0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผมชอบเรื่องปวดหัว ยกมาสิครับเดี๋ยวเช็กให้ แต่คงต้องทิ้งไว้วันสองวัน เพราะต้องเอากลับบ้านแล้วเอาสโคปจับครับถึงจะรู้ว่ามันเสียที่ตัวไหน
ใส่ opamp กลับด้านหรือเปล่าครับ ผมเคยโนไปหลายทีเหมือนกัน กลับทีไรกลิ่นฉุยทุกที อิอิ
แหะๆไม่ทราบเหมือนกันครับ แบบว่าเคยแต่ฟังที่เขาเอามาให้ลองเสียงยังไม่ได้ซื้อใช้เองเพราะโดยส่วนตัวชอบเสียง opa637 มากกว่าครับ แต่เท่าที่ถามๆดูเห็นเขาสั่งทางเว็ปอย่าง ebay ครับแต่ต้องระวังว่า opamp มีหลายเกรด ไม่รู้มีปลอมบ้างหรือเปล่า คราวก่อนมีคนสั่ง ad8620 มาเห็นมันถูกดีตัวละสองร้อยกว่าในขณะที่ตอนนั้นในไทยขายกันอยู่ราวๆ 800 ปรากฎว่า 8620 ที่ปรกติเสียงจะใสรายละเอียดดีกลายเป็นเบสเพียบแถมไม่ค่อยใสไป เรียกว่าเป็น opamp คนละเบอร์ไปเลย สรุปว่าน่าจะปาทิ้งหมดทั้งล๊อดมั้งครับ ตอนนี้เป็นที่ hifimod มี8620ขายราคาไม่แพงแต่ใส่แล้วจะมีปัญหาเสียงไม่เหมือนตัวแพงด้วยหรือเปล่าอันนี้ยังไม่ได้ลองครับ
อ้างจาก: DIY C ที่ 06 มกราคม, 2009, 01:50:49 amสวัสดีครับ ตอนนี้ผมกำลังทำ DAC ตามวงจรดังกล่าวอยากทราบว่าจะใช้ Dual OPAเบอร์ไหนดีครับ ที่ให้ซุ่มเสียงแบบ C coupling ของ jensen ( coper) ที่ใช้กับหลอด ชอบเสียงในแบบของทางยูโรป ครับ ฟังสบาย ขอบคุณมากครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=37496.350 มีรายละเีีอียดใน weblink นี้ครับ เสียงก็แล้วแต่นะครับบอกไม่ได้ว่าจะแนวไหนดี แต่ opamp ทาง opa ของ bb มักจะออกเน้นเนื้อๆมันส์ๆสดๆ น่ะครับ เลยออกจะตรงข้ามกับอุ่นๆนุ่มๆไป ถ้าจะให้แนะนำผมว่าใช้ opamp ทำ i/V แบบเร็วๆอย่าง ad8620 ครับ ส่วนตัวขยายสัญญาณ ใช้ ad797 ก็จะได้เรื่องนุ่มนวลหน่อยนึง แต่ ad797 จะเป็น single ต้องใช้สองตัวแล้วใส่ตัวแปลงเอาครับ
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมกำลังทำ DAC ตามวงจรดังกล่าวอยากทราบว่าจะใช้ Dual OPAเบอร์ไหนดีครับ ที่ให้ซุ่มเสียงแบบ C coupling ของ jensen ( coper) ที่ใช้กับหลอด ชอบเสียงในแบบของทางยูโรป ครับ ฟังสบาย ขอบคุณมากครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=37496.350 มีรายละเีีอียดใน weblink นี้ครับ
อ้างจาก: DIY C ที่ 06 มกราคม, 2009, 01:50:49 amสวัสดีครับ ตอนนี้ผมกำลังทำ DAC ตามวงจรดังกล่าวอยากทราบว่าจะใช้ Dual OPAเบอร์ไหนดีครับ ที่ให้ซุ่มเสียงแบบ C coupling ของ jensen ( coper) ที่ใช้กับหลอด ชอบเสียงในแบบของทางยูโรป ครับ ฟังสบาย ขอบคุณมากครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=37496.350 มีรายละเีีอียดใน weblink นี้ครับ เสียงก็แล้วแต่นะครับบอกไม่ได้ว่าจะแนวไหนดี แต่ opamp ทาง opa ของ bb มักจะออกเน้นเนื้อๆมันส์ๆสดๆ น่ะครับ เลยออกจะตรงข้ามกับอุ่นๆนุ่มๆไป ถ้าจะให้แนะนำผมว่าใช้ opamp ทำ i/V แบบเร็วๆอย่าง ad8620 ครับ ส่วนตัวขยายสัญญาณ ใช้ ad797 ก็จะได้เรื่องนุ่มนวลหน่อยนึง แต่ ad797 จะเป็น single ต้องใช้สองตัวแล้วใส่ตัวแปลงเอาครับอ้างจาก: csanti2000 ที่ 06 มกราคม, 2009, 01:55:08 amแล้วผมจะทำยังไงหระครับ เอาออกไปแล้วด้วย ก็เอาใส่ใหม่สิครับไม่เห็นยาก อิอิ ถ้าชอบเสียงตอนไม่ใส่ก็ลองใช้วิธีลดค่า C ลง อาจจะใส่สัก 47n ก็ได้ครับ ลองดูเสียงที่ถูกใจที่สุดครับ แต่ไม่แนะนำให้เอาออกเลย เพราะวงจรนี้มีความถี่สูงปนออกมาค่อนข้างเยอะครับ
แล้วผมจะทำยังไงหระครับ เอาออกไปแล้วด้วย
อ้างจาก: nopphong ที่ 06 มกราคม, 2009, 12:26:42 amอ้างจาก: csanti2000 ที่ 05 มกราคม, 2009, 04:37:14 pmแล้วเจ้า opa นั้นต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลยหรอป่าวครับ หรือว่าเปลี่ยนตัว เอ้าพุดพอครับ(ถ้าต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลย ต้องใช้ opa รุ่นเดียวกันทั้งหมดเลยหรือป่าวครับ) พอดีตอนนี้มี 2132P 2134PA แล้วก็มี 2111 อยู่นะครับผมจะใช้ OPA เบอร์ไหนดีครับ ที่จะให้ซุ่มเสียงคล้ายกลับC coupling ของ jensen ( coper foil ) เสียงออกทางยุโรบไม่จัดจ้าน ตามวงจรที่แนบมา มีข้อจำกัดในการใช้อย่างไรบ้างมือใหม่จริงๆ เกียวกับ OPA ครับ
อ้างจาก: csanti2000 ที่ 05 มกราคม, 2009, 04:37:14 pmแล้วเจ้า opa นั้นต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลยหรอป่าวครับ หรือว่าเปลี่ยนตัว เอ้าพุดพอครับ(ถ้าต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลย ต้องใช้ opa รุ่นเดียวกันทั้งหมดเลยหรือป่าวครับ) พอดีตอนนี้มี 2132P 2134PA แล้วก็มี 2111 อยู่นะครับผมจะใช้ OPA เบอร์ไหนดีครับ ที่จะให้ซุ่มเสียงคล้ายกลับC coupling ของ jensen ( coper foil ) เสียงออกทางยุโรบไม่จัดจ้าน ตามวงจรที่แนบมา มีข้อจำกัดในการใช้อย่างไรบ้างมือใหม่จริงๆ เกียวกับ OPA ครับ
แล้วเจ้า opa นั้นต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลยหรอป่าวครับ หรือว่าเปลี่ยนตัว เอ้าพุดพอครับ(ถ้าต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลย ต้องใช้ opa รุ่นเดียวกันทั้งหมดเลยหรือป่าวครับ) พอดีตอนนี้มี 2132P 2134PA แล้วก็มี 2111 อยู่นะครับ
dac ไม่พังหรอกครับ แต่แอมป์จะพัง เพราะมันจะมีความถี่สูงปนออกไปกับสัญญาณเพียบ ถ้าแอมป์มีแบนด์วิธพอ มันจะสามารถขยายเจ้าความถี่สูงนี้ด้วย ผลก็คือจะเป็นโหลดของแอมป์เพิ่มขึ้น(โดยเราไม่ได้ยิน) เปิดนานๆแอมป์อาจจะร้อนจัดจนเสียหายได้ครับแต่ถ้าแอมป์แบนด์วิธไม่ถึง ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเพราะมันขยายไม่ได้อยู่แล้วครับ
อ้างจาก: csanti2000 ที่ 05 มกราคม, 2009, 04:37:14 pmแล้วเจ้า opa นั้นต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลยหรอป่าวครับ หรือว่าเปลี่ยนตัว เอ้าพุดพอครับ(ถ้าต้องเปลี่ยนทั้ง3ตัวเลย ต้องใช้ opa รุ่นเดียวกันทั้งหมดเลยหรือป่าวครับ) พอดีตอนนี้มี 2132P 2134PA แล้วก็มี 2111 อยู่นะครับทั้งสามเบอร์ไม่เหมาะที่จะใช้ทำ i/v เพราะ slew rate ต่ำครับคือ opamp ที่ใช้ทำ i/v ต้องเป็น opamp ที่เร็วมากๆ (สี่ตัวหน้า) ต้องใช้เบอร์เดียวกันทั้งสี่ตัวครับ ส่วน สองตัวหลังสามารถใช้อีกเบอร์ได้ ควรใช้ opamp ที่สัญญาณรบกวนต่ำเพราะตัวนี้จะเป็นตัวขยายสัญญาณครับ[/quotehttp://www.htg2.net/index.php?action=dlattach;topic=37496.0;attach=87101 สวัสดีครับ ตอนนี้ผมกำลังทำ DAC ตามวงจรดังกล่าวอยากทราบว่าจะใช้ Dual OPAเบอร์ไหนดีครับ ที่ให้ซุ่มเสียงแบบ C coupling ของ jensen ( coper) ที่ใช้กับหลอด ชอบเสียงในแบบของทางยูโรป ครับ ฟังสบาย ขอบคุณมากครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=37496.350 มีรายละเีีอียดใน weblink นี้ครับ
ผมว่าไม่ควรถอดซีพวกนี้นะครับ บางครั้งอาจทำให้ชิปแดคพังได้เลย ผมเคยเจออย่างจูนเนอร์ธรรมดานี่แหละ ถอดซีตัวนี้ออก ชิปพังเลย ขนาดเป็นชิปอนาล๊อคยังพังเลย นี่เป็นดิจิตอลนะครับ นิ้วเขี่ยก็พังแล้ว ทางแก้ควรใช้ซีคุณภาพดีอย่างน้อยก็ wima mkp น่าจะดีกว่า
เพิ่มเติมครับให้ถอดC shunt(C6,C7,C8,C9)ค่า0.1uFออกครับแล้วลองเปรียบเทียบเสียงดูครับว่าชอบแบบใส่Cหรือไม่ใส่ครับ Cตัวนี้จะทำหน้าที่bypassความถี่สูงลงกราวด์ครับ
ลองเปลี่ยนopampดูก่อนก็ได้ครับ หรือถ้าจะให้ดีเปลี่ยนCภาคI/Vเกรดดีๆหน่อย ท้ายสุดก็ภาคจ่ายไฟครับของผมกำลังทำใหม่เอาของคุณwasinครับเป็นภาคจ่ายไฟDAC wasinครับ แถมรูปวงจรครับ
แค่ในเว็ปนี้ก็ได้คำตอบแล้วล่ะครับ เบื้องต้นก็ถ่ายรูป + หาวงจรของ dac ตัวนี้มาแค่นี้ก็แนะนำต่อได้แล้วครับว่าควรจะทำอะไรกับมันลืมไป แน่ใจนะครับว่าจะโมมัน เพราะ เท่าที่ลอง dac เบอร์นี้ ใช้ i/v ถึง 4 ชุด และยังต้องมีชุดขยายความต่างอีกชุด รวมๆแล้วก็ต้องใช้ opamp 6ตัวถ้าจะใช้ opamp single ดีๆก็ตัวละ 500 ปาไป 3000 แล้ว ถ้าใช้ ad8620 ก็ 3 ตัว ตัวละราวๆ6-800 ยังไม่รวมอุปกรณ์ที่ใช้ในส่วนนี้ที่ต้องดีอีกถ้าจะใช้เกรดธรรมดาบอกได้เลยครับว่า dac ตัวนี้เสียงไม่ประทับใจครับ อยู่ในระดับดี แต่ไม่ดีมาก พอเอาไปฟัดกับ DAC ที่เขาขายกันแล้วมันยังแพ้อยู่ เสียงมันสดชัดแต่แคบรายละเอียดยังไม่ค่อยดีครับ พอดีผมทำมาแล้วเอาไปลองเทียบกันมาแล้วอกหักกลับมาครับ ยังไงลองพิจารณา tda1541 กับ tube i/v ดูครับ ผมลองทำแล้วเสียงมีรายละเอียดและฟังดีกว่า pcm1730 พอสมควรครับจริงๆถ้าวันไหนว่าก็ยกเอา dac ของคุณมาลองฟังเทียบกับตัวของผมดูได้ครับ ดูว่าชอบแนวไหน จะได้ไม่ต้องเสียตังค่าโมผิดตัวครับร้านก็อยู่ fortune ชั้น 3 ตรงข้าม true เป็นร้านขายโน๊ตบุ๊คนะครับร้านผมอยู่ด้านใน ไม่ไต้ขายเครื่องเสียงนะครับ อิอิ
คนเดียวกันครับ แนะนำได้ครับเพราะทำมาหลายแบบแล้ว แต่ไม่ได้รับทำน่ะครับ
พอดีไม่มีรูปวงจรครับเลยบอกแบบเจาะจงไม่ได้แต่เบื้องต้นจุดที่ให้เสียงต่างกันใน Dac คือภาคจ่ายไฟ ต้องดูว่าของเดิมเขาทำมานิ่งดีหรือยัง ส่วนต่อไปที่จะมีผลก็ภาค i/v ซึ่งก็แล้วแต่ว่าในวงจรเป็นแบบไหน ถ้าเป็นแบบหลอด ก็หาหลอดดีๆมาใส่ มีผลมากๆครับ กับ R ทีใช้เป็นตัว i/v อันนี้ก็มีผลกับเสียงมากเช่นกัน ทั้งเรื่องของค่า และชนิดของ R มีผลมากทั้งคู่ครับถ้าใช้ opamp i/v ก็ต้องหา opamp ที่ noise ต่ำ slewrate สูงๆเพราะใน datasheet กำหนดไว้เลยว่าต้อง slewrate สูงมากๆ บางตัวเราดูเหมือนจะดี แต่ slew rate ไม่ได้ เสียงมันจะแคบลงครับ ผมเคยใส่ opa2134 เพราะเคยใช้ประจำและนึกว่ามันดีพอสมควร น่าจะดีกว่า ne5532 ตัวละสิบบาทที่แนะนำให้ใช้ใน data sheet ปรากฎว่าแพ้ dac ตัวอื่นกระจายพอมาดูดาต้าชีทปรากฎว่า opa2134 ถึงจะแพงกว่า ne5532 มากแต่ slew rate ต่ำกว่าเลยไม่เหมาะกับงานนี้ครับ opamp ที่แนะนำ ถ้ามีงบสักหน่อย ก็ ad823 กับ ad8620 ตัวนี้ slew rate สูงมาก แต่เสียงจะออกแหลมหน่อย ถ้างบเหลือเฟือก็เล่นพวก single ไปแปลงเป็น dual อย่างพวก opa627 แต่ต้องดูด้วยว่าถ้าใช้ opamp หลายตัว งบอาจจะบานได้ครับจริงๆยังมีอีกหลายจุด แต่ผลกับเสียงจะรองๆลงไปไม่ได้ชัดเจนเหมือนกับเปลี่ยนพวกข้างบนที่ว่ามาครับ