HTG2.club

อยากถามว่าเคยทำ ปรี ที่ลงใน what hi fi รุ่น line stage pre-amp3 ที่เขียนโดย ดร.

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
หัวข้อนึ้ลงกันลึกจริงๆครับ แวะมาดูช่างไฟตัวจริงคุยกัน  :headphone  d_d

เคยได้ยินมาว่าถึงไม่มี nfb ถ้าคิดเป็นวงจรรวมมันก็จะมี global feedback มั้งครับเจ้า R5 ตัวนี้คงเป็นตัวปรับ global feedback รึเปล่าครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับพี่ๆ  :headphone  :drunk
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ผมว่าโทรไปถาม ดร.ดีกว่านะครับ ท่านเป็นผู้ที่ออกแบบวงจรใว้ น่าจะให้คำตอบที่กระจ่างที่สุดครับ บางทีคำตอบที่ได้รับอาจจะทำให้ท่านอมยิ้มไปตามๆกันครับ :yahoo ว่าเพราะอะไร
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
สอบถามคุณ Wittaya หน่อยครับ SRPP ใช้หลอด 6SN7 การต่อที่ Cathode หลอดบน กับ การต่อที่ Plate หลอดล่างมันต่างกันยังไง แล้วแนวเสียงที่ได้มันแตกต่างกันยังไงบ้างครับ

การต่อที่ cathode หลอดบน จะเป็น SRPP ครับ  วงจรจะทำงานเหมือน PP นะครับ  อ่านคำอธิบายละเอียดที่นี่นะครับ  ผมก็อ่านทำความเข้าใจจากที่นี่เหมือนกัน

http://www.tubecad.com/articles_2002/SRPP_Deconstructed/index.html

ส่วนการต่อที่เพลทของหลอดล่างวงจรจะทำหน้าที่เหมือน Grounded Cathode ธรรมดาครับ  แต่มีโหลดเป็นหลอดที่อยู่บนหัวมันแทน R ครับ

แนวเสียงต้องลองฟังเองครับ  ผมอธิบายเสียงแบบนักเขียนวิจาร์ณไม่เป็นครับ  ผมว่า SRPP มันให้เสียงขึ้นอยู่กับโหลดที่มันขับพอควร  ในบางกรณีมันอาจจะห่วย  แต่ในบางโหลดมันก็ดีเหลือเชื่อครับ  โดยส่วนตัวผมชอบแบบที่เป็น grounded cathode มากกว่าครับ  ฟังไปนานๆแล้วมันเป็นธรรมชาติมากกว่า  ลองทำขึ้นมา แล้วลองทำสวิทโยกสิครับ  จะได้ฟังได้ว่าชอบที่จุดไหน  หลายๆครังมันเป็นรสนิยมเหมือนกัน เพราะหูคนเราคงมี response curve ไม่เหมือนกันทกคน


ออฟไลน์ PokkyMan

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,488
    • เพศ:ชาย
สอบถามคุณ Wittaya หน่อยครับ SRPP ใช้หลอด 6SN7 การต่อที่ Cathode หลอดบน กับ การต่อที่ Plate หลอดล่างมันต่างกันยังไง แล้วแนวเสียงที่ได้มันแตกต่างกันยังไงบ้างครับ


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมอยากเข้าใจการทำงานของ R5 มากขึ้นครับ  ถ้าเป็นเทคนิคที่ดีจะได้เก็บเอาไว้ใช้
คำอธิบายนี้มีเหตผลครับ
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

เพื่อที่จะทำให้ V2 เข้าใกล้เป็น constant current มากขึ้น ก็เลยไบอัสมันหนักขึ้นด้วยการไบอัสด้วย 1.2K แทนที่จะเป็น 1.8K แล้วหา R มา shunt กระแสที่เกินทิ้งไป

แต่ลด R4 แล้วเกนลดนี่ฟังดู  :shutup :shutup
ผมลองดูแล้วครับพี่ ผมลองลด R จาก 470k มาเป็น 1k (จากวงจร Mu-follower)ปรากฏว่าความดังลดลงเห็น ๆ เลยครับ และเมื่อวัดไฟ Grid เทียบกับ Cahtode แล้ว Grid เป็นลบเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ พี่วิทยาลองดูอีกทีก็ได้ครับ


เห็นแล้วหละ ถ้าลดR4เยอะมากๆมันขนานกับR3 มันทำให้ R3 ค่าน้อยลง R load น้อยลง ก็เกนน้อยลง

แต่เพื่อประโยชน์อะไรหละครับ เช่นลดเกน แต่ได้ distortion ต่ำลง หรืออะไรดีขึ้น ถ้ามันพัฒนาอะไรแนะนำบอกหน่อยสิครับ

อ้างถึง
"เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2" หมายถึงส.ญ.ที่เข้ามาทาง Input แล้วกลับเฟสมาแล้วครับ   คุณ Era ลองไปศึกษาเรื่อง SRPP >Mu Fololwer>Mu Stage ดูอีกทีนะครับ  แนวความคิดของคุณเป็นแบบวงจร ความต้านทานกับกระแส ธรรมดานะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเขาจะออกแบบวงจรและพัฒนามาทำไมล่ะครับ โดยขั้นตามนี้ วงจรแบบ Mu Follower ถูกพัฒนามาจาก SRPP อีกที แล้วจากวงจรแบบ Mu Follower พัฒนามาเป็น Mu Stage แล้วก็มีเหตุผลของการพัฒนาอีกด้วย ผมไม่อธิบายดีกว่าครับ 

ผมไม่ชอบ attitude แบบนี้ครับ  ฟังดูเหมือนข้าฉลาดเอ็งโง่ 

ผมเชื่อว่าหลายๆคนในนี้เคยอ่าน Mu Stage by Alan Kimmel http://www7.taosnet.com/f10/mustage.html  มาแล้ว  บทความนี้มามานาน  อย่างคุณEra ผมก็เชื่อว่าเขาคงเคยอ่านมาแล้ว  และผมก็เชื่อว่าเขาแม่นเรื่องวงจรไฟฟ้ากว่าผมอีก  เราโตๆกันแล้ว  ควรมีความเมตตา ถ้าอ่านแล้วคิดว่าคนอื่นไม่เข้าใจ กรุณาอธิบายครับ  หรือชี้แนะ 



ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
อีกขวดนี่ขอเป็น นม ได้มั๊ยครับ นมจืดนะ ไม่ชอบนมรสหวาน ;D ;D ;D

ขอเป๊ปซี่ดีกว่าครับ ผมไม่ชอบนมจืดงะ เอิ้กๆ
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ Mc

  • Admin
  • Superstar...
  • *****
    • กระทู้: 10,323
    • เพศ:ชาย
  • ไม่ได้แสวงหาความเป็นที่สุด แต่หยุดที่ความพอใจ
อีกขวดนี่ขอเป็น นม ได้มั๊ยครับ นมจืดนะ ไม่ชอบนมรสหวาน ;D ;D ;D
<a href="http://www.clocklink.com/clocks/5012-black.swf?TimeZone=ICT&amp;&quot;&nbsp; width=&quot;91&quot; height=&quot;30&quot; wmode=&quot;transparent&quot; type=&quot;application/x-shockwave" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.clocklink.com/clocks/5012-black.swf?TimeZone=ICT&amp;&quot;&nbsp; width=&quot;91&quot; height=&quot;30&quot; wmode=&quot;transparent&quot; type=&quot;application/x-shockwave</a>


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
สาเหตุที่ทำให้แรงดันตกคร่อม R3 คงที่ เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2 ก็จะเป็นลบน้อย(บวกมาก)กว่าค่าของแรงดัน Bias หลอด V1 จะดึงกระแสเพิ่ม C1 ทำหน้าที่ coupling ส.ญ. ที่เข้ามาและกลับเฟสด้วย ทำให้หลอด V2 เห็นส.ญ.เป็นลบแทน หลอด V2 จึงนำกระแสลดลง แรงดันที่ R2 ก็จะเพิ่มขึ้น และแรงดันที่ตกคร่อม R3ก็จะคงที่เพราะว่ามีค่ามากกว่า R2  ในทางกลับกันเมื่อส.ญ.เฟสลบเข้ามา ส.ญ.ที่เพลตของ V1 ก็จะเป็นบวก  หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่  เหตุนี้จึงทำให้หลอด V1 ได้กระแสคงที่ตลอดเวลาของการทำงาน ลองสังเกตดูก็ได้ครับว่าวงจรลักษณะนี้มีเกนสูงเพราะว่าอัตราขยายเกือบเท่าความสามารถของลอดเลยทีเดียว เพราะว่าหลอด V2 ทำหน้าที่จ่ายกระแสคงที่มีค่าเป็นอนันต์ ครับ เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ ครับ สาเหตุน่าจะมาจากต้องการให้หลอด V2 จ่ายกระแสได้มากขึ้นก็ได้อันนี้ผมยังไม่แน่ใจแต่เห็นแว๊บ ๆ ที่ไหนนี่แหละครับ


"เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ"

อ่า ตอนแรกผมนึกว่า R 4 ครับแฮะๆ ถ้า R5 ย่อมลดลงเพราะกระแสไหล 2 ทาง คือ
1.ผ่าน R5 ลง gnd
2.ผ่าน R2 R3  V1 R1 ลง gnd

ซึ่งหมายความว่าเมื่อตอนแรก กระแสไหลผ่านเส้นทาง 2 อย่างเดียว แล้วเมื่อมี R5 เกิดมาเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการจ่ายกระแสเพิ่มมากขึ้น สมมติ ตอนแรกเป็น X volt ผ่านเส้นทาง 2 อย่างเดียว มีกระแส Y  แต่เมื่อ มีเส้นทาง 1 ขึ้นมา ต้องจ่ายกระแส Z เพิ่ม ทำให้หลอด ต้องจ่ายกระแส Y+Z ซึ่งค่า R2 เท่าเดิม ถ้าดูจากกราฟ จะเห็นว่า ที่จุดไบอัสเดิมหลอดจะจ่ายกระแสได้แค่ Y เท่านั้น Z ไม่สามารถจ่ายได้ กระแสที่ไหลไปทาง Y จึงต้องแบ่งไหลมาให้ Z ทำให้ Vg หลอดมีค่าลดลง เนื่องจาก กระแสที่ผ่าน R 2 มีค่าลดลง เมื่อ Vg ลดลง ก็จะทำให้กระแสไหลผ่านหลอดมากขึ้น จนกระทั้งเข้าสู่จุดสมดุลได้ค่าตามกราฟ ซึ่งเป็นผลว่าทำไมเราได้ Vg ลดลงครับ

"เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2"
เข้าใจว่าเป็น V1 หรือเปล่าครับ?

"หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่"
ถ้าแรงดันตกคร่อม R2 เพิ่มขึ้น ย่อมมีกระแสไหลเพิ่มขึ้นถูกไหมครับ แล้วกระแสเหล่านี้น่าจะไหลผ่าน R3 เพราะเป็นเส้นทางเดียวกันนี่ครับ?
"เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2" หมายถึงส.ญ.ที่เข้ามาทาง Input แล้วกลับเฟสมาแล้วครับ   คุณ Era ลองไปศึกษาเรื่อง SRPP >Mu Fololwer>Mu Stage ดูอีกทีนะครับ  แนวความคิดของคุณเป็นแบบวงจร ความต้านทานกับกระแส ธรรมดานะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเขาจะออกแบบวงจรและพัฒนามาทำไมล่ะครับ โดยขั้นตามนี้ วงจรแบบ Mu Follower ถูกพัฒนามาจาก SRPP อีกที แล้วจากวงจรแบบ Mu Follower พัฒนามาเป็น Mu Stage แล้วก็มีเหตุผลของการพัฒนาอีกด้วย ผมไม่อธิบายดีกว่าครับ 



ถ้าเป็นเรื่องแบบ mu stage mu follwer ผมพอเข้าใจอยู่ครับ แต่พอมี R5 เติมเข้ามา แล้วทำให้รูปแบบวงจรเปลี่ยนไปผมเลยสับสนนิดหน่อยเพราะผมไม่เคยเห็นว่า
"ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้น"
ผมก็เลยสนใจจุดนี้มากกว่า เลยพยายามมองเป็น AC model และเจาะลึกเข้าไปนะครับ อย่างไรก็ตามขอบคุณที่มา share ความเห็นกันครับ

จริงเรื่องนี้ไม่เห็นต้องเครียดเลยครับ แค่เป็นการใช้ความคิดมาวิเคราะห์และพัฒนากัน เผื่อบางที เราอาจจะได้วงจรใหม่ๆมาลองเล่นกันนะครับ ที่สำคัญ อีกขวดดด d_d
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ DIY Man.

  • It's GOOD To Be...... Audio D.I.Y.
  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,363
    • เพศ:ชาย
  • Good day!
คุยอะไรกัน ไม่รู้เรื่องเลย  :D :D :D

น้องเอามาอีกขวด...... d_d

                น่านนะซิ....Seriuos ขนาดเลย ;D ;D ;D
*Theory doesn't satisfy my emotion sense !
THE HEART:   The output tubes.
THE SOUL:   The output transformers.
THE MUSCLE:   The power supply.
THE BONES:   The chassis.
THE BRAINS:  The circuitry.



ออฟไลน์ Mr.Q

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,935
สาเหตุที่ทำให้แรงดันตกคร่อม R3 คงที่ เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2 ก็จะเป็นลบน้อย(บวกมาก)กว่าค่าของแรงดัน Bias หลอด V1 จะดึงกระแสเพิ่ม C1 ทำหน้าที่ coupling ส.ญ. ที่เข้ามาและกลับเฟสด้วย ทำให้หลอด V2 เห็นส.ญ.เป็นลบแทน หลอด V2 จึงนำกระแสลดลง แรงดันที่ R2 ก็จะเพิ่มขึ้น และแรงดันที่ตกคร่อม R3ก็จะคงที่เพราะว่ามีค่ามากกว่า R2  ในทางกลับกันเมื่อส.ญ.เฟสลบเข้ามา ส.ญ.ที่เพลตของ V1 ก็จะเป็นบวก  หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่  เหตุนี้จึงทำให้หลอด V1 ได้กระแสคงที่ตลอดเวลาของการทำงาน ลองสังเกตดูก็ได้ครับว่าวงจรลักษณะนี้มีเกนสูงเพราะว่าอัตราขยายเกือบเท่าความสามารถของลอดเลยทีเดียว เพราะว่าหลอด V2 ทำหน้าที่จ่ายกระแสคงที่มีค่าเป็นอนันต์ ครับ เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ ครับ สาเหตุน่าจะมาจากต้องการให้หลอด V2 จ่ายกระแสได้มากขึ้นก็ได้อันนี้ผมยังไม่แน่ใจแต่เห็นแว๊บ ๆ ที่ไหนนี่แหละครับ


"เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ"

อ่า ตอนแรกผมนึกว่า R 4 ครับแฮะๆ ถ้า R5 ย่อมลดลงเพราะกระแสไหล 2 ทาง คือ
1.ผ่าน R5 ลง gnd
2.ผ่าน R2 R3  V1 R1 ลง gnd

ซึ่งหมายความว่าเมื่อตอนแรก กระแสไหลผ่านเส้นทาง 2 อย่างเดียว แล้วเมื่อมี R5 เกิดมาเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการจ่ายกระแสเพิ่มมากขึ้น สมมติ ตอนแรกเป็น X volt ผ่านเส้นทาง 2 อย่างเดียว มีกระแส Y  แต่เมื่อ มีเส้นทาง 1 ขึ้นมา ต้องจ่ายกระแส Z เพิ่ม ทำให้หลอด ต้องจ่ายกระแส Y+Z ซึ่งค่า R2 เท่าเดิม ถ้าดูจากกราฟ จะเห็นว่า ที่จุดไบอัสเดิมหลอดจะจ่ายกระแสได้แค่ Y เท่านั้น Z ไม่สามารถจ่ายได้ กระแสที่ไหลไปทาง Y จึงต้องแบ่งไหลมาให้ Z ทำให้ Vg หลอดมีค่าลดลง เนื่องจาก กระแสที่ผ่าน R 2 มีค่าลดลง เมื่อ Vg ลดลง ก็จะทำให้กระแสไหลผ่านหลอดมากขึ้น จนกระทั้งเข้าสู่จุดสมดุลได้ค่าตามกราฟ ซึ่งเป็นผลว่าทำไมเราได้ Vg ลดลงครับ

"เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2"
เข้าใจว่าเป็น V1 หรือเปล่าครับ?

"หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่"
ถ้าแรงดันตกคร่อม R2 เพิ่มขึ้น ย่อมมีกระแสไหลเพิ่มขึ้นถูกไหมครับ แล้วกระแสเหล่านี้น่าจะไหลผ่าน R3 เพราะเป็นเส้นทางเดียวกันนี่ครับ?
"เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2" หมายถึงส.ญ.ที่เข้ามาทาง Input แล้วกลับเฟสมาแล้วครับ   คุณ Era ลองไปศึกษาเรื่อง SRPP >Mu Fololwer>Mu Stage ดูอีกทีนะครับ  แนวความคิดของคุณเป็นแบบวงจร ความต้านทานกับกระแส ธรรมดานะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเขาจะออกแบบวงจรและพัฒนามาทำไมล่ะครับ โดยขั้นตามนี้ วงจรแบบ Mu Follower ถูกพัฒนามาจาก SRPP อีกที แล้วจากวงจรแบบ Mu Follower พัฒนามาเป็น Mu Stage แล้วก็มีเหตุผลของการพัฒนาอีกด้วย ผมไม่อธิบายดีกว่าครับ 


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
สาเหตุที่ทำให้แรงดันตกคร่อม R3 คงที่ เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2 ก็จะเป็นลบน้อย(บวกมาก)กว่าค่าของแรงดัน Bias หลอด V1 จะดึงกระแสเพิ่ม C1 ทำหน้าที่ coupling ส.ญ. ที่เข้ามาและกลับเฟสด้วย ทำให้หลอด V2 เห็นส.ญ.เป็นลบแทน หลอด V2 จึงนำกระแสลดลง แรงดันที่ R2 ก็จะเพิ่มขึ้น และแรงดันที่ตกคร่อม R3ก็จะคงที่เพราะว่ามีค่ามากกว่า R2  ในทางกลับกันเมื่อส.ญ.เฟสลบเข้ามา ส.ญ.ที่เพลตของ V1 ก็จะเป็นบวก  หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่  เหตุนี้จึงทำให้หลอด V1 ได้กระแสคงที่ตลอดเวลาของการทำงาน ลองสังเกตดูก็ได้ครับว่าวงจรลักษณะนี้มีเกนสูงเพราะว่าอัตราขยายเกือบเท่าความสามารถของลอดเลยทีเดียว เพราะว่าหลอด V2 ทำหน้าที่จ่ายกระแสคงที่มีค่าเป็นอนันต์ ครับ เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ ครับ สาเหตุน่าจะมาจากต้องการให้หลอด V2 จ่ายกระแสได้มากขึ้นก็ได้อันนี้ผมยังไม่แน่ใจแต่เห็นแว๊บ ๆ ที่ไหนนี่แหละครับ


"เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ"

อ่า ตอนแรกผมนึกว่า R 4 ครับแฮะๆ ถ้า R5 ย่อมลดลงเพราะกระแสไหล 2 ทาง คือ
1.ผ่าน R5 ลง gnd
2.ผ่าน R2 R3  V1 R1 ลง gnd

ซึ่งหมายความว่าเมื่อตอนแรก กระแสไหลผ่านเส้นทาง 2 อย่างเดียว แล้วเมื่อมี R5 เกิดมาเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการจ่ายกระแสเพิ่มมากขึ้น สมมติ ตอนแรกเป็น X volt ผ่านเส้นทาง 2 อย่างเดียว มีกระแส Y  แต่เมื่อ มีเส้นทาง 1 ขึ้นมา ต้องจ่ายกระแส Z เพิ่ม ทำให้หลอด ต้องจ่ายกระแส Y+Z ซึ่งค่า R2 เท่าเดิม ถ้าดูจากกราฟ จะเห็นว่า ที่จุดไบอัสเดิมหลอดจะจ่ายกระแสได้แค่ Y เท่านั้น Z ไม่สามารถจ่ายได้ กระแสที่ไหลไปทาง Y จึงต้องแบ่งไหลมาให้ Z ทำให้ Vg หลอดมีค่าลดลง เนื่องจาก กระแสที่ผ่าน R 2 มีค่าลดลง เมื่อ Vg ลดลง ก็จะทำให้กระแสไหลผ่านหลอดมากขึ้น จนกระทั้งเข้าสู่จุดสมดุลได้ค่าตามกราฟ ซึ่งเป็นผลว่าทำไมเราได้ Vg ลดลงครับ

"เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2"
เข้าใจว่าเป็น V1 หรือเปล่าครับ?

"หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่"
ถ้าแรงดันตกคร่อม R2 เพิ่มขึ้น ย่อมมีกระแสไหลเพิ่มขึ้นถูกไหมครับ แล้วกระแสเหล่านี้น่าจะไหลผ่าน R3 เพราะเป็นเส้นทางเดียวกันนี่ครับ?

อ้างถึง
Posted by: WIM

ผมอาจจะใช้คำโบราณไปหน่อย กลายๆคือไม่ใช่แต่มีผลคล้ายกัน เพราะมันมีผลทั้งดีซี(ไบอัส)และเอซี(สัญญาณ) ผลจะเป็นไปตาม

ดูจากI-V curve(เพลต)ของหลอด IลดVเพิ่ม ตามโหลดไลน์
CCS :==> dV/dI = R=infinity (dI=0 กระแสคงที่) การต่อR5 ทำให้ dI มีค่า R จึงน้อยลง โหลดไลน์ชันขึ้น เกนลดลง
ผมคงอธิบายได้ประมาณนี้แหละครับ ลึกมากกว่านี้คงเกินความสามารถ ต้องรบกวนท่านอื่นแล้วนะครับ

"ผมอาจจะใช้คำโบราณไปหน่อย กลายๆคือไม่ใช่แต่มีผลคล้ายกัน เพราะมันมีผลทั้งดีซี(ไบอัส)และเอซี(สัญญาณ) ผลจะเป็นไปตาม"

พอเห็นเค้าๆแล้วครับ ขอบคุณครับ

***ผมขอมีแก้ไขreply ก่อนหน้านี้ด้วยครับ เพราะลืมไปว่า DC bias เปลี่ยน อาจทำให้ Rp ลดลงครับ***
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 สิงหาคม, 2007, 12:17:53 am โดย Era »
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
Posted by: Era
R5 กลายเป็น NFB ได้อย่างไรครับ รบกวนอธิบายนิดหนึ่งครับ


ผมอาจจะใช้คำโบราณไปหน่อย กลายๆคือไม่ใช่แต่มีผลคล้ายกัน เพราะมันมีผลทั้งดีซี(ไบอัส)และเอซี(สัญญาณ) ผลจะเป็นไปตาม

ผมอยากเข้าใจการทำงานของ R5 มากขึ้นครับ  ถ้าเป็นเทคนิคที่ดีจะได้เก็บเอาไว้ใช้
คำอธิบายนี้มีเหตผลครับ
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

เพื่อที่จะทำให้ V2 เข้าใกล้เป็น constant current มากขึ้น ก็เลยไบอัสมันหนักขึ้นด้วยการไบอัสด้วย 1.2K แทนที่จะเป็น 1.8K แล้วหา R มา shunt กระแสที่เกินทิ้งไป

แต่ลด R4 แล้วเกนลดนี่ฟังดู  :shutup :shutup
ผมลองดูแล้วครับพี่ ผมลองลด R จาก 470k มาเป็น 1k (จากวงจร Mu-follower)ปรากฏว่าความดังลดลงเห็น ๆ เลยครับ และเมื่อวัดไฟ Grid เทียบกับ Cahtode แล้ว Grid เป็นลบเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ พี่วิทยาลองดูอีกทีก็ได้ครับ

ดูจากI-V curve(เพลต)ของหลอด IลดVเพิ่ม ตามโหลดไลน์
CCS :==> dV/dI = R=infinity (dI=0 กระแสคงที่) การต่อR5 ทำให้ dI มีค่า R จึงน้อยลง โหลดไลน์ชันขึ้น เกนลดลง
ผมคงอธิบายได้ประมาณนี้แหละครับ ลึกมากกว่านี้คงเกินความสามารถ ต้องรบกวนท่านอื่นแล้วนะครับ
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ Mr.Q

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,935

"การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้น" อย่างไรครับ ผมยังมองไม่เห็นจุดนี้ครับ รบกวนขอรายละเอียดทีครับ สิ่งที่ผมมองเห็นตอนนี้ก็คือ R 470k ทำหน้าที่ป้อน V ref ให้กับหลอด V2 เป็น โหลดส่วนหนึ่งของหลอด V1(ซึ่งขนานกับ R3 10K)

และถ้าจะควบคุมอย่างที่ว่าจริง ทำไมไม่ใส่ Cที่จุดระหว่าง R2 กับ R3 ให้มีค่า Voltage คงที่ละครับ(แต่ผมก็มองว่า  V2 จะต้องขับโหลดที่ cathode 220 ohm ถ้าหากใส่ C ทำให้ output impedance สูงขึ้นแน่นอน)

"R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย"
ตรงนี้ลองมองจาก V1 ขึ้นไปครับระหว่างมี R5 กับไม่มี R5 จะเห็นได้ว่าการมี R 5 นั้น จะมี impedance โดยรวมน้อยกว่าการไม่มี R5 เมื่อเรามองในแง่ลักษณะของ load...

ช่วงแรกขอแค่นี้ก่อนครับ ขอคิดอีกเยอะๆแปปนึงครับ

สาเหตุที่ทำให้แรงดันตกคร่อม R3 คงที่ เพราะว่าเมื่อมีส.ญ.ขาเข้าสมมุติว่าเป็นเฟสบวกแรงดันที่ Grid ของ V2 ก็จะเป็นลบน้อย(บวกมาก)กว่าค่าของแรงดัน Bias หลอด V1 จะดึงกระแสเพิ่ม C1 ทำหน้าที่ coupling ส.ญ. ที่เข้ามาและกลับเฟสด้วย ทำให้หลอด V2 เห็นส.ญ.เป็นลบแทน หลอด V2 จึงนำกระแสลดลง แรงดันที่ R2 ก็จะเพิ่มขึ้น และแรงดันที่ตกคร่อม R3ก็จะคงที่เพราะว่ามีค่ามากกว่า R2  ในทางกลับกันเมื่อส.ญ.เฟสลบเข้ามา ส.ญ.ที่เพลตของ V1 ก็จะเป็นบวก  หลอด V2 ก็จะนำกระแสเพิ่มขึ้น แรงดันที่ตกคร่อม R2 เพิ่ม แรงดันที่ตกคร่อม R3 คงที่  เหตุนี้จึงทำให้หลอด V1 ได้กระแสคงที่ตลอดเวลาของการทำงาน ลองสังเกตดูก็ได้ครับว่าวงจรลักษณะนี้มีเกนสูงเพราะว่าอัตราขยายเกือบเท่าความสามารถของลอดเลยทีเดียว เพราะว่าหลอด V2 ทำหน้าที่จ่ายกระแสคงที่มีค่าเป็นอนันต์ ครับ เรื่องการต่อ R5 เป็นลบน้อยลงจริง ๆ ครับ สาเหตุน่าจะมาจากต้องการให้หลอด V2 จ่ายกระแสได้มากขึ้นก็ได้อันนี้ผมยังไม่แน่ใจแต่เห็นแว๊บ ๆ ที่ไหนนี่แหละครับ


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
ผมอยากเข้าใจการทำงานของ R5 มากขึ้นครับ  ถ้าเป็นเทคนิคที่ดีจะได้เก็บเอาไว้ใช้
คำอธิบายนี้มีเหตผลครับ
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

เพื่อที่จะทำให้ V2 เข้าใกล้เป็น constant current มากขึ้น ก็เลยไบอัสมันหนักขึ้นด้วยการไบอัสด้วย 1.2K แทนที่จะเป็น 1.8K แล้วหา R มา shunt กระแสที่เกินทิ้งไป

แต่ลด R4 แล้วเกนลดนี่ฟังดู  :shutup :shutup
ผมลองดูแล้วครับพี่ ผมลองลด R จาก 470k มาเป็น 1k (จากวงจร Mu-follower)ปรากฏว่าความดังลดลงเห็น ๆ เลยครับ และเมื่อวัดไฟ Grid เทียบกับ Cahtode แล้ว Grid เป็นลบเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ พี่วิทยาลองดูอีกทีก็ได้ครับ


กริดเป็นลบเพิ่มขึ้นหรือครับ ไม่เคยคิดเลยครับว่าเป็นไปได้ งง สุดๆเลยครับ :D
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
อ๋อ  มิน่าถึงดูวงจรแล้วไม่ค่อยสมเหตุผล  เขาใส่เผื่อเอาไว้สำหรับใช้กับ 12ax7 เพื่อเป็น voltage divider เพราะอีหลอดนี้มันเกนมากเกินไป

ผมไม่ได้ต้องการ discredit ใครนะครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณน้องเชน หรือ ท่าน ดร วีรศักดิ์ ซึ่งผมก็ไม่รู้จักทั้งสองคน  แต่สิ่งที่ผมอยากทำในวงการนี้คือให้ความรู้ และลดการผิดพลาดของมือใหม่ที่เข้ามาในวงการ diy เพราะผมเองก็เคยงมอะไรต่างๆนานา มาเยอะ โดยเฉพาะจากบทความของไทย ที่มักมีข้อผิดพลาดจากการเขียนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้มือใหม่ๆหลายๆคนหลงทาง และเสียเงินไปโดยไม่มีความจำเป็น

กลับมาที่วงจรครับ  ผมก็ยังว่า R5 ไม่จำเป็นอยู่ดีครับ เพราะ
1) 12ax7 ไม่เหมาะกับการทำเป็นปรีครับ  ดูจากวงจรนี้ มันคงได้ output impedance ประมาณ 40K และกระแสที่ไม่ถึง 0.5mA แต่เกนขยายราวๆ 70 เอาไปขับอะไรก็ลำบาก
2) ถ้าต้องการลดเกนของ 12ax7 จุดที่น่าปรับคือเอา C bypass cathode ออกครับ ก็จะเหลือเกนราวๆ 35 เท่า  ไม่ใช่มาเพิ่ม R5 ครับ

จุดปรับคือ เอาไว้หลัง C ครับ เท่าที่คิดออกอีกตัว เพราะจริงๆมองไปมา ไม่เห็นความจำเป็นในการเผา DC ทิ้งครับตอนนี้ แม้ว่าจะมีผลต่อการ Bias ของหลอด V2 ก็ตาม แต่ยังมองไม่ออกครับ ในบทความไม่ได้พูดถึงในแง่นี้เลยนะครับว่า bias DC เพื่ออะไรเลยยังมองไม่เห็นครับ
ตามความเข้าใจของผมนะครับ... :-\
R5จะเป็นNFBของV2กลายๆปรับไบอัสกระแสโดยรวม นัยยะคือปรับR-plateของV1 ทำให้ความชันของโหลดไลน์เปลี่ยน นั่นก็คือเกนเปลี่ยนด้วย
หากต่อหลังC-coupling จะเป็นเหมือนตัวทอนสัญญาณ(potential-divider) ซึ่งก็ใช้ได้เหมือนกัน  ;D ;D ;D
R5 กลายเป็น NFB ได้อย่างไรครับ รบกวนอธิบายนิดหนึ่งครับ
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ Mr.Q

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,935
ผมอยากเข้าใจการทำงานของ R5 มากขึ้นครับ  ถ้าเป็นเทคนิคที่ดีจะได้เก็บเอาไว้ใช้
คำอธิบายนี้มีเหตผลครับ
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

เพื่อที่จะทำให้ V2 เข้าใกล้เป็น constant current มากขึ้น ก็เลยไบอัสมันหนักขึ้นด้วยการไบอัสด้วย 1.2K แทนที่จะเป็น 1.8K แล้วหา R มา shunt กระแสที่เกินทิ้งไป

แต่ลด R4 แล้วเกนลดนี่ฟังดู  :shutup :shutup
ผมลองดูแล้วครับพี่ ผมลองลด R จาก 470k มาเป็น 1k (จากวงจร Mu-follower)ปรากฏว่าความดังลดลงเห็น ๆ เลยครับ และเมื่อวัดไฟ Grid เทียบกับ Cahtode แล้ว Grid เป็นลบเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ พี่วิทยาลองดูอีกทีก็ได้ครับ


ออฟไลน์ WIM

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,396
    • เพศ:ชาย
ตามความเข้าใจของผมนะครับ... :-\
R5จะเป็นNFBของV2กลายๆปรับไบอัสกระแสโดยรวม นัยยะคือปรับR-plateของV1 ทำให้ความชันของโหลดไลน์เปลี่ยน นั่นก็คือเกนเปลี่ยนด้วย
หากต่อหลังC-coupling จะเป็นเหมือนตัวทอนสัญญาณ(potential-divider) ซึ่งก็ใช้ได้เหมือนกัน  ;D ;D ;D
อารมณ์สร้างดนตรี......ดนตรีสร้างอารมณ์... :)
http://www.htg2.net/index.php?topic=54247.msg647885


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode

อ่า น่าจะเป็น ลบน้อยลงด้วยนะครับ

ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
ผมอยากเข้าใจการทำงานของ R5 มากขึ้นครับ  ถ้าเป็นเทคนิคที่ดีจะได้เก็บเอาไว้ใช้
คำอธิบายนี้มีเหตผลครับ
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

เพื่อที่จะทำให้ V2 เข้าใกล้เป็น constant current มากขึ้น ก็เลยไบอัสมันหนักขึ้นด้วยการไบอัสด้วย 1.2K แทนที่จะเป็น 1.8K แล้วหา R มา shunt กระแสที่เกินทิ้งไป

แต่ลด R4 แล้วเกนลดนี่ฟังดู  :shutup :shutup

จริงๆต่อ R4 แล้วเกนก็สามารถ ลดได้ครับ แต่เนื่องจาก R4 ไม่ได้ ref ac ground ตรงๆ มันต้องผ่าน R 220ohm ซึ่งมี อิทธิพลต่อ Vg ของ V2 แล้วกระแสไปผ่าน2จุดคือ R 47K ลง gnd และผ่าน V2 ไปทางไฟ B+ ครับ แต่ดูแล้ว ต้องไปแก้ที่ C 1 อีก จึงดูวุ่นวายมากกว่านะครับ
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
จาก Rep 26 ขอขยายข้อความที่ขีดเส้นใต้ครับ การทำเป็นไฟตรงนั้นเมื่อเราวัดเป็น 6V rms แล้ว การให้พลังงานย่อมเท่ากับไฟสลับ 6V rms ครับ แต่ผมเข้าใจว่าผู้เขียนอาจสื่อถึงว่าไฟสลับที่เอามาจุดนั้น อาจมีความคลาดเคลื่อนนิดหน่อยกระมังครับ เช่นอาจจะมาแบบ5.8V 6.1V หรืออื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วหลอดรับค่า VHeater ที่เบี่ยงเบนได้ราวๆ 20% มั้งครับ 6V จึงถือว่าอยู่ในเกนที่ใช้ได้ครับ

***"ในส่วนการยก ground นั้น ผมขอขยายความอีกนิดว่าเป็นการยก Gnd ทางด้าน AC ให้สูงลอยขึ้น ซึ่งไม่นับทาง DC เนื่องจากไม่มีกระแส DC ไหลจนครบloop นั้น ทำให้ I เป็น 0 เมื่อ I เป็น0 Vที่คร่อมก็เท่ากับ 0 ครับ แต่ทางด้าน AC อาจมีการ รบกวนกันได้เกิดขึ้น การใส่ R 100k เป็นการขวาง เส้นทางไม่ให้เกิดกำลังงานไปรบกวนต่อวงจรหลักได้ครับ"***

ขอแก้ไข*** ครับ ผมไม่น่าใช้ว่ายก แต่น่าจะเป็น การแยกจากกันมากกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 สิงหาคม, 2007, 04:31:16 pm โดย Era »
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


oui.

  • บุคคลทั่วไป
อยากถามว่าเคยทำ ปรี ที่ลงใน what hi fi รุ่น line  stage pre-amp3 ที่เขียนโดย ดร.วีระศักด์ ซึงถาวร มั้ยครับวงจรนี้ดีมั้ยครับ โดยวงจรได้ใช้หลอด 6sn7 เอามาขนานกันครับ

ตอนเย็นเอารูปมาลงครับ

เล่มใหนปีเท่าไรครับ จะลองไปหามาอ่านครับ    O0



ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
ผมอยากเข้าใจการทำงานของ R5 มากขึ้นครับ  ถ้าเป็นเทคนิคที่ดีจะได้เก็บเอาไว้ใช้
คำอธิบายนี้มีเหตผลครับ
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

เพื่อที่จะทำให้ V2 เข้าใกล้เป็น constant current มากขึ้น ก็เลยไบอัสมันหนักขึ้นด้วยการไบอัสด้วย 1.2K แทนที่จะเป็น 1.8K แล้วหา R มา shunt กระแสที่เกินทิ้งไป

แต่ลด R4 แล้วเกนลดนี่ฟังดู  :shutup :shutup


ออฟไลน์ Era

  • *****
    • กระทู้: 975
    • เพศ:ชาย
อ่า พลาดไม่ได้มาดูได้ไงกระทู้ดีดีแบบนี้ ขอแสดงความคิดเห็นครับ
เป็นการทำให้ Zo ต่ำลงด้วยหรือเปล่าครับ

สูงขึ้นครับ เพราะหลอดต้องขับโหลด  R5 47K เพิ่มขึ้นอีกตัวครับ

และก็การเดรน DC ลงไป ทำให้พลังงานเผาผลาญไปเยอะ ต้องหา R ที่ทน watt สูงขึ้นมาใช้ โดยส่วนตัวแล้ว น่าลอง divied สัญญาณที่ R4 มากกว่า หากคำนึงถึงเกน หรือการ เอา R 47 K นี้ไปไว้หลัง C ก็จะได้ผลในการลดทอนสัญญาณเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม R5 นี้ จะทำให้ output impedance สูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับการนำไปไดร์ฟ impedance ภาคถัดไปนั้น ก็คงจะไม่ใช่จุดสำคัญเท่าใดนั้น

ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........

"การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้น" อย่างไรครับ ผมยังมองไม่เห็นจุดนี้ครับ รบกวนขอรายละเอียดทีครับ สิ่งที่ผมมองเห็นตอนนี้ก็คือ R 470k ทำหน้าที่ป้อน V ref ให้กับหลอด V2 เป็น โหลดส่วนหนึ่งของหลอด V1(ซึ่งขนานกับ R3 10K)

และถ้าจะควบคุมอย่างที่ว่าจริง ทำไมไม่ใส่ Cที่จุดระหว่าง R2 กับ R3 ให้มีค่า Voltage คงที่ละครับ(แต่ผมก็มองว่า  V2 จะต้องขับโหลดที่ cathode 220 ohm ถ้าหากใส่ C ทำให้ output impedance สูงขึ้นแน่นอน)

"R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย"
ตรงนี้ลองมองจาก V1 ขึ้นไปครับระหว่างมี R5 กับไม่มี R5 จะเห็นได้ว่าการมี R 5 นั้น จะมี impedance โดยรวมน้อยกว่าการไม่มี R5 เมื่อเรามองในแง่ลักษณะของ load...

ช่วงแรกขอแค่นี้ก่อนครับ ขอคิดอีกเยอะๆแปปนึงครับ

แก้ไข
*****
เป็นการทำให้ Zo ต่ำลงด้วยหรือเปล่าครับ

สูงขึ้นครับ เพราะหลอดต้องขับโหลด  R5 47K เพิ่มขึ้นอีกตัวครับ*****

จริงแล้วผมลืมคิดไปครับว่า มันจะทำให้จุด bias มีกระแสไหลสูงขึ้น ทำให้ค่า Rp นั้นลดลง ซึ่งเมื่อคิด factor นี่แล้ว อาจจะทำให้ Zo มากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้ครับ แต่น่าจะแนวโน้มไปทางน้อยลงมากกว่า เพราะ R5 มีค่า 47 K แต่หลอดอาจมีค่า Rp ลดลงต่ำลง จนชดเชยกับที่ต้องจ่ายกระแสให้ 47k ก็เป็นไปได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 สิงหาคม, 2007, 12:15:12 am โดย Era »
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=90857.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ผลที่ได้ครับ

วงจรนี้ก็คือวงจรเพ็นโทรดปรีแอมป์ที่ อ.มด เอามาลงในใน วอทไฮไฟ อีกครั้งหลังจากที่เคยลงไปแล้วเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว (ผมจำปีแน่นอนไม่ได้) เพียงแต่เปลี่ยนไปใช้หลอด el86 อ.มด ให้  credit ว่าเป็นวงจร ที่ ดร วีรศักดิ์เคยลงใว้ใน วอทไฮไฟ
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ที่ผมเอา บทความบางส่วน ของ ดร วีรศักดิ์  มาลงให้ดูก็เพื่อให้หายสงสัยที่ว่าการที่มี R ต่อลงกราวด์ก่อน C คัปปิ้งไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่เป็นความจงใจของผู้ออกแบบ และก็มีเหตุผลรองรับ เพราะการที่เราจะเอาอะไรใส่เข้าไปหรือเอาออก เราก็ควรจะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เพราะสิ่งที่ใส่เข้าไปมันก็คือต้นทุน ในบทความก็ได้บอกถึงการประหยัดใช้ของให้คุ่มค่า บอกถึงหัวใจของการทำงานของวงจร(แก่นแท้)เช่นเราจุดใส้หลอดเพื่ออะไร ไม่ให้ไปยึดติดกับ AC หรือ DC มันก็แค่ทำให้คาโถดร้อนและปล่อยอิเลคตรอนได้ก็เท่านั้น ถ้าได้ติดตามอ่านบทความของท่านที่เขียนมาทั้งหมด จะทราบว่าท่านไม่ได้เขียนหนังสือแบบขอไปที ที่ท่านเขียนต้องทำได้จริง ไม่มีการค้าแอบแฝงใดๆทั้งสิ้น ท่านจะบอกถึงเหตุและผล การแชร์ประสบการณ์ อย่างตอนที่ 4 เพ็นโทรดปรีแอมป์ ท่านว่าให้ใช้หลอด ef86 แต่ถ้าหาไม่ได้(ตอนนั้นหลอดหายาก) ท่านว่าให้ใช้หลอด EL84 ใช้แทนไปก่อน อันนี้ก็ก็แสดงให้เห็นว่า ท่านทำอะไรมีเหตุมีผล
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ Mr.Q

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,935
ผมเข้าใจตามนี้ครับ R5 มีไว้เพื่อควบคุม Bias ของหลอด V2 ให้เป็นเอกเทศจากหลอด V1 มากขึ้นเพราะว่าการ swing ส.ญ. ของหลอด V1 มีผลทำให้ V2 เปลี่ยนแปลงตามหลอด V1 มากเกินไป เป็นผลทำให้แรงดันตกคล่อม R 3 เปลี่ยนแปลงไม่คงที่และเมื่อแรงดันไม่คงที่กระแสที่จ่ายให้ V1 ก็ไม่คงที่ด้วย และ R5 ยังใช้ควบคุมเกนขยายของหลอด V2 อีกด้วยคือเกนตรงนี้โดยปกติแล้วขยายต่ำกว่า db อยู่แล้ว คือเมื่อ Cathode ของ V2 เป็นบวกน้อยลงมีผลทำให้ Grid V2 เป็นลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Cathode จุดนี้ถ้าถามว่าแล้วลดค่า R4 เพื่อลดเกนได้ไหมได้ครับแต่ การลด R4 ทำให้หลอด V2 เปลี่ยนแปลงไม่เป็นเชิงเส้นมากกว่าการมี R5 ครับ ลองค้นหาวงจรใน Wep ดูครับวงจรลักษณะนี้ มีตรึม.........


ออฟไลน์ ฅนโคกเคียน

  • ***
    • กระทู้: 171
อ๋อ  มิน่าถึงดูวงจรแล้วไม่ค่อยสมเหตุผล  เขาใส่เผื่อเอาไว้สำหรับใช้กับ 12ax7 เพื่อเป็น voltage divider เพราะอีหลอดนี้มันเกนมากเกินไป

ผมไม่ได้ต้องการ discredit ใครนะครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณน้องเชน หรือ ท่าน ดร วีรศักดิ์ ซึ่งผมก็ไม่รู้จักทั้งสองคน  แต่สิ่งที่ผมอยากทำในวงการนี้คือให้ความรู้ และลดการผิดพลาดของมือใหม่ที่เข้ามาในวงการ diy เพราะผมเองก็เคยงมอะไรต่างๆนานา มาเยอะ โดยเฉพาะจากบทความของไทย ที่มักมีข้อผิดพลาดจากการเขียนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้มือใหม่ๆหลายๆคนหลงทาง และเสียเงินไปโดยไม่มีความจำเป็น

กลับมาที่วงจรครับ  ผมก็ยังว่า R5 ไม่จำเป็นอยู่ดีครับ เพราะ
1) 12ax7 ไม่เหมาะกับการทำเป็นปรีครับ  ดูจากวงจรนี้ มันคงได้ output impedance ประมาณ 40K และกระแสที่ไม่ถึง 0.5mA แต่เกนขยายราวๆ 70 เอาไปขับอะไรก็ลำบาก
2) ถ้าต้องการลดเกนของ 12ax7 จุดที่น่าปรับคือเอา C bypass cathode ออกครับ ก็จะเหลือเกนราวๆ 35 เท่า  ไม่ใช่มาเพิ่ม R5 ครับ
:boat
.....ไม่เคืองแค้นน้อยใจ..ในโชคชะตา...
.....ไม่เสียดายชีวา..ถ้าสิ้นไป............

http://www.htg2.net/index.php?topic=59957.0


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
อ๋อ  มิน่าถึงดูวงจรแล้วไม่ค่อยสมเหตุผล  เขาใส่เผื่อเอาไว้สำหรับใช้กับ 12ax7 เพื่อเป็น voltage divider เพราะอีหลอดนี้มันเกนมากเกินไป

ผมไม่ได้ต้องการ discredit ใครนะครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณน้องเชน หรือ ท่าน ดร วีรศักดิ์ ซึ่งผมก็ไม่รู้จักทั้งสองคน  แต่สิ่งที่ผมอยากทำในวงการนี้คือให้ความรู้ และลดการผิดพลาดของมือใหม่ที่เข้ามาในวงการ diy เพราะผมเองก็เคยงมอะไรต่างๆนานา มาเยอะ โดยเฉพาะจากบทความของไทย ที่มักมีข้อผิดพลาดจากการเขียนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้มือใหม่ๆหลายๆคนหลงทาง และเสียเงินไปโดยไม่มีความจำเป็น

กลับมาที่วงจรครับ  ผมก็ยังว่า R5 ไม่จำเป็นอยู่ดีครับ เพราะ
1) 12ax7 ไม่เหมาะกับการทำเป็นปรีครับ  ดูจากวงจรนี้ มันคงได้ output impedance ประมาณ 40K และกระแสที่ไม่ถึง 0.5mA แต่เกนขยายราวๆ 70 เอาไปขับอะไรก็ลำบาก
2) ถ้าต้องการลดเกนของ 12ax7 จุดที่น่าปรับคือเอา C bypass cathode ออกครับ ก็จะเหลือเกนราวๆ 35 เท่า  ไม่ใช่มาเพิ่ม R5 ครับ


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
พยายามอ่านแล้ว แต่หาไม่เจอว่า เขียนถึงการทำงานของ R5 ในการทำงานของวงจร ไว้ตรงไหน  ที่ขีดเส้นสีแดงไว้ ก็ไม่เกี่ยวไม่ข้องอะไรกับ R5 รบกวน บอก หรือ ขยายให้ชัดได้ไหมครับ

อยู่ที่ reply 20 อ่ะครับพี่

 :secret
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
พยายามอ่านแล้ว แต่หาไม่เจอว่า เขียนถึงการทำงานของ R5 ในการทำงานของวงจร ไว้ตรงไหน  ที่ขีดเส้นสีแดงไว้ ก็ไม่เกี่ยวไม่ข้องอะไรกับ R5 รบกวน บอก หรือ ขยายให้ชัดได้ไหมครับ


ออฟไลน์ pride

  • *****
    • กระทู้: 518
  • พ่อค้า & ซาเล้ง
    • www.pridediyjunk.com
มีแบบรวมเล่มไหมครับ หนังสือที่ว่ามาผมไม่ได้ตามมานานมากแล้วอ่ะคัรบ
welcomeani" border="0 <a href="http://www.pridediyjunk.com/catalog/index.php?language=TH" >www.pridediyjunk.com [/url]


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
เฉพาะภาค Line Stage Preamp ทั้ง 4 ตอน ปาเข้าไป 28 หน้า  เนื้อๆเลยครับ แบบที่ว่าน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงแหลง ไม่มีครับ แนวการเขียนหนังสือ อ่านได้ตั้งแต่ผู้ที่เริ่มต้น ไปจนถึง พวกกระบี่อยู่ที่ใจเลยครับ 
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ต่อ
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ไฟจุดใส้
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
เบอร์โทร. ที่ให้ในเล่มนี้ผิดนะครับ ไม่ต้องโทรไป
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
บทความต่าง ของ  ดร. วีรศักดิ์ ซึงถาวร  บางตอน
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
วงจรในรูปเค้าทำงานได้ดีนะครับ   

ผมเคยต่อใช้มาแล้ว   ตอนนั้นเริ่มหัดทำก็ต่อตามไปแบบไม่ได้สังเกตอะไรครับ     :D
ผลออกมาก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ masterAT

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,918
    • เพศ:ชาย
  • ส่งกำลังใจ
เป็นการทำให้ Zo ต่ำลงด้วยหรือเปล่าครับ
:D ชีวิตนี้มันสั้นนัก รีบๆๆเถอะ :D
"หนึ่งเดียวที่ข้าพเจ้ารู้ คือรู้ว่า ข้าพเจ้าไม่รู้อะไรเลย" โสคราตีสผู้กล่าว
 ที่อยู่ติดต่อ http://www.htg2.club/index.php?topic=10078.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ปะติดปะต่อเอาหน่อยนะครับ ถ่ายไกลมันไม่ชัดครับ
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ไม่ได้อ่าน What Hifi นะครับ  แต่ดูวงจรแล้ว ถ้าต่อแบบก่อน C coupling คิดได้อย่างเดียวเลยครับ  R5 เอาไว้เผาไฟเล่นๆ  2f 2f
จุดนี้น่าจะมี 100 กว่า volt ตีว่า 150V กับ 47K กระแสก็ 3mA

ถ้า คนเขียนมีคำอธิบายดีกว่านี้รบกวนลอกมา post หน่อยครับ  จะได้เป็นความรู้เพิ่มเติม  O0
อันนี้ แค่ส่วนหนึ่งครับ ที่ว่า  ดูวงจรแล้ว ถ้าต่อแบบก่อน C coupling คิดได้อย่างเดียวเลยครับ  R5 เอาไว้เผาไฟเล่นๆ  2f 2f ที่จริงน่าจะมีประโยชน์มากกว่านะนั้นนะครับ
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ Withaya

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,390
เพิ่งสังเกตุเห็นว่า R5, 47K ต้องต่อหลัง C coupling นะครับ ผิดทั้งสองวงจรเลย
แล้ว R33K วงจรนี้ของคุณ LN ผิดด้วยป่าวครับ :D
ผิดเหมือนกันแฮะ ขอบคุณที่เตือนครับ

กำลัง update พวกวงจรอยู่เหมือนกัน ปีหน้าคงจะมีเพิ่มเติมอีกครับ

ลองกลับไปอ่าน Line Stage Preamp 2 ดูก่อนนะครับ จะเข้าใจว่า R5 เขาเอาใว้ทำอะไร ในบทความนั้นได้อธิบายใว้แล้วครับ ถ้าไม่เข้าใจก่อนจบบทความยังมีเบอร์โทรของ ดร. วีรศักดิ์ ซึงถาวร ให้โทรไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ ท่านยังใช้เบอร์เดิมครับ 

ไม่ได้อ่าน What Hifi นะครับ  แต่ดูวงจรแล้ว ถ้าต่อแบบก่อน C coupling คิดได้อย่างเดียวเลยครับ  R5 เอาไว้เผาไฟเล่นๆ  2f 2f
จุดนี้น่าจะมี 100 กว่า volt ตีว่า 150V กับ 47K กระแสก็ 3mA

ถ้า คนเขียนมีคำอธิบายดีกว่านี้รบกวนลอกมา post หน่อยครับ  จะได้เป็นความรู้เพิ่มเติม  O0


ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
เพิ่งสังเกตุเห็นว่า R5, 47K ต้องต่อหลัง C coupling นะครับ ผิดทั้งสองวงจรเลย
แล้ว R33K วงจรนี้ของคุณ LN ผิดด้วยป่าวครับ :D
ผิดเหมือนกันแฮะ ขอบคุณที่เตือนครับ

กำลัง update พวกวงจรอยู่เหมือนกัน ปีหน้าคงจะมีเพิ่มเติมอีกครับ

ลองกลับไปอ่าน Line Stage Preamp 2 ดูก่อนนะครับ จะเข้าใจว่า R5 เขาเอาใว้ทำอะไร ในบทความนั้นได้อธิบายใว้แล้วครับ ถ้าไม่เข้าใจก่อนจบบทความยังมีเบอร์โทรของ ดร. วีรศักดิ์ ซึงถาวร ให้โทรไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ ท่านยังใช้เบอร์เดิมครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 สิงหาคม, 2007, 11:02:03 am โดย น้องเชน »
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
เสียงเย็นดี

 ;)  เห็นภาพเลยครับ   ผมก็ว่างั้น  วงจรนี้เสียงมันเนิบ ๆ ดี 
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ Music_Lover

  • *****
    • กระทู้: 999
ไม่ทราบว่าผมต้องการทำปรี 6sn7 ตามวงจรนี้ ต้องแก้ไขอะไรมั้ยครับ ตอนนี้กำลังว่างๆจะได้เริ่มทำเลย :-*
ที่อยู่ครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=24076.0


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
ผิดเหมือนกันแฮะ ขอบคุณที่เตือนครับ

กำลัง update พวกวงจรอยู่เหมือนกัน ปีหน้าคงจะมีเพิ่มเติมอีกครับ



ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
เพิ่งสังเกตุเห็นว่า R5, 47K ต้องต่อหลัง C coupling นะครับ ผิดทั้งสองวงจรเลย



ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
วงจรล่างสุด ดัดแปลงมาจาก Project Brute Force from the linestage ออกแบบโดย Eric Barbour  ของเดิมใช้หลอดบนเป็น 6BL7 จุดมุ่งหมายของวงจรนี้คือเอาไว้ drive พวก solidstate poweramp หรือ 600 ohm headphone ผมเคยทำโดยทดลองทำเอาไว้ drive หลอด power ก็ใช้งานได้ดีมาก แต่ถ้าไม่มีความต้องการที่จะ drive อุปกรณ์ low impedance ก็ใช้แบบหลอดเดียวแบบวงจรด้านบนก็ได้ครับ




ออฟไลน์ น้องเชน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,429
    • เพศ:ชาย
ผมอยากทำวงจรที่ใช้ 6DJ8 ขนานหลอดเป็นหลอดล่าง  และ  12BY7  เป็นหลอดบน   วงจรแปลกดีครับ มีใครทำมั่งยังครับ
ช่วงนี่ปาก เสีย กัด ไป ทั่ว อย่าโกรธ นะครับ ล้อ เล่น สนุก ๆ ไม่ ชอบก็ บอกกันได้ครับ

ที่อยู่เลขบัญชีและเบอร์โทร ที่นี่เลยครับ
      http://www.htg2.net/index.php?topic=17557.0


ออฟไลน์ ยุทธ

  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,420
  • D.I.Y.
รู้สึกว่าจะเป็น Mu Stage ใช้ 12AU7 เป็นเพลทโหลด ขนานทั้งบนและล่างใช่ไหมครับ ผมเคยทำแต่ไม่ขนานหลอด

เสียงเป็นไงครับ สู้วงจรยอดฮิตนี่ได้หรือเปล่าครับ
มันให้เสียงสดใสพอสมควรถ้าชอบแนวสดๆหน่อยผมว่าใช้ได้ อันที่จริงมันก็ SRPP นี่แหละ แต่ผมไม่หลอดไม่ใช่อะไร เปลืองหลอด
ข้อมูลติดต่อ
http://www.htg2.net/index.php?topic=32816.0


ออฟไลน์ พ่อน้องเปรียว

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,303
  • งดสร้างแอมป์ชั่วคราว
รู้สึกวงจรนั้นจะใช้ 6SN7 4 หลอดแน่ะ  :cold

ใช้ 6SN7 2 หลอดครับ และ 12AU7 2หลอดครับ

วงจรหน้าตาเป็นอย่างไรครับ
* "อนาถา" มันมีสเน่ห์ตรงไหนนะ * 
 I=E/R # V=IR  # R =V/I # P=IV #
เราออกแบบและสร้างแบบนี้? ต้องให้คะแนน
Aesthetic=ความงามหรือสุนทรียะ
Function=ประโยชน์ใช้สอย
Ergonomic=ความเหมาะสมกับสรีระผู้ใช้
Safety=ความปลอดภัยในการใช้งาน
Durable=ทนทาน
Maintainance=ง่ายต่อการซ่อมบำรุง
Cost=ราคาเหมาะสม




ออฟไลน์ Music_Lover

  • *****
    • กระทู้: 999
รู้สึกว่าจะเป็น Mu Stage ใช้ 12AU7 เป็นเพลทโหลด ขนานทั้งบนและล่างใช่ไหมครับ ผมเคยทำแต่ไม่ขนานหลอด

เสียงเป็นไงครับ สู้วงจรยอดฮิตนี่ได้หรือเปล่าครับ
ที่อยู่ครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=24076.0


ออฟไลน์ ยุทธ

  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,420
  • D.I.Y.
รู้สึกว่าจะเป็น Mu Stage ใช้ 12AU7 เป็นเพลทโหลด ขนานทั้งบนและล่างใช่ไหมครับ ผมเคยทำแต่ไม่ขนานหลอด
ข้อมูลติดต่อ
http://www.htg2.net/index.php?topic=32816.0


ออฟไลน์ Music_Lover

  • *****
    • กระทู้: 999
อยากถามว่าเคยทำ ปรี ที่ลงใน what hi fi รุ่น line  stage pre-amp3 ที่เขียนโดย ดร.วีระศักด์ ซึงถาวร มั้ยครับวงจรนี้ดีมั้ยครับ โดยวงจรได้ใช้หลอด 6sn7 เอามาขนานกันครับ

ตอนเย็นเอารูปมาลงครับ
ที่อยู่ครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=24076.0