HTG2.club

ช่วยหน่อยครับการลากเส้น loadline ครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
วิธีทดสอบอย่างง่าย ซึ่งอาจจะได้ผลลัพธ์ไม่ตรงเท่าไหร่ ความถูกต้องประมาณ 70% ครับ คือใช้ signal gen ป้อนผ่าน resistor (ทำหน้าที่แทน Rp) แล้วส่งเข้าไปที่ primary ของ OPT วัด output ออกมาว่าได้เท่าไหร่ แล้วคำนวนย้อนกลับครับ


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
ตอนนี้เลยไม่คิดมากลอกเขาอย่างเดียวชัวร์เพราะมีคนทำมาเยอะแล้ว  แต่มันก็ติดข้องใจผมอยู่ตลอด N]


ใจเย็นครับ..อย่าเพิ่งยอมแพ้ :giveup..  ผมเองก็ไม่อยากลอกอย่างเดียว ก็เลยพยายามจะเรียนรู้ให้ได้ลึกๆให้มากที่สุด..ถามมากก็กลัวเขารำคาญ แต่ถ้ามีเพื่อนเรียนร่วมห้องก็ยังพอมีกำลังใจกันมั่งครับ แหะๆๆ  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตั้งใจว่า จะออกแบบ power amp เองให้ได้ นี่ผลก็เลยอยู่กะ EL34 มาเกือบ 2 ปีแล้วครับ(ฮา) คนอื่นไป 2A3 กันหมดแล้ววววว
คุณ saranyo  ขุดกระทู้นี้มาก็ดีเหมือนกันจะได้ทำความเข้าใจมากขึ้น หลังจากผมไม่ได้สนใจออกแบบโดยการลาก  load line นานแล้ว(ติดนิสัยลอกอย่างเดียว :nono)จะได้ลองออกแบบเองเสียที แต่คงสักระยะก่อนตอนนี้โครงการลอกแบบเขาซื้ออะไหล่ตุนไว้หมดแล้ว แต่คิดไว้ว่าคงเอาหลอดที่ไม่ค่อยมีใครทำมาออกแบบ เพราะจะได้ไม่มีต้นแบบ (ถ้ามีต้นแบบมันก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปดูเขา) ทำสนุก ๆ ไม่เน้นเสียงดีมากเอาแค่ดังพอฟังได้แต่ไม่รู้จะได้เริ่มตอนไหน :'(
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ saranyo

  • ****
    • กระทู้: 314
    • เพศ:ชาย
ตอนนี้เลยไม่คิดมากลอกเขาอย่างเดียวชัวร์เพราะมีคนทำมาเยอะแล้ว  แต่มันก็ติดข้องใจผมอยู่ตลอด N]


ใจเย็นครับ..อย่าเพิ่งยอมแพ้ :giveup..  ผมเองก็ไม่อยากลอกอย่างเดียว ก็เลยพยายามจะเรียนรู้ให้ได้ลึกๆให้มากที่สุด..ถามมากก็กลัวเขารำคาญ แต่ถ้ามีเพื่อนเรียนร่วมห้องก็ยังพอมีกำลังใจกันมั่งครับ แหะๆๆ  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตั้งใจว่า จะออกแบบ power amp เองให้ได้ นี่ผลก็เลยอยู่กะ EL34 มาเกือบ 2 ปีแล้วครับ(ฮา) คนอื่นไป 2A3 กันหมดแล้ววววว
Music is my life.


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
อีกสักคำถามครับหม้อแปลง   opt ที่เราสั่งพันเราจะรู้ค่าได้ยังไงครับว่าค่า primary load impedance (Zp) และ secondry load impedance (Zs) มีค่าตรงตามที่เราสั่งพัน เช่น 2.5 K: 8 Ohm มีวิธีการวัดทดสอบมั๊ยครับ หรือมีแต่ยุ่งยากครับ
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


chuckschuldiner

  • บุคคลทั่วไป
 K] K] K] เข้าใจเเล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม, 2006, 08:37:02 pm โดย acdc »


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
การลาก loadline ของ OPT มีจุดที่คำนึงหลายอย่างนะครับ

ปกติ load line ควรจะมีค่าประมาณ 2.5-4 เท่าของ Rp ครับ น้อยกว่านี้ gain จะตก linearlity อาจจะลดลง รวมถึง voltage swing ก็แคบ
load line มีค่ามากๆ หลอดจะทำงานได้ linear กว่า และก็ swing voltage ได้มากกว่า แต่ก็ต้องแลกกับ step down ที่สัดส่วนมากขึ้นเช่นกัน เช่น 5K:8ohm ประมาณ 26:1 ส่วน 10K:8ohm ประมาณ 35:1 ต่างกันเยอะนะครับ
เลือก DC bias ที่กระแสสูงๆ (ขึ้นไปทางแกน Y) หลอดส่วนใหญ่จะทำงาน linear ขึ้น แต่ก็แลกกับ plate dissipation ที่มากขึ้น อายุหลอดก็สั้นลง
เลือก DC bias ต่ำเกินไป หลอดก็ off เร็ว กำลังสำรองก็น้อย
ถ้าเลือก DC bias สูงเกินไป ถ้า driver ไม่สามารถ drive หลอดเป็น Class A2 เพราะ grid นำกระแส power ก็ตกอีก

สรุปแล้วคือขึ้นอยู่กับความพอดีครับ ไม่มาก หรือไม่น้อยเกินไป


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
พวก inductive load จะเป็นเส้นโค้ง เท่าที่ผมจำได้จะไม่มีสูตรตายตัว ที่เห็นเป็นเส้นโค้ง เกิดจากการ plot จริงครับ


ออฟไลน์ saranyo

  • ****
    • กระทู้: 314
    • เพศ:ชาย
วันนี้ผมนั่งดูตำรา ดูเอกสาร บทเรียน ทั้งวันเลย  อืม  ก็พอgetไปได้มั่งแล้ว   :victory ที่นี้หลักการลากเส้นload line ในกรณ๊ inductiveโหลดล่ะครับ พอดีอยากลองดูครับ  ขอช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ  ???
Music is my life.


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
ต้องขอบคุณ คุณ LNAudio มากๆที่ช่วยอธิบายให้จนเข้าใจ ผมก็นึกว่าคิดแบบเดียวกับการออกแบบปรีที่เป็น Resistive load ลืมนึกไปว่ามันคือ Inductive load ไปใช้ค่า 2.5 k เหมือน Resistive load คิดยังไงก็ไม่ได้ตามเขา ตอนนี้เริ่มสว่างแล้วครับ  c) c)  คือพอลากเส้น load line แล้วกำหนดจุด  quiescent point แล้วลากลงมาตัดกับแกน  X (volt) ได้กี่โวลท์ก็ให้เป็นแรงดัน  plate เลย  ไม่ต้องดูที่ปลายเส้น  load line ที่ตัดเส้น plate voltage (แกนX) ว่าได้กี่โวลท์เหมือนการออกแบบปรีที่เป็น resistive load (ในรูปที่ลากได้ 400V.ไม่ได้ใช้ค่านี้เป็น B+) ส่วนไฟ B+ จะเป็นเท่าไหร่ก็เอา Vp+Vg=B+ โดยไม่ต้องสนใจค่าแรงดันที่  opt ก็ได้หรือจะเผื่อก็นิดหน่อยผมสรุปอย่างนี้น่าจะได้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม, 2006, 07:07:46 pm โดย tewmax »
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
loadline ในรูปเป็นการคำนวนสำหรับ resistive load ครับ ถ้าคุณ Tewmax กำหนด loadline แล้วแทนเจ้า loadline ด้วย resistor ก็จะเส้นการทำงานของหลอด

ยกตัวอย่างเช่นเส้น 2.5K ที่ใช้ ถ้าเป็น resistor และใช้ไฟ 400V หมายความว่าจะมีไฟตกคร่อม resistor เท่ากับ 2.5K x 60mA เท่ากับ 150V เพราะฉนั้นณ.จุดที่ bais ที่คุณต้องการในกรณีที่เป็น cathode bias ก็ต้องมีไฟประมาณ -45V ดังนั้น power supply ที่ต้องใช้คือ 250+150+45= 445V และมี cathode resistor ค่า 45/60mA = 750 ohm

จาก resistive load ก็มาพิจารณา inductive load อย่าง OPT ครับ ผมข้ามเรื่องคณิตศาสตร์ไปเลย แต่คุณสมบัติของพวก inductor คือมันสามารถเก็บพลังงานและปล่อยมันออกมาใช้ได้ การทำงานของ inductor คือเมื่อเวลา load ต้องการพลังงานจากมัน มันจะดึงเอาไว้ แต่ถ้า load ต้องการจะส่งพลังงานเข้าไป มันจะมีแรงผลักออกมา คุณสมบัตินี้เป็นการทำงานของ inductor กับไฟ AC เพราะฉนั้นการใช้ choke มา load plate ของหลอดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการขยายสัญญาณเช่นกัน

ข้อดีของ inductive load คือมันไม่มีการสูญเสียความร้อน เพราะมันเป็นขดลวดซึ่งมี DCR ต่ำ ทั้งยังทำงานได้ดีกับไฟ AC ด้วย (ตามอุดมคติ แต่ในความเป็นจริง การมีค่า DC resistance และค่า capacitance แฝงอยู่, ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ inductor เอง)

พอมองย้อนกลับไปถึง OPT ที่เค้าเขียนๆกันว่า 2.5K:8 ohm ก็จะบอกค่าโดยนัยว่า ถ้าต่อลำโพง 8 ohm ทางด้าน secondary แล้ว ด้าน primary จะมองเห็น 2.5Kohm ซึ่งก็คือ loadline ของคุณ tewmax ไงครับ แต่ inductor เองมันก็ไม่ได้มีค่า reactance (ความต้าทานไฟ AC) เท่ากับ 2.5K ตลอดเวลา เพราะค่านี้เปลี่ยนแปลงไปตามความถี่จากสูตร X = 2 x Pi x L x F ด้วย แต่ถ้า primary ของ OPT พันมามีค่าสูงพอ(ตอนมี DC bias ด้วย) ก็อนุโลมได้ว่าหลอดจะมองเห็น load 2.5K ครับ

โดยสรุป

inductive load อย่าง choke หรือ OPT มี DCR ต่ำ เพราะฉนั้นการคำนวน bias จะแทบจะไม่ต้องเอาแรงดันไฟ DC ตกคร่อมมาคำนวน หรือถ้ามีด้วย ก็มีค่าน้อยมาก
inductive load สามารถ swing voltage ได้มากกว่าตัว power supply เนื่องจากตัวมันเก็บพลังงานไว้
Resistive load ไม่เก็บพลังงาน โดยพลังงานจะสูญเสียในรูปของความร้อน


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ clear เลย อ่านตำราหลายเล่มแล้วมึน :D หนังสือหลายเล่มจะบอกว่าเส้นโหลดลายน์ที่ลากตัดกับแกน  x (volt) จะเป็นโวลท์ power supply จ่ายให้วงจร มันก็ควรจะเป็น 400 v. แต่ในวงจรใช้แค่ 330V. แต่ถ้าใช้จากการลาก load line ผมก็ว่ามันก็มากเกินไปตั้ง 400 V. โวลท์เตจที่ตกคร่อม opt ไม่น่าเกิน 5-10 โวลท์  ซึ่งจะได้ plate voltage =400 - 5(ตกคร่อม opt) - 45(grid voltage) เหลือแรงดันตกคร่อม plate = 350 V.ซึ่งมันเกินที่เราต้องการเราต้องการแรงดันนตกคร่อมที่ plate แค่ 250 v.  มันก็ยังทำให้ผมสับสนจนทุกวันนี้ลากเส้น load line แล้วทำไมได้ค่าไม่ตรงกับที่เขาออกแบบ ตอนนี้เลยไม่คิดมากลอกเขาอย่างเดียวชัวร์เพราะมีคนทำมาเยอะแล้ว  แต่มันก็ติดข้องใจผมอยู่ตลอด N]

ผมเข้าใจว่าที่เขาคิดได้มาจาก plate voltge+grid voltage+opt voltage= 250+45+5= 300 v แล้วก็เผื่อขาดเป็น 330 V. opt แต่ละยี่ห้อ volt  ตกคร่อมไม่เท่ากันเผื่อโหลดดึงกระแส จะได้ไม่ขาดหรือเกินก็นิดหน่อย ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ตุลาคม, 2006, 01:05:36 pm โดย tewmax »
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ saranyo

  • ****
    • กระทู้: 314
    • เพศ:ชาย
ผมลากตามรูปข้างล่างถูกไหมครับ และ ไฟ B+ ของ supply มันจะเท่าไหร่ครับใช่ 400 v. หรือเปล่าครับ ผมเห็นในวงจรที่ทำกัน B+ แค่ 330 v.เขาลาก loadline ยังไงครับ ถ้าเอาตามสเปคข้างบน

ขอขุดกระทู้นี้หน่อยครับ...อยากให้มีอาจารย์มาตอบตรงไฟ  400V หรือ   330v   อ่ะครับ  เข้าใจว่าเป็นเรื่องของ inductive load  แต่ไม่รู้อธิบายไม่เป็นอ่ะครับ  ช่วยที 8)
Music is my life.


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
ขอบคุณพี่ DIY MAN มากครับขอถามเพิ่มเติมครับ ผมอ่าน year book 2005 ชอบ ไอเดียของพี่ DIY MAN ที่ทำ AMP.ที่ใช้หลอดได้หลายเบอร์ในแท่นเดียวกันโดยใช้การตัดไฟไส้หลอดเวลาเลือกเบอร์หลอด  ผมก็เลยมีแนวความคิดอยากจะทำมั่ง แต่ผมจะทำที่ pre drive stage โดยผมจะทำ เจ้า  SE2A3 ตามวงจรข้างบน ที่มี 6sl7 ต่อ srpp ตามวงจร และผมจะเพิ่มอีกชุดคือ 6SN7 ต่อเป็น srpp เหมือนกัน (SRPPไม่รู้เรียกชื่อถูกหรือเปล่า) ขนานกันไว้แล้วเลือกจ่ายไฟใส้หลอด คำถามคือ พี่ใช้ สวิทช์ในการตัดต่อ หรือมีวิธีอื่นครับ
                   
             วัตถุประสงค์ของผมคือ ชอบประหยัดและก็หลายใจด้วยครับ  กรณีที่เรามีหลอดหลายๆเบอร์ ที่ Spec มันใกล้เคียงกัน ก็ทำมันลงซะแท่นเดียวเลย เนื่องจากตอนนี้ PT/OPT แพงมากเนื่องจากราคาทองแดงมัน Up ไปมากก :cry2
              แรกๆผมก็ชอบนะ Srpp แต่ตอนหลังๆผมฟังเพลงไม่ได้เน้น Dynamic มาก(เริ่มแก่แล้ว 2f)ก็เลยมักจะจบที่เสียงของ AF ธรรมดาๆ หรือบางทีก็ Parallel ไปเลย เน้นเสียงร้องลากยาวๆ ยานๆ ก็มีครับ เอา Relax ครับ ;D

ขนานกันไว้แล้วเลือกจ่ายไฟใส้หลอด คำถามคือ พี่ใช้ สวิทช์ในการตัดต่อ หรือมีวิธีอื่นครับ
              ก็คงต้องตัดไฟใส้หลอดโดย Switch ก็ได้ครับ แต่ต้องตัด SL แล้วไปที่ SN เลย คือ Fixed Function ไปเลย แต่ใจผมนะ คุณน่าจะลองทำ 6SN7 Parallel ดูครับ เสียงน่าจะแตกต่างกว่า  ส่วนหลอด Hi-Mu/ Low Gm อย่าง SL คงเอาไว้ที่ Srpp น่ะดีแล้วตามคุณสมบัติหลอด เพราะถ้าคุณจะทำ 6SN7 Srpp ลงไปอีกผมว่าแก้โดย ติด Sw โยกเลือกที่ค่า R Bias บน-ล่าง แล้วถอดเปลี่ยนหลอด ง่ายกว่าด้วยครับ
              การทำก็ต่อแยกกัน เอาให้ดี ก็ตัด I/P ตัดไฟใส้หลอด พร้อมเลือก Stage จาก C Coupling ครับ ใช้ Multi Contact จาก Selector SW ก็ได้ครับ   
              ลองดูครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กรกฎาคม, 2006, 08:39:59 am โดย DIY Man. »
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.


ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
ขอบคุณพี่ DIY MAN มากครับขอถามเพิ่มเติมครับ ผมอ่าน year book 2005 ชอบ ไอเดียของพี่ DIY MAN ที่ทำ AMP.ที่ใช้หลอดได้หลายเบอร์ในแท่นเดียวกันโดยใช้การตัดไฟไส้หลอดเวลาเลือกเบอร์หลอด  ผมก็เลยมีแนวความคิดอยากจะทำมั่ง แต่ผมจะทำที่ pre drive stage โดยผมจะทำ เจ้า  SE2A3 ตามวงจรข้างบน ที่มี 6sl7 ต่อ srpp ตามวงจร และผมจะเพิ่มอีกชุดคือ 6SN7 ต่อเป็น srpp เหมือนกัน (SRPPไม่รู้เรียกชื่อถูกหรือเปล่า) ขนานกันไว้แล้วเลือกจ่ายไฟใส้หลอด คำถามคือ พี่ใช้ สวิทช์ในการตัดต่อ หรือมีวิธีอื่นครับ
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
 ^-^ Oh yes....ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นมั้งครับ ;D จริงๆ คุณจะจิ้มตรงไหนของเส้นก็ได้ แต่ถ้าบังเอิญพอใจอยากที่จะ Run ตรงจุด Vplate 250V กระแส 60 mA.
เดี๋ยวผมจัดให้ครับ
     
       B+คุณ ที่ว่าทำไม??? ต้อง 300 กว่า มันก็จะมาจาก VPlate (250V) บวกเพิ่ม Vbias /Cathode Bias (45 V) ตกคร่อม OPT และก็หายไประหว่างทางจากค่า DCR แฝงอีกนิดหน่อยของ Output Transformer อีก 100-200 กว่า Ohms ครับ ก็ตกอยู่ประมาณในช่วง 10-20V ทีนี่ B+ คุณก็จะต้อง Up ไปประมาณ 320-330 V ถึงจะทำให้ 2A3/6B4/6A3...ทำงานได้ที่ Vplate 250 VDC ตามใจเรากำหนดได้จริงๆ และสุดท้ายจริงๆ B+ คุณก็อาจจะไม่ได้ตามนี้เปะๆหรอกครับเพราะยังมีปัจจัยที่ขึ้นอยู่กับชุดวงจร Rectifier ที่คุณใช้ line 220V แถวบ้านคุณ รวมถึงสภาพของหลอด 2A3 ที่ได้มา มันจะเป็นไปตาม Data Sheet ได้จริงๆหรือ แค่ใกล้เคียงครับ คุณต้องลองจริงสถานเดียว... :drunk   
       อย่าได้ไปใส่ใจกับจุดบน Load Line มากนักครับ แต่ละคนแต่ละวงจรก็ทำต่างๆ กันไป แล้วแต่ Sweet Point ของใครจะอยู่ตรงไหน?? O0 แค่เราอย่าไปกำหนด Bias ให้หลอดทำงานเกิน Plate Diss. Max จน Plate แดงหรือหลอดเสียหายก็พอก็พอ  นอกนั้นก็ออกแบบกำหนดจุดอิงกับอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่ เช่น PT/OPT ดีกว่าครับ ที่สำคัญเสียงในแบบที่คุณชอบครับ ทำเสร็จชอบเสียงที่ออกมาก็จบข่าวเลย
          ผมเองเคยเห็น DIY รุ่นเก่าๆบางท่าน Run 2A3 ที่ VPlate ไม่ถึง 200 V ก็มี หรือ B+ แค่ 200 นิดๆก็มี เพราะเหตุใด?? ??? เค้าบอกเค้าชอบจุด Sweet ตรงนี้ ผมเข้าไปฟังมามันก็ดีเหมือนกันแฮะ :headphone เสียงโครตดีเลย....หวาน...แตกต่างสิ้นเชิงจากที่ผมเคยทำหลอด 2A3 ในยุคแรกๆ      :yahoo  ก็บอกแล้วไงว่าแล้วแต่ :victory   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 กรกฎาคม, 2006, 10:51:18 am โดย DIY Man. »
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.



ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย

ออฟไลน์ tewmax

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,759
    • เพศ:ชาย
อยากจะทำ se2A3 ครับแต่ยังงงกับการลากเส้น load line ครับ
1. plate voltage = 250 v.
2.grid voltage    = -45 v.
3.plate current  = 60 ma
4.load resistance =2.5k
ผมลากตามรูปข้างล่างถูกไหมครับ และ ไฟ B+ ของ supply มันจะเท่าไหร่ครับใช่ 400 v. หรือเปล่าครับ ผมเห็นในวงจรที่ทำกัน B+ แค่ 330 v.เขาลาก loadline ยังไงครับ ถ้าเอาตามสเปคข้างบน
ที่อยู่ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=41722.0