HTG2.club

จะเดินไฟใหม่ ไม่ทราบว่าจะต้องทำไงบ้างครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ merrexkable

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,268
    • Merrexkable
ขอแจมด้วยคนครับ  ตอนนี้ก็กำลังเดินไฟระบบเครื่องเสียงใหม่เหมือนกัน  โดยเดินสาย N กับ L ขนาด 6 มม.จากเมนมายังเต้ารับตัวที่ 1  แล้วจากอีกขั่วไปยังเต้าที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
ส่วน Ground ตอกแยกจากระบบบ้านจุดเดียวต่างหาก เดิน 7.5 มม. มาเต้ารับเลย
1.  ทำแบบนี้ถูกต้องหรือไม่
    ทำได้ครับ ถูกต้องไม่มีปัญหาอะไร  (แนะนิดนึงครับ  ถ้ามีโอกาสไปฮ่องกง  ก็ซื้อ breaker ย่อยของ  merlin gerlin มาใช้ก็จะเสียงดีกว่านะครับ  เพราะ  contact  ที่ใช้ใน  merlin gerlin  แข็งแรงกว่า และ มัก ผลิตใน  spain  ครับ(ทองแดงดีกว่าในไทยครับ)  ราคาก็เท่าๆ  square D  ในไทยนี่ล่ะครับ  :)
2. ใช้สายใหญ่จะเข้าปลั๊กยังไง
    สาย 6 sqmm ยังสามารถเข้าปลั๊กได้ครับ แต่ถ้าเดินฝังผนัง ต้องใช้  handy box  แบบลึกนะครับ ไม่งั้นจะไม่พอเก็บสายหลังปลั๊ก   แต่หากใหญ่กว่านี้  ก็ต้องเข้า  หางปลา ก่อนครับแต่ถ้าสายใหญ่กว่า 6 sqmm ไม่น่าจะเดินฝังผนังได้นะครับเพราะ box จะลึกไม่พอโค้งสายและเก็ยสายหลังปลั๊ก
3. ถ้าสายมีการต่อมันจะดีสู้เดิน 4  มม.โดยไม่มีรอยต่อไหม
    ถ้าเดินหลายจุดมันก็ต้องต่อกันที่ปลั๊กแต่ละจุดที่ผ่านอยู่แล้วนะครับ  ถ้าไม่ต่อเลยก็คงดีกว่านิดหน่อย แต่เมื่อเทียบกับความแน่นหนาและอันตรายแล้วไม่คุ้มหรอกครับ
    ทุกอย่างที่ใส่ในระบบเสียงมีผลทั้งนั้นแม้แต่ ก้อนดินน้ำมัน  ;) แค่รู้เอาไว้ก็น่าจะพอนะครับ แต่อย่างเข้าถึงขนาดนั้นเลยครับ เดี๋ยวจะฟังเพลงไม่สนุก
            ปล.   ใช้Power แบบ  Mono  มาขยายคู่หน้า  ต่อไฟมาจากเต้ารับ  ส่วน DVD & AV  ต่อมาจาก LC-1

EXPERIENCE  THE  DIFFERENCE
 "Better price for Better sound"


ออฟไลน์ Lukjeab's Daddy

  • Lukjeab Hi Fi
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 11,132
  • รักวัวให้ผูก รักลูกให้ซื้อเครื่องเสียงให้ลูกฟัง
ขอร่วมแจมในกระทู้ด้วยครับ  ผมไม่มีความรู้ที่จะอธิบายในเชิงวิศวกรรมครับ  แต่มีความเห็นว่าการต่อสายกราวดน์หลายจุดในบ้านไม่น่าจะก่อปัญหาใดๆ  โดยคิดยังงี้ครับ
1.เวลาที่การไฟฟ้าจะต่อไฟเข้าบ้านของใคร เอาเป็นระบบเฟสเดียวละกันนะครับเพราะใช้งานกันมากที่สุด  การไฟฟ้าก็จะลากสายมาเฉพาะ L,N เท่านั้น โดยที่สายG นั้นต้องมาต่อเอาที่บ้านของแต่ละหลัง  สมมุติว่ามีบ้าน 2 หลังที่อยู่ติดกัน การไฟฟ้าก็จะลากสาย L,N  ไปที่บ้าน 2 หลังนั้น และบ้านแต่ละหลังก็จะมีสาย G เป็นของตัวเอง และวิธีแบบนี้เองที่การไฟฟ้าแนะนำว่าปลอดภัย
2.กลับมาใหม่  มาที่บ้านเราหลังเดียวบ้าง  การไฟฟ้าก็จะลากสายมาที่ตู้เมนบ้านเรา+มีสาย G เช่นกัน   และจากตรงนี้เราก็ลากสายมาที่ห้องฟังเพลง  โดยย้ำว่าสายที่ลากมาที่ห้องฟังเพลงนั้นต้องเป็นสายที่ยังไม่ได้ผ่านเข้าไปที่ตู้เมนในบ้าน เราก็ลากไปทั้ง L,N และเราก็ไปทำสาย G ในห้องฟังเพลง   
ผมดูแล้วทั้งข้อ1.และข้อ 2. มันไม่ได้ต่างกันเลย  ดังนั้นผมไม่เห็นว่ามันจะให้ผลต่างกันยังไงในแง่ความปลอดภัย  แต่ถ้าการทำแบบข้อ 2 นั้นเป้นการไปลากสายมาที่ห้องฟังเพลงโดยไปลากมาจากสายที่ผ่านเข้าไปในตู้เมนเบรกเกอร์แล้วจะให้ผลยังไงผมก็ยากจะคาดเดา  ผมย้ำแค่ว่าตามข้อ 2. นั้นเป้นการลากสายโดยไม่ผ่านตู้เมนเบรกเกอร์ที่กลางบ้านครับ

เอก

วิธีที่คุณเอกว่าไม่มีผลในด้านความปลอดภัยครับ แต่คนในบ้านต้องเข้าใจว่าในบ้านมีเมนเบรกเกอร์อยู่ 2 ระบบ หากจะตัดไฟทั้งบ้านต้องตัดทั้ง 2 ระบบตามที่ผมพูดไว้

การต่อกราวน์แยกมากกว่า 1 จุดในระบบผลเสียมีครับ คือในจุดที่ต่อสายดินแยกเอาไว้หากเกิดกระแสรั่ว เมนเบรกเกอร์จะไม่ตัด ทำให้เราไม่รู้ว่าตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้อยู่กำลังมีปัญหา และ เปลืองค่าไฟที่รั่วลงดินไป

วิธีแก้ปัญหาที่ดีหากต้องการต่อสายดินแยกสำหรับห้อง HT คือไม่ใช่แค่ต่อสายดินแยกเฉพาะเต้ารับในห้อง HT แต่ควรดึงสายแยกมาจากเสาไฟของการไฟฟ้าเข้าเมนเบรกเกอร์อีก 1 ชุด ทำให้ห้อง HT เป็นอีก 1 ระบบ แต่ต้องอธิบายให้คนในบ้านเข้าใจด้วยว่าตอนนี้ในบ้านมีเมนเบรกเกอร์ 2 ชุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในกรณีที่คนเข้าใจว่าปิดเมนเบรกเกอร์เพีง 1 จุดแล้วจะตัดไฟทั่วทั้งบ้าน

แต่วิธีที่ส่วนตัวผมคิดว่าเหมาะสมและประหยัดคือ แค่ดึงสายมาจากเมนเบรกเกอร์ตรงมาที่ห้อง HT ก็พอ แต่ไม่ต้องต่อสายดินแยก

ส่วนวิธีที่ถกกันอยู่นี้เป็นการต่อสายดินเพิ่มในระบบมากกว่า 1 จุดสำหรับห้อง HT โดยลากสายมาหลังจากผ่านเมนเบรกเกอร์ตัวเดิม หรือไม่ที่เห็นแนะนำกันบ่อยๆก็ตอกสายกราวน์แยกสำหรับเต้ารับลงดินไปเลยอะไรทำนองนี้ หรืออย่างเช่นพวกช่างเถอะที่มาติดเครื่องซักผ้าแล้วตอกสายดินแยกสำหรับเครื่องซักผ้าอะไรทำนองนี้ อันนี้ผิดหลักตามมาตราฐานการติดตั้งระบบสายดินครับ เพราะอะไรก็อย่างเหตุผลที่ได้อธิบายไปแล้ว

ส่วนจะทำหรือไม่ทำตามมาตราฐานแล้วมันจะเห็นผลหรือไม่เห็นผลอะไรนั้นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเข้าใจว่าหากไม่ทำตามมาตราฐานนั่นคือเราไม่ได้ทำตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ออกแบบระบบเขาออกแบบไว้และระบบจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
ขอร่วมแจมในกระทู้ด้วยครับ  ผมไม่มีความรู้ที่จะอธิบายในเชิงวิศวกรรมครับ  แต่มีความเห็นว่าการต่อสายกราวดน์หลายจุดในบ้านไม่น่าจะก่อปัญหาใดๆ  โดยคิดยังงี้ครับ
1.เวลาที่การไฟฟ้าจะต่อไฟเข้าบ้านของใคร เอาเป็นระบบเฟสเดียวละกันนะครับเพราะใช้งานกันมากที่สุด  การไฟฟ้าก็จะลากสายมาเฉพาะ L,N เท่านั้น โดยที่สายG นั้นต้องมาต่อเอาที่บ้านของแต่ละหลัง  สมมุติว่ามีบ้าน 2 หลังที่อยู่ติดกัน การไฟฟ้าก็จะลากสาย L,N  ไปที่บ้าน 2 หลังนั้น และบ้านแต่ละหลังก็จะมีสาย G เป็นของตัวเอง และวิธีแบบนี้เองที่การไฟฟ้าแนะนำว่าปลอดภัย
2.กลับมาใหม่  มาที่บ้านเราหลังเดียวบ้าง  การไฟฟ้าก็จะลากสายมาที่ตู้เมนบ้านเรา+มีสาย G เช่นกัน   และจากตรงนี้เราก็ลากสายมาที่ห้องฟังเพลง  โดยย้ำว่าสายที่ลากมาที่ห้องฟังเพลงนั้นต้องเป็นสายที่ยังไม่ได้ผ่านเข้าไปที่ตู้เมนในบ้าน เราก็ลากไปทั้ง L,N และเราก็ไปทำสาย G ในห้องฟังเพลง   
ผมดูแล้วทั้งข้อ1.และข้อ 2. มันไม่ได้ต่างกันเลย  ดังนั้นผมไม่เห็นว่ามันจะให้ผลต่างกันยังไงในแง่ความปลอดภัย  แต่ถ้าการทำแบบข้อ 2 นั้นเป้นการไปลากสายมาที่ห้องฟังเพลงโดยไปลากมาจากสายที่ผ่านเข้าไปในตู้เมนเบรกเกอร์แล้วจะให้ผลยังไงผมก็ยากจะคาดเดา  ผมย้ำแค่ว่าตามข้อ 2. นั้นเป้นการลากสายโดยไม่ผ่านตู้เมนเบรกเกอร์ที่กลางบ้านครับ

เอก
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ Lukjeab's Daddy

  • Lukjeab Hi Fi
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 11,132
  • รักวัวให้ผูก รักลูกให้ซื้อเครื่องเสียงให้ลูกฟัง
เพิ่มให้ครับ อาจจะเป็นประโยชน์

อันนี้รวมกระทู้คู่มือการติดตั้งระบบไฟฟ้า
http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R4848685/R4848685.html

กระทู้นี้น่าจะเป็นประโยชน์
http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R4842457/R4842457.html

จากข้อความส่วนหนึ่งในกระทู้ข้างบนครับ ซึ่งเท่าที่ผมเคยคุยกับวิศวกรไฟฟ้าก็ได้รับคำตอบทำนองนี้เช่นเดียวกัน

" (ก) การวิ่งลงดินที่จุดเมนมันดีกว่าลงที่อื่นอย่างไร
ตอบ ข้อแรกการมีจุดลงดินจุดเดียว ถ้าเราติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟรั่วหรือที่เรียกearth leakage circuit breakerที่เมน มันจะสามารถทำงานได้สมบูรณ์เพราะสามารถจับกระแสไฟฟ้าที่ผ่านสายดินได้ดีก่อนไฟฟ้าวิ่งลงดิน ก็คือจะตัดไฟที่เมนก่อนคนจะถูกดูดตาย หรือถ้าจะติดตั้งELCBที่วงจรย่อย อุปกรณ์ตัดไฟรั่วปกติก็ติดรวมอยู่ที่แผงเมนอยู่ดี ก็จะสามารถจับกระแสไฟฟ้ารั่วก่อนวิ่งลงดินได้
     ข้อสอง การทำจุดลงดินจุดเดียว และทำให้ดี แน่นหนา แข็งแรง แท่งดินสัมผัสดินได้มาก สายดินขนาดใหญ่ทำให้ความต้านทานต่ำ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าการทำจุดลงดินหลายจุด ในมูลค่าที่เท่ากันครับ
    ข้อสาม สำหรับอาคารทั่วไป การลงดินหลายจุด ผิดมาตรฐานทุกสำนักครับ(เหตุผลตามข้อแรก ทำให้การdesign ระบบลงดินผิดไป)
(ข) มีจุดลงดินจุดเดียว ไฟฟ้าจะวิ่งลงดินได้สะดวกกว่าการมีหลายจุดได้อย่างไร
ตอบ  ข้อแรก ถ้าเป็นอาคารทั่วไป ลงดินหลายจุดมีข้อเสียตามข้างบนครับ
      ข้อสอง การลงดินหลายจุดให้ดี ทำได้ แต่ก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มครับ และที่คุณ x-jay ว่าให้เชื่อมเข้าหากัน นั่นเป็นการทำ ground grid ของสถานีไฟฟ้า หรือโรงไฟฟ้าเลยครับ ดีไม๊ ดีแน่นอน แต่คนละวัตถุประสงค์ของการใช้ในบ้านและอาคารทั่วไปครับ "


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 พฤศจิกายน, 2006, 08:03:02 am โดย Lukjeab's Daddy »


ออฟไลน์ JBC

  • สมาชิกรุ่น Classic ....
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 9,723
    • เพศ:ชาย
  • JBC
การต่อสายดินของ กฟน. http://www.mea.or.th/apd/4/main.htm#404
ของ กฟภ.ก็มีรูปอธิบาย  http://www.pea.co.th/peane2/ground.htm
ถ้าจะให้ กฟน.มาเดินสายให้ แพงกว่าช่างทั่วไป ต้องรอคิว แต่งานเนี้ยบ ก็นี่เลย http://www.meatech.org

:crazy


ออฟไลน์ Lukjeab's Daddy

  • Lukjeab Hi Fi
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 11,132
  • รักวัวให้ผูก รักลูกให้ซื้อเครื่องเสียงให้ลูกฟัง
ที่คุณLukjeab's Daddy  บอกว่า "การต่อกราวน์แยกมากกว่า 1 จุดในระบบผลเสียมีครับ คือในจุดที่ต่อสายดินแยกเอาไว้หากเกิดกระแสรั่ว เมนเบรกเกอร์จะไม่ตัด ทำให้เราไม่รู้ว่าตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้อยู่กำลังมีปัญหา และ เปลืองค่าไฟที่รั่วลงดินไป"  ผมขออนุญาตให้ความเห็นที่แตกต่างนะครับ  เพราะอ่านที่โพสมาไม่ตรงกับความเข้าใจของผมที่ว่า  หากไฟรั่วลงดินในระดับหนึ่งเมนเบรคเกอร์จะต้องตัดเพราะระบบจะทำงานเมื่อ in put หรือ out put มากกว่าค่าที่เขาตั้งไว้  ดังนั้นกรณีเกิดไฟช๊อต หรือรั่วลงดินมากๆในระดับหนึ่งก็จะตัดเช่นกันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่จะรั่วลงดินที่จุดไหน   ดังนั้นผมจึงสอบทานกับวิศวไฟฟ้าได้รับการยืนยันว่าผมเข้าใจถูกต้องแล้ว  เลยขออนุญาตให้ความเห็นที่แตกต่างไว้  เพื่อให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจะได้ลองพิจารณาสอบทานอีกครั้งครับ   8)


"หากไฟรั่วลงดินในระดับหนึ่งเมนเบรคเกอร์จะต้องตัด" อันนี้ถูกต้องครับ และนี่คือวัตถุประสงค์หลักของการต่อสายดิน

แต่หากระบบมีการต่อสายดินมากกว่า 1 จุด กระแสที่ไฟที่รั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้าจุดที่ต่อสายดินเพิ่มขึ้นมานั้นจะไหลผ่านสายกราวน์ลงดินไป ทำให้ระบบไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าขณะนี้มีกระแสไฟไหลเกินในระบบ เพราะการที่กระแสไฟที่จุดนั้นไหลลงดินก็ไม่ต่างอะไรกับการเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น

แต่ถ้าระบบต่อสายดินที่เมนเบรกเกอร์เพียงจุดเดียว กระแสไฟที่รั่วจะไหลผ่านสายกราวน์ย้อนกลับไปที่ตัวเมนเบรกเกอร์และผ่านเข้าไปรวมกับกระแสในระบบทางสายที่เชื่อมต่อระหว่าง กราวน์บาร์ และ นิวทรอลบาร์ ในตู้เบรกเกอร์ ทำให้ระบบตรวจสอบได้ว่ามีกระแสส่วนเกินไหลเข้ามาในระบบ เบรกเกอร์ก็จะตัด

ถูกผิดอย่าตำหนิผมนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ใช่วิศวกรไฟฟ้า แต่ผมชอบหาเหตุผลว่าทำไม มากกว่าที่จะจำๆกันไปใช้โดยไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง

ลองสังเกตดูครับว่าในตู้เมนเบรกเกอร์ที่บ้านท่าน กราวน์บาร์ และ นิวทรอลบาร์ เชื่อมต่อกันหรือไม่ ทำไมไม่ต่อสายกราวน์ลงดินไปเลยโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกราวน์บาร์ และ นิวทรอลบาร์ เข้าด้วยกัน(อันนี้ตามมาตรฐานการไฟฟ้า)

ทำไมกรณีที่มีตู้เบรกเกอร์ย่อย การไฟฟ้าถึงไม่ให้เชื่อมต่อกราวน์บาร์ และ นิวทรอลบาร์ เข้าด้วยกันในตู้เบรกเกอร์ย่อย (เชื่อมต่อกราวน์บาร์ และ นิวทรอลบาร์ เฉพาะเมนเบรกเกอร์)

สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่ามีเหตุผลทางหลักวิชาการทั้งสิ้น แต่บางครั้งคนที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรงอย่างผมอาจจะยังไม่รู้เหตุผล 8)


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
ขอแจมด้วยคนครับ  ตอนนี้ก็กำลังเดินไฟระบบเครื่องเสียงใหม่เหมือนกัน  โดยเดินสาย N กับ L ขนาด 6 มม.จากเมนมายังเต้ารับตัวที่ 1  แล้วจากอีกขั่วไปยังเต้าที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
ส่วน Ground ตอกแยกจากระบบบ้านจุดเดียวต่างหาก เดิน 7.5 มม. มาเต้ารับเลย
1.  ทำแบบนี้ถูกต้องหรือไม่
2. ใช้สายใหญ่จะเข้าปลั๊กยังไง
3. ถ้าสายมีการต่อมันจะดีสู้เดิน 4  มม.โดยไม่มีรอยต่อไหม
            ปล.   ใช้Power แบบ  Mono  มาขยายคู่หน้า  ต่อไฟมาจากเต้ารับ  ส่วน DVD & AV  ต่อมาจาก LC-1
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ KJ

  • สมาชิกอาวุโส
  • *****
    • กระทู้: 793
ที่คุณLukjeab's Daddy  บอกว่า "การต่อกราวน์แยกมากกว่า 1 จุดในระบบผลเสียมีครับ คือในจุดที่ต่อสายดินแยกเอาไว้หากเกิดกระแสรั่ว เมนเบรกเกอร์จะไม่ตัด ทำให้เราไม่รู้ว่าตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้อยู่กำลังมีปัญหา และ เปลืองค่าไฟที่รั่วลงดินไป"  ผมขออนุญาตให้ความเห็นที่แตกต่างนะครับ  เพราะอ่านที่โพสมาไม่ตรงกับความเข้าใจของผมที่ว่า  หากไฟรั่วลงดินในระดับหนึ่งเมนเบรคเกอร์จะต้องตัดเพราะระบบจะทำงานเมื่อ in put หรือ out put มากกว่าค่าที่เขาตั้งไว้  ดังนั้นกรณีเกิดไฟช๊อต หรือรั่วลงดินมากๆในระดับหนึ่งก็จะตัดเช่นกันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่จะรั่วลงดินที่จุดไหน   ดังนั้นผมจึงสอบทานกับวิศวไฟฟ้าได้รับการยืนยันว่าผมเข้าใจถูกต้องแล้ว  เลยขออนุญาตให้ความเห็นที่แตกต่างไว้  เพื่อให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านจะได้ลองพิจารณาสอบทานอีกครั้งครับ   8)


ออฟไลน์ Lukjeab's Daddy

  • Lukjeab Hi Fi
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 11,132
  • รักวัวให้ผูก รักลูกให้ซื้อเครื่องเสียงให้ลูกฟัง
การต่อกราวน์แยกมากกว่า 1 จุดในระบบผลเสียมีครับ คือในจุดที่ต่อสายดินแยกเอาไว้หากเกิดกระแสรั่ว เมนเบรกเกอร์จะไม่ตัด ทำให้เราไม่รู้ว่าตอนนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้อยู่กำลังมีปัญหา และ เปลืองค่าไฟที่รั่วลงดินไป

วิธีแก้ปัญหาที่ดีหากต้องการต่อสายดินแยกสำหรับห้อง HT คือไม่ใช่แค่ต่อสายดินแยกเฉพาะเต้ารับในห้อง HT แต่ควรดึงสายแยกมาจากเสาไฟของการไฟฟ้าเข้าเมนเบรกเกอร์อีก 1 ชุด ทำให้ห้อง HT เป็นอีก 1 ระบบ แต่ต้องอธิบายให้คนในบ้านเข้าใจด้วยว่าตอนนี้ในบ้านมีเมนเบรกเกอร์ 2 ชุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในกรณีที่คนเข้าใจว่าปิดเมนเบรกเกอร์เพีง 1 จุดแล้วจะตัดไฟทั่วทั้งบ้าน

แต่วิธีที่ส่วนตัวผมคิดว่าเหมาะสมและประหยัดคือ แค่ดึงสายมาจากเมนเบรกเกอร์ตรงมาที่ห้อง HT ก็พอ แต่ไม่ต้องต่อสายดินแยก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 พฤศจิกายน, 2006, 07:54:53 am โดย Lukjeab's Daddy »


ออฟไลน์ KJ

  • สมาชิกอาวุโส
  • *****
    • กระทู้: 793
เข้ามาดูทีหลังคุณmerrexkable ช่วยตอบเกือบหมดแล้ว  ดีใจที่เป็นประโยชน์ครับเอาข้อ สุดท้ายแล้วกัน  คอมพิวเตอร์ผมถือว่าเป็นดิจิตอลเหมือนกัน  เอาไปไว้กับพวกเดียวกันคือเต้าเสียบดีวีดีครับจะได้แยกกลุ่มกับพวกอื่น ที่ผมให้แยกกราวด์เครื่องเสียงต่างหากเนื่องจากจะได้ปลอดจากการรบกวนที่อาจมาจากระบบอื่นในบ้านทั้งการเดินกราวด์ให้เดินจากจากเต้ารับเครื่องเสียงในห้องใหม่มาลงดินโดยไม่ต้องย้อนไปเข้าที่ตู้เมน(จะได้ไม่ไปปนกับระบบเดิมทั้งยังเดินสายได้สั้นที่สุดด้วยไงครับ) คือตู้เมนจะมีระบบกราวด์แบบไหนไม่ต้องไปยุ่งกับเขา  ส่วนสายกราวด์ของระบบเครื่องเสียงใช้รวมกันที่จุดเดียวกันครับไม่ต้องตอกกราวด์แยกแต่ละเต้า  ตอกกราวด์แบบDeltaเชื่อมแบบหลอมละลาย   การเดินกราวด์แบบนี้เพิ่มอีกจุดต่างหากจากในบ้านที่มีอยู่แล้วอาจไม่ตรงตามมาตรฐานการไฟฟ้า (แบบที่ตอกแบบDeltaก็ไม่ได้อยู่ในมาตรฐานของเขาเหมือนกันเพราะในบ้านเขาตอกต้นเดียว )  แต่สำหรับผมแล้วถือว่าเหนือกว่ามาตรฐานครับไม่มีปัญหาแน่นอน (เคยปรึกษากับวิศวไฟฟ้าบ้าเครื่องเสียงเพื่อนของผมมาแล้ว)  หากไม่แน่ใจอาจสอบถามผู้รู้หรือวิศวไฟฟ้าท่านอื่น  ถามว่าต่อแยกแบบนี้โดยไม่ใช้ระบบไฟฟ้าในระบบเครื่องเสียงปนกับในบ้านและถามว่าในแง่วิชาการจะมีข้อเสียหายอะไรไหมนะครับ  มิฉะนั้นเขาอาจจะบอกว่าให้ต่อจุดเดียวเพราะเกรงจะเกิดกราวด์ลูปและบอกว่าเกินความจำเป็นครับ.........ก็ท่านวิศวบางคนไม่ได้เล่นเครื่องเสียงแบบเราและที่เขาเรียนมาก็ไม่ได้สอนเรื่องนี้  เรื่องสายไฟ  เต้ารับที่เราซื้อกันแพงๆเขาก็จะว่าไร้สาระแล้วครับ   (หากเอาแบบโหดๆลงทุนแบบลืมญาติก็เอาตู้ไฟของISOCLEAN ของขุนจิตซะเลยแล้วก็ใช้ให้คุ้ม  ให้มาเดินสายเส้นใหญ่ให้ด้วย(ขุนจิตห้ามโกรธผมนะทีทำให้เหนื่อยเพิ่มขึ้น)........ผมอาฆาตเจ้าตู้ตัวนี้ไว้แล้วและมีมิเตอร์ไฟแยกต่างหากไว้รับมือกับเขาโดยตรง)   ;)


ออฟไลน์ merrexkable

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,268
    • Merrexkable
พี่ kj/คุณ merrex ครับ  พอดีผมกำลังจะย้ายบ้านใหม่อยู่เหมือนกัน  อ่านคำแนะนำดูแล้วเป็นประโยชน์มาก  แต่ไม่แน่ใจว่าผมสรุปได้ถูกต้องหรือเปล่า  ช่วยทวนดูหน่อยนะครับ

1.  แบบดีสุด ให้เดินสายจากปลั๊กไปตู้ 3 ปลั๊ก  ปลั๊กนึงใช้กับ pre., power  ปลั๊กนึงใช้กับ cd, dvd  อีกปลั๊กนึงใช้กับจอ   
     ภาพ  สายไฟใช้ขนาดอย่างต่ำ 6 sq.mil. สายดินใช้อย่างต่ำ 4 sq. ใช่ไหมครับ  สายดินเส้นเดียวใช้ร่วมกันสามปลั๊กใช่
     ไหมหรือควรแยกไป 3 เส้น

       Y] Y]

2.  กรณีใช้ไฟ 30 amp. 3 เฟส  (4 สาย)  ให้เดินสาย 16 sq. ไปที่มิเตอร์ 4 เส้น  เส้นนึงสำหร้บเครื่องเสียง  เส้นนึงสำหรับ
     แอร์  เส้นนึงสำหรับแสงสว่าง ฯลฯ  อีกเส้นเป็นสายลบ  แล้วสายกราวด์ 16 sq. ที่จะต่อไป ground rod นี่ควรใช้กี่เส้น
     ครับ  เส้นเดียวรวมทุกอย่างหรือแยกไป 3 เส้นครับ

    อันนี้อันตรายครับ ควรใช้ไฟมาจ่ายห้องเครื่องเสียงจาก เฟสเดียวกันทั้งหมดนะครับ (เส้นเดียวรวมทุกอย่าง)
    ขืนเอามาจากคนละเฟสแล้วเกิดมี  neutral ลอย จะโดน ไฟจากคนละเฟสย้อนลงระหว่างเครื่องที่ต่อมาจากคนละเฟสได้นะครับ
  (แต่เฟสเดียวที่ดึงมาจ่ายควรเป็น เฟสที่ไม่มี  แอร์ หรือ ปั๊มได้ก็จะดีครับ)

  แต่เอ..ฟังดูเหมือนเข้าใช้เรื่องเดินไฟ 3 เฟสผิดหรือเปล่าครับ ?? ยังไง สาย 4 เส้น ที่มาจาก มิเตอร์ ก็ต้องผ่าน breaker main และเข้าตู้ก่อนนะครับโดยที่ตู้มีการต่อ neutral bus กับ ground ตามมาตรฐานการไฟฟ้า เพื่อควารมปลอดภัย และ ถูกต้องตามกฎการไฟฟ้าก่อนนะครับ  แล้วจากนี้ไปจะเดินสาย 6  หรือ  ใช้สายใหญ่ๆ แบบที่พี่ KJ  แนะนำก็ทำได้ครับ
แต่สายจ่ายเครื่องเสียงในห้องควรเป็น  single phase เดียวกันเข้ามาน่ะครับ


3.  ต่อสายลงดินแบบ delta ต่ออย่างไรครับ  สายกราวด์แต่ละเส้นมาต่อเข้ากับแท่งทองแดงที่ปักเป็นรูปสามเหลี่ยมเหรอครับ
     ถ้า 3 สายก็ต้องใช้ 9 แท่งรึเปล่าครับ

ground เดินมาเส้นเดียวจากตู้ มาต่อกับแท่งทองแดง 3 แท่ง ที่ปักเป็น 3 เหลี่ยม โดยโยงด้วยสายทองแดง 10-16 sqmm โดยรอบครับ
grounding ที่ดีตามหลัก วิศวกรรมไฟฟ้า (ที่ผมเรียนมาและก่อสร้างมา) ควรมีที่เดียว เพื่อให้ไม่เกิด ground loop หรือ ground ไม่จริงขึ้น  แต่ในทางเครื่องเสียง  ระยะลง ground ยิ่งสั้นนั่นยิ่งดี
แต่ !!!  ground ที่ปักแยก  และ  ground ที่ปักจากตู้ ต้องลง ground ดีจริงๆ  (เช่นต่อ delta ทั้ง 2 ที่ หรือ หากพื้นแถวนั้นชื้นพอ ก็ควรใช้ ground rod ลึกๆหน่อย)  ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

จริงๆ มีบางที่ ในงานอาคารใหญ่ๆที่ ลง ground แล้ว meg ค่าไม่พอ  ต้องราดน้ำเกลือช่วยก็มี  แต่สำหรับ ระดับ low volt อย่างเราๆ  ใช้แค่  delta เนี่ย เหลือๆครับ

4.  ถ้าเล่น dvd จากคอม ควรต่อคอมเข้าปลั๊กไหนครับ
อันนี้ผมไม่เห็นประเด็นนะครับ  ไม่รู้พี่ KJ หรือ พี่ๆคนอื่นเคยลองไหม  ช่วยตอบหน่อยละกันครับ

EXPERIENCE  THE  DIFFERENCE
 "Better price for Better sound"


ออฟไลน์ Lukjeab's Daddy

  • Lukjeab Hi Fi
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 11,132
  • รักวัวให้ผูก รักลูกให้ซื้อเครื่องเสียงให้ลูกฟัง
สาย ground  จาก ปลั๊กโดยทั่วไปก็ใช้สาย 4  หรือ  อาจใช้สาย 6 ก็น่าจะพอเหลือๆแล้ว  เพราะปกติการไฟฟ้าให้ใช้สายดิน 1.5 sqmm ถ้าโหลดอยู่ที่  6-16 amp,  ใช้ 4 sqmm ถ้าโหลดอยู่ที่ 20-25 amp
และใช้ 6 sqmm ถ้าโหลดอยู่ที่ 30-63 amp

สำหรับเดินจากเต้ารับไปที่ตู้เมน
แต่จากตู้เมน ลงดินนี่ ควรใช้  16 sqmm  ขึ้นไป
และเดินลงไปเชื่อมกับแท่งทองแดงปักลงดิน ยาว 2 เมตร 3 แท่ง  ต่อ delta (เชื่อมกันด้วยสายเป็น 3 เหลี่ยม)
ที่สำคัญ  ต้องเป็นชุด  ground  แยกจากล่อฟ้าโดยเด็ดขาดนะครับ  !!!

สายกราวน์ลงดินในระบบมีแค่ 1 จุดครับ ต่อจากตู้เมน อยากรู้วิธีต่อสายดินที่ถูกต้องลองหาคู่มือการติดตั้งสายดินของการไฟฟ้ามาอ่านดูครับ แล้ววิธีการเชื่อมต่อสายดินกับหลักที่ดีที่สุดคือการเชื่อมแบบหลอมละลาย เพราะจุดนี้ใช้ไปนานๆมันจะชอบหลุด บ้านผมเป็นบ้านจัดสรร ช่างก็คงไม่ได้ใช้วิธีหรอก :(

ทำไมสายกราวน์ลงดินในระบบต้องมีแค่ 1 จุด อันนี้มันมีเหตุผลครับ ส่วนจะมีจุดเดียวแล้วเสียงมันจะดีสู้ต่อสายกราวน์ลงดินแยกสำหรับห้องฟังเพลงหรือไม่อันนี้ผมไม่ทราบครับ แต่ที่ทราบคือมันไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการครับ ลองคุยกับวิศวกรไฟฟ้าดูครับ :D

ที่จะแยกก็คือชุด  ground  ล่อฟ้าเช่น พวกสายโทรศัพท์ เพราะบ้านทั่วไปก็ไม่ไม่ต้องติดล่อฟ้า ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤศจิกายน, 2006, 10:06:10 pm โดย Lukjeab's Daddy »


ออฟไลน์ ช.ช.

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • *****
    • กระทู้: 195
พี่ kj/คุณ merrex ครับ  พอดีผมกำลังจะย้ายบ้านใหม่อยู่เหมือนกัน  อ่านคำแนะนำดูแล้วเป็นประโยชน์มาก  แต่ไม่แน่ใจว่าผมสรุปได้ถูกต้องหรือเปล่า  ช่วยทวนดูหน่อยนะครับ

1.  แบบดีสุด ให้เดินสายจากปลั๊กไปตู้ 3 ปลั๊ก  ปลั๊กนึงใช้กับ pre., power  ปลั๊กนึงใช้กับ cd, dvd  อีกปลั๊กนึงใช้กับจอ   
     ภาพ  สายไฟใช้ขนาดอย่างต่ำ 6 sq.mil. สายดินใช้อย่างต่ำ 4 sq. ใช่ไหมครับ  สายดินเส้นเดียวใช้ร่วมกันสามปลั๊กใช่
     ไหมหรือควรแยกไป 3 เส้น

2.  กรณีใช้ไฟ 30 amp. 3 เฟส  (4 สาย)  ให้เดินสาย 16 sq. ไปที่มิเตอร์ 4 เส้น  เส้นนึงสำหร้บเครื่องเสียง  เส้นนึงสำหรับ
     แอร์  เส้นนึงสำหรับแสงสว่าง ฯลฯ  อีกเส้นเป็นสายลบ  แล้วสายกราวด์ 16 sq. ที่จะต่อไป ground rod นี่ควรใช้กี่เส้น
     ครับ  เส้นเดียวรวมทุกอย่างหรือแยกไป 3 เส้นครับ

3.  ต่อสายลงดินแบบ delta ต่ออย่างไรครับ  สายกราวด์แต่ละเส้นมาต่อเข้ากับแท่งทองแดงที่ปักเป็นรูปสามเหลี่ยมเหรอครับ
     ถ้า 3 สายก็ต้องใช้ 9 แท่งรึเปล่าครับ

4.  ถ้าเล่น dvd จากคอม ควรต่อคอมเข้าปลั๊กไหนครับ



ออฟไลน์ KJ

  • สมาชิกอาวุโส
  • *****
    • กระทู้: 793
 ตุณjohnny_kk ครับ  กรณีนี้จะเห็นได้ว่าในชุดเครื่องเสียงที่เดินไฟใหม่เราไม่ใช้ร่วมกันกับระบบกราวด์ของบ้านที่มีอยู่เดิม ดังนั้นไม่ต้องเกรงปัญหากราวด์ลูปหรอกครับ  จะไม่เกิดปัญหากราวด์ลูปจากการแยกแท่ง
กราวด์หรอกครับ ส่วนเรื่องเดินสายใหญ่ๆต้องถามขุนจิตดู  เดินใหญ่สุดๆเลยครับ  ตอนเข้าเต้ารับต้องใช้หางปลาช่วย  ลำบากกันน่าดูแต่คุ้มครับ 8)


ออฟไลน์ merrexkable

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,268
    • Merrexkable
แค่มาตรฐานใหม่การไฟฟ้าสำหรับเต้ารับก็ให้ใช้  สาย 4  แล้วครับ
2.5 แค่สำหรับ  lighting
ดังนั้นสาย 4 นี่ถือว่าปกติครับ
หากจะให้ดีถ้าเดินไกลจากตู้เมนมากก็ใช้สาย 6 ขึ้นไป
แต่จะเดินร้อยท่อฟังผนังยากนะครับ

ถ้าร้อยสาย 6 หรือ สาย 10   2 เส้น  + สาย ground 4 sqmm ก็ต้องร้อยท่อ 3/4" แล้วครับ แค่นี้ก็แทบฟังผนังไม่ได้แล้ว
และ เต้ารับก็ใส่สายได้ใหญ่สุดแถวๆ  6 sqmm นี่ล่ะ
หากใหญ่กว่านี้ ก็เดินลอยอย่างเดียว ....

เต้ารับทั่วไปรับกระแส ไฟได้แค่ 10 amp(อย่างดีก็  30 amp (industrial grade)  ไอ้ที่ใช้สายใหญ่ๆเนี่ยเพื่อลด voltage drop ในสาย และ เพื่อจ่ายกระแสชั่วขณะให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ (ถึงแม้จะน้อยนิด พวกเราชาว audiophile ก็ไม่ยั่น จริงไหมครับ  :D )

สาย ground  จาก ปลั๊กโดยทั่วไปก็ใช้สาย 4  หรือ  อาจใช้สาย 6 ก็น่าจะพอเหลือๆแล้ว  เพราะปกติการไฟฟ้าให้ใช้สายดิน 1.5 sqmm ถ้าโหลดอยู่ที่  6-16 amp,  ใช้ 4 sqmm ถ้าโหลดอยู่ที่ 20-25 amp
และใช้ 6 sqmm ถ้าโหลดอยู่ที่ 30-63 amp

สำหรับเดินจากเต้ารับไปที่ตู้เมน
แต่จากตู้เมน ลงดินนี่ ควรใช้  16 sqmm  ขึ้นไป
และเดินลงไปเชื่อมกับแท่งทองแดงปักลงดิน ยาว 2 เมตร 3 แท่ง  ต่อ delta (เชื่อมกันด้วยสายเป็น 3 เหลี่ยม)
ที่สำคัญ  ต้องเป็นชุด  ground  แยกจากล่อฟ้าโดยเด็ดขาดนะครับ  !!!

แค่นี้โดยหลักการก็น่าจะเหลือแหล่ ไม่รู้จะเหลือยังไงแล้วนะครับ
แต่หากอยากได้ดีกว่าก็เปลืองและยุ่งยากดี  ไม่ว่ากัน แต่อย่าน้อยกว่าก็จะดีครับ
(เดินสายใหญ่มากๆ  ระวังจะหาช่างรับเดินให้ไม่ได้นะครับ  อิ  อิ)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤศจิกายน, 2006, 12:02:00 am โดย merrexkable »
EXPERIENCE  THE  DIFFERENCE
 "Better price for Better sound"



ออฟไลน์ KJ

  • สมาชิกอาวุโส
  • *****
    • กระทู้: 793
ใช้สายไฟขนาด อย่างต่ำสีสแควร์ครับ ระบบไฟในห้องควรใช้แยกต่างหากจากชุดเครื่องเสียง  โดยการเดินสายไฟสำหรับเครื่องเสียงให้ต่อตรงมาจากเมนบอร์ด  แยกมาหลายๆเส้น ตามแต่ละจุด เน้นว่าไม่ตัดต่อระหว่างทางเด็ดขาด  ไม่ใช้ร่วมกับระบบไฟอื่นๆ (ส่วนนี้ต้องคุมครับกันช่างมักง่ายพอมีเศษสายไฟก็จะเอามาต่อกัน) สายไฟเอาของยาซากิก็ดีแล้วครับ  ตอกแท่งกราวด์แยกต่างหาก ไม่ใช้ร่วมกับระบบกราวด์ของไฟบ้าน ในขุดทั่วไปได้แค่นี้ก็ได้คุณภาพที่ดีขึ้นดีเกินคาดแล้ว  อ้อลืมไปครับ เต้ารับระบบภาพกับเสียงใช้แยกกันจะดีกว่าครับ  หากเอาแบบสุดๆ  เต้ารับที่ใช้กับพวกดิจิตอล  เครื่องเล่นซีดี  ดีวีดี  ใช้แยกต่างหากอีกเต้ารับหนึ่งก็ยิ่งดีครับ 8)

 


ออฟไลน์ Zone2

  • **
    • กระทู้: 86
น่าจะคำนวนเรื่องโหลด...ก่อนนะครับ.....
..ผมก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้..ว่าคำนวน ยังไง..
แต่ก็เคยได้ยินมาว่า สายเมน กับสายกวาน์ ถ้าคำนวนมาแล้ว ไม่ได้ใช้สายขนาดเดียว กัน..
ท่านใด มีความรู้เรื่องนี้...แนะนำด้วย ครับ..
ไม่รู้ ที่ ผมได้รู้ มา ผิด หรือ ถูก...


ออฟไลน์ Klos.

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • *****
    • กระทู้: 807
ถ้ามีช่างอยู่แล้วไม่น่ายากนะครับ ก้อเดินสายไฟจากเมน ขึ้นไปที่ห้องได้เลยครับ เอาสะดวกก้อใช้ท่อเดินสายไฟด้วย ก้อดูเรียบร้อยดี ส่วนสายไฟพยายามเลืิอกขนาดใหญ่ๆไว้ก่อนครับ ทั่วไปก้อขนาด 2.5มิล ถ้างบถึงก้อ 8หรือ16มิลก้อได้ครับ เดินสองเส้นจากเมนขึ้นไปที่ห้องเสียบกับเต้ารับ พยายามเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ด้วยนะครับสำหรับความยาวในห้องครับ เพราะบางทีมีการย้ายตำแหน่งของเครื่อง มันจะได้สะดวกแล้วที่สำคัญที่สุด อย่าลืมทำกราวด์ครับ สำคัญครับ d_d d_d


ออฟไลน์ MoJo-JoJo

  • **
    • กระทู้: 81
    • เพศ:ชาย
ไม่ทราบว่าผมให้ช่างเดินไฟใหม่มาจากตู้ main นะครับเพื่อจะใช้สำหรับ โฮม โดยเฉพาะ ต้องทำยังไงบ้าง เนื่องจากห้องผมอยู่ชั้น 3 แต่ตู่ main อยู่ชั้น 1 นะครับ
จะต้องเจาะผนังหรือเปล่าครับ แล้วจะต้องใช้สายไฟแบบไหนครับ....ไม่มีประสบการยังไงพี่ๆช่วยขอความคิดเห็นด้วยนะครับ   :bowdown
ขอบคุณมากครับที่ช่วยๆ  :)