811A ในวงจรนี้มันทำงานในคลาส A2 ครับ ในกรณีนี้กริดของหลอด output จะเป็นไฟ+ นั่นทำให้วงจรกริดมีกระแสใหลด้วย
(ซึ่งก็คือกระแสที่ใหลผ่านหลอด 6V6 มานั่นเอง) นอกจากวงจรกริดนี้ยังกระทำตัวเป็น R คาโถดของ 6V6 ด้วย ทำให้มี
ไฟ+ คร่อมกริดของ 811A และ ไฟที่ว่านี่ก็ไปไบแอส 6V6 อีกที (เหมือน self bias ทั่วๆไป)
ปล. ถ้าผิดช่วยแก้ให้ผมด้วยนะครับ ผมเข้าใจว่าเป็นอย่านี้อ่ะ
เข้าใจถูกต้องแล้วครับ วงจรนี้เขาเรียกว่า dynamic couple ครับ ลองไปดูคำอธิบายที่เกจิหลายท่านได้อธิบายไว้ที่กระทู้นี้ได้เลยครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=2587.0ข้อควรระวังของวงจรนี้อยู่ที่ขณะเปิดเครื่องใหม่ๆ ตอนหลอดยังเย็นๆอยู่ จะมีเสียงปุ๊เล็กๆออกลำโพง จนกว่าไส้หลอดจะติดแบบเต็มที่แล้ว อาการที่ว่าก็จะหายไปครับ แต่ถ้าใช้หลอดเร็กติไฟร์ จะไม่พบปัญหานี้ครับ
เข้าใจว่าตอนที่เปิดเครื่องใหม่ๆ แรงดันที่คาโธดของ 6V6 ยังไม่นิ่ง ทำให้การไบอัสของหลอด 811A เพี้ยนไปด้วย แต่พอใช้หลอดเร็กติไฟร์ กว่าแรงดันไฟสูงจะขึ้นมาถึงจุดที่กำหนด หลอดก็ร้อนได้ที่พอดี
วิธีแก้แนะนำว่าให้ต่อ R ที่คาโธดของ 6V6 ลงกราวด์เหมือนวงจร cathode follower ธรรมดาๆ ก็ช่วยได้ครับ ใช้ค่าเท่าไรลองไปคำนวณดูครับ ถ้าไม่อยากเปลี่ยนมาใช้หลอดเร็กติไฟร์ แต่ต้องบอกว่า เสียงสู้วงจร dynamic couple แบบที่ต่อคาโธดของ 6V6 เข้ากริดของ 811A ตรงๆไม่ได้ครับ
ถ้าไม่พบปัญหาที่ว่ามาข้างต้น ก็ถือว่าโชคดีสุดๆครับ ฟังเพลงอย่างมีความสุขได้เลยครับ จุดเด่นของหลอดเบอร์นี้คือเสียงเบสที่สะอาด และมี dynamic range ที่ดีมากๆเบอร์หนึ่งเลยล่ะครับ
ถ้ามีโอกาส ลองหาหลอด 811A ของ RCA มาเปลี่ยนดูครับ แล้วจะมันกว่าเปลี่ยนหลอด drive ทั้งหลายอีก