ่นกันอีกสักครั้งช่วยแชร์ ความรู้ วงจร และ Tips เทคนิดต่างที่น่าสนใจ เพราะในความรู้สึกส่วนตัวผมว่าหลอด 807 นอกจากจะมีรูปทรงโค๊กคล้าย 2A3, 300B, 6B4G หรือหลอดที่มีรูปร่างทรงโค๊กอื่นๆ แล้ว ผมว่า 807 มันมีเสน่ห์ที่น่าหลงไหล น่าค้นหา  โดยเฉพาะโครงสร้างภายในที่สุดคลาสสิคเมื่อเทียบกับหลอดตะกูลเดี่ยวกัน    807 เป็นหลอดที่น่าใช้งานสำหรับผู้เริ่มตันทำ DIY เหตุผลเพราะว่าแรงดันใช้งานของหลอดไม่สูงมากนักอยู่ในช่วง 350-550V โดยประมาณขึ้นอยู่กับการออกแบบวงจร เรื่องแนวเสียงอันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่คิดว่าต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ ตอนนี้ต้องถามผู้รู้และขอคำแนะนำจากหลายๆท่านที่ใช้งานหลอดเบอร์นี้อยู่ในปัจจุบัน  ก่อนนะครับ สำหรับผม 807 จะเป็นโครงการแรกที่จะเริ่มทำในปีนี้ หน้าตาจะเป็นอย่างไร แล้วจะทะยอย นำมา Update บนบอร์ดนี้ครับ กับหัวเรื่อง เรามาว่าเกี่ยวกับแอมป์ที่ใช้หลอด 807 (VT100) กันไหมครับ