HTG2.club

2-stage amp เป็นอย่างไร

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ที่ว่าใช้ไฟสูงนี่พอประมาณให้ได้รึเปล่าครับว่าซักเท่าไหร่อ่ะคับ  :help เผื่อจะได้เกิดไอเดียในโอกาสต่อไปครับ  d_d

ทราบว่าเมื่อกระแสไหลแล้วไม่ไกลจากจุดที่ clip เท่าไหร่ "ร้อน" ขนาดนั้นก็ทำให้ทรานซิสเตอร์เป็นหลอดเผาไส้ไปเลย  ทำให้เสียงสะอาดใสปิ๊งเป็นแบบหลอด ไม่มีเสี้ยนสากเลย :secret


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
ชุดอลังการมากครับ  :headphone

ที่ว่าใช้ไฟสูงนี่พอประมาณให้ได้รึเปล่าครับว่าซักเท่าไหร่อ่ะคับ  :help เผื่อจะได้เกิดไอเดียในโอกาสต่อไปครับ  d_d
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ลองแกะ ๆ วงจร JLH ดูแล้ว   รู้สึกว่าเคล็ดลับนี่คือ bias แบบ Deep Class A เลยนะเนี่ย เล่นครึ่งนึงของแรงดันภาคจ่ายไฟตลอดทุกภาคเลย       เดี๋ยวแปลงเอา JFET input ใส่บ้างดีมั๊ย  ทำเป็น J2LH   ;D
เพิ่งได้เครื่อง OMZ DAC/PRE มา ทราบมาว่าใช้ไฟสูงมากทั้งหมดของภาค discrete เลย เสียงเนี้ยใสสะอาดแบบหลอดและรวดเร็วแบบทรานซิสเตอร์ ไม่ร้อนและง้อคัพปลิ้งซีค่าสูงๆด้วย ไม่เคยคิดว่าโซลิดสเตจจะกลายเป็นหลอดได้ งานนี้หลอดไม่ได้เกิดแล้ว  :secret


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity

ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
ลองแกะ ๆ วงจร JLH ดูแล้ว   รู้สึกว่าเคล็ดลับนี่คือ bias แบบ Deep Class A เลยนะเนี่ย

เล่นครึ่งนึงของแรงดันภาคจ่ายไฟตลอดทุกภาคเลย       เดี๋ยวแปลงเอา JFET input ใส่บ้างดีมั๊ย 

ทำเป็น J2LH   ;D
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
ไปรวมตัวที่กระทู้ Aleph J กันหมดแล้วครับ

ตัวนั้นท่าจะมาแรงกว่า


 :o
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity

PLH ยังไม่ตกผลึกดีอ่ะครับ   ลองดูวงจรแล้วยังไม่เจ๋ง    ถ้าที่ผมอยากได้จริงอยากน่าจะเป็น MOSFET ที่ OUTPUT แค่ตัวเดียว   ไม่ต่อขนานกันน่าจะดีกว่า
มันจะให้รายละเอียดเล็ก ๆ ที่เบา ๆ มากได้ดีกว่าครับ
เดี๋ยวอาจดัดแปลงตัวใดตัวนึงก็ได้ครับ   ให้มันสุด ๆ ไปเลย
 d_d


ตัวเดียวนี่หมายถึงคู่ n-channel + p-channel ต่อข้างรึเปล่าครับ หรือเป็น single end ครับ  :help

เสร็จแล้วอย่าลืมเอามาลงให้ชมกันนะครับ เผื่อจะได้ขอลอกการบ้านบ้างครับ  :headphone  d_d  :drunk
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
โทรไปที่วารสารเซมิครับ ถ้าจำไม่ผิดมี สี่ตอน เขาขายเป็นราคาบความ บทความละ 50บาท 027398111 ต่อ8153 หรือไปถ่ายเอกสารตามห้องสมุทก็ได้ ;D
ขอบคุณคับ แต่วิธีหลังกัวเปียกอ่ะ  :D


ออฟไลน์ Dr.data

  • ****
    • กระทู้: 307
    • เพศ:ชาย
  • DIY
เอาลงให้ใหม่แล้วครับ แต่มีแต่ไฟล์ .ddb ของ protel นะครับ จริงๆคือ ช่วงนี้เบื่อๆอยากๆ DIY น่ะครับ เลยพักไว้มานานหลายเดือนแล้วล่ะครับ มาโหมดูหนัง series ฝรั่งอยู่ครับ หลายเรื่องมั่กๆ ฮ่าๆๆ

มิน่าไม่ได้มาตอบกระทู้เลย   >:(

จึงต้องมีหลายเสตทเพื่อเพิ่มอินพุทอิมพิแดนซ์ครับ แต่มอสเฟตมีอิมพีแดนซ์สูงเหมือนหลอด เพราะสามารถทำเสตทน้อยๆ ได้เหมือนหลอดนั้นเอง

ขอบคุณคับ  :balloon

เพิ่งซื้อเซมิเดือนกพ.มา มีบทความการออกแบบวงจรขยายกำลังคลาสเอและเอบีอย่างถูกวิธี ตอนจบ ของคุณไชยวัฒน์ ทองช้อย ข้อมูลความรู้เยอะดีกำลังค่อยๆแกะ ไม่รู้ว่าจะหาฉบับรวมเล่มได้ที่ไหน
โทรไปที่วารสารเซมิครับ ถ้าจำไม่ผิดมี สี่ตอน เขาขายเป็นราคาบความ บทความละ 50บาท 027398111 ต่อ8153 หรือไปถ่ายเอกสารตามห้องสมุทก็ได้ ;D


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง

ใช่ครับพี่ JLH นี่เสียงร่ำลือหนาหูมาก น่าทำๆ  ;D pass labs เค้ามี PLH ด้วยนะครับ ตัวนี้ก็น่าทำเหมือนกัน ไม่รู้พี่ๆมีความเห็นยังไงกันบ้างครับ  :help
[/quote]


PLH ยังไม่ตกผลึกดีอ่ะครับ   ลองดูวงจรแล้วยังไม่เจ๋ง    ถ้าที่ผมอยากได้จริงอยากน่าจะเป็น MOSFET ที่ OUTPUT แค่ตัวเดียว   ไม่ต่อขนานกันน่าจะดีกว่า
มันจะให้รายละเอียดเล็ก ๆ ที่เบา ๆ มากได้ดีกว่าครับ
เดี๋ยวอาจดัดแปลงตัวใดตัวนึงก็ได้ครับ   ให้มันสุด ๆ ไปเลย
 d_d
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
เอาลงให้ใหม่แล้วครับ แต่มีแต่ไฟล์ .ddb ของ protel นะครับ จริงๆคือ ช่วงนี้เบื่อๆอยากๆ DIY น่ะครับ เลยพักไว้มานานหลายเดือนแล้วล่ะครับ มาโหมดูหนัง series ฝรั่งอยู่ครับ หลายเรื่องมั่กๆ ฮ่าๆๆ

มิน่าไม่ได้มาตอบกระทู้เลย   >:(

จึงต้องมีหลายเสตทเพื่อเพิ่มอินพุทอิมพิแดนซ์ครับ แต่มอสเฟตมีอิมพีแดนซ์สูงเหมือนหลอด เพราะสามารถทำเสตทน้อยๆ ได้เหมือนหลอดนั้นเอง

ขอบคุณคับ  :balloon

เพิ่งซื้อเซมิเดือนกพ.มา มีบทความการออกแบบวงจรขยายกำลังคลาสเอและเอบีอย่างถูกวิธี ตอนจบ ของคุณไชยวัฒน์ ทองช้อย ข้อมูลความรู้เยอะดีกำลังค่อยๆแกะ ไม่รู้ว่าจะหาฉบับรวมเล่มได้ที่ไหน


ออฟไลน์ AMP150

  • *****
    • กระทู้: 841
แอมป์โซลิดโดยทั่วไปต้องมี 3สเตจเพราะปัญหาการทนแรงดันที่ต่ำกว่า ทำให้สัญญาณสวิงได้ไม่พอ และอีกอย่างอิมพีแดนซ์อินพุทต่ำไปโดยเฉพาะไบโพล่าร์ทรานซิสเตอร์ จึงต้องมีหลายเสตทเพื่อเพิ่มอินพุทอิมพิแดนซ์ครับ แต่มอสเฟตมีอิมพีแดนซ์สูงเหมือนหลอดคือ หลักเมกะโอมห์ เนสันพาสเลยจับมาทำแอมป์เซนไงละ เพราะสามารถทำเสตทน้อยๆ ได้เหมือนหลอดนั้นเอง


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
อ้างถึง
ตามไปมุม download ไฟล์หายไปแล้ว 

http://www.4shared.com/file/37852400/9361d652/JLH.html?dirPwdVerified=61a09a2c

เอาลงให้ใหม่แล้วครับ แต่มีแต่ไฟล์ .ddb ของ protel นะครับ

มีอยู่ 2 แบบ แต่แบบที่ 2 ยังไม่เสร็จดีครับ เก็บไว้ให้คุณ  analoque สานต่อครับ  ;D ;D ;D


จริงๆคือ ช่วงนี้เบื่อๆอยากๆ DIY น่ะครับ เลยพักไว้มานานหลายเดือนแล้วล่ะครับ
มาโหมดูหนัง series ฝรั่งอยู่ครับ หลายเรื่องมั่กๆ ฮ่าๆๆ

โห  :o รวดเร็วทันใจ ขอบคุณค๊าบบ :bowdown

สองแบบทีว่าแบบที่สองที่พี่ DIY มดบอกอ่ะเหรอครับ น่าสนทั้งนั้นครับ pass labs ก็น่าสน  :headphone

เห็นพี่ Wasin ไปหา heed แบบที่ใช้ mosfet drive เจอแล้วนี่ครับ ไม่ทราบว่าลองไปบ้างรึยังครับพี่  :help

อย่าพักนานนะครับพี่ ความหวังของชาว htg2 เลยแหล่ะ  ;)  d_d

เมื่อวานได้เกริ่น ๆ กับ คุณ DIYมด  ไว้เหมือนกันครับว่าสนใจทำตัวนี้   ตอนนี้เก็บข้อมูลไปก่อน

เจ้าของเครื่องเค้าบอกว่าเคยเทียบกับ Aleph 30 ตัวจริงแล้ว JLH กินรวบครับ  Pass จะเด่นกว่าตรงที่มันหวานใสฟังแรก ๆ ดึงดูดกว่าเท่านั้นเอง   แต่การคุมลำโพงให้อยู่หมัดนี่ JLH เด็ดกว่ามาก

 :P

ใช่ครับพี่ JLH นี่เสียงร่ำลือหนาหูมาก น่าทำๆ  ;D pass labs เค้ามี PLH ด้วยนะครับ ตัวนี้ก็น่าทำเหมือนกัน ไม่รู้พี่ๆมีความเห็นยังไงกันบ้างครับ  :help
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
เมื่อวานได้เกริ่น ๆ กับ คุณ DIYมด  ไว้เหมือนกันครับว่าสนใจทำตัวนี้   ตอนนี้เก็บข้อมูลไปก่อน

เจ้าของเครื่องเค้าบอกว่าเคยเทียบกับ Aleph 30 ตัวจริงแล้ว JLH กินรวบครับ  Pass จะเด่นกว่าตรงที่มันหวานใสฟังแรก ๆ ดึงดูดกว่าเท่านั้นเอง   แต่การคุมลำโพงให้อยู่หมัดนี่ JLH เด็ดกว่ามาก

 :P
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ Wasin

  • *****
    • กระทู้: 810
    • เพศ:ชาย
อ้างถึง
ตามไปมุม download ไฟล์หายไปแล้ว 

http://www.4shared.com/file/37852400/9361d652/JLH.html?dirPwdVerified=61a09a2c

เอาลงให้ใหม่แล้วครับ แต่มีแต่ไฟล์ .ddb ของ protel นะครับ

มีอยู่ 2 แบบ แต่แบบที่ 2 ยังไม่เสร็จดีครับ เก็บไว้ให้คุณ  analoque สานต่อครับ  ;D ;D ;D


จริงๆคือ ช่วงนี้เบื่อๆอยากๆ DIY น่ะครับ เลยพักไว้มานานหลายเดือนแล้วล่ะครับ
มาโหมดูหนัง series ฝรั่งอยู่ครับ หลายเรื่องมั่กๆ ฮ่าๆๆ


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
ใช่ครับ ตามไปมุม download ไฟล์หายไปแล้ว  :black_eye

pm ถามพี่เค้าก็ได้มั้งครับ  ;)
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง
พี่ DIY มด (เอ หรือพี่วศินหว่า ช่วงนี้ความจำชักแย่ๆ :black_eye)ทำบอร์ดไว้แล้วนิครับ มีไฟล์ให้โหลดด้วย ผมก็ยังไม่ได้ลองเลยครับ ไม่มีเวลา

อยู่ในหัวข้อเก่าน่ะครับ ลองขุดขึ้นมาก็ได้ ผมถามเรื่องปรับไบอัสไปแต่ยังไม่มีคนตอบเลยครับ  :cry2

น่าจะเป็นคุณวศินครับ    แต่ไม่รู้ว่าอยู่ไหนแล้ว   หา file ไม่เจอแล้วครับ

 :cry2
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
พี่ DIY มด (เอ หรือพี่วศินหว่า ช่วงนี้ความจำชักแย่ๆ :black_eye)ทำบอร์ดไว้แล้วนิครับ มีไฟล์ให้โหลดด้วย ผมก็ยังไม่ได้ลองเลยครับ ไม่มีเวลา

อยู่ในหัวข้อเก่าน่ะครับ ลองขุดขึ้นมาก็ได้ ผมถามเรื่องปรับไบอัสไปแต่ยังไม่มีคนตอบเลยครับ  :cry2
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ กบ@นอกกะลา

  • ****
    • กระทู้: 320
    • เพศ:ชาย
  • อย่าเอาวิชาฟิสิกซ์มาอธิบายเกี่ยวกับเครื่องเสียง

ตัวอย่างที่เจอมา โดย John Linsley Hood
http://www.tcaas.btinternet.co.uk/index-1.htm

งงกะ แอมป์หลอดนี่เป็น 2-stage หรือปล่าวคับ หรือว่า stage-2 เนี่ยหมายถึง Class A เท่านั้นหรือปล่าว ???

ปล. วงจร Class B ของ John Linsley Hood เอาไปทำเป็น NAD3020, the Cyrus 1 and the Sugden A48-II ด้วยละ

เคยฟัง JLH Class A 40W เวอร์ชั่นปี 2000 ที่ใช้ภาคจ่ายไฟเป็น regulator ของแท้มาแล้วครับ   เล่นเอาแอมป็หลอดหนาว ๆ เหมือนกัน   น่าออกแบบ PCB และ group buy กันซักรอบ

 :secret
หัวใจมอบให้แต่ 2A3 ที่ bias ด้วย battery เท่านั้น


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
พอจะเข้าใจขึ้นบ้างแล้วครับ ของคุณพี่ Dr.data ที่ช่วยให้ความรู้ครับ :bowdown  :headphone  d_d
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ไปอ่านเจอที่ diyaudio บอกว่าไอเดีย split feedback ที่ดูเหมือนจะทำ zero feedback ดังนั้นรูปนั้นไม่ถูกต้อง มันยังมีขาป้อนกลับมาอยู่ในลูปด้านล่าง

เรียนถามอีกทีนะคับว่า zero feedback นี่คือ zero global feedback หรือป่าว เข้าใจแล้วว่า zero จริงๆแบบลูปเปิดมันคงทำให้ดี ลิเนียร์ ว่องไว และไม่ขยายมากเกิน ได้ยากมากๆๆ คงเป็นได้แต่แอปม์ขนาดเล็กๆมั้ง


ออฟไลน์ Dr.data

  • ****
    • กระทู้: 307
    • เพศ:ชาย
  • DIY
ขอถามด้วยคนครับ ถ้าอย่างในรูปนี่สัญญาณในเบอร์ 1 ถูกขยายมาเป็นหน้าตาแบบเบอร์ 7 ใช่มั้ยครับ ถ้าเราขยายเฉพาะแรงดัน สัญญาณที่ได้มันจะมีหน้าตาเหมือนเบอร์ 7 มั้ยครับ แล้วถ้าสัญญาณแบบเบอร์ 1 ถูกขยายแต่กระแส สัญญาณขาออกก็น่าจะเหมือนเบอร์ 1 ใช่มั้ยครับ (gain =1) แล้วเราจะทราบได้ยังไงครับว่าสัญญาณนั้นถูกขยายกระแสมาแล้ว :help อันนี้ถามแบบคนไม่รู้เรื่องนะครับ ผมค่อนข้าง งง กับตรงจุดนี้มาก พอดีไม่ได้จบไฟฟ้ามาน่ะครับ รู้แค่งูๆปลาๆ  :black_eye
หน้าตาของ เบอร์ 1จะเหมือนกับเบอร์ 7เป๊ะๆครับ แต่เบอร์แรงดัน 7 จะมีขนาดใหญ่กว่าตามอัตราขยาย   
ถ้าสัญญาณแบบเบอร์ 1 ถูกขยายแต่กระแส หน้าตาของสัญญาณก็จะเหมือนเบอร์ 1ครับ(gain =1ในทางอุดมคติ ความจริงมีค่ากใล้เคียง 1มากแต่ไม่มีทางถึง 1)
ถ้าสัญญาณแรงดันไม่ถูกขยายกระแส อันนี้จะไม่สามารถขับโหลดที่มีความต้านทานตำได้ เป็นไปตามกฏ P=V*I ซึ่งถ้า V เป็นตัวเปลี่ยนแปลงไปตามจังหววะเสียง แต่กระแสไม่สามารถจจ่ายให้กับโหลดได้ ทำให้ไม่เกิด P เสียงก็ไม่ดับดังนั้นกระแสควรมีสัดส่วนตามที่โหลดต้องการ ดังนั้น ตาม I=V/R ซึ่งถ้า V เป็นตัวเปลี่ยนแปลงไปตามจังหววะเสียง และ R คงที่ ตัวที่ต้องเพิ่มตามจังหวะเสียงคือ I ดังนั้นถ้าจัดการกับ I ไม่ดี ก็จะส่งผลกระทบกับV และP ครับ 
งงป่าว ตอบเองก็งงๆนะเนี่ย


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
ขอถามด้วยคนครับ ถ้าอย่างในรูปนี่สัญญาณในเบอร์ 1 ถูกขยายมาเป็นหน้าตาแบบเบอร์ 7 ใช่มั้ยครับ ถ้าเราขยายเฉพาะแรงดัน สัญญาณที่ได้มันจะมีหน้าตาเหมือนเบอร์ 7 มั้ยครับ แล้วถ้าสัญญาณแบบเบอร์ 1 ถูกขยายแต่กระแส สัญญาณขาออกก็น่าจะเหมือนเบอร์ 1 ใช่มั้ยครับ (gain =1) แล้วเราจะทราบได้ยังไงครับว่าสัญญาณนั้นถูกขยายกระแสมาแล้ว :help อันนี้ถามแบบคนไม่รู้เรื่องนะครับ ผมค่อนข้าง งง กับตรงจุดนี้มาก พอดีไม่ได้จบไฟฟ้ามาน่ะครับ รู้แค่งูๆปลาๆ  :black_eye
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ Dr.data

  • ****
    • กระทู้: 307
    • เพศ:ชาย
  • DIY
ไปหาข้อมูลเลยมีคำถามใหม่อีกคับ

มีคนพูดว่า zero feedback นั้นหมายถึง zero (global) feedback ตัวเองหรือว่ามีที่เป็น zero feedback จริงๆ   ???

ไปเจอคุณ Charles Altmann เขาเขียนเรื่อง zero feedback แบบภาษาชาวบ้านอ่านพอไหว เขามีรูปให้ดูแบบ zero negative feedback จริงๆเลย
http://www.altmann.haan.de/splif_page/

ไม่รู้รูปนี้ใช่ 3-stage ของแอมป์ทั่วไป ใช่หรือป่าวคับ  ???


เป็นแอมป์ 3เสตจครับ
ได้ดูแล้ว เขาจะใช้การฟีคแบคเฉพาะวงจรขยายแรงดันเท่านั้นส่วนวงจรขยายกระแสไม่ได้ฟีตแบคครับ อันนี้เข้าต้องการให้การทำงานของแรงดันกับกระแสไม่กวนกัน โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการที่ภาคเอาต์พุตเกิดการโอเวอร์โหลด สัญญษาณที่เพี้ยนจากเอาพุตจะไม่มาทำให้วงจรขยายแรงดันเพี้ยนไปด้วย
ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะเรียกว่าเป็นแอมป์ที่ zero feedback  หรือเปล่าเพราะการฟีตแบคก็ยังใช้ที่ภาคขยายแรงดันอยู่ดี


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ไปหาข้อมูลเลยมีคำถามใหม่อีกคับ

มีคนพูดว่า zero feedback นั้นหมายถึง zero (global) feedback ตัวเองหรือว่ามีที่เป็น zero feedback จริงๆ   ???

ไปเจอคุณ Charles Altmann เขาเขียนเรื่อง zero feedback แบบภาษาชาวบ้านอ่านพอไหว เขามีรูปให้ดูแบบ zero negative feedback จริงๆเลย
http://www.altmann.haan.de/splif_page/

ไม่รู้รูปนี้ใช่ 3-stage ของแอมป์ทั่วไป ใช่หรือป่าวคับ  ???



ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ขอบคุณ Dr.Data เป็นอย่างสูงอีกที เข้าใจขึ้นมากเลย :yahoo เด๋วจะลองไปไล่อ่านวงจรดู พอจะเดาๆได้แล้วคับ


ออฟไลน์ Dr.data

  • ****
    • กระทู้: 307
    • เพศ:ชาย
  • DIY
ขอบคุณ Dr.Data ที่ช่วยอธิบายให้เข้าใจเพิ่มขึ้น  ยังสงสัยว่าแล้วที่มีมากกว่า 3 stage นั้นมันไปเพิ่มในส่วนใด ทราบมาว่าอย่าง Audio Research Classic 150 นั้นมีถึง 10 stage เลย พอจะมีรูปอธิบาย stage ที่กล่าวถึงได้บ้างไหมคับ

ตัวเองใช้ปรีหลอด 12B4 อยู่ โดยเคยเทียบความสะอาดของเสียง สามารถได้ยินโน๊ตของเครื่องเป่าและ ambient ที่เบากมากๆได้ ในปรีโซลิดสเตจโดยเฉพาะใช้ opamps มันไม่ได้ยินเสียงที่ว่าเลย  ที่เข้าใจขึ้นว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นถึงแม้ทำงานได้ดีเพียงใดก็ยังมีความเพี้ยนและน๊อยส์เพิ่มเข้าไปเสมอ ฉะนั้นยิ่งมีการประมวลผลมากขึ้น (อย่างหลาย stage ที่กล่าว) ก็จะทำให้น๊อยส์สูงขึ้นไปด้วย อันนี้เฉพาะในทางอุดมคติ (ideal) ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือไม่ 

ไม่ทราบว่าแล้ววงจรที่เป็น stage เดียวนั้นจะเหลือแค่ส่วนไหนคับ อย่าง Zen รุ่นแรก อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ  ???  อีกอย่างคือมีผู้บอกว่า zero feedback นั้นดีกว่า เรื่องพวกนี้ถือเป็น stage นึงด้วยถูดต้องไหม

stage ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในส่วนของวงจรขยายแรงดันครับ(ขออธิบายจาก Krell แล้วกัน) ถ้ามี5เสตจ จะมีดิฟ 1เสตจ ภาคขยายแรงดัน 3เสตจ และ ขยายกระแส1เสตจ  รวมเป็น 5 เสตจ   โดยผมคาดเดาเหตุผลที่เขาใช้ภาคขยายแรงดัน3เสตจ ก็เพื่อให้อัตตราขยายลูปเปิดสูง มากๆๆ เป็นผลให้แอมป์ทำงานได้ใวส่วน สัญญาณรบกวนไม่น่าจะเป็นจากการออกแบบหลายเสตจอาจมาจากจุดอื่นมากกว่า

ในเรื่องของรายละเอียดเสียง ในทางไฟฟ้าแล้วแรงดันที่หลอดใช้มีสูงมากบวกกับความเป็นเชิงเส้นของหลอดมีสูงกว่าทรานซิสเตอร์ ทำให้หลอดเก็บรายละเอียดเสียงได้ดี แต่ทรานซิสเตอร์ก็สามารถเลียบแบบการทำงานของหลอดได้เหมือนกันครับ อย่างเช่นวงจรของZEN ซึ่งใช้เฟตที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับหลอด และแรงดันในวงจรก็มากว่าปรีทั่วๆไป แถมยังไบแอสในสภาวะคลาสเอ ซิงเกิลเอนด์อีก ทำให้เฟตที่ZENใช้ทำงานในสภาวะที่ลิเนียร์จึงให้เสียงที่ครบถ้วน ครับ  แต่อย่าไปเทียบกับปรีที่เป็นไอซีถูกๆที่ขายแถวบ้านหม้อเลยมันคนละเรื่องทั้งราคาและมาตรฐาน (ของถูกจะดีได้ไง) แต่ไอซีเสียงดีๆก็มีนะครับ อย่างเช่น ไอซีของ IC OPA602BP Burr Brown ก็ให้เสียงดีเหมือนกัน ลองดูครับ O0
ZEN stage เดียว เป็นคอมมอลซอร์ส ขยายได้ทั้งแรงดันและกระแส เรียกได้ว่าเหลือเสตจสุดท้าย เอาต์พุตเสตจอันเดียวครับ สังเกตZENรุ่นหลังๆจะมี2เสตจ ครับเสตจแรกจะขยายแรงดัน ด้วย เพราะ ข้อเสียของรุ่นแรกคืออัตราขยายแรงดันไม่พอทำให้เสีงไม่ดังเท่าไรต้องใช้ปรีที่มีเอาต์พุตแรงๆช่วย ส่วนฟีตแบคZENรุ่นหลังก็ใช้เหมือนกัน ครับ  การzero feedback นั้นก็มีคนทำอยู่แต่ก็ทำให้พังกันมานับไม่ถ้วน ที่มีชื่อคงต้องเป็นยี่ห้อ เตต้า อันนี้จำชื่อภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่การzero feedback นั้นอัตรายครับ เสียงที่ได้อาจจะดี แต่ถ้าจัดการกับสัญญาณรบกวนและเสถียรภาพด้านต่างๆไม่ดี พังชัวครับ  O0
 


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ขอบคุณ Dr.Data ที่ช่วยอธิบายให้เข้าใจเพิ่มขึ้น  ยังสงสัยว่าแล้วที่มีมากกว่า 3 stage นั้นมันไปเพิ่มในส่วนใด ทราบมาว่าอย่าง Audio Research Classic 150 นั้นมีถึง 10 stage เลย พอจะมีรูปอธิบาย stage ที่กล่าวถึงได้บ้างไหมคับ

ตัวเองใช้ปรีหลอด 12B4 อยู่ โดยเคยเทียบความสะอาดของเสียง สามารถได้ยินโน๊ตของเครื่องเป่าและ ambient ที่เบากมากๆได้ ในปรีโซลิดสเตจโดยเฉพาะใช้ opamps มันไม่ได้ยินเสียงที่ว่าเลย  ที่เข้าใจขึ้นว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นถึงแม้ทำงานได้ดีเพียงใดก็ยังมีความเพี้ยนและน๊อยส์เพิ่มเข้าไปเสมอ ฉะนั้นยิ่งมีการประมวลผลมากขึ้น (อย่างหลาย stage ที่กล่าว) ก็จะทำให้น๊อยส์สูงขึ้นไปด้วย อันนี้เฉพาะในทางอุดมคติ (ideal) ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือไม่ 

ไม่ทราบว่าแล้ววงจรที่เป็น stage เดียวนั้นจะเหลือแค่ส่วนไหนคับ อย่าง Zen รุ่นแรก อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ  ???  อีกอย่างคือมีผู้บอกว่า zero feedback นั้นดีกว่า เรื่องพวกนี้ถือเป็น stage นึงด้วยถูดต้องไหม


ออฟไลน์ Dr.data

  • ****
    • กระทู้: 307
    • เพศ:ชาย
  • DIY
stageของแอมป์โดยทั้วไปแล้ว มักจะออกแบบให้เป็น 3 เสตจ(ขออธิบาบแต่ทรานซิสเตอร์)
โดยแบ่งเป็น ภาคขายแรงดันภาคแรก (ส่วนมากจะใช้เป็นวงจรดิฟ) ,ภาคขยายแรงดันภาคสอง (เป็นวงจรคอมมอลอิมิเตอร์)
และภาคสุดท้ายเป็นวงจรขายยกระแส(เป็นวงจรคอมมอลคอลเล็กเตอร์)ขยายกระแสเท่านั้นไม่ขยายแรงดันโดยมีอัตราขยายแรงดันประมาณ 1เท่า ส่วนอัตราขยายกระแสจะมีค่ามากเป็นร้อยเท่า แยกให้ออกระหว่างกระแสกับแรงดันนะครับ

ส่วนที่กำหนดคลาสอยู่ที่ภาคสุดท้ายนี้ครับ คลาสเอ คลาสเอบี หรือคลาสบี เป็นการแยกประเภทการกำหนดกระแสไปแอสของภาคขยายกระแส โดยที่คลาสเอจะสิ้นเปลืองกระแสในการไบแอสมากที่สุด แต่ก็เป็นผลให้ทรานซิสเตอร์ภาคเอาต์พุตทำงานในจุดที่มีความเป็นเชิงเส้นสูง ทำให้ความเพี้ยนตำมาก
ในการออกแบบแอมป์แต่ละแบบที่มีความแตกต่างของstage จากเหตุผลที่ต้องการอัตราขยายลูปเปิดที่สูงเพื่อให้มีเสถียรภาพในการป้อนกลับแบบลบที่ดี ดังนั้นการออกแบบให้มีstageในการขยายแรงดันหลายstageเป็นผลให้อัตราขยายรวมทั้งหมดมีค่าสูง
จำนวลของstageไม่จำเป็นว่าต้องมีมากแล้วไม่ดีนะครับ อย่างเช่นKrellก็ใช้ ถึง 5เสตจ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าแอมป์เสตจน้อยจะเสียงดีหรือด้อยกว่า แล้วแต่คนชอบก็แล้วกันครับ
งงก็ถามมาอีกนะครับ  Y]


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
เพิ่งเจอว่า Pass Labs ก็เป็น minimalist design ด้วย Zen รุ่นแรก เป็น single-stage ซะด้วยซ้ำ  :o Aleph และ Zen ก็มีทั้ง 2- และ 3-stage แต่หลังๆเห็นไปเน้นเรื่องกำลังวัตต์สูงๆกันแทน

Aleph
http://cygnus.ipal.org/mirror/www.passlabs.com/faq.htm

What advantages does the 2 gain stage design offer?

PURER. Fewer parts between input and output: Two resistors and two Mosfets. This design has no adjustments. The amplifier never needs to be readjusted and always stays in optimum adjustment. The output stage is pure single-ended.

This simplicity and purity translates into more information getting through and a more natural sonic signature.


Zen อยู่ที่นี่
http://www.passdiy.com/


ออฟไลน์ analoque

  • Lifetime DIYer
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,833
  • Pro fide ablectus - Chosen for fidelity
ไม่แน่ใจนะครับ ถ้าจะนับ stage แอมป์หลอด ปรีหลอดปกติก็น่าจะสองครับ ส่วนใหญ่ก็มี driver กับ power ครับ

JLH ก็น่าจะคล้ายๆกันครับ ถ้าดูให้ดี stage แรกหน้าตาเหมือน differential amp ขยายแรงดัน เหมือนในออปแอมป์ทั่วไป stage ที่สองหน้าตาคล้ายๆ buffer ขยายกระแส  :headphone

อันนี้ผมค่อนข้างงงเหมือนกันครับ V=IR ถ้ามันขยายแรงดันได้ กระแสก็น่าจะเพิ่มขึ้น ถ้ามันขยายกระแส แรงดันก็น่าจะเพิ่มขึ้น แล้วจริงๆมันเลือกขยายเฉพาะแรงดันหรือกระแสได้เหรอครับ  :black_eye
:headphone accipio conscientia propono molior partis liberum :headphone
analoque's project
analoque's download


ออฟไลน์ redbook

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,265
ไม่ทราบมีใครพอจะอธิบายได้ไหมว่า 2-stage amp เป็นอย่างไร เห็นมีมาตั้งแต่โบราณกาล แต่ไม่เห็นมีคนขายหรือทำกัน เห็นบอกกันว่าออกแบบยาก ถ้าเป็น 3-stgae ก็มีประสิทธิภาพดีกว่า เห็นบางแอมป์มี 10-stage เลย !! แต่ยิ่ง stage เยอะก็มีน๊อยส์เพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ เลยสู้ใช้หลอด (น้อยๆ) ไม่ได้

ตัวอย่างที่เจอมา โดย John Linsley Hood
http://www.tcaas.btinternet.co.uk/index-1.htm

งงกะ แอมป์หลอดนี่เป็น 2-stage หรือปล่าวคับ หรือว่า stage-2 เนี่ยหมายถึง Class A เท่านั้นหรือปล่าว ???

ปล. วงจร Class B ของ John Linsley Hood เอาไปทำเป็น NAD3020, the Cyrus 1 and the Sugden A48-II ด้วยละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 มกราคม, 2008, 09:29:04 am โดย redbook »