น้ำตาล หวาน ชัวร์
ระวังอ้วนนะครับพี่ 
รบกวนขอคำอธิบายเรื่อง
อิมพิแดนขาออก(ของปรีแอมป์) และอิมพิแดนขาเข้า(ของพาวเวอร์แอมป์) รวมถึงค่าแดมปิ๊งแฟคเตอร์หน่อยได้ไหมครับ (คุ้นๆว่าได้ยินในวันงานหน่ะครับ) 
สมมติผมซื้อปรีมา
Line Level Outputs
Output impedance Pre Out 75 ohms
Tape Source Z + 1k ohms
Headphones 100 ohms
Maximum output level Pre Out 15V (IHF Load)
Tape 15V (IHF Load)
Headphones 190mV into 8 ohms
แล้วจะทำพาวเวอร์ ยังไงให้แมทกัน หรือทำยังไงให้ดีครับ
สวัสดีครับ
ขอตอบ ด้วยความรู้อันน้อยนิดครับปรีแอมป์ ที่ดี Output Impedance ต้องประมาณ 47- 100 Ohms ครับ ถ้าปรีหลอดต่ำกว่า 1 K ถือว่าดีแล้วครับ
เพาว์เวอร์แอมป์ input Impedance 47 - 100 KOhms (แต่มาตรฐานส่วนใหญ่อยู่ที่ 47 K ) ถ้าแอมป์หลอด ต่ำกว่า 100 K ถือว่าดีแล้วครับ
ปล.ปัญหาส่วนใหญ่มักจะเจอ ปรีแอมป์ กับ เพาว์เวอร์แอมป์ ไม่ค่อยเข้ากับ เนื่องมาจาก นำปรีแอมป์ Output Impedance สูง มาใช้งานกับ เพาว์เวอร์แอมป์ input Impedance ต่ำ ครับ แต่ถ้าเล่นเครื่องเสียงที่เป็นหลอด คุณต้องลืมที่ผมกล่าวมาเลยครับ ต้องฟังเอาตามความชอบอย่างเดียวครับ และ ถ้าฟังเพลงที่น้อยๆชิ้น ก็จะไม่แสดงออกชัดมากนัก
ส่วน ค่าแดมปิ๊งแฟคเตอร์ ยิ่งมากการหยุดยั้ง ไดร์เวอร์ จะทำได้ดีครับ ค่าแดมปิ๊งแฟคเตอร หัวใจสำคัญอยู่ที่ภาคจ่ายไฟต้องแข็งแรง จ่ายทั้งกระแสได้คงที่ไม่ว่า โหลด Impedance ( ลำโพง ) ไม่ว่าสวิงต่ำถึง 0 กว่า ๆ 2 Ohms ซึ่งถ้าภาคจ่ายไฟไม่สามารถจ่ายกระแสคงที่ได้ (โวลท์ร่วง) เช่น ที่มีหลายท่านได้กล่าวไว้ว่า ลำโพง 8 Ohms กับ ลำโพง 4 Ohms ขับด้วยแอมป์ตัวเดียวกัน ที่จ่ายกระแสได้ตงที่ ไม่ว่า โหลด Impedance ( ลำโพง ) ไม่ว่าสวิงต่ำถึง 0 กว่า ๆ 2 Ohms ลำโพง 4 Ohms เสียงจะดังกว่า และ เมื่อ ขับ ลำโพง 4 Ohms วัตต์ก็จะเพิ่มขึ้นครับ ค่าแดมปิ๊งแฟคเตอร์ วัดได้โดย เทสโหลด แล้วคำนวน กลับ โดยวัดจาก โวลท์ที่เปลี่ยนแปลงมาคำนวนครับ
เอาแค่นี้ก่อนครับ