ground loop นะครับเป็นเรื่องของการ layout ล้วนๆ ถ้า ground ไม่ถูก layout ไม่เป็น ก็จะเจอปัญหาอย่างนี้ตลอดไป
ใบ้ให้แบบง่ายสุดนะครับ สายinput สัญญาณที่เข้าไปถึง input ของ amplifier เสตจแรกเนี่ยตัวดีเลยมีผลมากที่สุด ต่อไปก็สายสัญญาณหรือลายวงจรจาก o/p ไปสู่ input stage ถัดไป เป็นช่วงๆก็ตัวดีเหมือนกัน
ถ้าต่อแบบ single end สังเกตุสายนำสัญญาณที่ดี จะมี shield ข้างนอก ส่วนข้างในจะมีสาย2เส้นที่เป็นสายgroundกับสายสัญญาณ shield จะต่อลง ground ของทางด้าน i/p ของ amplifier ถ้าต่อกลับด้านก็เละอะครับสายยิ่งยาวยิ่งเละ
แล้วก็ที่สำคัญเทคนิคการใช้ ground ร่วม layout คุณทำแบบ single point หรือ multipoint หรือว่า wire สายมั่วๆกลายเป็นแบบไร้รูปแบบ
ส่วนตัวตัวขยาย ที่เป็น high level drive กระแสหนักๆ ตัวดีครับ
shield อะไรได้ก็ดี จริงๆการ shiled สายไม่ได้เป็นการกันแต่เป็นการลด loop ในการ coupling สัญญาณเข้ามา หรือมรทางกลับกันก็ลดการ induce สัญญาณออกไป ก็ต้องดูความถี่ใช้งานกับสายสัญญาณที่เลือกใช้ด้วยครับ
เดินสายยาวนะได้ แต่ต้อง shield ให้เป็น บางการณี สั้นสุดก็ไม่ไช่ว่าจะได้ o/p ทางภาค power สามารถ feedback กลับมาทางได้ input ได้ด้วยเหมือนกัน
น่าจะลองเปลี่ยนไปใช้หม้อแปลง terroid ดูด้วยก็ได้ครับกับ amp หลอด คงน่าเกลียดพิลึกและไม่ได้บรรยากาศ
มันละเอียดนะครับอธิบายยาก ศาสตร์ของการ layout มันละเอียดต้องคิดเยอะ อธิบายในนี้มีแต่จะมั่วเปล่าๆเพราะวงจรผมก็ไม่เห็น layout ก็ไม่เห็น เอาว่าผมแนะนำหนังสือเล่มนึงให้จะได้ช่วยตัวเองได้ในการ ลด noise ในวงจรได้ ลดเสียง Hum ได้ แล้วจะได้รู้ว่าการตีเกรียวสายไฟ ก็ช่วยได้นิดหน่อย จะได้รู้หลักการ shiled จะได้รู้ว่าไอ้พวก ringing มันเกิดได้ไงลดได้ยังไง จะได้รู้ว่าเวลาออกแบบจะแยกส่วนกันยังไง และ อื่นๆอีกมากมาย
ในรูปเห็นมี line noise filter ด้วย น่าจะใช้มันเห็นเป็นประโยชน์
Noise reduction techniques in electronic system คนแต่ง Henry W. Ott บ้านเรามีขายครับ
อ่านจบแล้วเข้าใจรับรองจะไม่ถามใครอีก ค่อยๆอ่านให้เวลากับมันวันละนิดชีวตจะดีขึ้นครับผมให้อาวุธไปแล้ว อยากให้ลองอ่านนะครับจะได้ไม่หลงทาง นานแล้วที่กระทู้อื่นผมเห็นแนะนำกันแบบ...ก็หลายคนเลยนะครับ ไม่อยากให้จำไปผิดๆแล้วก็หลงทาง
ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ
สู้ๆๆๆๆ