หัวข้อ: WORKING with ANAmorPHic Lens

[WK]

อยากไปฟังแต่ไม่สะดวกเรื่องการเดินทางครับรอให้คุณหมอเขียนเป็นบทความไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า

:)ถ้ามีเวลาเข้า workshop น่าจะเห็นอะไรที่เด่นชัดมากกว่านะครับ

[dr.nop]

;)มีสมาชิกสนใจเรื่อง workshop ไม่กี่คนเอง Anamorphic lens ท่าทางจะเงียบเหงานะครับ
[/quoteไม่เป็นไรครับ บ้านเราส่วนใหญ่ถนัดซื้อมาเล่นครับ ทำเล่นเองมันยากครับเสียเวลา อีกอย่างคงไม่ค่อยสะดวกกันด้วยนะครับ แต่ปีหน้าที่งาน เครื่องเสียงอาจจะมีหัวข้อนี้ก็ได้ครับต้องคุยกับเจ้าของงานก่อน

[dimon01]

อยากไปฟังแต่ไม่สะดวกเรื่องการเดินทางครับรอให้คุณหมอเขียนเป็นบทความไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า

[WK]

 ;)มีสมาชิกสนใจเรื่อง workshop ไม่กี่คนเอง Anamorphic lens ท่าทางจะเงียบเหงานะครับ

[WK]

เรื่อง ca เนี่ยมีอยู่แล้วครับสำหรับ lens ทุกตัวครับ ตาชั้นเซียนอย่างพี่wk ต้องเห็นแน่นอน เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปดู isco ตัวละสองแสนกว่า ของลุงsanta ยังมีเลยครับ แต่ที่สังเกตเห็นคือ lens แพงๆอย่าง isco มี ca ออกสี น้ำเงิน ,ม่วง  ของ panamorph ผมเห็น caออกสี น้ำเงิน และ lens ตัวที่เราทำกันเองเนี่ย ca มันมีสีเหลือง เพิ่มมาเลยเห็นชัดหน่อย แต่ตอนดูหนังก็น่าจะ ok นะเมื่อเทียบกับราคา  ถ้าพี่จะจัด workshop ที่กรุงเทพผมก็จะมาร่วมด้วยครับ แต่ที่สำคัญคงต้องมีจอ cinemascope นี่สิครับ ใครมีมั่งครับ แต่ที่บ้านผมมีตั้งสองจอแน่ะครับ แต่ขนมาไม่ไหวครับ

CA น่าจะมีกันเกือบทุกตัวแหละครับแต่จะมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ไม่งั้นเลนส์ที่มีคุณภาพดีๆ เขาทำดัก CA กันไม่รู้กี่ element  CA ที่เห็นเป็นสีต่างๆก็น่าจะมาจากการเคลือบ โค๊ต ที่หน้าเลนส์ กระมังครับ แต่เวลาดูหนังถ้าไม่จับผิดและภาพมันขับตลอดเวลาก็จะดูไม่ค่อยออก แต่ตาเจ้ากรรมมันชอบมองจุดที่มีปัญหาสิ....เอ้อ...จัด workshop จัดที่ไหนก็ได้เอาที่สะดวกและมีอุปกรณืครบ โดยเฉพาะขอ scope ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น ถ้าจัดที่บางแสนก็ดีนะครับจะได้รวมสมาชิกไปแบบ  fullcar

[WK]

สวัสดี ท่าน  อาจารย์  wk   ลองไปถึงแล้วครับสำหรับ len diy  อย่างไรเสีย  ห้องน้องยินดีให้ทดสอบน่ะครับ วันศุกร์ นี้ จะมีทีมงานจาก magnet มาปรับภาพให้น้อง    ท่านอาจารย์ว่างไม๊  ช่วงบ่ายถึงเย็นอ่ะครับ  เรียนเชิญ ท่านอาจาย์หน่อยน่ะ

ไปแน่นอนครับทั่น....เดี๋ยวนัดเวลากันอีกทีครับ อยากจะรบกวนนิดเรื่อง Toshiba HD dvd ว่างหรือเปล่าจะขอหยิบยืมมาลอง เล่นกะ anamorphic lens ดูบ้างครับ

[dr.nop]

เรื่อง ca เนี่ยมีอยู่แล้วครับสำหรับ lens ทุกตัวครับ ตาชั้นเซียนอย่างพี่wk ต้องเห็นแน่นอน เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปดู isco ตัวละสองแสนกว่า ของลุงsanta ยังมีเลยครับ แต่ที่สังเกตเห็นคือ lens แพงๆอย่าง isco มี ca ออกสี น้ำเงิน ,ม่วง  ของ panamorph ผมเห็น caออกสี น้ำเงิน และ lens ตัวที่เราทำกันเองเนี่ย ca มันมีสีเหลือง เพิ่มมาเลยเห็นชัดหน่อย แต่ตอนดูหนังก็น่าจะ ok นะเมื่อเทียบกับราคา  ถ้าพี่จะจัด workshop ที่กรุงเทพผมก็จะมาร่วมด้วยครับ แต่ที่สำคัญคงต้องมีจอ cinemascope นี่สิครับ ใครมีมั่งครับ แต่ที่บ้านผมมีตั้งสองจอแน่ะครับ แต่ขนมาไม่ไหวครับ

[อูฐ]

สวัสดี ท่าน  อาจารย์  wk   ลองไปถึงแล้วครับสำหรับ len diy  อย่างไรเสีย  ห้องน้องยินดีให้ทดสอบน่ะครับ วันศุกร์ นี้ จะมีทีมงานจาก magnet มาปรับภาพให้น้อง    ท่านอาจารย์ว่างไม๊  ช่วงบ่ายถึงเย็นอ่ะครับ  เรียนเชิญ ท่านอาจาย์หน่อยน่ะ

[WK]

พี่wk ลองใช้สี spray สีดำพ่นบริเวณ ขอบทั้งสี่ด้านของ crystal ดูนะครับ จะลดแสงสะท้อนที่ไปตกกระทบบนจอได้ครับ
 การทำก็ทำง่ายๆโดยติด sticker ที่ด้านหน้าและหลังของแผ่น cryatal เหลือเฉพาะ ขอบไว้แล้วพ่นสีดำบริเวณขอบ ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วแกะ sticker ออก แล้วลองใส่กล่องดูใหม่ครับ
ภาพดีขึ้นเยอะเลยครับ highly recommend

ขอบคุณครับที่แนะนำ ผมก็ได้ลองเอา sticker ดำไปแปะที่ขอบเลนส์แล้วมันก็ยังสะท้อนอยู่ มันคล้ายๆกับตู้ปลาเมื่อมองเข้าไปด้านข้างเอาอะไรมาปิดมันก็ยังสะท้อน

ของพี่wk  mark ที่ 2.35:1หรือยังครับผมแปลกใจว่ามุมของผมกับของพี่มันไม่เท่ากันน่ะครับ ที่จริงน่าจะเท่ากันครับเพราะ lens จะมีกำลังการขยาย = 1.33x เท่ากันหมดทุกอัน

ผมก็ mark ที่ 2.35แต่ยังมีความรู้สึกว่าจะต้องยืดออกไปอีกหน่อย  ในcase นี้ผมลองหมดแล้วถ้ายืดซ้าย-ขวา ออกไปอีกให้เท่ากับ 2.35 ภาพจะหลุดข้าง คือมันจะเลยความยาวของเลนส์ไปหน่อย หรือว่าผมยังหาตำแหน่งได้ยังไม่ดี แต่ผมก็วางทุกๆตำแหน่งที่คาดว่าจะดีแล้ว ตำแหน่งที่ผมใช้วัดได้ใกล้เคียงที่สุดแล้วครับ...จัด work shop เมื่อไรคงได้คุยปัญหาที่ว่าอีกยาวล่ะครับ   รู้สึกว่า ชุดแรกที่เล่น DIY anamorphic ดูแล้วเงียบๆไม่ค่อยโพสกันเท่าไร เลยไม่รู้ว่าแต่ละทั่น DIY กันไปถึงไหน แต่สำหรับผมอยากเล่นเพียงเพราะมีคำถามในใจเท่านั้นเองครับ เรื่องคุณภาพของภาพที่ได้ จะต้องมีทดสอบอีก 1 รอบ  เท่าที่เห็นขอบภาพ CA เยอะเหมือนกัน

[WK]

แหมเดี๋ยวนี้ฝีมือถ่ายภาพพัฒนาไปไกลเลยภาพสวยจัง  ผมฝีมือตกเอา ตกเอาเพราะไม่ค่อยได้ถ่าย  หรือว่าเลนส์ 10-22 ของผมดีหว่า อิ อิ

 :whistlingน่าจะเป็นเลนส์คุณหมอดีมั้ง...Thanks หลาย เข้าไปดูที่ www.watakorn.multiply.com นะครับ...

[dr.nop]

ของพี่wk  mark ที่ 2.35:1หรือยังครับผมแปลกใจว่ามุมของผมกับของพี่มันไม่เท่ากันน่ะครับ ที่จริงน่าจะเท่ากันครับเพราะ lens จะมีกำลังการขยาย = 1.33x เท่ากันหมดทุกอัน

[หมอทีเจ]

แหมเดี๋ยวนี้ฝีมือถ่ายภาพพัฒนาไปไกลเลยภาพสวยจัง  ผมฝีมือตกเอา ตกเอาเพราะไม่ค่อยได้ถ่าย  หรือว่าเลนส์ 10-22 ของผมดีหว่า อิ อิ

[dr.nop]

พี่wk ลองใช้สี spray สีดำพ่นบริเวณ ขอบทั้งสี่ด้านของ crystal ดูนะครับ จะลดแสงสะท้อนที่ไปตกกระทบบนจอได้ครับ
 การทำก็ทำง่ายๆโดยติด sticker ที่ด้านหน้าและหลังของแผ่น cryatal เหลือเฉพาะ ขอบไว้แล้วพ่นสีดำบริเวณขอบ ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วแกะ sticker ออก แล้วลองใส่กล่องดูใหม่ครับ
ภาพดีขึ้นเยอะเลยครับ highly recommend

[RAK]

งานนี้สงสัยป๋า wk คงง่วนอยู่กับการประดิษฐ์การวางตำแหน่งและได้ความรู้อีกเพียบแน่เลยคร๊าบ 

[WK]

 ;)เขียนมาซะยืดยาว ไม่ทราบว่าอ่านแล้วเข้าใจหรือเปล่า ลองทำตามสูตรนี้ดูก็ได้นะครับได้ผลอย่างไรก็บอกกล่าวกันด้วย หรือจะลองดูสักระยะแล้วรวบรวมปัญหา แล้วมาเสวนากันอีกครั้งที่ Work shop ที่คุณหมอนพ จะนัดเจอกัน  หรือเร่งด่วนก็คุยกันในกระทู้นี้ไปก่อนก็ได้ครับ.... ภาพสุดท้าย เอาภาพสวยๆมาฝากเลนส์ได้รับการเอื้อเฟื้อจาก คุณหมอทีเจ ถ่ายได้กว้างสะใจ....

[WK]

 :)ต่อไปเป็นหนัง 16:9 หรือ 1.85:1 จาหนังเรื่อง 40ปี  ยังเวอร์จิ้น  เป็นหนังเต็มจอ แบบ 16:9


                                    Anamorphic lens
Ratio  4:3              1. สัดส่วนถูกต้อง จะได้ภาพเล็ก สังเกต Subtitle ครบถ้วนไม่หาย
Ratio  16:9            2. สัดส่วนไม่ถูกต้อง ยืดซ้าย-ขวา
Ratio  letterbox     3.  สัดส่วนถูกต้องแต่ภาพถูกดึงมาให้เต็มจอ 16:9 ให้สังเกตุ ว่า subtitle หายไป 1       
บรรทัด ถ้าเล่นใน mode นี้ ratioก็ถูก แต่ภาพถูกดึงขึ้นมากทำให้ภาพไม่ครบเพราะมันจะต้องแสดงใน ratio 16:9 ให้ครบ แนะนำให้เล่น แบบ 4:3 ได้ภาพครบถ้วนแต่ภาพจะเล็กถ้าต้องการภาพใหญ่ต้องดึง PJ ห่างจอ


                                               Normal
Ratio 4:3               1. สัดส่วนไม่ถูกต้องแต่เป็น native ของภาพที่ออกมาแบบครบๆให้สังเกตว่าเป็นแบบ 4:3 เต็มๆ แต่ถ้าจะอ้างถึง  ratio 4:3 ของหนังด้านบนจะมี  Blk.bar แสดงว่า หนังข้างบนทำมาแบบไม่เต็มเฟรม  ไว้ work shop คงได้คุยกันยาววววววว.....
Ratio 16:9             2.  สัดส่วนถูกต้อง เล่นแบบปกติโดยไม่ใช้  anamorphic lens
Ratio  letterbox      3. ผิดสัดส่วน ผอมสูง ภาพหายไปบางส่วน               

[WK]

 :)ต่อไปคงเป็นเรื่องที่ได้ภาพจาก lens anamorphic  กับแบบธรรมดา อย่าเพิ่งพูดถึงความคมชัดให้เทียบ ratio ความถูกต้องก่อน เพราะเรื่องความคมชัดเมื่อจัด work shop จะเห็นความสมจริงกว่า
ในกระทู้นี้จะแสดงหนัง  2 เรื่องที่มี ขนาดที่ 16:9หรือ 1.85:1 กับ 2.35:1  มากล่าวถึงหนังที่มี ratio 2.35:1 ก่อน  เมื่อตั้ง Anamorpic lens   DVD หรือ Blu-ray  ตามความเห็นข้างบน จากภาพจะเห็นว่าซ้ายมือเป็นภาพที่เล่นผ่าน  anamorphic lens และขวามือเล่นแบบธรรมดาทั่วไป มีข้างละ 3 ภาพ ตามยาว คือ 4:3  16:9  และ letterbox   สรุปได้ดังนี้


                                            Anamorphic lens                                         
  Ratio 4:3            1.   สัดส่วนถูกต้อง แต่จะได้ภาพเล็ก   
  Ratio 16:9           2.   สัดส่วนไม่ถูกต้อง  ยืดเลย
  Ratio letterbox    3.   เป็นสัดส่วนที่ถูกต้องและต้องเล่นใน mode นี้   สังเกตุว่าขอบภาพบนจะตกท้องช้างหน่อย เพราะไม่ได้ฉายลงจอโค้ง


                                               Normal
 Ratio 4:3              1.  ผิดสัดส่วนคนผอมสูงและมี Blkbar บนล่าง เพราะหนังเรื่องนี้ทำมาแบบ 2.35:1
 Ratio 16:9            2.  สัดส่วนถูกต้อง เล่นแบบปกติโดยไม่ใช่ Anamorphic lens
 Ratio  letterbox    3.  ผิดสัดส่วน คนจะผอมสูง

[WK]

 :)การเล่นกับ Anamorphic lens จะต้องปรับเครื่องเล่น DVD หรือ Blu-ray ไปที่ Mode 16:9 คือให้เครื่องปล่อย file เต็มออกมา  แล้วปรับ PJ ให้เป็น mode Letterbox   (ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ มีเหตุผลอ้างอิงมากมายไว้  work shop เมื่อไรคงได้คุยกัน ต้องเข้าใจจุดนี้ถึงเล่น anamorphic ได้สมบรูณ์)

[WK]

 ;)ลักษณะการวางกล่องเลนส์ anamorphic ที่หน้า PJ ต้องหาระดับเองนะครับ PJ  แต่ละเครื่องจะมีมุม  offset ไม่เท่ากันแต่ก็น่าจะไกล้เคียงกัน สำหรับผมได้ลองกะ PJ เพียง 2 รุ่นเอง ก็คงต้องลองกับเพื่อนที่เล่นอีกหลายคน เมื่อฉายขึ้นจอก็อย่าเพิ่งตกใจนะครับว่าทำไมขอบบนมันตกท้องช้าง (เดี๋ยวมีรูปให้ดู)และขอบจอด้านบน ซ้าย-ขวามันบานออก แก้โดยใช้ keystone ตบเข้าหน่อย
กล่องเลนส์จะวางคว่ำหรือหงายก็ได้ตามสะดวกแต่ต้องตามเก็บแสงสะท้อนที่ไม่ต้องการของเลนส์ให้ดี  ส่วนตำแหน่งที่วางเลนส์ ตาม mark ที่ให้ไว้ก็น่าจะไกล้เคียง 16:9 เพราะได้ทดลองและวัดจากการทดสอบจริง สักกี่เปอร์เซ็นต์ น่าจะเกิน 90 ล่ะกัน

[WK]

 :)จะเห็นว่า กล่องที่ผมทำจะไม่ปาดหน้าประมาณ 45 องศา ตามลักษณะการวางของเลนส์ตัวหน้า เพราะได้ทดลองทำมาหลายตัวแล้วแสงมันจะกระจายฟุ้งออกมานอกจอ และเลนส์ตัวนี้ก็ไม่ได้เคลือบโค๊ต เพื่อลดการสะท้อน ทำให้ต้องหาทางอุดช่องการสะท้อนของเลนส์ให้หมด ยากเอาเรื่องเหมือนกัน การใช้โพมยางทำให้ง่ายต่อการแก้ไขโดยการตัดปะไปก่อน   สังเกตุว่าหน้ากล่องด้านบนต้องปาดออกให้เท่ากับขอบนอกสุดของเลนส์ เพราะมันไปบังแสงส่วนบนที่จะไปตกที่จอ ทำไปก็แก้ไปครับ

[WK]

 ;)ตัวกล่องผมใช้ ยางโพมสีดำหนาประมาณ 1 เซ็นต์ โดยการประกบคู่ให้หนาเกือบ 2 เซ็นต์โดยใช้ น้อตขันติดกัน หรืออาจจะใช้กาวยางแปะประกบก็ได้ แต่ที่ขันเกลียวปล่อยเพราะจะสะดวกต่อการแก้ไข ตัวโพมยางที่วางเลนส์แผ่นแรกเมื่อได้ mark ตำแหน่งแล้วก็ใช้  cutter ตัดทะลุเพื่อที่จะวางเลนส์ตัวนี้ให้ยึดติดกับตำแหน่งที่ต้องการ การทำตำแหน่งจะต้องทำให้ได้ตาม mark 100 % ถ้าคลาดเคลื่อนแม้แต่นิดเดียว องศาของแสงที่ไปตกบนจอ ก็จะเปลี่ยนไป

[WK]

 :)ตำแหน่งการวางเลนส์ ลองสูตรนี้ไปก่อนครับ ผมได้ลองกะ PJ 2รุ่น ratio ที่ได้ไกล้เคียงกัน  ด้านบนคือด้านหน้านะครับ

[WK]

  Anamorphic ก็มาแล้วหลายอาทิตย์ พี่ๆ น้องๆที่มีเลนส์จาก หมอนพมาไว้ในครอบครอง ก็ยังไม่เห็นมีใคร รายงาน  DIY กันเลยหรืออาจจะยังไม่ลงตัวก็ได้  ก็ขอให้ท่านไปลงชื่อที่กระทู้ของหมอนพ เพื่อที่จะได้เสวนา กับการทำ anamorphic กัน ผมเช่นกันพยายามลองผิดลองถูกหาตำแหน่งการวางระนาบเลนส์ เรียกว่านานพอควร วันนี้ผมลองเสนอวิธีการเฉพาะกิจของผมเอง เผื่อบางคนที่ยังทำไม่ได้อลงทำดูก่อน  ก่อนที่จะมีการเสวนาเรื่องนี้กันอีกที