� � � � � �แหะ แหะ มาตอบกระทู้ต่อ โอ้โฮ ข้าศึกมาตรึมเลยวุ้ย !!
� � ตอบคุณ Lapath ก่อนนะครับ อย่างแรกเลยเรื่องเครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ที่เอามาฉายกลางแปลงเนี่ย� ไม่มีการกำหนดเวลาว่ากี่ชั่วโมงถึงพักเครื่อง� ฉายกันแบบ Nonstop จนกว่าคนฉายคือผมจะง่วงเมื่อไหร่ เท่าที่ทำสถิติอย่างไม่ป็นทางการ คือการฉายครั้งที่สองที่เอาไปฉายนอกบ้านให้ชาวบ้านแถวนั้นดูกันฟรีๆ� เนี่ยเริ่มฉายตั้งแต่หนึ่งทุ่มยันตีสามติดต่อกันไม่มีพัก การฉายหนที่สองเนี่ยเตรียมโปรเจ็คเตอร์ไปสองเครื่องกลัวเครื่องจะเดี้ยงเหมือนกัน� กะว่าจะใช้ผลัดกันฉาย แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเครื่องเดียวก็ไม่มีปัญหาใดๆเลย ในหนต่อๆมาก็เลยขนไปเครื่องเดียวก็พอ
ตอนลองใหม่ๆ ก็กังวลทุกอย่างทั้งเรื่องเครื่องกรองไฟ สายสัญญาณภาพและเสียง แม้กระทั่งแผ่นดีวีดีที่เตรียมไปต้องเป็นแผ่นแท้ทุกเรื่อง พอลองไปลองมาหลายหนเข้า กลายเป็นว่าสิ่งที่กังวลนั้นไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นเลย ถึงตอนนี้ก็เลยหนักไปทาง DIYกลายๆ� ทั้งต่อตู้ลำโพง4คู่ขึ้นเองเพื่อใช้กับงานกลางแจ้งโดยเฉพาะ� สายสัญญาณต่างๆก็ซื้อสายสัญญาณกับหัวมาเข้าสายเอง หนักไปทางมั่วและเอามันส์ครับ ลองผิดลองถูกให้ดะไปหมด ตอนนี้ลองเอาแผ่นวีซีดีลิเกตลกชวนชื่นฉายขึ้นจอ ก็ดูได้ครับแต่ภาพค่อนข้างไปทางแย่ถึงแย่มาก� ก็เลยต้องเอาคอมมาเป็นตัวกำเนิดสัญญาณภาพแทนเครื่องดีวีดีที่เคยใช้ในการฉายครั้งก่อนๆ เพราะคุณภาพของภาพที่ได้มันผิดกันเยอะมาก� (ตอนใช้เครื่องดีวีดีทีแรกลองปล่อยสัญญาณภาพออกที่ 480i พอใช้ DVI-9 ก็ลองมันหมดทุกอย่างตั้งแต่ 480p ,720i,720p,1080i และ 1080p) ขึ้นอยู่กับหนังที่เราใช้เปิดด้วยถ้ามาเป็นแบบรายละเอียดสูงอบ่างหนังไฮเดฟ1080i บางเรื่องก็ปรับการปล่อยสัญญาณภาพตามครับ� แต่ส่วนใหญ่ถ้าเปิดหนังโดยทั่วๆไปผมมักปรับมาที่ 720p ก็โอเคแล้วครับ� ซึ่งความเป็นจริงแล้วที่ทำอย่างนี้ไม่ใช่ร้อนวิชาอันใดหรอกครับ� คือในต่างจังหวัดเนี่ยไม่สามารถที่จะไปหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการที่จะนามาใช้ในโปรเจ็คของผมได้ ก็เลยต้องเล่นวิชาเชิงช่างดัดแปลงหาเอาว้สดุอุปกรณ์หรือเครื่องเท่าที่พอจะหาได้เอามาทำ เพื่อให้โปรเจ็คมันเดินต่อไปได้ โดยไม่ใช้ทุนสูงจนเกินกว่าจะรับได้เท่านั้นเองครับ
� � � � � �ส่วนเรื่องของการปรับภาพนั้นเดืมทีทางร้านเขาจะปรับเครื่องโปรเจ็คเตอร์ให้โดยใช้เครื่อง Coulor Fax ปรับ แต่เนื่องจากระยะเวลาที่ไม่อำนวยจนทำให้ผมเซ็นรับเครื่องเอามาก่อน� เพราะคิดว่าจะเอามาปรับเองคงพอไหว แต่พอถึงเวลาจะฉายจริงๆก็ตาเเหลือกครับเนื่องจาก ไม่มีคู่มืออันใดมาให้คลำได้เลย� ต้องงมกันอยู่สักพักกว่าจะคุ้นเคยและต้องใช้วิธีปรับภาพในโหมด set up ไปพลางๆก่อนทั้ง contrast . Brightness, Colour พอได้เรื่องได้ราวแล้วทีนี้ก็หาโหมดปรับแบบ Advance ละครับโดยเทียบกับแผ่น test ภาพยอดนิยม ที่ผมใช้บ่อยๆก็คือ จากหนังเรื่อง Vertical Limit Superbit ตอนปีนหน้าผาต้นเรื่อง กับตอนที่ 18 ที่พายุหิมะถล่ม ปรับไล่ไปทีละส่วนครับที่ขนาดจอฉายประมาณ 70 - 80 นิ้ว พูดง่ายๆก็คือปรับตามความพอใจครับ เนื่องจากแต่ละยี่ห้อที่เอามาลองฉายเนี่ย โดยเฉพาะตระกูล DLP โทนสีและบุคคลิกของภาพจะมาในแนวดียวกัน� ต่างกันกับการปรับด้วยเครื่องซึ่งดีกว่าแน่นอนครับ� หลังจากปรับจนตัวเองพอใจแล้วก็ถึงจะเอาไปฉายขึ้นจอกลางแปลงอีกทีครับ�
� � � � � � สำหรับภาพยนตร์ที่เตรียมนำไปฉายเนี่ย มีขนไปทุกประเภทตามใจผมครับ� โดยเฉพาะหนังในช่วงปี ค.ศ 1965 - 1979 จะมีเยอะเป็นพิเศษอย่างเช่น หนังชอร์บราเดอร์ ดังภาพโปสเตอร์ที่เอามาโชว์ครับ เรื่องอะไรคงไม่ต้องบอกนะครับ
� � � � � �
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม, 2005, 10:21:49 pm โดย JTR »
ยังคง Anti ปลาพะยูนแถวเจริญนครซอย 10 เหมียนเดิมเฟ๊ย !!