หากวิเคราะห์จากข้อมูล Berger ประมาณว่า ต้นทุนของชิ้นส่วนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 74.9 เหรียญฯ สำหรับนาโนรุ่น 2GB จากนั้นขยับขึ้นเป็น 97.90 สำหรับรุ่น 4GB และรุ่นสูงสุด 8GB จะมีต้นทุน 143.90 เหรียญฯ ทั้งนี้ไม่รวมต้นทุนในส่วนของการพัฒนา ค่าผลิต ค่าขนส่งสินค้า และค่าการตลาด นักวิเคราะห์กล่าวว่า ต้นทุนรวมของวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลไอพอดนาโนแต่ละรุ่นจะมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 49.7% 50.8% และ 42.2% ตามลำดับ
เขาคิดจากต้นทุนแค่ส่วนเดียว คือราคาของอุปกรณ์ เทียบกับsuggested retail price ซึ่งคือราคาหน้ากล่อง ถ้ารวมค่า การพัฒนา ค่าผลิต ค่าขนส่งสินค้า และค่าการตลาด กำไรก็จะลดลง ไปเยอะครับ แถมยังต้องมีส่วนลดให้ร้านค้าที่นำไปขายอีกต่างหาก
พศ นี้ผมไม่คิดว่ามีบริษัทใหญ่ๆที่ไหนได้กำไรเป็นเลข 2 หลักอยู่เยอะหรอกครับ ถ้า Apple ได้กำไรสินค้าถึง 50% หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ป่านนี้หุ้นวิ่งไปติดเพดาน ออกข่าวใหญ่ทั่วโลกแล้วครับ