อ่านมานานกระทู้นี้ ขอมีส่วนร่วมด้วยคน
ข้อสรุปตามหัวข้อกระทู้ ผมเดาเอาว่าต้องการถามว่าหม้อแปลงราคาแพง กับหม้อแปลงราคาถูก นั้นต่างกันอย่างไร โดยยกตัวอย่างราคา 1,500 กับ 15,000 มาเป็นแนวๆ เพราะตามจริงอย่างคุณ wittaya ว่า 15,000 นี่ผมก็คิดว่าเป็นเพียงระดับเริ่มต้นเท่านั้นเช่นกันครับ พวกรุ่นใหญ่ๆ แกน amorphous หรือพวก silver wiring อย่างที่คุณ diyman ลงรูปยั่วน้ำลาย ราคามันคงจะไปไกลกว่านี้เยอะครับ
ผมสรุปจากที่เคยเห็นและเคยฟังหม้อแปลงแพงๆยังไงก็ดีกว่าครับ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เลี่ยงไม่ได้ มีเพียงบางกรณีเท่านั้นที่หม้อแปลงที่ถูกกว่าแล้วเสียงดีกว่า แต่ที่ถูกมันก็ไม่ใช่ระดับ 1,500 หรือต่ำกว่า 5,000 บาท
ทีนี้ที่ว่าดีกว่า ดีกว่าอย่างไร ผมแยกเป็น 2 ประเด็น คือในส่วนที่วัดได้ เช่น หากเรามีเครื่องมือวัดเราก็มักจะเห็นว่าความถี่ตอบสนองมันกว้างกว่า ตอบสนองได้ราบเรียบกว่า ผมเคยเห็นเพื่อนที่มี scope วัดให้ดู แต่ผมก็ไม่รู้ทางเทคนิคว่าวัดอย่างไร ผมเพียงแต่ดูตามแล้วเขาคำนวนให้ดูก็เห็นมันต่างกันจริงๆ ส่วนประเด็นที่มักจะเป็นเรื่องถกเถียงกันคือเรื่องเสียงดีกว่ากันอันนี้เป็นนามธรรมทำให้ยุ่งยากในการอธิบาย บางท่านจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้ความเห็น เพราะมันอธิบายยากมาก อย่างเสียงกลางหวานมีรายละเอียดกว่ากันนี่บรรทัดฐานมันอยู่ที่ไหนกัน บางทีหม้อแปลง 2 ลูก ลูกหนึ่งวัด spec ทางไฟฟ้ามาดีกว่า แต่พอฟังเสียงอาจไม่ดีกว่า ผมไม่รู้ว่าจะมีเครื่องมือใดที่วัดมาปุ๊ปบอกได้เลยว่าค่านี้เสียงจะหวานกว่าเป็นตัวเลขได้เลย แต่ตอนเราฟังกันผมว่ามันก็ฟังกันออกกันจริงๆเรื่องเสียงหวาน เรื่องรายละเอียดเสียง ว่าใครดีกว่าใคร อันนี้ผมเทียบของแพงกับของถูกนาครับ ไม่ได้เทียบแพงกับแพงเพราะอันนั้นอยู่ที่ใครจะชอบสไตล์ไหนกันแล้ว
ทีนี้เรื่องวัสดุอุปกรณ์ ผมเคยเขียนกระทู้เปรียบเทียบไว้ก่อนหน้านี้มาบ้างแล้ว สรุปได้ว่าของแพงพื้นฐานมันมักจะเห็นได้ชัดว่ามาจาก 2 ส่วน คือ อุปกรณ์ที่ดีกว่าทั้งเหล็กและลวด และที่สำคัญคือเทคนิคการพัน มีบางท่านบอกว่าเมื่อก่อนพันด้วยมือยังดีเลย ผมก็เชื่อครับเพราะหากเราไปดูของแพงๆทั้งหลาย มันก็ยังพันด้วยมือด้วยเทคนิคพิเศษของเขาเองแทบทั้งนั้นครับ ลองดูรายละเอียดใน web site ของ Bartolucci , Hashimoto , Electraprint ดูครับ และผมยังเห็นด้วยเรื่องจิตวิญญานของคนทำครับเพราะอย่าง tamura , partridge ผมว่าแผนก audio output มันขาดทุนครับแต่บริษัทมันก็ยังทำอยู่ได้เพราะมีเงินจากกำไรของแผนกอื่นมาช่วย ผมก็ไม่รู้ว่าทุกวันนี้เขาทำเพื่ออะไร มีช่วงหนึ่ง tamura ราคาแพงมากเพราะทุกคนกลัวมันเลิกผลิต ผมเชื่อว่ามีคนซื้อของแพงเหล่านี้เพราะเชื่อว่าที่ผมเขียนมามันเป็นคุณค่า ที่เขาเสียเงินแลกมาครับ อย่างผมเองไม่รู้ว่าบ้าไปหรือเปล่าผมซื้อหม้อแปลงญี่ปุ่นราคาแพงนิดหน่อยทั้งที่ไม่เคยฟังแค่่ผมอ่าน spec ดูเห็นว่ามันยังพันด้วยมือด้วยเทคนิคดั้งเดิม ผมว่าคนทำมันก็คงบ้าเหมือนกันยังมานั่งพันหม้อแปลงด้วยมือทั้งที่ส้วมของเขาใช้ชักโครกที่กดปุ่มให้น้ำล้างก้นโดยอัตโนมัติซะด้วยซ้ำ

เรื่องที่มักถกเถียงกันหนักทุกครั้งคือเรื่องความคุ้มค่า อันนี้ผมว่าต่างคนต่างมีความคิดและแนวทางของตัวเองอยู่แล้ว อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ ทำแล้วมีความสุขก็ทำกันต่อไปเถอะครับ อย่าเถียงกันเลยครับเดี๋ยวผิดใจกันซะเปล่าๆเราก็นัก diy เหมือนกันทั้งนั้น สร้างสรรผลงานมาแบ่งปันกันชมดีกว่า จะ hi so จะอนาถา ผมก็ชอบอ่านทั้งนั้นครับ

เขียนมาตั้งเยอะลืมหัวใจสำคัญไปได้ คนถามอยากรู้ว่าเสียงดีต่างกันยังไง เท่าที่เคยฟังจะคล้ายกับที่คุณ pokkyman ว่าไว้ คือเบสจะลงลึกกว่าและเป็นตัวเป็นตนกว่า ส่วนที่ค่อนข้างชัดเจนเลยนี่คือปลายแหลมจะกระจ่างและไปได้ไกลกว่าคือมีเสียงที่ทอดยาวกว่า เสียงนุ่มนวลฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายไม่จัดจ้าน รายละเอียดเสียงจะดีกว่าจะได้ยินเสียงบางเสียงที่มันหายไปซะเฉยๆในหม้อแปลงถูกๆ นี่ต้องเทียบบนอุปกรณ์ชุดเดียวกันเลยนะครับ เปลี่ยนแค่หม้อแปลงอย่างเดียว แต่ความแตกต่างจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับหม้อแปลง และความสามารถในการรับรู้ของคนฟังครับ แล้วที่ผมเขียนมาว่ามันแตกต่างกันเยอะ นี่ต้องบนสมมติฐานที่เขาทำขายกันทั่วไปนะครับ ไม่ใช่คุณพี่ไปฟลุ๊คซื้อหม้อแปลง western electric มาในราคาคู่ละ 1,500 หรือซื้อ telefunken มาจากซาเล้ง คู่ละ 500 มาแกะแกนเหล็กแล้วพันเองด้วยเทคนิคพิสดารระดับเซียน แล้วเอามาเทียบนะครับ อย่างนี้ brand name ตายเลย

อ้าวเกือบลืมอุปกรณ์ที่เอามาเป็นตัวทดสอบเปรียบเทียบนี่ยิ่งดียิ่งฟังออกนะครับ ถ้าแอมป์เองมีปัญหาหรือลำโพงเองแหลมมันก็ด้วนอยู่แล้ว อย่างนี้จะกลายเป็นไปโทษหม้อแปลงไม่ดีได้ครับ