HTG2.club

สายกราวด์ AC ทำอย่างไรดี

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ที่บ้านยังไม่มีสายกราวด์ ผมกำลังจะปักกราวด์หรอด (ground rod) และต่อสายกราวด์สำหรับเครื่องเสียงโดยเฉพาะ เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปเลือกปลั๊กไฟผนังเพื่อต่อกราวด์ครับ เห็นมีปลั๊กไฟแบบที่สายกราวด์ต่อเข้าเฉพาะรูต่อของขากราวด์ กับ อีกแบบหนึ่งที่ขากราวด์นี้เชื่อมกับเหล็กยึดปลั๊กไฟด้วย แบบหลังนี้ทำให้สายกราวด์ที่เดิมมาจากกราวด์หรอดเชื่อมเข้ากับท่อเหล็กร้อยสายไฟ (ให้กำแพง) ซึ่งจะเชื่อมกันไปทั้งบ้านเลย

ไม่ทราบว่าควรจะเลือกเดินกราวด์แบบไหนดีครับ  ???


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
อีกวิธี ใช้หม้อแปลง 1:1 แยกกราวด์ออกจากระบบ

cosmo
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ผมเขียน email ไปถามฝ่ายบริการลูกค้าของ Rotel ถามว่าควรจะ upgrade สายไฟ AC ที่มากับเครื่องดีไหม ได้คำตอบว่าไม่จำเป็น แต่ถ้าจะทำควรไปถามที่ Rotel Club ดู ผมได้ข้อมูลมาแชร์เป็นประโยชน์ดีและอ่านสนุกด้วย โดยเฉพาะเรื่องผลของไฟฟ้าต่อระบบ Hi-Fi เป็นภาษาปกิดนะครับ   ::)

The Power and the Glory
http://www.russandrews.com/viewindex.asp?lookup=1&article_id=pgabout

Power cord for your Rotels
http://www.htguide.com/forum/showthread.php4?t=11924



ออฟไลน์ batman

  • ***
    • กระทู้: 102
ผมก็ใช้วิธีตามที่คุณเรดบุ้คลำดับการเชื่อมต่อมาให้ดูครับ   แต่ผมไม่ได้ใช้ข้อ 3 (สายและเต้าออดิโอฟิล) ครับ   ผมต่อสายไฟเอซีเข้ากับเครื่องกรองไฟเลย   ผมคิดว่าข้อ 3 มีไว้ในกรณีที่สายไฟเอซีสั้นไป ก็ต้องใช้สายและเต้าแยกมาช่วยเชื่อมต่อเป็นสถานีส่ง คือใช้เป็นสายต่อ (extension cord) ครับ แต่ถ้าสายไฟเอซียาวพอก็คงไม่ต้องใช้ข้อ 3

สำหรับปลั๊กผนัง ผมใช้ National ธรรมดาครับ ส่วนปลั๊กตัวเมีย (หมายถึงเต้า output ไม่ใช่ IEC) ของเครื่องกรองไฟทั้งสองตัวที่ผมใช้ก็เป็น National เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตทั้ง Silicon และ AV zone เขาก็สามารถ upgrade เป็น Wattgate ได้โดยเราจัดหามาเองครับ สำหรับ Mountain 1 คงไม่น่าจะ upgrade เนื่องจากราคาเต้ารับวัตต์เกตตัวเดียวก็สูงกว่าเมาเท่นวันแล้วครับ  แต่ถ้าเป็นเครื่องกรอง Isolator รุ่น Space 1 หรือเครื่องกรองไฟ/คุมไฟ ตระกูล SXE ซึ่งผมเข้าใจว่าเขาคงใช้ปลั๊กตัวเมียของ Marinco ซึ่งถ้าเป็นตระกูลนี้ก็น่าจะอัพเกรดได้ครับ ค่อยคุ้มค่าตัว Wattgate หน่อย

โครงการต่อไปนี่ผมว่าจะลองอัพเกรดตัวรับตัวเมียที่ฝาผนังกับช่อง Audio ของเครื่องกรองเอวีโซน เป็นของ Wattgate ดูครับ และก็ลองหัวปลั๊กที่เกรดดีขึ้น รวมทั้งของเล่นบางอย่าง เช่น Tip-Toe ฐานรองเครื่อง  ฯลฯ สุดท้ายนี่คงต้องทำห้องฟังอย่างจริง ๆ จัง ๆ ปรับ acoustic ของห้องฟัง   สำหรับอะไรที่ต้องเพิ่มขึ้นอีกนั้น   ผมเห็นด้วยกับความเห็นที่ 2 (คุณ ต.ต้น) ที่ว่าเล่นเครื่องเสียงต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เพิ่มงบประมาณ เนื่องจากเราจะสังเกตเห็นผลที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงไปทีละอย่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นครับ ค่อย ๆ ปรับไปทีละอย่างสองอย่าง มันลุ้น ๆ ดีครับ



ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
คุณแบตแมนขอบคุณสำหรับคำตอบมากครับ มีคำถามต่อว่า การต่ออุปกรณ์สายไฟ AC ก็ควรจะเป็นดังนี้

1. ปลั๊กผนัง --> 2. เครื่องกรองไฟ --> 3.สาย+เต้าออดิโอไฟล์ (Wattgate ฯลฯ) -> 4.หัว-สาย-ท้ายออดิโอไฟล์ (Hubbell ฯลฯ) --> 5.แอมป์

ใช่ไหมครับ หรือ ไม่ต้องมี 3) ให้ต่อ 4) หัว-สาย-ท้าย Hubbell เข้ากับเครื่องกรองไฟเลย ??  รบกวนขอทราบประสบการณ์ด้วยครับ  ผมกำลังจะเดินกราวด์แยกให้ที่ตำแหน่งที่ 1)  ตอนนี้ผมไปเอาสาย TKD กับท้าย Shuter และ หัว Hubbel ที่ Hi-Fi Hut บ้านหม้อ มาลองครับ กำลังคิดที่จะต้องมีอะไรเพิ่มอีกบ้าง


ออฟไลน์ batman

  • ***
    • กระทู้: 102
ตามที่คุณ Redbook ถามเมื่อวาน ตามความเข้าใจของผม ผมมีความเห็นดังนี้ครับ

1. Line Conditioner คือเครื่องกรองไฟ ทำหน้าที่ช่วยขจัดสัญญาณรบกวนที่มาพร้อมกับไฟเอซี ซึ่งมีคลื่นรบกวนจากสัญญาณวิทยุ ทีวี เครื่องเสียงกวนกันเอง และจากกระแสไฟเอซีที่ส่งมาเข้าบ้าน
2. Isolator เป็นเครื่องกรองไฟประเภทหนึ่ง ที่มีหม้อแปลงพันขดลวดแยกกันต่างหากสองชุด รายละเอียดทางเทคนิคมีมาก ผมอ่านแล้วก็ไม่ได้จดจำไว้เท่าไรครับ ผมดูจากผลของการใช้เป็นหลัก แต่เครื่องกรองไฟนี่ก็จะป้องกันพวกไฟกระชากได้ในระดับหนึ่ง
3. Stabilizer หรือเครื่องคุมไฟ   ทำหน้าที่รักษาแรงดันของกระแสไฟฟ้าให้คงที่ ใช้ในกรณีที่ไฟบ้านเราตกหรือเกินมาก ๆ ซึ่งมักเกิดจากการอยู่ใกล้หรือไกลสถานีส่งไฟฟ้ามาก   ตามปกติแล้วเครื่องเสียงทั่วไป โดยเฉพาะทีวี ก็ได้ออกแบบภาคจ่ายไฟให้รองรับกรณีนี้ได้ในระดับหนึ่ง  แต่หากมีตัวนี้ช่วยไว้ ก็จะลดปัญหาไฟตกไฟเกินไปได้มาก ช่วยรักษาอายุเครื่องเสียงครับ
4. UPS หรือ Uninterrupted Power Supply ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าเวลาไฟเมนในบ้านดับ เข้าใจว่าบางเครื่องมีตัวคุมไฟกรองไฟไว้ด้วย   แต่หน้าที่หลักของมันคือจ่ายไฟที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่เป็นไฟสำรองได้ในระยะเวลาจำกัด   จึงน่าจะเหมาะกับพวกคอมพิวเตอร์มากกว่าครับ

ถามว่าเครื่องกรองไฟมีประโยชน์หรือไม่   หลายท่านบอกว่าใช้แล้วเสียงแห้ง อันนี้ผมว่าต้องดูเป็นตัว ๆ ไปครับ   ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่าการต่อ ground เพื่อขนขยะทางไฟฟ้าออกไปนี่สำคัญที่สุด ยิ่งถ้าได้ต่อกราวนด์แยกอย่างที่หลายท่านว่าไว้ก็น่าจะยิ่งดีครับ แต่ปัญหาของผมคือบ้านผมเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบ built-in สายไฟฝังไว้ในผนังหมด กราวนด์รอดคงเป็นกราวนด์รวม ไม่ได้ทำเผื่อไว้เป็นห้องฟังเพลง   การจะรื้อออกหรือเดินกราวนด์ใหม่ให้เครื่องเสียงแยกเป็นตัว ๆ ไปทำได้ลำบากครับ  ผมก็เลยลองจัดหาเครื่องกรองไฟมาใช้หลังจากศึกษา test report ทั้งของไทยของฝรั่งมาระยะหนึ่ง

ผมไม่ใช้เครื่องคุมไฟเนื่องจากบ้านผมไม่มีปัญหาไฟตกไฟเกิน แต่รู้ว่ามีปัญหาเรื่องการรบกวนของคลื่นหรือสัญญาณทางไฟฟ้าแน่นอน เนื่องจากฟังเพลงตอนดึก ๆ สังเกตได้ว่าเสียงดีกว่าฟังตอนกลางวัน จะบอกว่าเสียงรบกวนก็คงไม่ใช่ เพราะบ้านผมอยู่ห่างจากถนนใหญ่เกือบ 1 กิโลเมตร และเป็นซอยตัน ไม่พลุกพล่าน  ผมใช้เครื่องกรองไฟสองตัว ตัวแรกคือ Sidital Mountain 1 ของ Silicon ซื้อมาครั้งแรกต้องการใช้เป็นปลั๊กรางชั้นดี แต่พบว่ามีคุณสมบัติในการกรองไฟได้ดีในระดับหนึ่งด้วย ปัจจุบันผมใช้กับชุดเครื่องเสียงของโซนีซึ่งผมใช้ฟังในห้องทำงาน เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วผมว่าตัวนี้ราคาไม่แพง (ราว ๆ สี่พันบาท) จริงอยู่ครับที่ราคาสูงกว่าปลั๊กรางทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อเทียบคุณภาพแล้วต่างกันมากครับ เงินที่จ่ายเพิ่มก็ไม่ได้มากจนยอมรับไม่ได้  ส่วนอีกตัวหนึ่งที่ใช้กับชุดเครื่องเสียงหลักคือ เอวีโซน รุ่น IS-500 Plus Premium Mark2 ซึ่งเป็นเครื่องกรองระบบ Isolator เท่าที่ใช้ดูก็ไม่ผิดหวังครับ กับเงิน 16,000 บาท (ผมซื้อกับดีลเลอร์) หลายท่านอาจบอกว่าแพง แต่เท่าที่ผมได้ใช้มาสามเดือนนี่ เห็นได้ชัดครับว่าดีขึ้นทั้งภาพและเสียง เสียงไม่ได้แห้งอย่างที่ว่ากัน   ผมทราบเนื่องจากซีดีที่ผมสะสมไว้ส่วนหนึ่งเป็นแผ่นบันทึกการแสดงสด ไม่ใช่แผ่นออดิโอฟิล เสียงแผ่นพวกนี้ไม่ค่อยดีครับ พอใช้เครื่องกรองตัวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเสียงอิ่มขึ้น ไม่หยาบกร้านเหมือนเดิม

เรื่องเครื่องกรองไฟนี่ทำให้ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งคือ ประสบการณ์สำคัญกว่าทฤษฏีครับ เท่าที่ทดลองดู ผมเห็นด้วยว่าเครื่องกรองไฟบางตัวทำให้เสียงแห้งลงจริง ดังนั้นต้องทดลองฟังดูเป็นดีที่สุดครับ ที่จริงอุปกรณ์เครื่องเสียงทุกตัวนี่ต้องลองฟังครับ ถ้าผู้ผลิตแน่จริงต้องให้ลองฟังได้  ซึ่งผู้ผลิตเครื่องกรองไฟทั้ง Silicon และ AV zone ต่างก็ให้ทดลองฟังครับ  ผมก็ซื้อมาสองตัวอย่างที่เล่าให้ท่านฟังนี่ล่ะครับ  มีข้อแม้ว่าส่วนประกอบอื่น ๆ ต้อง OK ในระดับหนึ่งด้วยนะครับ ทั้งระบบสายดิน สายไฟเอซี สายสัญญาณ ฯลฯ  มิฉะนั้นซื้อเครื่องกรองไฟมาจะไม่คุ้ม  เมื่อทุกอย่างโอเคแล้ว ผมถึงได้เห็นชัดเลยว่าที่ผ่านมาเครื่องเสียงของผมไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาให้เห็น มาเห็นก็ตอนใช้อุปกรณ์เครื่องเคียงพวกนี้ด้วยครับ   



ออฟไลน์ badz

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • *****
    • กระทู้: 746
    • เพศ:ชาย
ใหนๆพี่อูฐก็พูดถึงกราวด์แยกแล้ว ผมก็ขอถามต่อเลยว่าถ้าอย่างงี้ทำของแอมป์หนึ่งเส้น ของ CD เส้น แย่งนี้หรือเปล่าครับ แล้วระยะการเดินกราวด์ถึงกราวด์รอดควรจะไม่เกินเท่าใหร่ดีคับ :D
Burn your tires, not your soul...


ออฟไลน์ อูฐ

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • Superstar...
  • *****
    • กระทู้: 4,631
ผมว่าถ้าวันไหน ว่างๆ  ลองเล่นสายกราวนด์ แยกดู   เปิดแอมป์ หาจุดที่กราวนด์ชัดที่สุด  และเดินสายเส้นเดี่ยวแยกต่างหาก  และต่อไปที่กราวนด์หลอด   ที่ปักลงดินต่างหาก  เขาว่าเสียงนิ่งขึ้นและเป็นการแยกกรานด์ต่างหากเลย    คุณ  cool nan  ร้านช่างหนุ่ม เจาะท้าย งานเรียบร้อยมาก   เพราะเขามีประสพกราณ์เรื่องนี้สูง ราคาไม่น่าเกลียด     จาก office คุณ ไปทางถนน กาญจนภิเษก ถึงจะไกลแต่รถโล่ง ขับไปไม่ไกลครับ  หรือฝากไว้ที่ office  เดี่ยวผมให้เด็กผมเอาไปส่งให้ก็ได้น่ะครับ


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ทราบว่าเครื่องกรองไฟจะทำให้คุณภาพเสียงเปลี่ยนไปมากครับ ไม่ทราบว่า Line Conditioner, Isolator หรือ Stabilizer ตัวไหนคืออะไร (ยี่ห้อในตลาดนะครับ) และจะมีผลต่อเสียงมากกว่ากัน เพื่อนผมเขาแนะนำให้เดินสายกราวน์ดีๆ (อย่างที่ถามในกระทู้นี้ครับ) โดยไม่ต้องใช้เครื่องกรองไฟ คุณภาพเสียงจะดีที่สุด แต่ฟ้าผ่านี่สิครับหมดชุดเลยนะ  :-\  ใช้ UPS จะดีไหมครับ


ออฟไลน์ batman

  • ***
    • กระทู้: 102
ผมไม่เคยใช้สะพานไฟที่มีตัวกันฟ้าผ่าที่คุณเรดบุ๊คกล่าวถึงเลยครับ เลยไม่ทราบผลต่อเสียง (ซึ่งผมเดาว่าไม่น่ามีผลจนเห็นได้ชัดเจน) แต่หากมันป้องกันผลของฟ้าผ่าฟ้าคะนองได้ผล ผมว่าน่าใช้ครับ  ส่วนตัวผมเอง ผมว่าเราคงต้องให้ความสำคัญของเรื่องป้องกันไฟกระชากนี่มาก่อนเรื่องเสียงครับ  ผมใช้เครื่องกรองไฟ (line conditioner) ระบบ Isolator ซึ่งผู้ผลิตแจ้งว่าจะกันไฟกระชาก (surge หรือ spike) ได้ระดับหนึ่ง แต่หากแถวบ้านท่านมีปัญหาเรื่องไฟดับ ไฟตก และไฟกระชากทันทีทันใดบ่อย ๆ ใช้เครื่องคุมไฟ (stabilizer) ก็น่าจะปลอดภัยมากขึ้น ถนอมอายุชุดเครื่องเสียงได้อีกนานครับ   อย่างไรก็ตาม หากมีฝนฟ้าคะนองแรง ๆ นี่ ปิดเครื่อง แล้วดึงปลั๊กไฟตัวผู้ต้นทาง (กรณีที่ใช้ปลั๊กรางหรือเครื่องคุมไฟ/กรองไฟ) ออกจากเต้ารับตัวเมียที่ฝาผนังน่าจะเหมาะสมที่สุดครับ   เครื่องป้องกันทั้งหลายที่เราพูดถึงกันนั้นป้องกันได้แค่ระดับหนึ่ง   หากโดนเข้าจัง ๆ นี่ผมว่าไปหมดทั้งชุดเครื่องเสียงทั้งเครื่องป้องกันครับ   อันนี้น่าจะรวมไปถึงสายอากาศทีวี (ป้องกันฟลายแบ๊คเสื่อม) สายอากาศจูนเนอร์ (กรณีตั้งเสานอกบ้าน) และกล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวีด้วยครับ   เพื่อนผมคนหนึ่งเคยเจอมาแล้วครับ ฟ้าผ่าใกล้ ๆ บ้านซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวอยู่กลางทุ่ง ชุดเครื่องเสียง / คอมพิวเตอร์ พินาศยกชุดเลยครับ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เปิดเครื่องฟังขณะนั้น


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ขอรบกวนถามอีกเรื่องหนึ่งครับ แถวบ้านผมมีไฟดับแล้วฝนฟ้าผ่าตกบางครั้ง  คิดว่าควรใช้สะพานไฟที่มีตัวกันฟ้าผ่า (200-300 บาทที่ใช้กันอยู่ทั่วไป) ด้วย  ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ผลของเสียงเป็นอย่างไร ถึงแม้จะใช้ wattgate มาต่ออีกทีหนึ่งครับ  :o


ออฟไลน์ Help !!!

  • Guest (บุคคลทั่วไป)
  • Superstar...
  • *
    • กระทู้: 5,866
  • Please Help Thanks
ผมกำลังจะทำสายไฟ AC ใหม่เหมือนกันครับ( 3 ขา ) แต่มีปัญหาที่ว่าจะรู้ได้อย่างไรครับว่า ขั้วไหนเป็นไฟ และขั้วไหนเป็นนิวตรอน หรือต้องใช้วิธีการฟั้งเสียงโดยการสลับปลั๊กไปมาเพื่อความแน่ใจก่อน เท่าที่สังเกตผมว่าฟังอยากนะครับว่าเฟสถูกต้องหรือเปล่าถ้าระบบไฟฟ้าไม่ดีจริง ขอบคุณครับ

sak
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เพื่อนๆที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกฝากถามมา ก็ขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆสมาชิก ช่วยตอบให้ด้วยนะคร๊าบผม...ขอบคุณมั่กๆครับ...


ออฟไลน์ batman

  • ***
    • กระทู้: 102
ที่ผมใช้ชูเตอร์นี่ก็เนื่องจากมันราคาไม่สูงน่ะครับ ผมเริ่มชิมลางจากท้ายชูเตอร์ หัว Pass & Seymour, Arrow Hart ฯลฯ สำหรับฮับเบลเหลี่ยมดำนี่เห็นด้วยครับว่าเป็นของดีราคาไม่แพงตัวหนึ่ง  หลังจากใช้ไปสักพักก็ดูยี่ห้ออื่นแล้วผมว่าน่า upgrade ขึ้นไปเล่นเหมือนกัน ทั้ง Wattgate, FIM   ส่วนหัวตัวผู้นี่ผมขอเพิ่ม Bryant เข้าไปอีกยี่ห้อ   ถ้าพร้อมจะเล่นของดีราคาสูงหน่อย ผมว่าเล่นของดีไปเลยดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องเสียเงินสองต่อ


ออฟไลน์ ตั้งไข่

  • Superstar....
  • *****
    • กระทู้: 20,033
    • เพศ:ชาย
  • Keane and Ken's Daddy
    • FotoCoffeeS.com
ที่ร้านของพี่จิต ตรง eSquare ก็รับเปลี่ยนท้ายเครื่องครับ น่าจะใกล้เข้ามาหน่อย
ไม่อยากหมดตรูด ต้องยึดนโยบาย "น้ำเต็มแก้ว" กับ "กบในกะลา"

"ไฟบางทีก็ดับด้วยน้ำไม่ได้ ต้องใช้ระเบิดโยน" by pop2000

ของพี่ๆเขา เพราะลำโพงคู่เดียว ส่วนของผม เพราะแอมป์ตัวเดียว :black_eye



ออฟไลน์ batman

  • ***
    • กระทู้: 102
ผมใช้สายของ Supra รุ่น LoRad ซึ่งย่อมาจาก Low Radiation คือมีคลื่นรบกวนออกมาจากสายไฟน้อย เพื่อที่จะได้ไม่ไปรบกวนสายไฟหรือสายสัญญาณอื่น ๆ ในระบบ เป็นสายยอดนิยมยี่ห้อหนึ่งสำหรับ DIY (Do-It-Yourself) นัยว่ามันถูกดีครับเมื่อเทียบกับคุณภาพ ราคาตั้ง 900 บาทต่อเมตร ซื้อจากดีลเลอร์น่าจะลดได้อีกราว 20% ครับ   สำหรับสายซูปรา หากซื้อจากเอเยนต์ (โคไนซ์) เขาบอกว่าบริการเข้าหัวปลั๊กให้ด้วยครับ   แต่ความที่อยากลองทำเองดู ผมก็เลยซื้อจากดีลเลอร์แล้วเข้าหัวเอง ซึ่งคงจะไม่ประณีตเท่ากับที่ให้ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญทำให้  ถ้าจะให้ดีกว่านี้ก็อาจใส่หนังงู ท่อหด หล่อเรซินกันออกไซด์กันลัดวงจร ฯลฯ ซึ่งผมไม่ได้ทำครับ  แค่ใส่ท้าย IEC กับเปลี่ยนสายไฟนี่ก็เห็นผลชัดขึ้นมาก   มันทำให้ผมหายข้องใจเลยว่าทำไมเขาจึงเล่นสายไฟเอซีกัน   ผู้เชี่ยวชาญบางท่านบอกว่าสายไฟมีผลต่อเสียงชัดเจนยิ่งกว่าสายสัญญาณเสียอีก
   
หัวปลั๊กตัวเมีย (ตัวท้าย) ผมใช้ Schurter รุ่น 4781 ตัวละราว ๆ 170 บาท หัวปลั๊กตัวผู้ ผมใช้ Arrow Hart สีส้ม ตัวละประมาณ 650 บาท สำหรับสายไฟเข้าแอมป์ กับ Hubbell เหลี่ยมดำ ตัวละ 350 บาท สำหรับสายไฟเข้าเครื่องเล่นซีดี  ผมซื้อชูเตอร์จากร้านอุปกรณ์ร้านหนึ่งซื่งเข้าใจว่าเลิกกิจการไปแล้ว แต่ชูเตอร์นี่มีขายเกลื่อนกลาดครับ ราคาอาจปรับขึ้นไปแล้วบ้าง   ส่วนปลั๊กตัวผู้ผมซื้อจากร้านไฮไฟฮัท แถว ๆ บ้านหม้อ (ได้ยินว่าย้ายไปแล้ว เท็จจริงไม่ยืนยันครับ) ผมว่าเขาบริการดีครับ

มีร้านเครื่องเสียงหรือร้านอุปกรณ์บางแห่งทำสายเอซีรุ่นนี้ออกมาขายสำเร็จรูปโดยเข้าหัวท้ายให้เสร็จ ที่เคยเห็นที่ร้านดีลเลอร์เจ้าประจำของผมซึ่งคงรับมาวางขายอีกต่อหนึ่งก็เป็นสายยาว 1.8 เมตร หัว Arrow Hart สีส้ม ท้ายชูเตอร์แบบที่ผมใช้ ราคาถ้าจำไม่ผิดราว ๆ 3,300 บาท  ก็คงมีค่าแรงกับกำไรของดีลเลอร์บวกเข้าไป

สำหรับหัว Arrow Hart สีส้มนี่ผมพบว่ามันแปลกไปจากหัวปลั๊กยี่ห้ออื่นๆ ที่เคยลอง กล่าวคือ ขั้วที่ระบุว่าเป็น Insulation เอาเข้าจริงต้องใส่สาย + หรือสายที่มีไฟ (คือสาย Live ซึ่ง LoRad กำหนดเป็นสีน้ำตาล) ส่วนขั้วที่ระบุเป็น Live ต้องใส่สาย 0 (คือสาย Neutral ซึ่ง LoRad กำหนดเป็นสีฟ้า) หรือพูดให้ง่ายเข้าก็คือขั้วมันสลับกัน   ส่วนขั้ว earth หรือสายกราวนด์นั้นปกติครับ   


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
รบกวนถามคุณ batman ว่าสายและหัวที่ใช้ยี่ห้ออะไรครับ ราคาประมาณเท่าไร เพื่อจะได้ประมาณราคาได้ถูก ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ cool_non

  • ****
    • กระทู้: 299
    • เพศ:ชาย
  • (คูล-นัน)ครับผม
อยากเปลี่ยนดีวีดีที่บ้านเหมือนกันพอดีหมดประกันแล้ว
เห็นเคยมีคนโพสไว้บอกว่าแถวศิริราชก็มีช่างรับทำอยู่
มีใครเคยใช้บริการบ้างไหมครับ
เพราะร้านคุณหนุ่มไฮไฟ และเอวีโซนไกลจากบ้านผมมาก
หรือมีที่อื่นแนะนำไหมครับ


ออฟไลน์ Ao Scuba

  • ****
    • กระทู้: 383
    • เพศ:ชาย
    • https://www.facebook.com/Patt.Mobile.iT
ถ้าเปลี่ยน ท้ายเครื่องแล้ว ต้อง ระวัง เรื่อง กราวด์ที่บ้านด้วยนะครับ ถ้า ทำ กราวด์ที่บ้านไม่ดีอาจเกิดเสียง รบกวนได้
https://www.facebook.com/Patt.Mobile.iT
ชลบุรี บริการ ซ่อมคอม ซ่อมโทรศัพท์ ปรึกษาฟรี


ออฟไลน์ batman

  • ***
    • กระทู้: 102
อ่านโจทย์แล้ว เข้าใจว่าท่านหมายถึงชุดเครื่องเสียงไม่มีขากราวนด์  ชุดผมเองเดิมก็ไม่มีกราวนด์ครับ  ผมเลยยกไปใส่ปลั๊กตัวเมีย IEC สามขา ทั้งแอมป์ ซีดี ดีวีดี (จริง ๆ แล้วจำเป็นสำหรับแอมป์ ลองกับแอมป์ดูก่อนก็ได้ครับ พวกเพลเยอร์เอาไว้ทีหลัง แต่ผมทำแล้วด้วยความอยากรู้ก็เลยทำหมดเลย) แล้วซื้อสายไฟเอซีมาใส่หัวท้ายเอาเอง (จะซื้อสำเร็จรูปก็ได้ครับสะดวกดี)  ร้านที่รับใส่ IEC เท่าที่ทราบก็มีร้านหนุ่มไฮไฟ และเอวีโซน ลองตรวจสอบสนนราคาก่อนครับ ราคาขึ้นกับเกรดของปลั๊ก IEC ด้วยว่าจะใช้เกรดไหน

ใส่แล้วใช้สายไฟเอซีที่ไม่ใช่สายแถมหรือสายที่ติดมากับเครื่อง (หมายถึงเครื่องเสียงทั่ว ๆ ไปที่ไม่ใช่ไฮเอนด์ ซึ่งสายที่ติดมากับเครื่องน่าจะดีอยู่แล้ว) เสียงดีขึ้นครับ ฟังออกแน่นอน แต่ไฟบ้านเราต้องมีกราวนด์ด้วยนะครับ


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265

กำลังจะเดินสายกราวด์ให้กับชุดเครื่องเสียง เครื่องเล่น CD ไม่มีขากราวด์จะทำอย่างไรครับ อยากทราบว่าพวกสาย AC ที่เป็นออดิโอไฟล์เกรดจะช่วยให้เสียงดีจริงหรือไม่ ต้องเปลี่ยนให้กับ amp preamp และเครื่องเล่น CD/DVD ทั้งหมดเลยหรือไม่