ไฟจากภาคจ่ายไฟตกลงเหลือ +/- 14.2V จาก +/- 16.3V ตอนต่อข้างเดียว เนื่องมาจากกระแสถูกดึงจาก AX จาก 4.5 เป็น 9 Amp ส่งผลให้ Absolute DC เพิ่มเป็น 1.2 - 1.5V
ควรจะเผื่อขนาดแอมป์ของหม้อแปลงที่จะใช้ 3 - 5 เท่าครับ
เช่น ตอนนี้ใช้กระแส 9 แอมป์ ก็ควรเผื่อขนาดหม้อแปลงเป็น 27 - 45 แอมป์ครับ

หรือไม่ก็ต้องสั่งเพิ่มอีกตัวทำเป็น Mono block ครับ
ตอนนี้ข้างละ 4.5 แอมป์ ก็ควรใช้
หม้อแปลง 13.5 แอมป์ / ข้างขึ้นไปครับ เมื่อคิดถึงราคาหม้อแปลงแล้ว
ก็ยังหนาวอยู่ดีครับ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม XA200 ตัวจริงมันถึงแพงได้ขนาดนั้น
งานต่อไปคือต้องแก้ไข Absolute DC ให้ได้ต่ำกว่า 100 mV อาจจะต้องรื้อ diff pair มาแมตช์ใหม่,
เป็นข้อสังเกตุของผมเองนะครับ ว่าตอนทำการแมทช์ตัวมอสเฟตนั้น
เราไม่ได้เชื่อมโยงความร้อนเข้าคู่กันด้วย ถึงแม้จะได้ คู่ diff ที่ VGS ต่างกันแค่ 0.01 V
แต่พอเราเอามาลงวงจรจริงๆ นั้นคู่ diff ได้ทำการเชื่อมโยงความร้อนของทั้งคู่
จาก Heatsink อุณหภูมิเปลี่ยน VGS เปลี่ยนครับ ทำให้ไม่ได้คู่ที่ Match จริงๆครับ
ลองใหม่ครับ หรือไม่ก็ Match ในวงจรที่ใช้จริงเลยครับ
ดัดแปลงเอา Socket IC 6 ขามาตัดครึ่งแล้วบัดกรีลงแผ่นปริ้น
จากนั้นก็ลองจับคู่มอสเฟต เสียบเข้า เสียบออก จนวัดไฟ Absolute DC
ให้ได้น้อยที่สุด คู่นั้นแหล่ะครับใช่เลย ทนเหนื่อยนิดนึง แต่ทำทีเดียวจบครับ
ตอนทำ Aleph ผมก็ครับ แมทช์มอสเฟตข้างนอก ได้คู่ที่คิดว่า VGS เท่ากันที่สุดแล้ว
พอลงวงจรจริง กับอีกเรื่องนึงเลยครับ
เลยต้องแมทช์ในวงจรจริงๆเลยครับ ได้ DC output ไม่ถึง 10 mV ครับ
ไฟจากภาคจ่ายไฟตกลงเหลือ +/- 14.2V จาก +/- 16.3V
ส่งผลให้ Absolute DC เพิ่มเป็น 1.2 - 1.5V แล้วก็ไม่ลดลงด้วยแม้ว่าจะเปิดไว้นานเป็นชั่วโมง
ไฟต่ำกว่าเดิม น่าจะส่งผลที่ภาคเอ้าท์พุทด้วยครับ ทำให้ Absolute DC เพิ่ม
จริงๆแล้วตัวมอสเฟตน่าจะรันที่ไฟ สูงกว่า 15V ครับ ต่ำกว่านี้ผมว่ามันไม่ค่อยเสถียรและ
ตัวมอสเฟตเองก็ linear น้อยลงด้วยทำให้ Distrotion เพิ่มขึ้นด้วยครับ
ว้าว !!! ไม่รู้จะบรรยายอย่างไงดีครับ มันเหมือน Aleph 30 ติดเทอร์โบครับ หากใครเคยฟัง Aleph3/30 มาก่อนคงจะชื่นชอบกับช่วงเสียงกลางกับแหลมที่หวานฉ่ำกังวานฟังสบาย ๆ แต่ AX ช่วยลดข้อบกพร่องในส่วนของเบสและกำลังขับที่ค่อนข้างบางไปนิดของ Aleph ยิ่งเมื่อเจอลำโพงที่ติดนิสัยดื้อ ๆ กำลังขับในช่วงเบสของ AX เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งครับ
กำลังขับของ AX มีสำรองไว้เหลือเฟือครับ ในขณะเดียวกันก็ยังคงความอบอุ่นในช่วงเสียงร้องไว้ได้อย่างดี แม้ว่าAleph3/30 จะโดดเด่นมากในจุดนี้เนื่องจากมันเป็น SE amp แต่ AX ก็ทำได้ไม่แพ้กันมากมายนัก สิ่งที่ชดเชยกันได้ก็คือไดนามิคที่ยอดเยี่ยมขึ้นครับเหมือนกับนักร้องมีปอดแข็งแรงขึ้น
ช่วงเสียงแหลมก็ดูคมชัดขึ้นทีเดียวเมื่อเทียบกับ Aleph3/30 ที่มีอาการฟุ้งบ้างนิดหน่อย แต่ AX ดูจะมีโฟกัสดีขึ้นมากทีเดียว อาจจะเป็นผลบุญโดยตรงจาก SuSy feedback จากมันสมองของ อ. Nelson Pass นั่นเองครับ
