ศึกแอลซีดีทีวีระลอกใหม่ "ชาร์ป" จุดพลุดัมพ์ Full HD 
แอลซีดีทีวี 32 นิ้ว ราคา 25,000 บาท พร้อมแถมชุดโฮมเธียเตอร์ อาจจะไม่เพียงพอเสียแล้วสำหรับที่จะสร้างสีสันกระตุ้นลูกค้า เพราะใครๆ ก็ทำกันและเป็นรุ่นความคมชัดภาพทั่วไปแบบ WXGA ที่ยังไม่ใช่ที่สุด 
ล่าสุดสงครามแอลซีดีทีวีรอบใหม่ในเซ็กเมนต์ใหม่ได้ปะทุขึ้นอีกรอบ โดยที่ "ชาร์ปไทย" ได้ปลุกตลาดครั้งใหญ่ ด้วยการลดราคาแอลซีดี full HD ขนาด 42 นิ้ว เหลือเพียง 69,000 บาท จากราคาปกติ 109,000 บาท 
เป็นการเปิดเกมใหม่ที่สร้างความแรงในการกระตุ้นตลาดได้ไม่น้อย แถมยังพ่วงแคมเปญซื้อแอลซีดี ขนาด 37 นิ้ว เพิ่มเงินอีก 2,000 บาท แถมฟรีแอลซีดี ขนาด 32 นิ้ว เข้ามาเสริม 
ภาพที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นการเปิดราคาขายเฉพาะหน้าร้าน และคัดเลือกเฉพาะดีลเลอร์รายหลักที่มีศักยภาพในการทำตลาดดังกล่าว เป็นการสานนโยบายบริษัทแม่ที่ต้องการรุกตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น เพื่อหวังเป็นสะพานกลับมา ทวงคืนบัลลังก์แชมป์ภายในอีก 2 ปี 
ว่ากันว่าตลาดรวมแอลซีดีทีวีปีนี้ทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ 265,000 ยูนิต หรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะช่วงปลายปีเป็นหน้าขายที่สำคัญ บวกกับแคมเปญของแต่ละค่ายที่จะออกมาจูงใจ ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ 
ผ่านมา ตลาดรวมโตมากกว่า 161% หรือ 63,500 ยูนิตแล้ว 
ทั้งนี้แอลซีดีทีวีแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ตามระดับความคมชัดของภาพ คือ (1,366x763) และ full HD (1,920x1,080) ทำให้แม้ว่าขนาดความกว้างของจอจะเท่ากัน แต่ราคาอาจไม่เท่ากันก็ได้ เพราะความละเอียดของภาพที่เป็นฟูลเอชดีจะแพงกว่าเท่าตัว เฉลี่ยคร่าวๆ แล้วจอฟูลเอชดีขนาด 42 นิ้ว ราคาอยู่ 1-1.2 แสนบาท ขณะที่จอแบบ WXGA ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 59,000-69,000 บาท ในขนาดจอเท่ากัน 
ที่ผ่านมาการทำตลาดของแต่ละค่ายจะใช้จอ WXGA เป็นไฟติ้งโมเดลแข่งราคาเป็นหลักเพื่อสร้างยอดขาย และเก็บส่วนแบ่งตลาดในแง่ของจำนวนยูนิต ขณะที่ระดับฟูลเอชดีจะเก็บไว้เป็นตลาดไฮเอนด์เพื่อรักษามาร์จิ้น เพราะเป็น เซ็กเมนต์เฉพาะที่ลูกค้าไม่ได้มองในเรื่องของราคาเป็นปัจจัยอันดับแรกๆ ในการตัดสินใจซื้อ เมื่อเทียบกับฟีเจอร์และเทคโนโลยี 
และความเคลื่อนไหวของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ล่าสุด "ชาร์ปไทย" ได้เปิดสงครามราคาใน เซ็กเมนต์ไฮเอนด์นี้แล้ว 
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า ชาร์ปได้ส่ง "อะควอส" รุ่นใหม่ที่เป็นฟูลเอชดี เข้าไปทำกิจกรรมราคาพิเศษกับร้านค้ารายย่อย ขนาด 42 นิ้ว ราคาป้ายขาย 109,990 บาท แต่พนักงานยื่นข้อเสนอให้ในราคาพิเศษเพียง 69,000 บาท พร้อมผ่อน 0% ได้นาน 12 เดือน 
พร้อมกันนี้พนักงานขายในร้านยังให้เหตุผลของการติดราคาป้ายกับการขายจริงที่ถูกกว่าครึ่งนี้ว่า "ไม่สามารถติดราคาป้ายหน้าร้าน 69,000 บาทได้ เพราะซัพพลายเออร์ไม่อยากจะมีปัญหากับร้านค้ารายอื่นๆ และราคานี้จะเลือกทำเฉพาะในบางร้านค้าที่มองว่ามีศักยภาพ และขายสินค้าที่ตรงกับกลุ่มทาร์เก็ต และร้านจะบอกราคานี้กับลูกค้าที่มีแนวโน้มว่าสนใจจะซื้อจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี" 
ผลตอบรับหลังจากที่เริ่มแคมเปญนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนก่อน (27 กันยายน) พนักงานขายรายนี้บอกว่าเกินคาด กระตุ้นความสนใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเพราะชื่อเสียงของเทคโนโลยีอะควอสเป็นที่ยอมรับ บวกกับการชู จุดขายด้วยการติดป้ายที่แอลซีดีทุกเครื่องว่า Made in Japan ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้มาก 
ขณะที่ดีลเลอร์ชาร์ปอีกรายหนึ่ง ที่ชาร์ปไทยเลือกเพื่อทำเทรดโปรโมชั่นแอลซีดีทีวีเชิงรุกร่วมกันอีกราย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากที่ชาร์ปเรียกประชุมดีลเลอร์ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศนโยบายและแนวทางที่ชัดเจนของชาร์ปไทย ด้วยการเทน้ำหนักให้ความสำคัญกับร้านดีลเลอร์รายย่อยมากขึ้น มีกิจกรรมทางหน้าร้านและแคมเปญเฉพาะร่วมกัน แต่ช่วงแรกการเพิ่มงบฯอัดกิจกรรมเชิงรุกจะเลือกเป็นบางร้าน บางพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งก่อน 
"หลังจากที่ควบรวมบริษัทและนโยบายใหม่ที่รุกตลาดมากขึ้น ตอนนี้กลยุทธ์เทงบฯให้กับ ดีลเลอร์กระตุ้นยอดขายในรูปแบบต่างๆ ของค่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังแข่งกันอย่างหนัก เพราะทุกคนต่างต้องการผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และชาร์ปก็ติด 1 ใน 5 แบรนด์หลักที่ทุ่มงบฯตลาดเพิ่มกระสุนให้กับร้านค้า รองจากซัมซุง แอลจี พานาโซนิค และโซนี่" 
และนอกจากการลดราคาจอแบบฟูลเอชดีแล้ว ชาร์ปยังได้นำจอแอลซีดีอะควอสแบบ WXGA มาขายพ่วงในรูปแบบราคาพิเศษ คือเมื่อซื้อขนาด 37 นิ้ว ราคา 49,990 บาท เพิ่มเงินอีก 2,000 บาท รับฟรีจอขนาด 32 นิ้ว ในราคา 25,990 บาททันที และสามารถผ่อน 0% นาน 12 เดือน 
ก่อนหน้านี้หลังจากประกาศควบรวมเป็นชาร์ปไทย นายคาซูโอะ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ปไทย จำกัด กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่อะควอสจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาดแอลซีดีทีวีเมืองไทยอีกครั้ง เหมือนเมื่อตอนปี พ.ศ.2547 ว่า มีโอกาสแน่นอนขอเวลา 2 ปี ซึ่งตอนนี้อะควอสติด 1 ใน 4 แบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในตลาด และตั้งเป้าสิ้นปีบัญชีในเดือนมีนาคม 2551 จะต้องขายให้ได้ 18,000 ยูนิต 
สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทแม่ ชาร์ป คอร์เปอเรชั่น ที่ประกาศขึ้นเป็นผู้นำตลาดแอลซีดีระดับโลก ด้วยการประกาศแผนลงทุน 3.8 แสนล้านเยน หรือประมาณ 9.56 หมื่นล้านบาท สร้างโรงงานผลิตจอแอลซีดีแห่งใหม่ในเมืองซาไก ทางตอนใต้ของโอซากา เพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น 
ที่ผ่านมาแอลซีดีอะควอสผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดโลก ประกอบกับโรงงานผลิตหลักที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ต้องตอบสนองดีมานด์ในประเทศที่มีสูงมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่หลังจากชาร์ป คอร์ป ได้เปิดโรงงานใหม่ และบริษัทแม่มีนโยบายจะขยายตลาดออกต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ด้วยการตั้งเป้ายอดขายอะควอสปีนี้ในญี่ปุ่น 3.2 ล้านยูนิต และทั่วโลก 9 ล้านยูนิต 
การเปิดศึกแอลซีดีของชาร์ปในรอบนี้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการดึงเอาเซ็กเมนต์ส่วนที่เคยเป็นมาร์จิ้นหลักเข้าสู่สงครามราคา 
คาดว่าอีกไม่นาน คู่แข่งก็คงจะกระโดดลงมาร่วมในสมรภูมิใหม่นี้ด้วยเช่นกัน 
ข่าว : ประชาชาติธุรกิจ   หลายๆ ท่านที่รอกันอยู่ใกล้ได้เวลาเสียตังส์กันแล้วคร๊าบ พี่น้อง อิ อิ  
 
 
 