ตอนนี้ลุงกำลังรอ Linn Akurate DS ตัวนี้อยู่ครับ ไว้เล่น Flac file จาก Hard drive ที่ ripped เพลงมาจาก CD แล้ว

แต่หลายๆคนอาจจะถามว่า เออ แล้วมันต่อเข้ากับเครื่องเสียงยังไง ลุงเลยมาอธิบายคร่าวๆ พร้อมรูปจากนิตยสารนิดหน่อยครับ
จะได้เป็นข้อมูลให้หลายๆคนเข้าใจมากขึ้น หรือคนที่สนใจจะได้เอาไปลองดูครับ
Linn ตระกูล DS (Digital Stream) ซึ่งทำหน้าที่เป็น DAC ชนิดหนึ่ง รับสัญญาณจากสาย LAN แล้วปล่อยออกมาเป็น analog เข้าสู่ระบบเครื่องเสียงใน system ครับ
หรืออาจจะดูเป็น source ตัวนึงเหมือนเครื่องเล่น CD ก็พออนุมานได้ครับ

มาดูรูปรุ่นต่างๆของตระกูล DS กัน

จากรูป ไล่จากบนลงล่าง หรือ รุ่นสูงสุด ไปรุ่นต่ำสุดครับ
1) Linn Klimax DS
2) Linn Akurate DS
3) Linn Majik DS
4) Linn Sneaky DS
Klimax และ Akurate จะใช้ DAC chip ตัวเจ๋งสุดของ Wolfson รุ่น WM8741 (192kHz/24bits)
แต่จุดต่างกันมากคือ Klimax ใช้ high-end audio isolation transformers จาก Lundahl ในภาค output stage
แต่ Akurate ใช้ high-quality polypropylene capacitors เท่านั้นครับ
ส่วน Majik ถึงหน้าตาจะเหมือน Akurate แต่ก็อย่างที่บอกใช้ DAC คนละรุ่น แต่ของ Wolfson เช่นกัน และภาค supply ภายในที่ใช้เกรดต่ำกว่า
ส่วน Sneaky เหมาะกับการเอามาเป็นตัวเพิ่มจุดฟังให้กับ DS ทั้งสามตัวมากกว่า ผ่านระบบ wireless โดยที่ตัว Sneaky นี่จะมี power ในตัวใช้ต่อลำโพงได้เลยครับ
ทีนี้เรามาดูกันว่าถ้าจะเอา DS ซักตัวมาใช้อุปกรณ์ที่ต้องใช้คืออะไรบ้าง
1) แน่นอน คงต้องมี DS รุ่นใดรุ่นหนึ่งตัวนึง
2) Network-attached storage (NAS) ไว้จัดการกับไฟล์เพลงทั้งหมด Hard drive ก้ควรจะใช้ซัก 1TB น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี
3) Wireless Router ไว้เป็นตัวเชื่อมระหว่าง DS กับ NAS และใช้สำหรับเชื่อมต่อการควบคุมแบบ wireless ครับ
4) อุปกรณ์ควบคุมการ playback DS เช่น Iphone, Ipod Touch, PDA, computer
มาดูรูปการต่อเชื่อมอุปกรณ์ทั้งหมด เป็นระบบจริงคนผู้เล่นเมืองนอกครับ ดูว่าเค้าต่ออย่างไร


อ่านจะดูยากหน่อยเพราะรูปไม่ใหญ่มากครับ
แต่เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ดูตามนี้ละกันครับ
1) connection (wired) : NAS ----> Wireless Router ----> Linn DS ----> Pre amp ----> Power amp ----> speakers
2) Control (wireless) : Iphone or PDA or Comp ----> Linn DS via Wireless Router
แล้วเสียงละเป็นอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า File ที่เรา rip จากแผ่น CD มาลง Hard Drive ใน NAS นั้นเราทำแบบ Lossless คือไม่บีบอัดเสียงห่วยๆเหมือน MP3
Lossless file ที่นิยมคือ Flac file ครับ ซึ่ง 1 เพลง ขนาด file มากถึงหลักร้อย MB ครับ ทำให้ขนาด HD ที่บรรจุจำเป้ต้องใหญ่ตามไปด้วย เหมือนที่บอกแต่แรกว่าซัก 1TB ขึ้นไปน่าจะดีครับ
แล้วการเล่น file พวกนี้จะไม่มี Jitter จากการหมุนของแผ่นเหมือนกับเครื่องเล่น CD ครับ ซึ่งทำให้คุณภาพเสียงลดน้อยลงไป ทำให้ผลการฟังเพลงแบบนี้ดีกว่า CD เยอะครับ
ส่วนใครชอบ ไม่ชอบอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ลุงอีกซักพักคงได้เลิกฟัง CD เป้นการถาวรแน่นอน
