HTG2.club

ตัวกันไฟตก สำคัญมากไหมครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ SIDITAL

  • Freshy
    • กระทู้: 13
� � �:o� ขอโทษครับ...ที่พิมพ์ตัวเลขผิด เมื่อวานคงตาลายไปหน่อย ขอแก้ไขเลยนะครับ
� �� � �:D� ที่ผิด�� � � �- แบบชั่วครู่ ช่วงเวลาที่เกิด 3 วินาที - 3 นาที
� �� � �::)� ที่ถูก�� � � �- แบบชั่วครู่ ช่วงเวลาที่เกิด 3 วินาที - 1 นาที�





ออฟไลน์ SIDITAL

  • Freshy
    • กระทู้: 13
   ก่อนอื่นเรามารู้ความหมายของคำว่าไฟตก ก่อนแล้วกันนะครับ จากนั้นจึงค่อยพิจารณาแนวทางป้องกันหรือแก้ไขนะครับ
   ไฟตก คือ การเปลี่ยนแปลงของระดับแรงดันไฟฟ้าที่ลดลงจากระดับปกติ หรือจากศูนย์กลางของแรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้ครับ
   1. ไฟตกช่วงระยะเวลาสั้น (Voltage Sag) คือการเปลี่ยนแปลงของระดับแรงดันไฟฟ้าที่ลดลงและกลับคืนสู่สภาวะปกติ โดยมีค่าที่เปลี่ยนแปลง 0.1-0.9 pu. หรือลดลง 10% ถึง 90% จากแรงดันไฟฟ้าปกติโดยมีช่วงระยะเวลาระหว่าง 0.01 วินาที ถึง 1 นาที ซึ่งยังสามารถซอยแบ่งตามช่วงเวลาที่เกิดได้ถึง 3 แบบ
- แบบทันทีทันใด ช่วงเวลาที่เกิด 0.5 ไซเกิล – 30 ไซเกิล
- แบบชั่วขณะ ช่วงเวลาที่เกิด 30 ไซเกิล – 3 วินาที
- แบบชั่วครู่ ช่วงเวลาที่เกิด 3 วินาที – 3 นาที
( 1 ไซเกิล คือ คลื่นสัญญาณไฟฟ้า ที่ประกอบด้วยครึ่งบวกและครึ่งลบ ระบบไฟฟ้าบ้านเรา 220 V. 50 Hz หรือ 50 ไซเกิล ดังนั้น 1 วินาที จะมี 50 ไซเกิล หรือ 1 ไซเกิล = 0.02 วินาที)
   สำหรับสาเหตุ ของไฟตกช่วงระยะเวลาสั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น กรณีฟ้าผ่า ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ป้องกันเสิร์จที่ติดตั้งในระบบสายส่งทำงาน จะทำให้แรงดันไฟฟ้าลดลงแบบทันทีทันใด หรือ ถ้าฝนตก อาจทำให้เกิดการสปาร์คผ่านลูกถ้วยที่เสื่อมสภาพ ซึ่งจะทำให้แรงดันไฟฟ้าลดลงแบบชั่วขณะได้ ในบางครั้งจะพบแรงดันไฟฟ้าเกินช่วงระยะเวลาสั้น (Voltage Swell) แฝงร่วมเข้ามาด้วยครับ
   และอีกสาเหตุ คือเกิดจากการทำงานของอุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น การเปิด-ปิดสวิทซ์ ของโหลดขนาดใหญ่ การสตาร์ทของมอเตอร์ การสตาร์ทของคอมเพรสเซอร์ ดังนั้นการทำงานของเครื่องซักผ้า แอร์ ตู้เย็น สามารถทำให้ไฟตกช่วงระยะเวลาสั้นได้ครับ
   2. ไฟตกช่วงระยะยาว หรือไฟตกอย่างต่อเนื่อง (Under Voltage) คือการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้าที่ลดลง 0.8-0.9 pu. หรือ ลดลง 10% ถึง 20% โดยมีช่วงเวลามากกว่า 1 นาทีขึ้นไป
   มีสาเหตุมาจาก การใช้กำลังไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสมกับแหล่งจ่ายไฟฟ้าในสายส่งเดียวกัน เช่น บ้านอยู่ปลายสาย บ้านอยู่ใกล้สนามกอล์ฟ บ้านอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม
   ผลกระทบของไฟตก ถ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วๆ ไป อาจจะมีผลกระทบน้อย หรือไม่มีผลกระทบเลย แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อน อย่างเข่น System ของเครื่องเสียง หรือโฮมเธียเตอร์ อาจเกิดผลกระทบได้ครับ เครื่องบางตัวหรือบางรุ่นอาจทำงานผิดพลาด เกิดอาการสะดุด หรืออาจจะหยุดการทำงานไปเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ เครื่องตัวนั้นมีความไว หรือทนต่อความเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด บางตัวอาจปกติดี บางตัวอาจแสดงอาการให้เห็น แต่ที่แน่ๆ คือประสิทธิภาพของการทำงานลดลง ภาพและเสียงด้อยลงครับ
   ผลกระทบทางเทคนิค จะทำให้ไฟ DC ไม่ราบเรียบเกิด Ripple� วงจรไฟเลี้ยงไม่เพียงพอ ไฟไบอัสขั้วหลอดไม่สม่ำเสมอ กำลังวัตต์ของภาคขยายจะลดลงจากสเปคเดิมที่กำหนด ความเพี้ยนหรือ Distortion จะเพิ่มขึ้น
   สรุป ปัญหาจากไฟตกเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นและพบได้บ่อยมาก เพียงแต่ว่าปัญหาที่เกิดจะรุนแรงมากหรือน้อย ขณะเดียวกัน เครื่องเสียงหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรามีความไว หรือทนต่อการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด
   ข้อแนะนำเพิ่มเติม โปรดสังเกตด้านหลังเครื่องสียงของท่าน มีสวิทซ์เลือกแรงดันไฟฟ้าหรือไม่ โดยเฉพาะ AVR บางรุ่นอาจมีสวิทซ์ให้เลือก 220 หรือ 240 โวลท์ ซึ่งถ้าทางโรงงานตั้งมาที่ 240 โวลท์ แล้วเรามาต่อไฟบ้าน 220 โวลท์ แรงดันจะหายไปถึง 20 โวลท์ เหตุการณ์จะเหมือนกับไฟตกต่อเนื่องทั้งๆ ที่ไฟปกติซึ่งจะทำให้ AVR ของท่านกำลังวัตต์ตกนะครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ปรับสวิทซ์ไปที่ 220 โวลท์ นะครับ แล้วอย่าลืมปิด
สวิทซ์ไฟให้เรียบร้อย ก่อนดำเนินการนะครับ


ออฟไลน์ chat

  • ****
    • กระทู้: 325
อยู่ที่เรา  ต้องการประโยชน์ของมันเป็นหลักครับ...เรื่องราคาของระบบน่าจะเป็นเรื่องรองครับ...สมมุติว่า   เราไปใช้ในพื้นที่ๆแรงดันไฟฟ้า  ขึ้นๆลงๆ เยอะ (+/-10 %) ก็น่าจะเยอะแล้วนะครับ...กับพื้นที่ๆไฟตกบ่อยๆ (เช่นไฟดับและก็ติดขึ้นมาทันที)อันนี้อันตรายมากครับ...ผมว่า   ราคาของ system สัก สองสามหมื่น ก็ควรจะใช้เครื่องอย่างว่าแล้วนะครับ...


ออฟไลน์ ดาวเหนือ

  • Norts Star
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 9,630
    • เพศ:ชาย
  • จะคิดถึงตัวเราใย. . . . . . . . จะต้องตายทุกคนไป
ถ้าไฟที่บ้านคุณไฟไม่ตก ไม่เกิน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ตัวคุมไฟให้เสียเงินครับ

แต่ตัวกรองผมว่าสำคัญครับ...เพราะไฟฟ้าที่มาถึงบ้านเราไม่ค่อยสะอาดเท่าใด...

ตัวคุมไฟบางตัวมีตัวกรองไฟรวมกันมา...แต่ถ้าจะหาเครื่องคุมไฟที่ดี และมีตัวกรองไฟที่ดีมารวมกันในเครื่องเดียวกัน...แพงครับ :o
Speakers : AKG K-7XX , NHT Super Zero
Amp : Burson Soloist , Poem
Source : marantz CD-63mkII KI , TEAC R-5


ออฟไลน์ Golf

  • สมาชิกรุ่น Classic ..
  • Superstar..
  • **
    • กระทู้: 3,981
    • เพศ:ชาย
    • HiFiBug.com
จริงๆ แล้ว ความสำคัญที่สุดของเครื่องคุมไฟคือ "ไฟฟ้ามีปัญหา" ครับ

ผมเคยเจอบางบ้าน แค่ปิดไฟนีออน .. AVR ก็ดับแล้ว ... แบบนี้แนะนำให้มีอย่างยิ่งครับ

สำหรับบางท่านจะใช้เพราะรักเครื่องเสียง กลัวไฟตก หรือไฟเกินแล้วจะเจ๊ง ... อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาครับ

เครื่องคุมไฟบางรุ่นอาจจะกรองได้ บางเครื่องก็อาจจะกรองไม่ได้ครับผม  8)
spec เป็นเพียงสิ่งที่สร้างความน่าสนใจให้เราไปลอง ... ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราต้องตัดสินใจซื้อ

เลือกเครื่องเสียง ... "ลองให้เยอะ ซื้อให้น้อย จ่ายเมื่อมั่นใจ"

Merrex Kable มีจำหน่ายแล้วที่ http://www.hifibug.com/default.php?manufacturers_id=29

===============

http://www.HiFiBug.com


ออฟไลน์ Ao Scuba

  • ****
    • กระทู้: 383
    • เพศ:ชาย
    • https://www.facebook.com/Patt.Mobile.iT
ถ้า System เรา ราคาประมาณ 150,000 จำเป็นต้องมีตัวกัน ไฟตกหรือป่าวครับ ถ้าไฟตก AVR จะเสียไหมครับ
ตัวกันไฟตกนี่ มัน กรองไฟ ด้วยใช่หรือป่าวครับ
https://www.facebook.com/Patt.Mobile.iT
ชลบุรี บริการ ซ่อมคอม ซ่อมโทรศัพท์ ปรึกษาฟรี