HTG2.club

อยากถามเกี่ยวกับเรื่องเฟสของไฟครับ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ dekdek

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,261
 
เราจะทราบได้อย่างไรครับว่ากราว์ที่เราลงนั้นดีพอครับ
โดยปกติจะใช้เมกกะโอห์มมิเตอร์วัดจุดลงกราวด์จะต้องเป็นศูนย์โอห์มครับ
น่าจะเรียก Earth Tester หรือ เครื่องวัดความต้านทานดิน ครับ  มันเป็นเครื่องมือเฉพาะทางครับ
 แต่ถ้าทำกราวด์ในพื้นที่ลุ่ม อย่างกรุงเทพ หา ground rod แบบหุ้มทองแดง ยาว 3 เมตรโตสัก 5 หุน 1 ต้น น่าจะเหลือเฟือครับ (กราวด์ร็อดมันมีหลายแบบครับ ทั้งยาว ทั้งสั้น ทั้งชุบ ทั้งหุ้ม ทั้งอ้วน ทั้งผอม แล้วแต่กำลังทรัพย์ครับ ) ส่วนการเชื่อมต่อสายกับกราวด์ร็อด ถ้าทำได้แนะนำให้ใช้การเชื่อมแบบหลอมละลายครับ ( Exothermic Welding) ถามตามร้านที่ไปซื้อกราวด์ร็อด เค้า้เรียก โมลเชื่อมกราวด์  ตอนซื้อต้องบอกความโตของกราวด์ร็อด + ขนาดสายกราวด์ที่ใช้ด้วย ( การใช้โมลเชื่อมกราวด์ร็อด ต้องใช้สายดินโตตั้งแต่ 16 มม2 ขึ้นไปครับ ) มันจะจุดด้วยประกายไฟ ทำให้เกิดความร้อน
  หลอมละลายผงโลหะ +  หัวกราวด์ร็อด และ สายทองแดงเป็นเนื่้อเดียวกันครับ
 แต่ถ้าสายขนาดเล็กกว่าก็ใช้แคล้มรัดแทนครับ
  พื้นที่ในกรุงเทพจากที่เคยตอกกราวด์และวัดความต้านทานดิน ส่วนใหญ่ อยุ่ระหว่าง 0.5-5 โอมห์ ครับ
 
ข้อมูลส่วนบุคคล

http://www.htg2.net/index.php?topic=60285.0


ออฟไลน์ aphiphot

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,814
    • เพศ:ชาย
  • คุณพ่อขาอย่ามัวแต่ D.I.Y.จนลืมหนูนะคะ
เราจะทราบได้อย่างไรครับว่ากราว์ที่เราลงนั้นดีพอครับ
โดยปกติจะใช้เมกกะโอห์มมิเตอร์วัดจุดลงกราวด์จะต้องเป็นศูนย์โอห์มครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ==>> 
นายอภิภช เจริญกิจ
270 ม.3 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด 23000
eptrattc@hotmail.co.th
Tel.08186220-เจ็ด-หนึ่ง
Line id: aphiphot


ออฟไลน์ silicon

  • *****
    • กระทู้: 976
เราจะทราบได้อย่างไรครับว่ากราว์ที่เราลงนั้นดีพอครับ


ออฟไลน์ ninjagaiden

  • **
    • กระทู้: 60
กระจ่างมากครับขอบคุณทุกท่านมากครับ ถ้าได้ย้ายบ้านต้องไปหาช่างดีดีมาทำให้ซะแล้วครับ


ออฟไลน์ aphiphot

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,814
    • เพศ:ชาย
  • คุณพ่อขาอย่ามัวแต่ D.I.Y.จนลืมหนูนะคะ
เพิ่มเติมจากเพื่อนสมาชิกนะครับ สายไฟฟ้าที่มาจากมิเตอร์ของการไฟฟ้าและเข้ามาบ้านเราจะมีสองเส้นคือเส้นไฟ(Line)มาตรฐานจะใช้สายสีดำและดิน(Nuetral)มาตรฐานจะใช้สายสีเทา  ที่เรียกเส้นดินเนื่องจากการไฟฟ้าฯเค้าจะตอกกราวด์ที่เสาหม้อแปลงและเอาสายNuetralจากหม้อแปลงต่อลงดินที่เสาหม้อแปลง ทีนี้วิธีการจะทำระบบไฟในบ้านที่ไม่มีกราวด์(สายสองเส้น)ให้มีกราวด์(สายสามเส้น)คือให้เราเพิ่มสายไฟขนาด1.5sq.mm.เข้าไปในทุกจุดของสายไฟที่จ่ายไปปลั๊ก  กรณีเดินสายใหม่ให้ใช้สายสามแกนซึ่งเราเรียกว่าสายVAF(ถ้าต้องการเดินแบบเกาะผนัง ตีกิ๊บ) หรือให้ใช้สายTHW จำนวนสามเส้นแยกสีกันให้ชัดเจน(ปกติเส้นไฟจะใช้สีแดง,ดำ,น้ำเงิน ส่วนนิวตรอลจะใช้สีขาว สายกราวด์จะใช้สีเขียวหรือเขียวคาดเหลือง) ต่อสายที่ปลั๊กตามที่คุณหมีน้อยแนะนำ ส่วนแผงควบคุมถ้าจะเปลี่ยนใหม่แนะนำให้ใช้ตู้โหลดเซ็นเตอร์(มีแบบ2ช่อง,4ช่อง,6ช่องฯลฯ)ที่ตู้โหลดฯจะมีขั้วต่อสายไฟเข้าสายที่เป็นเส้นไฟจะถูกต่อไปที่บัสบาร์และจะถูกกำหนดให้จ่ายไปโหลดโดยเวอร์กิตเบรกเกอร์ย่อยส่วนนิวตรอลจะถูกต่อขึ้นไปที่ขั้วต่อสายที่ยึดติดกับโครงของกล่องตู้โหลด  ตรงนี้ให้เราเอาสายนิวตรอลและสายกราวด์มาต่อที่จุดนี้ครับหลังจากนั้นต่อสายกราวด์ขนาดไม่เล็กกว่า 6 sq.mm.(ต้องเป็นสายทองแดงนะครับ)ต่อจากขั้วต่อนี้ลงไปที่แท่งกราวด์ที่เราตอกฝังลงไปในดินครับ  ส่วนวิธีที่เราจะตรวจสอบว่าเส้นไหนเป็นเส้นไฟเส้นไหนเป็นเส้นนิวตรอลกรณีที่ไม่แน่ใจง่ายๆครับให้เราใช้ไขควงเช็คไฟมาจิ้มที่สายเลยครับจิ้มบริเวณที่เป็นทองแดงครับเส้นไหนไขควงไฟติดสว่างเส้นนั้นเป็นเส้นไฟครับ ส่วนถ้ามีไฟติดทั้งสองเส้นจะเกิดจากสายนิวตรอลหลวมครับ
ส่วนที่ถามว่าบ้านเดิมเดินสายแบบฝังผนังสามารถปรับปรุงเปลี่ยนสายใหม่ได้ครับให้เปิดฝ้าและหากล่องต่อสายซึ่งจะเป็นกล่องเหล็กหรือไม่ก็เป็นพลาสติกครับส่วนใหญ่ช่างจะมักติดตั้งอยู่บริเวณจุดที่จะต้องดึงสายลงมาปลั๊กหรือสวิทช์ครับ  เมื่อเจอแล้วก็ให้ดึงสายเก่าออกครับและใส่สายให่เข้าไปวิธีการร้อยสายใหม่โดยให้หาลวดราวตากผ้าครับมาแหย่ให้ปลายลวดไปโผล่ที่อีกด้านของท่อครับจากนั้นเอาปลายสายยึดติดกับปลายลวดพันเทปให้แน่นแล้วก็ค่อยๆดึงครับเมื่อสายโผล่ไปอีกด้านก็วัดแล้วก็ตัดสายได้เลยครับค่อยๆทำไปทีละจุดครับ
ส่วนวิธีการดูมิเตอร์ว่าบ้านเรากี่แอมป์ให้ไปดูที่มิเตอร์เลยครับถ้า5แอมป์เค้าจะตอกโค้ด 5(15)Aครับ หมายถึงมิเตอร์ขนาด5แอมป์แต่สามารถทนกระแสได้สูงถึง15แอมป์ครับเกินนี้ฉันจะพังแล้วนะประมาณนั้นครับ ส่วน15แอมปเป็นแบบนี้ครับ 15(45) ประมาณนี้แหละครับผิดถูกหรือขาดตกบกพร่องตรงไหนรบกวนช่วยเสริมหรือท้วงติงได้นะครับ ;D ;D
ข้อมูลส่วนตัวครับ==>> 
นายอภิภช เจริญกิจ
270 ม.3 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด 23000
eptrattc@hotmail.co.th
Tel.08186220-เจ็ด-หนึ่ง
Line id: aphiphot


ออฟไลน์ AMP150

  • *****
    • กระทู้: 841
ใช้ของเนชั่นแนลกับพวกปลั้กพัดลมตู้เย็นหม้อหุงข้าว กระเป๋าไม่ฉีกมากเท่าไร (135 บาท) แต่ถ้าจุดเครื่องเสียงใช้วัตต์เกตหรืออะไรแพงๆ ก็ตามสบาย คงใช้ไม่เกิน 2 คู่ หรอก :yahoo


ออฟไลน์ Boyjarb

  • ****
    • กระทู้: 435
ถ้าสายไฟระบบเก่าเค้าเดินฝังตามตัวตึกมานี่ถ้าเราเดินใหม่ นี่ผมก็จะฝังไม่ได้แล้วใช่มะครับ ต้องเดินลอยเหนือปุนใช่มะครับ
แล้วทำอย่างไรจึงจะดูสวยงาม ใช่ใส่ท่อร้อยสายหรือป่าวครับ หรือท่านอื่นมีวิธีอื่นแนะนำบ้างครับ รบกวนด้วยครับ
ใช้ท่อเหล็กร้อยสายไฟน่าจะดีที่สุดครับ (เดินลอยบนพนังนะครับ ไม่ฝัง)
เพราะทำง่าย (สำหรับข่าง) ซ่อมง่าย ดูมาตรฐานดี แต่เรื่องราคา
คงแพงเอาเรื่องเหมือนกันครับ
ข้อสำคัญสายไฟ ไหนๆจะเสียเงินแล้ว เลือกเอาของดีๆหน่อย เช่น
Thai Yazaki หรื Bangkok Cable และเลือกใช้ขนาดที่ถูกต้อง

ข้อสำคัญที่สุด ต้องเลือกช่างประเภทมืออาชีพเท่านั้นนะครับ
อย่าไปหาประเภท จบปอ 6 ตกปอ 4 มาทำโดยเด็ดขาด
เดี๋ยวพอทำเสร็จแล้ว ต้องหาคนไปแก้อีก

ข้อควรระวัง เครื่องไฟฟ้า เข่น เตาอบ, เครื่องทำน้ำอุ่น, ปั๊มน้ำ ฯลฯ
คุยกับช่างที่เดินไฟให้รู้เรื่องว่าให้แยกสายออกไปเลย เดี๋ยวจะมา
กวนเครื่องเสียงอีก แล้วคราวนี้มันจะตามล้างตามเช็ดกันไม่ไหว
เดี๋ยวจะพาลมาด่าพี่น้องในบอร์ดนี้อีก ว่าแนะนำกันดีนัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 มกราคม, 2009, 03:08:54 pm โดย Boyjarb »


ออฟไลน์ ninjagaiden

  • **
    • กระทู้: 60
ขอบคุณทุกท่านมากเลยครับ ผมเข้าใจผิดเรื่องเฟสมาตลอดเลยครับ วันนี้เพิ่งได้รับความรู้กระจ่าง แล้วการเช็คแอมป์นี่ดุที่หม้อของบ้านเราได้เลยใช้มะครับว่ากี่แอมป์ ถ้าสายไฟระบบเก่าเค้าเดินฝังตามตัวตึกมานี่ถ้าเราเดินใหม่ นี่ผมก็จะฝังไม่ได้แล้วใช่มะครับ ต้องเดินลอยเหนือปุนใช่มะครับ
แล้วทำอย่างไรจึงจะดูสวยงาม ใช่ใส่ท่อร้อยสายหรือป่าวครับ หรือท่านอื่นมีวิธีอื่นแนะนำบ้างครับ รบกวนด้วยครับ


ออฟไลน์ ปาท่องโก๋

  • รักหลอด ตอนแ่ก่
  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,127
    • เพศ:ชาย
 O0 O0 O0 O0
 เหนือคำบรรยาย ขอบคุณสำหรับความรุ้ครับ ( ความรู้ คู่ปัญญา) :yahoo :yahoo
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แต่ที่ทำไม่ได้ เพราะไม่ทำ
http://www.htg2.net/index.php?topic=34935



ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....

ออฟไลน์ Reactor

  • ***
    • กระทู้: 207
    • เพศ:ชาย
กลัวเรื่องไฟรั่ว ไฟช้อตครับ พอดีเป็นหมู่บ้านเก่าครับ

ลองดูสภาพสายไฟ  ความเรียบร้อยของการเดินสาย  อายุสายไฟ เช่นบ้านสร้างมา 15 ปี สายไฟไม่เคยเปลี่ยนเลย แล้วต้องอยู่บ้านนี้ อีกนาน
ก็น่าลงทุนเปลียนสายทั้งระบบ เอาให้ดีไปเลย   O0หรือ แก้ไขจุดที่จำเป็นไปก่อน เช่น เพิ่ม Ground เครื่องซักผ้า   เครื่องทำน้ำอุ่น 
   อีกอย่างครับ บ้านเก่าหม้อแปลงไฟ ถ้าเป็น 5 แอมป์ ( Max 15 Amp) ต้องดูการใช้ไฟของครอบครัวด้วย ใช้แอร์ หรือเปล่า ระวังไฟเกิน ฟิวส์ขาด :cry2
แต่ถ้าบ้านยุคหลัง การไฟฟ้าเขาให้ไปเลย 15 แอมป์เป็นมาตรฐาน  :showoff


ออฟไลน์ คุณหมีน้อย

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,727
  • ใจสำราญ งานสำเร็จ
การต่อสายไฟ 1 เฟส ที่มี 3 เส้น คือ Line, Neutral และ Ground หรือ Earth
เข้ากับ เต้ารับ, ปลั๊กไฟตัวผู้, และ ปลั๊กไฟตัวเมีย
ควรจะต่อให้ถูกขั้ว นั่นคือ
เมื่อมองที่เต้ารับดังแสดงในรูป (ดูเป็นรูปหน้าคนที่มี ตา กับ ปาก)
ถ้ากำหนดให้ Ground อยู่ข้างล่าง ขั้วที่เป็น Line จะอยู่รูบนขวา
ส่วนขั้ว Neutral จะอยู่รูบนซ้าย

ส่วนปลั๊กไฟตัวผู้ เมื่อเรามองเข้าหา ขั้วปลั๊ก
ขั้ว Ground อยู่ขาล่าง, ขั้ว Line จะอยู่ขาบนซ้าย
ส่วนขั้ว Neutral จะอยู่ขาบนขวา
เพื่อให้เวลาเสียบกับเต้ารับแล้วจะได้ตรงกัน

ปลั๊กไฟตัวผู้ ที่ไม่มี Ground และเป็นขาแบน 2 ขา
ขาแบนกว้าง จะเป็น Neutral
ขาแบนแคบ จะเป็น Line

การดูสีของสายไฟ สามารถแยกได้ว่าเส้นไหนเป็นอะไร คือ
สาย...........มาตรฐานเก่า.........มาตรฐานเก่า...........มาตรฐานใหม่
Line..........Red........................Black......................Brown
Neutral.....Black......................White.....................Blue
Ground....Green.....................Green....................Green/Yellow Stripe

นอกจากนี้ เต้ารับ หรือ ปลั๊กไฟ ที่มีคุณภาพดีๆ
อาจมีการกำหนดสี บนน็อต หรือขั้วปลั๊กไว้ด้วย
ซึ่งจะมีอยู่ 3 สี คือ ทอง เงิน และ เขียว
โดย สีทอง (หรืออาจเป็นสีดำ) คือ Line สีเงินคือ Neutral และ สีเขียวคือ Ground


 ;)
ไม่มีที่แห่งใดจะอบอุ่นเท่าบ้านหลังแรกของเรา... !


ออฟไลน์ Boyjarb

  • ****
    • กระทู้: 435
คือผมกำลังจะย้ายไปอยู่บ้าน หลังนึงที่ ที่มีไฟแบบ 2 เฟส ปลักก็เป็นแบบ 2 รูทั้ง หลังเลย ไม่ใด้เป็นไฟแบบ 3 เฟส คือไม่มีระบบสายดิน ผมจะทำไงให้ระบบในบ้านเป็น 3 เฟสครับ
คุณเข้าใจอะไรบางอย่างผิดแล้วครับ สำหรับไฟบ้านที่เราใช้กันตามปรกติ 220 Volt
เรียกว่าไฟ 1 เฟส (ไม่ว่าจะมี 2 รูหรือ 3 รู) ส่วนไฟ 3 เฟส คือไฟ 380 Volt ส่วนใหญ่
ใช้ตามโรงงานหรือในบางบ้านเท่านั้นที่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ไฟ 380 Volt
เช่นมอเตอร์ลิฟต์หรือ มอเตอร์ปั๊มน้ำฯลฯ ไฟ 2 เฟสไม่มีครับ

คำถามของคุณคือ คุณต้องการที่จะให้มี Ground ทุกจุดในบ้านถูกต้องไหมครับ
วิธีทำให้มี Ground คุณต้องไปซื้อแท่ง Ground มาก่อน ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า
ใหญ่ๆมีทุกร้าน หาไม่ได้ไปร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าย่านวัดตึกมีแน่ หาร้านที่ขาย
อุปกรณ์จำพวก Breaker ครับ ส่วนใหญ่ทำด้วยทองแดง ยาวประมาณเมตรกว่า
เมื่อซื้อมาแล้ว เอามาปักลงบนดินให้มิด แล้วต่อสายจากหัวแท่ง Ground ขันให้
แน่น จะให้ดีขันเสร็จแล้วหาสีน้ำมันทาทับกัน Oxide จับ สาย นี้แหละครับคือสาย
Ground ทีนี้ก็ครบแล้วละครับ ซื้อสาย Ground มาด้วยนะครับ ให้ร้านขายแนะนำ
จริงๆแล้วยี่งใหญ่ยิ่งดี แต่ถ้าใหญ่มันจะแพงและเดินสายยาก

สายสองเส้นที่มีอยู่เดิม มันจะมีไฟเส้นหนึ่ง เรียกว่า Line (L) อีกสายหนึ่งที่ไม่
มีไฟเรียกว่า Neutron (N) ส่วนสายเส้นใหม่คือ Ground (G) ต่อเข้าปลักไฟ
ให้ถูกตามตำแหน่ง

ทีนี้มันก็จะมีปัญหาตามมาคือ ลง Ground จริงหรือเปล่า และ ต่อปลั๊กไฟได้
ถูกต้องตามตำแหน่งหรือเปล่า อันนี้มันมีหลายวิธีเช็ค ของผมใช้ Powerbridge
ของ Clef Audio เช็ค ง่ายดี ซื้อมาตัวหนี่งก็ไม่แปลก ยังไงก็ได้ใช้กับชุดเครื่อง
เสียงอยู่แล้วครับ

ส่วนเรื่องงบบานปลายคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ เพราะเฉพาะค่าปลั๊กก็เหนื่อยแล้ว
วิธีแก้ก็คือเลือกทำเฉพาะจุดที่จำเป็น เช่นเครื่องเสียง, ตู้ย็น, เตาอบ ฯลฯ
ตัวปลั๊กไฟก็ดูที่วัดตึกเลยครับ ปลั๊กราคาประมาณไม่เกิน 200 บาทฐานอีกประมาณ
60 บาทฝาครอบอีกประมาณ 40บาทครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม, 2009, 03:33:08 am โดย Boyjarb »


ออฟไลน์ ninjagaiden

  • **
    • กระทู้: 60
คือผมกำลังจะย้ายไปอยู่บ้าน หลังนึงที่ ที่มีไฟแบบ 2 เฟส ปลักก็เป็นแบบ 2 รูทั้ง หลังเลย ไม่ใด้เป็นไฟแบบ 3 เฟส คือไม่มีระบบสายดิน ผมจะทำไงให้ระบบในบ้านเป็น 3 เฟสครับ
กลัวเรื่องไฟรั่ว ไฟช้อตครับ พอดีเป็นหมู่บ้านเก่าครับ เลยอยากถามเพื่อนสมาชิกว่าต้องทำไงดี ครับ แต่ถ้าต้องเดินระบบใหม่ทังระบบ คงเหนื่อยแน่ งบคงบานแน่เลย มีวิ๊ธีแก้อย่างอื่นมั้ยครับ
รบกวนด้วยครับ