ผมขอคัดลอกจดหมายที่คนไข้ของผมส่งมาให้อ่านครับ ท่านเป็นนายธนาคารเก่า ปีนี้ 74 ปีแล้ว ลองอ่านดูนะครับ นี่เป็นฉบับที่ 13 จากคุณธัชชัย อ่านแล้วอายจังเลย ว่าความรู้ทางภาษาของเราทั้งไทย ทั้งอังกฤษมันยังอ่อนนนน
กรุงเทพฯ
15 ม.ค. 2552
ฉบับที่ 13
สวัสดีลูกๆ หลานๆ และเพื่อนลูกเพื่อนหลาน ทุกคน
วันนี้ต้องสวัสดีกับหลานด้วย เพราะพี่ปุ๊ ของลูก ส่งอีเมล์มาให้กำลังใจและให้คำแนะนำที่ดี รวมทั้งเมื่อวานนี้คุณหมอพูลชัย ก็ให้ feedback มาและให้กำลังใจด้วย โดยบอกพ่อว่า การเขียนภาษาอังกฤษวันละสามสี่คำ เป็นการช่วยให้เซลล์สมองไม่ตาย ก็ตรงกับความเข้าใจเอาเองตามหลักธรรมชาติว่าร่างกายของเราถ้าออกกำลังและใช้สมองของเราอยู่เสมอๆ ธรรมชาติต้องปรับสภาพร่างกายของเราให้รองรับการใช้งานของร่างกายให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าเราออกกำลังเสมอๆอย่างชาวไร่ชาวสวน ร่างกายก็จะแข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บก็จะทำให้เราล้มป่วยได้ยาก ถ้าเรายกของหนักอยู่บ้าง เราก็จะมีกล้ามเนื้อเส้นเอนและกระดูกที่แข็งแรง แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอนะ และต้องไม่บอกตัวเองว่า แก่แล้วอย่าออกกำลังมากเกินไป โชคดีที่พ่อออกกำลังด้วยการเล่นกอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 30 กว่าๆ และเข้าห้องยิมที่สปอร์ตคลับอย่างสม่ำเสมอเมื่ออายุ 50 กว่าๆ
ก่อนสิ้นปีเก่า ที่พ่อไปหาคุณหมอพูลชัยมา คุณหมอดูฟิล์มเอ็กซเรย์ช่วงอกของพ่อที่ได้มา จากการไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.มงกุฏวัฒนะมาใหม่ๆ แล้วบอกพ่อว่า กระดูกแขนของพ่อยังหนาปึก ไม่เหมือนคนแก่ทั่วไป และยังไม่มีลักษณะของกระดูกพรุนด้วย พ่อเลยแฮปปี้มาก แต่นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้ว ข้อสำคัญที่สุดของการชลอความแก่คือ ต้องเลือกกินแต่อาหารที่มีคูณค่าแก่ร่างกายเท่านั้น และอย่าเอาสิ่งที่อาจจะเป็นพิษเข้าไปในร่างกายเรา
วันนี้ขอเริ่มด้วยคำศัพท์ทางการเมืองสองสามคำ ที่ส่วนมากยังไม่เป็นที่เข้าใจของชาวบ้านทั่วไป มีคนเคยถามพ่อมาแล้วว่า วิป ที่ใช้กันในวงการเมืองนั้นมาจากคำไหนในภาษาอังกฤษ ก็พอดีปุ๊ถามมาด้วย เลยขออธิบายเสียเลย วิป มาจาก whip ที่แปลว่า แส้ ทั้งแบบยาวที่ใช้เป็นอาวุธก็ได้ เป็นเครื่องมือในการห้อยโหนก็ได้ ทำด้วนหนังวัวส่วนมาก แต่ทำด้วยโซ่โลหะ เส้นลวด หรือ เชือกก็มีแล้วแต่จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร เช่นผู้คุมใช้ตี นักโทษหรือทาษในสมัยโบราณเพื่อบังคับให้ทำงาน ถ้าใครเคยดูหนังโบราณคงจะเข้าใจ ในหนังแอ๊กชั่น อย่างเรื่องของ Zorro ก็คงนึกออกว่า Zorro ใช้แส้เก่งมากในการต่อสู้ แส้สั่นๆที่จ๊อกกี้ใช้ตีม้าในการแข่งม้าก็เรียกว่า whip เหมือนกัน
whip ถ้าเป็นคำกริยาแปลว่าฟาดหรือหวดด้วยแส้ หรือทำอะไรที่ทำให้คนอื่นอยู่ในแถวในแนว หรือการเร่งรีบทำอะไรซักอย่าง ถ้าเป้น intranstive verb หมายถึงอาการที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช่น The wind whipped across the fields ทุกคนคงรู้จัก whipped cream กันดี whip จึงแปลว่า ตีให้ขึ้นฟองด้วย
เพราะฉนั้น วิป คือคนของพรรคการเมืองแต่ละพรรคในสภาผู้แทนราษกร ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลให้สมาชิกของแต่ละพรรคทำในสิ่งที่เป็นมติของพรรค เช่นมาเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อจะมีการ vote คือลงคะแนนเสียงสนับสนุนหรือคัดค้านการออกกฏหมาย หรือมีมติในการใช้มาตรการทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง
ต้องเข้าใจด้วยว่าระบบรัฐสภาของอังกฤษผู้ที่เป็นสมาชิกของ House of Commons ที่อังกฤษเรียกว่า MP (menber of parliament) นั้น จะมีอิสระในการลงคะแนนเสียง ผู้นำของแต่ละพรรคจะบังคับให้ลูกพรรค ลงคะแนนเสียงตามใจไม่ได้ วิปของพรรคไม่ว่าจะเป็น Tory (พรรคอนุรักษ์นิยม หรือ Conservative) หรือ Whig (พรรคกรรมกร หรือ Labour) จึงมีหน้าที่แต่เพียงขอให้ลูกพรรคไปร่วมประชุม อย่างดีก็แค่โน้มน้าวน้ำใจลูกพรรคให้ลงคะแนนเสียงไปในทืศทางเดียว ในสมัย Tony Blair เป็นนายกฯของพรรคเลเบอร์มีสมาชิกลูกพรรคหลายคนลงคะแนนเสียงคัดค้าน กฏหมายบางฉบับมาแล้ว ถือกันว่าทำให้ Tony Blair เสียหน้ามาก ในสหรัฐฯ วิป ทำหน้าที่ช่วยเป็นผู้นำในสภา ที่เรียกว่า floor leader เกลี่ยกล่อมให้สมาชิกในพรรคของตน จะเป็น Republican (ริ-พับ-ริ-กันหรือ Democrat (เดม-มอ-แครท) ก็แล้วแต่ ลงคะแนนเสียงสนับสนุนร่างกฏหมาย (bill) ให้ผ่านสภาไปด้วยดี ตามที่พรรคเห็นชอบ แต่ไม่ทำก็ได้เพราะสมาชิกสภาผู้แทนฯของสหรัฐมีอิสระในการออกเสียง สมาชิกสภาผู้แทนฯ ของสหรัฐนั้น เรียกกันทั่วไปว่า Congressman หรือ Congresswoman
ศัพท์การเมืองที่ออกเสียงไม่ค่อยจะถูกกัน คือ democracy คนไทยส่วนมากอ่านว่า ดี-โม-เคร-ซี่ แต่ฝรั่งจะออกเสียงว่า ดิ-ม๊อก-คระ-ซี่ เวลาจะพูดหรืออ่านคำนี้จะต้องระวัง อย่าพูดแบบไทย ลัทธิการเมืองมีอยู่หลายอย่าง ที่บางคนอาจจะสับสน จึงขอพูดถึงเสียเลย เราต้องเข้าใจก่อนว่า ลัทธิประชาธิปไตยที่เรา แปลมาจาก democracy ในภาษาอังกฤษนั้น มีหลักการว่า เริ่มแรกว่า ประชาชนทุกชั้นต้องม้ส่นรวมในการปกครองดูแลบ้านเมือง ในสมัย เมืองเอเธนส์ ในกรีกโบราณกำลังรุ่งเรืองทางศิลปวิทยาการ ประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล ผู้ชายทุกคนมีสิทธิในการเข้าประขุมที่เรียกว่า citizen assembly เพื่ออกเสียงในเรื่องของการปกครองและกฏหมายต่างๆ วิธีนี้เรียกว่า direct democracy หริอประชาธิปไตยทางตรง
ในการปฎิวัติฝรั่งเศส เรารู้จักกับหลักการใหม่ในการปกครองประเทศสามคำ คือ Liberty (ลิบ-เบอะ-ที่), Equality (อิ-ควอ-ลิ-ที่) และ Fraternity (ฟระ-เท้อร์-นิ-ที่) ซึ่งเราเรียกว่า เสรีภาพ ความเสมอภาค และภารดรภาพ
เราคงเคยได้ยินกันมาแล้วว่า ในระบอบประชาธิปไตยนั้น การบริหารประเทศต้องกระทำโดยรัฐบาลที่เป็นของประชาชนทั่วไปในสังคม ไม่ใช่โดยผู้ใดผู้หนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยประชาชนทุกชนชั้นมีส่วนในการปกครอง และเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม เราต้องจำความหมายนี้ไว้ให้ดี เพื่อใช้เป็นหลักในการพิจารณาว่าการกระทำของนัการเมืองเป็นไปตามหลักการนี้หรือไม่ วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ถือว่าเป็นขั้นตอนของระบอบประชาธิปไตย เช่นการเลือกตั้ง เพื่อหาตัวแทนของประชาชนในแต่ละท้องถิ่นไปประชุมกันในสภาเพื่อตัดสินกันว่าจะดำเนินการปกครองกันอย่างไร นั้นเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการทั้งหมดของการปกครองแบบประชาธิปไตย ไม่ใช่ว่าการเลือกตั้งเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของการเป็นประชาธิปไตย อย่างพวกนายหน้าเหลี่ยมทึกทักเอา
นิยามนี้มาจากปฐากถาของ ประธานิธิบดี Abaham Lincoln (เอบ-บระ-ฮัม ลิ้น-คัน) ที่กล่าวที่เมือง Gettysburg (เก็ท-ถิดซ-เบิร์ก) หลังจากที่กองทัพฝ่ายเหนือ (Union Army ยูน-เนียน อาร์-มี่) รบชนะกองทัพฝ่ายใต้ (Confederate states Army คอน-เฟด-ดะ-เร้ท สเทตซ์ อาร์-มี)ได้รับชัยชนะในสงครามกลางเมืองของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีลินคอล์น ได้ไปทำพิธีเปิดสุสานของทหารฝ่ายเหนือ ที่เมืองนี้ ในรัฐ Pennsylvania (เพน-ซึ-เว้น-เนี่ย) คือ ลินคอล์น กล่าวว่าการมาที่ Gettysburg นี้มิใช่แค่มาทำพิธือุทิศที่ดินที่เป็นสุสานของผู้เสียชีวิตในสงครามเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำให้สุสานนี้เป็นอนุสรณ์ศักดิ์สิทธิ์ในการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้หลักการสำคัญในการบริหารประเทศดังกล่าวไม่สูญ สิ้นไปจากโลก ลินคอล์นกล่าวดังนี้ government of the people, by the people, for the people, shall not perish from the earth". (government อ่านว่า กัฟ-เวอ-เมนท์ และ perish อ่านว่า
แพร์-หริช แปลว่าสูญสิ้น หรือ ตายไป ถ้าใช้กับคน แต่ถ้าใช้กับพืชผัก ก็หมายถึงเสื่อมสภาพหรือเสีย อย่างเช่น การจัดประเภทสินค้าสำหรับผลไม้ผักสดว่า เป็น perishable goods)
ขอย้ำว่าข้อความที่ว่า เพื่อประชาชน (for the people) นั้น เราคิดตรงๆตามอักขรได้ มันมีความหมายมากกว่า เพื่อประชาชนแต่ละคน แต่ต้องเป็นไปเพื่อประชาชนโดยส่วนรวม ท่านพูทธทาสภิกขุ กล่าวไว้ดีมาว่า "ประชาธิปไตยนั้นถ้าเพื่อประชาชนอย่างเดียว ก็ฉิบหายกันหมด มันต้องเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ถึงจะถูก"
มีภาษาอังกฤษง่ายๆอยู่คำหนึ่งที่เราพบเห็นหรือใช้กันมาก คือ คำว่า recent คนไทนส่วนมากจะอ่านว่า รีเซ้นท์ ที่ถูกตามเสียงของฝรั่ง คือ เน้นที่ re คืออ่านว่า (รี้-เซนท์) เพราะ มีอีกคำหนึ่ง คือ resent (v) รี-เซ้นท์ ที่แปลว่า เศร้าใจ แต่การเน้นลงที่พยางค์สุดท้าย
Mr Obama and his team have spent much of this week trying to overcome scepticism in the Senate over releasing the second half of the $700 billion bailout package for financial institutions agreed last year.
ข้อความภาษาอังกฤษข้างบน เพิ่งได้มาจาก Times Online ซึ่งเป็นเว็บไซท์ข่าวของหนังสือพิมพ์ The Times of London ข่าวกล่าวว่า นายโอบามาและคณะทำงานของเขาใช้เวลาส่วนมากของสัปดาห์นี้ เพื่อผ่าพ้นข้อเคลือบแคลงสงสัยของวุฒิสภาในเรื่องการปล่อยเงินครึ่งที่สองของเงินก้อนต่างๆที่จะใช้เป็นมาตรการช่วยกอบกู้สถาบันการเงินจำนวน 700 ล้านดอลลาร์ ตามที่ตกลงกันไว้แล้วเมื่อปีที่แล้ว
ที่อยากพูดถึง มีอยู่สามคำ คือ overcome, scepticism และ bailout package
overcome ไม่ยากแต่ใช้กันบ่อยในความหมายที่ว่า ก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ เป็นคำง่ายๆที่คนที่เขียนภาษาอังกฤษ จะต้องจำไว้ใช้ ถ้าไม่เคยใช้มาก่อน
scepticism คำนี้ที่เอามากล่าวถึง เพราะเขียนได้สองอย่าง คือ แบบอังกฤษ คือ scepticism อ่านว่า สเคป-ถิ-ซิส-ซึ่ม แต่แบบอเมริกัน ใช่ตัว k แทนตัว c และเขียนว่า skepticism การออกเสียงเหมือนกัน
bailout package สองคำนี้ใช้ร่วมกันว่า หมายถึงมาตรการที่จัดขึ้นชุด คำว่า bailout นั้นมาจากคำว่า bail (เบล) ซึ่งพื้นฐานเดิมแปลว่า เงินประกันตัวผู้ต้องหาที่ต้องนำไปวางไว้กับศาล เพื่อศาลจะได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวขณะรอการขึ้นศาล เมื่อเอามาไช้ร่วมกับ out เป็น compound word จึงมีความหมายว่า ช่วยให้หลุดพ้น จากความยุ่งยาก หรือ อันตราย เฉพาะหน้า เป็นคำที่ใช้กันมากในขณะนี้ เพราะบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯสามราย คือ Ford, GM และ Chrysler อยู่ในภาวะขาดเงินหมุนเวียนอย่างหนักเพราะตลาดการเงินอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งสามบริษัทต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันควัน ทั้งสามบริษัทก็จากล้มละลาย จะทำคนงานนับล้านคนไม่มีงานทำ และสร้างความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจอย่างหนักให้กับสหรัฐฯทั้งประเทศและกระทบกระเทือนไปทั่วโลก แต่ประธานาธิบดีบุช ได้ใช้อำนาจฝ่ายบริหารอนุมัติจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว หลังจากที่รัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบ
package เป็นคำที่ใช้กันวงการค้าสำหรับสินค้าหลายชิ้นที่นำมารวมไว้ด้วยกันเป็นกล่องเดียว หรือ ห่อเดียว ซื้อแยกชิ้นไม่ได้ และยังใช้กับการให้บริการด้วย เช่นบริการท่องเที่ยวที่รวมค่าเครื่องบิน ค่าเดินทางระหว่างสนามบินกับโรงแรม ค่าโรงแรม ค่าอาหารทุกมื้อ ค่าเรือข้ามฟาก ค่าเช้าชมสถานที่ต่างๆและค่าเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และเน้นเสียงที่พยางค์แรก คือ แพค-กิจ เสียงพยางค์หลังสั้นๆไม่ต้องลากยาว เสียงจึงเหมือนสระ อิ ถ้าเป็นพหูพจน์ packagesต้องอ่านว่า แพค-กิ-เจซ คำนี้มีอีกคำที่ใช้กันในวงการด้านการตลาด (marketing) คือ packaging (แพค-กะ-จิ้ง) ซึ่งถ้าไม่เข้าใจความหมายของคำนี้ ก็อาจจะคิดว่าเป็นคำกริยา แปลว่าการบรรจุหีบห่อ แต่ไม่ใช่ คำนี้หมายความถึง สิ่งที่ใช้บรรจุสินค้า หรือ ที่ศัพท์การตลาดใช้ว่า บรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีการออกแบบอย่างดีให้เหมาะกับตัวสินค้าที่บรรจุอยู่ เช่น กล่อง ขวด กระปุก หีบ ตะกร้า หรืออะไรตามที่เป็นภาชนะบรรจุสินค้าเพื่อการวางขายในตลาด สมมุติว่าเป็น น้ำหอม บรรจุภัณฑ์ต้องดูสวยงามทั้งตัวขวดและกล่องบรรจุ การออกแบบนั้นต้องมีความสวยงามเหมาะสมกับราคาและฐานะของผู้ซื้อ งานออกแบบบรรจุภัณฑ์ จึงเป็นงานศิลปที่มีความปราณีตในการเลือกรูปแบบ (design) รวมทั้งวัสดุและสีสันของตัวบรรจุภัณฑ์
แต่ถ้าสินค้านั้นไม่สามารถบรรจุลงในหีบห่อได้ อย่างเช่นรถยนต์ การออกแบบรูปร่างรถที่สวยงามตามรสนิยมของผู้ซื้อในแต่ละชนชั้น จึงสำคัญมาก เพราะ packaging ของรถยนต์ก็คือตัวรถนั่นเอง
อีกสองคำที่ยากให้รู้ไว้ คือ partisan (พาร์ท-ถิ-สั้น)และ non-partison คำแรกความหมายเดิมคือ ชาวชนบท หรือ ชาวบ้าน หรือ คนพื้นเมือง ถ้าพื้นเมืองของประทศใดประเทศหนึ่ง รวมตัวกันขึ้นมาจับอาวูธขึ้นสู้และต่อต้านกับกองทัพของต่างชาติที่เข้ามารุกรานและยึดประเทศไว้ได้ กองทัพชาวบ้านจะถูกเรียกว่า partison army และทำการรบกับกองทัพศัตรูแบบกองโจรเพื่อกู้ชาติด้วยวิธีจรยุทธ ในการใช้คำนี้ในภาษาพูดอาจจะมีความหมายไปในทางดูถูกเหยียดหยามได้ หรือมีความหมายไปทำนองจงรักภักดิกับพรรคการเมืองพรรคได้หนึ่งอย่างลืมหูลืมตา The village I just visited is full of partisan people with long record of loyalty to the Repubrican Party.
Non-partisan คำนี้เป็นคำที่มีความหมายว่า ไม่ฝักไฝ่กับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ หรือระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่ไม่ใช้ระบบพรรคการเมือง ที่เรียกว่า non-partisan democracy ประเทศกรีกในสมัยโบราณใช้ระบบการปกครองประชาธิปไตยแบบนี้ในยุคแรกของการใช้ระบอบประชาธิปไตย โดยประชาชนออกเสียงในการออกกฏหมายกันเอง ไม่มีการแต่งตัวแทนด้วยการเลือกตั้ง ในสมัยแรกของการก่อตั้งประเทศของสหรัฐฯ สมัยที่ George Washington (จอร์จ ว๊อช-ชิง-ทัน)เป็นประธานาธิบดีคนแรก ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเพียง 8 ปี (1789-1897) สหรั{ฯยังไม่มีพรรคการเมือง จนกระทั้งนักการเมืองมีความคิดเห็นออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือ พวก Federalists (เฟด-ดะ-รัล-ลิสท์)ซึ่งรวมกลุ่มโดย Alexamder Hamilton ซึ่งเป็นรัฐมนตรีการคลังของประธานาธิบดี George Washington สมาชิกของกลุ่ม ส่วนมากเป็นคนในเมืองที่มีฐานะดี และพวก Democrat-Republican Party ซึ่งก่อตั้ง โดย Thomas Jefferson (ทอม-มัส เจฟ-เฟอ-สั้น) ประธนาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐฯ และ James Madison (เจมส์ แมด-ดิ-สั้น)ประธานาธิบดี คนที่ 4) ซึ่งสมาชิกมาจากพวกชาวไร่ชาวนาที่ทำมาหากินอยู่ในภาคชนบท แต่ต่อมาอีกไม่นาน ก็แยกจากกันเป็น 2 พรรค คือ Republican Party กับ Democrat Party ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ 2 พรรคอยู่ในขณะนี้ผลัดกันครองอำนาจรัฐ
อย่างไรก็ตาม non-partisan ยังใช้กันอยู่ กับกิจกรรมอะไรก็ตามที่มีการทำร่วมกันทั้งสองพรรค หรือ เป็นข้อกำหนดในกฏระเบียบสำหรับเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของรัฐ รวมทั้งองค์กรที่ได้รับการอุดหนุนจากเงินภาษีอากรที่เก็บมาจากประชาชน จะต้องมีลักษณะเป็น non-partisan คือไม่ฝักไฝ่พรรคใดพรรคหนึ่งที่กำลังครองอำนาจรัฐอยู่
ขอพอแต่นี้ก่อน สวัสดีทุกๆคน