หัวข้อ: เต้าเสียบ VS Stabilizer ตัวไหนน่าใช้กว่ากันครับ

[LaVio]

ได้ความรู้อีกแล้ว  ขอบคุณผู้ตอบด้วยครับ 

[กัมปนาท KK]

เอารูป Stabilizer
     ตามความหมายน่า  จะเป็นอุปกรณ์ควบคุมแรงดันไฟฟ้า จะเป็นตัวปรับระดับแรงดันไฟฟ้า ที่ 220 V ให้คงที่




รูป pure sine 1000

[poltoday]

เป็นความรู้ดีๆให้กับ มือใหม่จริงๆครับ   

[yai-united]

 c)ยอดเยี่ยมมากครับ ได้ความรู้ครบถ้วน ขอปรบมือดังๆ ขอบคุณครับ

[waiophas]

สุดยอดเลยครับ ได้ความรู้เพียบ ยินดีที่ได้เข้ามาครับ

[chaithanee]

ได้ความรู้ดีครับ เยี่ยมมากเลยครับ 

[tytyty50]

ตอบได้ดีเลยครับ อ่านแล้วได้ความรู้ เสริมนิดนึงละกัน ถ้าบ้านไฟตกบ่อยๆ แนะนำให้ใช้ stabilizer เพื่อยืดอายุเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ แต่ถ้าไม่มีปัญหาดังกล่าว ให้ใช้เต้าเสียบดีๆ รับรองเสียงดีขึ้นแน่ (แต่คุ้มเงินที่เสียไปหรือเปล่าอีกเรื่องนึงนะครับ น่าจะอยู่กับ system ที่ใช้ด้วย)

[redbook]

เคยมีผู้รู้เปรียบเทียบการเลือกอุปกรณ์กรองไฟฟ้าไว้ว่า "เหมือนหมอดูคนไข้ ควรรู้ว่าเป็นโรคอะไร จะได้ให้ยาถูกต้อง รักษาหาย"  สื่อความหมายว่า แก้ปัญหาด้านไฟฟ้าให้ตรงกะที่เราเป็นอยู่ (ถ้ามี) ไฟตก ไฟเกิน ไฟไม่เรียบ ไฟกระชาก ไฟมีสัญญาณรบกวน ฯลฯ ก็เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสม

สำหรับ source เล่นเสียง (CD/DAC) เขาแนะนำให้ใช้ isolation balance transformer มันจะลด noise และ harmonics ไม่ให้เขาไปกวนในเครื่องได้มาก ที่ลองมาก็เห็นผลดีมากคับ ผมไปยืมร้านที่ hifi center ชั้น 1 มาลองก่อนตัดสินใจซื้อตัวไหน แต่บอกไว้ก่อนของพวกนี้ต้องเบิร์นอินด้่วย ไม่งั้นฟังแล้วเสียงแห้งผากคับ 

[หมอทีเจ]

เข้ามาปรบมือให้ผู้ตอบครับ

[POP]

เพิ่มให้นิดนึง อุปกรณ์ที่พูดถึงทั้งหมด จะไม่เกี่ยวกับ Stabilizer เลย

เต้าเสียบที่พูดถึง น่าจะเป็นสายพ่วง เพื่อเพิ่มความยาวของสายไฟ และเพิ่มเต้ารับเท่านั้น ไม่มีอุปกรณ์ทางอิเลคโทรนิคเข้ามาเกี่ยวข้อง 

ส่วน Octopus  หรือ Clef Power Bridge หรือ Magnet LC-1 ที่พูดถึง คือ Power Line Filter หรือเครื่องกรองไฟ ซึ่งจะช่วยกรองสัญญาณรบกวนต่างๆ ที่มากับระบบไฟ

ส่วน Stabilizer จะเป็นอุปกรณ์ควบคุมแรงดันไฟฟ้า จะเป็นตัวปรับระดับแรงดันไฟฟ้า ที่ 220 V ให้คงที่ ซึ่งเหมาะสำหรับ พื้นที่ที่ไฟฟ้า มีไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก ครับ UPS ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ถือว่าเป็น Stabilizer ประเภทหนึ่ง แต่ไม่ค่อยมีการนำมาใช้กับเครื่องเสียง เพราะตัวเครื่องจะสร้างสัญญาณรบกวนเข้ามาในกระแสไฟฟ้าด้วย ที่นำมาใช้กับเครื่องเสียงส่วนใหญ่จะทำมาเฉพาะ โดยทั่วไปจะมีระบบกรองไฟมาด้วย แต่จะดีมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละยี่ห้อ อย่างไรก็ตาม Stabilizer ที่ทำมาใช้กับเครื่องเสียงโดยเฉพาะ มันจะใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพมากกว่า เพื่อลดสัญญาณ และเสียงรบกวน ทำให้ค่อนข้างมีราคาแพงกว่าตัวที่พูดถึงข้างต้นทั้งหมด ยี่ห้อที่เป็นของคนไทย ได้แก่พวก Clef Pure Sine 1000 , Magnet IRG-600 , Siligon SR100ie, Sidital SXE 20 , Sidital SXD Series เป็นต้นครับ

[Tomato_Rezz]

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ
ขอบคุณ คุณอูฐ มาก ๆ ครับ

[อูฐ]

เห็นพวกเต้าเสียบที่เป็นไม้อ่ะครับ ตัวนี้มีข้อดียังไงเหรอครับ
แล้วก็พวก Stabilizer เช่นของ clef octopus

คำถามน่ะครับ

1. ไม่ทราบว่าจุดประสงค์การใช้งานต่างกันหรือป่าวครับระหว่างเต้าเสียบกับ Stabilizer

2. แล้ว clef กับ octopus ตัวไหนน่าใช้กว่ากันครับ

3. ถ้าใช้ clef แล้วต้องใช้เครื่องกรองไฟ (เช่น magnet lc-1) ด้วยหรือป่าวครับ

4. งบ 3000 บาท (2500 ได้จะดีมาก) มีสาย AC ตัวไหนแนะนำป่ะครับ ขอที่ซื้อด้วยน่ะครับ

ขอขอบคุณมาก ๆ สำหรับทุกควาคิดเห็นครับ



ขอช่วยตอบแบบไม่มีความรู้ทางวิชาการน่ะ  เอาแบบว่าเท่าที่รู้นะครับ    ทางวิชาการรอเพื่อนท่านอื่นมาช่วยตอบให้

1   จุดประสงค์ของการใช้เต้าเสียบ ก็เพื่อแค่ แย่เต้าเสียบให้มีช่องเสียบมากขึ้น  การที่ทำเป็นบล๊อกไม้ เซียนท่านว่าจะช่วยทำให้เสียงดีขึ้น   และยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของไม้และความหนาที่มาใช้อีก   และเพื่อที่จะได้ใช้เต้าเสียบดี ๆ ที่ผลต่อเสียงและภาพ  และบางสำนักยังเคล็ด วิชาในการใช้สายต่าง ๆ ลงในเต้ารับ แล้วแต่สูตรพิศดารของแต่ล่ะสำนัก บางสำนักเราสายไฟสารพัดชนิดมาผสมกันเพื่อให้ได้เสียงที่เขาว่าสุดยอด รวมทั้งเซียนหลายท่าน ยังคำนึงถึงฝาปิด ฝารองเต้ารับว่ามีผลต่อเสียงอีก       ปลั๊กบล๊อกไม้ของผู้คว่ำหวอดในวงการ  ต้อง  เดอะหั่ง ผู้ที่ทั้งชีวิต ค้นคว้าแต่เรื่องนี้   ถ้าเอาแบบครบสูตรเชื่อไหมว่า แค่เต้ารับบล๊อคไม้นี้ราคาหลายหมื่น     แต่อยากจะเตือนนัก ดีไอวาย ทั้งหลายว่าอย่าแคร์แต่เรื่องเสียงจนลืมความปลอดภัย  เพราะอย่าลืมว่า  บล๊อกไม้แห้งแบบนี้ติดไฟง่ายดีน่ะเชียว  ดังนัน การขันสายไฟข้างใน ควรเช็ดให้ละเอียด และควรหยอดกาวทุกรู ไม่ให้มีการเคลื่อนของสายเด็ดขาด  เพราะถ้ามีการสปาร์ค กระโดดของช่องไฟ การเกิดสะเก็ดไปติดไฟที่บล๊อดไม้ได้น่ะครับ       ส่วน   stabilizer  คือตัวทำให้ไฟนิ่งมั่นคง    กล่าวคือ กระแสไฟสลับ ac ที่ส่งมาตามบ้านมันจะไม่ค่อยนิ่ง  โดยเฉพาะ ต่างจังหวัด และ  บ้านที่ใกล้กับ ผับ  ดิสโก้ และ โรงงาน  เครื่องตัวนี้จะช่วยให้ไฟนิงขึ้น  มีการกำหนดว่าจะช่วยได้ บวก ลบ กี่ เปอร์เซ็นต์  เช่น บวก ลบ  5 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น กระแสไฟที่ส่งมาจะเกินหรือขาด พอผ่านเครื่องนี้มันจะทำให้ค่าคลาดเคลื่อน ไม่เกินที่เครื่องกำหนดไว้  ควรเลือกเครื่องที่ค่าบวกลบน้อยที่สุด  และเลือกเครื่องรองรับกำลังไฟให้ได้มากที่สุด   ถ้าบ้านไหนมีระบบไฟดีอยู่แล้วก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่       แต่กลับต่างจังหวัด จำเป็นเหมือนกันน่ะ   เซียนบางท่าน บอกใช้บางเครื่องเสียงแห้ง  เกร็งเกินไป   สุดท้ายต้องลองมาใช้กับ ซิสเต็ม เราว่า  เหมาะหรือไม่
สรุปการใช้ต่างกันน่ะครับ

2 ทั้ง clef และ octopus  ทั้งสองเครื่อง คือ เต้ารับ ที่มีวงจร กรองไฟแบบง่าย ๆ และ ป้องกันไฟ อยู่ภายใน   หลักการคล้าย ๆ กัน  แต่ไม่เหมือนกันน่ะ  คงไม่สามารถอธิบายละเอียดได้    เอาเป็นว่า ส่วนตัวผมชอบ clef     ผมหมายถึงตัวผมเองน่ะ  ไม่ได้หมายความว่าของเขาจะดีกว่ากันน่ะครับ

3  อาจไม่จำเป็นครับ   แต่ใช้ร่วมกับ พวก dream power  หรือ nfc ของ magnet  หรือ เครื่องกรองไฟ ของ avzone น่าจะเห็นผลกว่านะ

4 งบ ขนาดนี้ ลองดู    monster powerline3 or 4    kimber pk 10 or 14   supra lorad   furutech 314ag(เส้นนี้เน้นภาพสุด )
ซื้อได้ที่ร้าน  แพลทเน็ท  เลเซอร  พระรามสาม   ร้าน คุณ ตาล  หรือตามบอร์ดมือสอง ของเรา หรือ ที่ซื้อขายเยอะสุด audioteams.com  อ่อ   สาย ac  avbestbuy ก็ไม่เลวน่ะ

[Tomato_Rezz]

เห็นพวกเต้าเสียบที่เป็นไม้อ่ะครับ ตัวนี้มีข้อดียังไงเหรอครับ
แล้วก็พวก Stabilizer เช่นของ clef octopus

คำถามน่ะครับ

1. ไม่ทราบว่าจุดประสงค์การใช้งานต่างกันหรือป่าวครับระหว่างเต้าเสียบกับ Stabilizer

2. แล้ว clef กับ octopus ตัวไหนน่าใช้กว่ากันครับ

3. ถ้าใช้ clef แล้วต้องใช้เครื่องกรองไฟ (เช่น magnet lc-1) ด้วยหรือป่าวครับ

4. งบ 3000 บาท (2500 ได้จะดีมาก) มีสาย AC ตัวไหนแนะนำป่ะครับ ขอที่ซื้อด้วยน่ะครับ

ขอขอบคุณมาก ๆ สำหรับทุกควาคิดเห็นครับ