ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ครับ รัฐบาลแปรรูป กฟผ เข้าตลาดหลักทรัพย์ ยังโดนหยุดไป ปตท ซึ่งอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน แถมยังกระจายหุ้นไม่โปร่งใสในตอนแรก(หุ้นกฟผเลยต้องเปลี่ยนวิธีกระจายหุ้นใหม่) ทำไมเค้ายังปล่อยไว้ครับ ไม่เห็นมียึดหุ้นใครเล่นบ้างเลย

แล้วความจริง ปตท มันเป็นรัฐวิสาหกิจ การให้สิทธิพิเศษกับพนักงานให้ทำการจองหุ้นก่อนโดยอ้างว่าเพราะทำงานให้ ปตท จริงๆแล้วมันได้เหรอครับ รัฐวิสาหกิจ เป็นสมบัติของชาติ ของประชาชนที่เสียภาษีลงทุนก่อตั้งมันขึ้นมา ไม่ได้เป็นของพนักงาน ปตท กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ความจริงอย่างน้อยควรจะกระจายหุ้นให้ทั่วถึงกันกับประชาชนทั่วไปนะครับ ไม่ใช่เปิดจองหุ้นแค่ไม่กี่นาทีก็หมด มีเงินก็ซื้อไม่ได้ งง มากๆ

ส่วนเรื่องพลังงานทดแทน ไฮโดรเจนก็ไม่เลวครับ แต่ปัญหาการจัดเก็บการใช้ อะไรๆดูจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย เมื่อเทียบกับปัญหาการผลิต

ไฮโดรเจนจากน้ำก็ต้องใช้ไฟฟ้า ไฟฟ้าก็ต้องมาจากโรงไฟฟ้า โรงไฟฟ้าในเมืองไทยน่าจะ 80-90% ยังใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันเตาหรือก๊าซธรรมชาติอยู่ ที่เราเห็นเขื่อนบ้านเราเยอะๆนั้นแค่ 10-20% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดเองครับ เป็นอะไรที่น่าตกใจเหมือนกัน ดังนั้นถึงไฮโดรเจนถึงจะเผาแล้วสะอาดก็จริง แต่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตไฮโดรเจนออกมาที่เพิ่มขึ้น(ยังไม่นับ efficiency จากการแยกน้ำด้วยไฟฟ้าที่น่าจะอยู่แถวๆ 70-85%) มันก็ต้องแลกมาด้วยน้ำมันเตาและก๊าซธรรมชาติที่ต้องถูกเผาไปมากขึ้นด้วย ถ้ามองในภาพรวมคงต้องบอกว่า ก็สกปรกเหมือนเดิม เพราะมันไปสกปรกเพิ่มขึ้นที่โรงไฟฟ้า
อีกอย่างถ้าคิดเป็นค่าไฟที่ต้องใช้ผลิตไฮโดรเจน ค่าไฟจะแพงมากครับ เพราะราคาต่อพลังงานที่ได้ ไฟฟ้าจะแพงกว่าเชื้อเพลิงทั่วไป อันนี้ผมจำไม่ได้ว่าแพงกว่ามากน้อยแค่ไหน ลองคำนวนเองก็ได้ครับ
ส่วนไฟฟ้าจากแสงแดด แผงโซล่าเซลราคาแพงครับ และใช้พลังงานจำนวนมากในการผลิต มีการคิดกันว่าถ้าจะใช้ solar cell ให้คุ้มทุนทางพลังงาน(หมายถึงพลังงานที่โซลาเซลให้ออกมา เทียบกับพลังงานที่ใช้ในการสร้างแผงโซล่าเซลขึ้นมา) อาจต้องใช้ระยะเวลาถึง 25-50ปีเป็นอย่างต่ำ จะเห็นว่าเม็ดเงินที่จ่ายไปมันไม่คุ้มกับอัตราการผลิตกำลังไฟฟ้าของมัน
ส่วนไฟฟ้าจากลมนั้นเริ่มมีใช้กันบ้างแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ศึกษา และยังไม่เห็นตัวเลข รอพี่ๆมาเสริมแล้วกันครับ
มาดูพลังงานจากพืชกันบ้าง ไบโอดีเซลก็ไม่เลวครับ แทบจะใช้กับเครื่องดีเซลได้เลย แต่ชาวบ้านบอกเอาไปขายเป็นน้ำมันปาล์มได้ตังค์เยอะกว่า ราคาเลยยังคงแพงกว่าน้ำมัน
ส่วนเอทานอลก็ไม่เหมาะ เพราะเป็นเหตุผลเดียวกันกับ โซล่าเซล คือพลังงานที่ใช้ในการเก็บเกี่ยว ขนย้าย กลั่น มันมากกว่าพลังงานที่ เอทานอลจะให้ออกมาได้ ตัวเลขเท่าที่จำได้คือประมาณ 160% ที่ต้องใส่เข้าไปเพื่อเอา เอทานอล 100% ออกมา ถ้าไม่ขาดทุนทางพลังงานป่านนี้รถที่วิ่งด้วย E100 เราคงเห็นวิ่งกันเกลื่อนเมืองแล้ว
ไบโอดีเซลจากเมล็ดสบู่ดำก็เห็นทำๆกันอยู่ แต่ติดปัญหาเรื่องการเก็บเกี่ยว ที่ต้องใช้คนเก็บ แล้วก็จำนวนผลิตผลที่ได้ต่อไร่ อาจจะยังน้อยอยู่
สงสัยต้องรอ cold fusion สถานเดียว

ที่ดูจะเหมาะกับเมืองไทยในครัวเรือนตอนนี้ก็คือกาซชีวภาพครับ ที่เกิดจากการเน่าสลายทั่วไป ถ้ารัฐบาลส่งเสริมและเผยแพร่จริง สามารถใช้ในครัวเรือนได้ ในหมู่บ้านตามต่างจังหวัดได้ใช้แทนก๊าซหุงต้มกันแล้วครับ จริงๆแล้วไม่ใช่ของใหม่ ลองติดตามข่าวกันดูครับ
ส่วนการนำมาใช้กับรถยนต์นั้นไม่แน่ใจเรื่อง scale เท่าไหร่ครับ ว่ามันจะผลิตออกมาให้ใช้ต่อวันพอมั้ย ข้อมูลตรงนี้คงหาไม่ยากครับ เพราะหน่วยงานนำร่องที่ทำเค้าต้องศึกษาอัตราการเกิดของก๊าซอยู่แล้ว คงต้องลองหาข้อมูลกันดูอีกทีครับ

ตัวเลขคร่าวๆอาจจะไม่ค่อยตรงนักนะครับ นี่คือเท่าที่จำได้ครับ ถ้าผิดพลาดตรงไหนรบกวนพี่ๆที่ทราบช่วยแก้ให้ด้วยครับ
