หัวข้อ: ต้มยำกุ้ง...แซ่บแบบรสเดิมๆ

[leo2029]

ช้างกู...อยู่ไหน  (เป็นบทของจาทั้งเรื่อง)

[krit]

เป็นหนังในรูปแบบของ จา พนม ครับ (ไม่มีสลิง)

[ชายโจ้]

ผมก็นึกๆว่าเนื้อเรื่องคงจาแบบนี้ เลยมิได้ไปดูครับ แต่มิแน่ถ้ากระแสแรง อาจจะไปฮับ
 

[eark]

วันแรกฟาดไป 25ล้านครับ พร้อมจับคนแบบันทึกวีดีโอ และถ่ายมือถือได้ 5ราย  ถ้าช่วงฉายไม่มีแผ่นผีมาชน น่าจะทำรายได้ถล่มทลายสำหรับหนังไทยหลายๆปีมาเนี้ยะ รวมทั้งหนังเทศครับ
ปล.ก่อนหน้านี้ จา พนม ออกรายการทีวีโปรโมท แทบทุกช่อง ทั้งสัมภาษก็ตอบคำถามได้ดี โชว์แม่ไม้มวยไทย โชว์คิวบู๊ได้ดีมาก ทั้งโชว์เสียง กินขาดนักแสดงด้วยกันทุกคน รวมทั้งนักรอ้งสติงเสียงหล่อด้วยครับ แววดาราจับจริงๆ go inter แบบไทยๆ...5555

[รักเสียง]

หนังไทย ผมว่า ยังห่างต่างชั้นกับหนังต่างประเทศ ในเรื่องของการดำเนินเรื่องราว ที่จะทำให้คนดูรู้สึกไปกับตัวละคร หลายต่อหลายเรื่องที่ มีทีท่าว่าจะดี กลับกลายเป็นหนังที่ตกม้าตายกันเป็นแถว อย่างอื่น ๆ ผมว่า หนังไทยพอจะรุดหน้าไปได้เยอะทีเดียว ขาดตรงการลำดับเรื่องราว ให้น่าติดตาม ตื่นเต้น หรือแม้แต่ซาบซึ้ง ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก

อย่างไรก็ดี หนังไทย ก็เป็นสมบัติของคนไทย เป็นวิถีไทย ซึ่งเราคนไทยต้องช่วนกัน อุดหนุน และส่งเสริม ให้กำลังใจให้กับ ผู้สร้างหนังไทย เพื่อให้หนังไทยได้ก้าวเข้าสู้ตลาดโลกอย่างภาคภูมิใจ

แม้ว่าเรื่องต้มยำกุ้ง คุณโต้งจะบอกว่า แนวคิด ไม่ต่างจากองค์บาก เนื้อหาเดิม ๆ ถ้าคิดในทางกลับกัน หลายต่อหลายเรื่องของหนังฝรั่งที่นำเอามุขเดิมๆ มาสร้าง และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม บางเรื่องมุขใหม่ ๆ ตกม้าตายก็ยังมี

แน่นอนครับ คนไทยเรา ยังต้องใช้คำสุภาษิตไทยที่ว่า "น้ำขึ้น ให้รีบตัก"
ผมว่าไปแล้ว ผู้สร้างหนังฉลาดนักที่นำเอาจุดขาย (แม้มีเพียงจุดเดียวที่โดดเด่น)
มาเป็นสิ่งล่อตา ล่อใจผู้ชม
ซึ่งหนังที่ผ่านมานั้น เรื่องที่จะประสบความสำเร็จและโด่งดังได้ มักเป็นหนังที่กระตุ้นจิตใจผู้ชม
ในด้านความสะใจ ความหายนะ ความเจ็บปวด ความทรมาณ และความตาย
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะจูงใจผู้ชมให้ติดตามและพลิกกระแสของหนัง ให้ไต่สู่จุดสูงสุด

สิ่งที่ต้องทำต่อไป นั่นก็คือ ความมี "คุณภาพ" ของหนัง
ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นแบบ "ไฟไหม้ฟาง" ดังเปรี้ยงปร้าง เดี๋ยวด๋าว แล้วก็มอดไป
ขอเป็นกำลังใจให้กับหนังไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่จอเงินระดับโลก
ภูมิใจครับ กับ พระเอก จา พนม (โทนี่ จา)
ที่สามารถทำให้คนไทย ประเทศไทย มวยไทย เป็นที่ยกย่องของคนทั้งโลก

นี่เป็นประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าของชาติไทย ที่ต้องจารึกไว้ เป็นอนุสรณ์
ที่จะต้องตะโกนดัง ๆ ว่า " คนไทย ก็ทำได้ เฟ้ย "

[Too' Ninja]

ผมคาดเดาว่า คงสร้างเพื่อหวังกะตังค์มากกว่ากล่องน่ะครับ ประมาณว่าน้ำขึ้นให้รีบตักตามกระแสไว้ก่อน ก็หวังว่าจะได้กำไรมากๆเพื่อจะได้เอาไปสร้างเรื่องใหม่ให้มีความสมบูรณ์จริงๆ เป้นเกียรติประวัติของชาวไทยกันไปเลยครับ... โย้ๆๆ...

[โต้ง ช.ม.]

เข้าไปอ่านในพันทิป หลายๆท่านมีความเห็นเหมือนผมครับ บทพูดหนังเรื่องนี้ก็มีน้อยจริง จาพนมพูดอยู่ไม่กี่ประโยคครับ

ช้างกู...อยู่หนายยย อิๆๆ 

[Too' Ninja]

เยี่ยมครับ...อยากให้จาพนมมาอ่านด้วยจัง...อิๆๆ... (ติเพื่อก่อนี่นานิ  )

[โต้ง ช.ม.]

 :)หวัดดีครับ เมื่อวานผมไปดูหนังเรื่องนี้มา ต้มยำกุ้ง คนดูเยอะจริงๆครับ ขนาดว่าเมื่อวานยังไม่ใช่วันหยุดนะ คนงี้เต็มโรงเลย สัปดาห์นี้ก็ไม่มีหนังฝรั่งที่เป็นคู่แข่งเข้าฉายด้วย หนังน่าจะโกยเงินไปได้มากแน่นอน ในช่วงวันหยุดวันแม่สัปดาห์นี้

หนังเรื่องนี้จะว่าไป ดังตั้งแต่ยังไม่ทันออกฉาย สร้างกระแสฮือฮาได้มากจริงๆ ทั้งในหนังสือพิมพ์ ในทีวี และในเน็ต มีข่าวคราวออกมาให้ติดตามกันเป็นระยะๆ ได้ข่าวว่าตอนนี้ หนังเรื่องต้มยำกุ้งโกอินเตอร์ไปแล้วครับ ( ตามเรื่ององค์บาก ) ค่ายมิร่าแมกซ์ ซื้อไปนะ..ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะได้ทุนคืนแล้วครับ ฉายในเมืองไทยก็คงกำไรล้วนๆ ( ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเสี่ยเจียงจะขึ้นค่าตั๋วหนัง คนฮือฮาแอนตี้กันมาก โดยเฉพาะในพันทิปเฉลิมกรุง ถ้าขึ้นจริงผมก็เป็นอีกคนนึงล่ะครับ ที่ไม่ไปดูในโรงแน่นอน แต่สุดท้ายก็ไม่ขึ้น )

เนื้อเรื่อง แทบไม่ต่างจากองค์บาก ก็คือ ช้างของรักของหวงของคนไทย โดนขโมยไปขายที่ออสเตรเลีย ขามเจ้าของที่โตกับช้างมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ต้องเดินทางไปตามหา และก็ฟัดกับพวกเหล่าร้ายกันสนั่นแหลก เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ท่านต้องไปติดตามชม

ที่ผมว่าไม่ต่างกันก็เพราะว่าพล็อตเรื่องนี่เหมือนกันแบบเป๊ะๆ คือของสำคัญโดนขโมยไป และจา พนม ก็ตามไปเอาคืนกับพวกเหล่าร้าย เหมือนกะองค์บากเปี๊ยบเลย หนังเรื่องนี้จะว่าไป ผมกลับชอบองค์บากมากกว่าแฮะ ชอบมากกว่าตรงไหนก็คือ

เนื้อเรื่องหนังเรื่องนี้ มีหลายตอนมากครับ ที่ดูขาดๆเกินๆชอบกล เนื้อเรื่องจริงๆแทบไม่มีอะไรเลย การปูเรื่องให้คนดูได้ความรู้สึกผูกพันกับตัวละคร ไม่เป็นผลสำเร็จ ผมว่าสิ่งเดียวที่คนดูต้องการ และหนังก็ต้องการขายจุดนี้เพียงจุดเดียว ก็คือ ฉากแอ็คชั่น บู๊ เตะต่อยกันแบบมันส์ๆ ระหว่างจา พนม กับเหล่าสตั๊นท์ หนังเรื่องนี้ขายจุดนี้เพียงจุดเดียว เป็นสิ่งที่คนดูต้องการ และก็ประสบผลสำเร็จจริงๆ

พูดถึงความเป็นดราม่า ผมยังให้องค์บากเหนือกว่า ตอนที่หม่ำ อ่านจดหมายพ่อ ( ในองค์บาก ) ผมยังรู้สึกดี ที่ว่าคุณหม่ำยังแสดงเล่นความเป็นดราม่าได้ แต่เรื่องนี้ไม่มีเลย จา พนม ที่พยายามจะดราม่า ผมว่ายังไม่ผ่านครับ เรื่องแอ็คติ้ง คงต้องไปเรียนอีกมากๆเลยจริงๆ เรื่องนี้มีแต่ร้องไห้ฟูมฟาย มันดูน่ารำคาญ มากกว่าน่าสงสารครับ ( ตรงจุดนี้ ผมอยากให้ดูเฉินหลงเป็นตัวอย่าง ที่หลังๆมา เล่นได้เนียนขึ้นแบบสุดๆ และก็ตลกหน้าตายจริงๆ เรื่องนี้มีเซอร์ไพส์ด้วยครับ ต้องไปดูเอง!!! อิ อิ )

ส่วนของคุณตั๊ก บทไม่มีเลย แทบไม่มีความสำคัญต่อหนัง เรียกว่าจะตัดออกไปก็ยังได้ มีแค่มาเต้นอะโกโก้ปลุกใจเสือป่าเท่านั้น ผมถือว่าเป็นตัวประกอบจริงๆครับ ( ในองค์บาก น้องแอร์ยังมีบทให้เล่นมากกว่าอีกครับ!!! )

คุณหม่ำ เพียงคนเดียวในเรื่อง ที่เอาตัวรอดได้ดี กับมุขตลกต่างๆ มาพร้อมสำเนียงภาษาอังกฤษ ที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูซักเท่าไหร่ เป็นตัวเดียวที่พอจะสร้างสีสันให้กับหนังได้

ที่เหลือทั้งหมด ก็ฉากบู๊ครับ ที่ผมให้เต็ม 10 คะแนน หนักหน่วงรุนแรง แต่หลังๆมาออกจะซ้ำๆกันไปนิด เช่นฉากเอาหัวศัตรูไปทุบของต่างๆ กับฉากเตะยัดประตู ตัวร้ายต่างๆ ก็ดูดีใช้ได้ครับ จอนนี่เหงียน นาธาน โจนส์ ดูเว่อร์ดี ( ยังกะพวกวีดีโอเกมส์เลย ) ฉากบู๊ฉากอัดกันดูกันแบบสะใจคอหนังแอ็คชั่นครับ

สรุป ผมชอบเรื่องนี้น้อยกว่าองค์บาก เพราะว่า พล็อตแทบไม่แตกต่าง ความเป็นดราม่า ความรู้สึกผูกพัน ยังน้อยกว่าองค์บาก การลำดับเรื่องราว การตัดต่อฉากต่างๆ ความเนียนยังน้อยไปนิด ( บางฉากสร้างความตะหงิดใจให้ผมพอสมควร ) ที่ดีกว่านิดๆ คือฉากสตั้นท์ครับ จะว่าไปเรื่องนี้ขายตรงนี้เพียงจุดเดียว ผมให้ 8.5 คะแนนครับ ( มีจุด 5 อีกแล้ววุ้ย อิๆๆๆ ) ยังไงก็แล้วแต่ขอเป็นกำลังใจให้ครับ อยากเห็นจา พนมไปเล่นหนังฝรั่ง เหมือนเฉินหลงบ้าง แต่แอ็คติ้งต่างๆยังต้องเรียนกันอีกมากเลยทีเดียวครับ