หัวข้อ: ถามเรื่องdACหน่อยครับ

[Create_Lek]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

ก็พี่เล็กเล่นยำแต่24bits ของแรงๆ ทั้งนั้นเลยนี่ครับ
ไว้จะหามาลองมั่ง  ว่า 1704 กะ 1541 ใครจะฟังเพราะกว่ากัน

ว่าแต่ฟร้อนท์รถที่ใช้  PCM56 ,61,63 ,69,1700, 1702 นี่ไม่ทราบว่าเสียงเป็นอย่างไรครับ

  อย่าอู้ต่อได้ก่  เดี๋ยวมันจะสูญพันธ์ครับ เปิ้ลเข้าใจ๋ก่

เข้า ใจ๋ แล้ว ครับ ดัก ไว้ ก่อ ได้ (ไป ได้ ครู กำ เมือง ตี้ ไหน กา)

อ้ายจ๊บ ศึกษาศาสตร์ เอก กสน ปี 25 มช.กา

[wat12(คุ้ม)]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

ก็พี่เล็กเล่นยำแต่24bits ของแรงๆ ทั้งนั้นเลยนี่ครับ
ไว้จะหามาลองมั่ง  ว่า 1704 กะ 1541 ใครจะฟังเพราะกว่ากัน

ว่าแต่ฟร้อนท์รถที่ใช้  PCM56 ,61,63 ,69,1700, 1702 นี่ไม่ทราบว่าเสียงเป็นอย่างไรครับ

  อย่าอู้ต่อได้ก่  เดี๋ยวมันจะสูญพันธ์ครับ เปิ้ลเข้าใจ๋ก่

เข้า ใจ๋ แล้ว ครับ ดัก ไว้ ก่อ ได้ (ไป ได้ ครู กำ เมือง ตี้ ไหน กา)

[Mr. Tube]

ไม่มีหรอกครับ ข้อมูล เป็นความลับของเค้า ผมพยายามหาดูเผื่อจะรู้ที่มาของความแตกต่าง แต่ก็หาไม่พบ ใน Clarion มี 3 jitter ให้ปรับได้ แต่ก็ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกแนวเพลงครับ แต่จากการฟัง Jitter 2 ให้เสียงที่ดีที่สุดครับ  ตรงนี้ผมไม่ได้พูดว่าได้ผลดีนะครับ เป็นคำถามที่ผมถามคุณอาท ว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร 

ถ้าว่ากันที่ Jitter ตามหลักแล้วมีแต่ผลเสียครับ เพราะมันคือ Error อย่างหนึ่งครับ ไม่มีผลดี ส่วนในแง่ของการรับฟังก็แล้วแต่ผู้ฟังละครับ ผมเข้าใจว่ารูปภายใน DAC ที่คุณ Create แสดงไว้เป็นของ Clarion ซึ่งวงจรส่วนใหญ่ผมพอมองออกว่าทำงานยังไง รบกวนสอบถามว่าการปรับ Jitter ปรับที่ตรงไหนครับ เป็น Switch ให้ปรับ หรือว่าปรับที่ Console ของเครื่องครับ และการปรับทั้ง 3 ระดับให้ผลการรับฟังต่างกันอย่างไรครับ 

[Create_Lek]

ขอถามกลับด้วยครับว่า Jitter คือ อะไร มีหน้าที่ และ มีความสำคัญอย่างไรใน DAC และ มีผลต่อ เสียงอย่างไรบ้าง ครับ

หาอ่านได้ใน DIY Journal YB2003 ครับ บทความเรื่อง Clock & Reclock น่ะครับ 

และ การ มี jitter หลาย ค่า (ปรับค่าได้) บน DAC ส่งผล และ มีผลดี ผลเสีย อย่างไรบ้าง ครับ ขอบพระคุณครับ[/color][/b]

Jitter ได้รับเกียรติให้เป็นผู้ร้ายในระบบ Digital Audio ครับ ถ้าไม่มีมันเลยจะดีที่สุดครับ แต่โดยมากจะเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นักออกแบบส่วนใหญ่ก็จะทำให้มันน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ผมค่อนข้างแปลกใจที่คุณ Create ว่าผู้ออกแบบจงใจใส่มันเข้าไป ปรับค่าได้ด้วย แถมยังมีผลดีอีกต่างหาก ข้อนี้ผมรบกวนขอที่มาที่ไปของข้อมูลหน่อยครับ น่าสนใจเอามาวิเคราะห์ดูครับ ขอบคุณมากครับ 

ไม่มีหรอกครับ ข้อมูล เป็นความลับของเค้า ผมพยายามหาดูเผื่อจะรู้ที่มาของความแตกต่าง แต่ก็หาไม่พบ ใน Clarion มี 3 jitter ให้ปรับได้ แต่ก็ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกแนวเพลงครับ แต่จากการฟัง Jitter 2 ให้เสียงที่ดีที่สุดครับ  ตรงนี้ผมไม่ได้พูดว่าได้ผลดีนะครับ เป็นคำถามที่ผมถามคุณอาท ว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร 

[Mr. Tube]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

โอ้ก ราคาขนาดนี้คงไม่มีใครเอามาให้แกะเล่นแน่เลย นึกว่าอยู่ใน Front/DAC ราคาหมื่นสองหมื่น เผื่อจะมีหวังบ้าง 

[Mr. Tube]

ขอถามกลับด้วยครับว่า Jitter คือ อะไร มีหน้าที่ และ มีความสำคัญอย่างไรใน DAC และ มีผลต่อ เสียงอย่างไรบ้าง ครับ

หาอ่านได้ใน DIY Journal YB2003 ครับ บทความเรื่อง Clock & Reclock น่ะครับ 

และ การ มี jitter หลาย ค่า (ปรับค่าได้) บน DAC ส่งผล และ มีผลดี ผลเสีย อย่างไรบ้าง ครับ ขอบพระคุณครับ[/color][/b]

Jitter ได้รับเกียรติให้เป็นผู้ร้ายในระบบ Digital Audio ครับ ถ้าไม่มีมันเลยจะดีที่สุดครับ แต่โดยมากจะเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นักออกแบบส่วนใหญ่ก็จะทำให้มันน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ผมค่อนข้างแปลกใจที่คุณ Create ว่าผู้ออกแบบจงใจใส่มันเข้าไป ปรับค่าได้ด้วย แถมยังมีผลดีอีกต่างหาก ข้อนี้ผมรบกวนขอที่มาที่ไปของข้อมูลหน่อยครับ น่าสนใจเอามาวิเคราะห์ดูครับ ขอบคุณมากครับ 

[Create_Lek]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

ก็พี่เล็กเล่นยำแต่24bits ของแรงๆ ทั้งนั้นเลยนี่ครับ
ไว้จะหามาลองมั่ง  ว่า 1704 กะ 1541 ใครจะฟังเพราะกว่ากัน

ว่าแต่ฟร้อนท์รถที่ใช้  PCM56 ,61,63 ,69,1700, 1702 นี่ไม่ทราบว่าเสียงเป็นอย่างไรครับ

  อย่าอู้ต่อได้ก่  เดี๋ยวมันจะสูญพันธ์ครับ เปิ้ลเข้าใจ๋ก่

[wat12(คุ้ม)]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

ก็พี่เล็กเล่นยำแต่24bits ของแรงๆ ทั้งนั้นเลยนี่ครับ
ไว้จะหามาลองมั่ง  ว่า 1704 กะ 1541 ใครจะฟังเพราะกว่ากัน

ว่าแต่ฟร้อนท์รถที่ใช้  PCM56 ,61,63 ,69,1700, 1702 นี่ไม่ทราบว่าเสียงเป็นอย่างไรครับ

[หมี]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

เกือบอ่านไม่ออก 

[Create_Lek]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

เอาราคามือหนึ่งละกัน ค่าย Clarion 40 K  Mc ก็ 75K ส่งน F1 แรงหน่อยครับ 100 K กว่า

[GEN4]

  น่าสนครับ ว่าแต่ราคาตัวละเท่าใหร่ครับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 

[Create_Lek]

 
         


   ไม่ทั้งหมดครับ ที่ผมนำมา Mod มีหลักๆอยู่สองตัวคือ Clarion HX-D1 กับ Mc  5000  และ Alpine F1 ก็ใช้ BB PCM เบอร์นี้แต่เหนือกว่าชาวบ้านคือเป็น K Grade แล้วก็เบอร์เล็กๆลงมาพวกที่อยู่ในตู้ Changer รุ่นเก่า ถ้าเป็นของ Sony จะใช้ PCM และ Sony เป็น Brand เดียวที่ผลิตให้กับค่ายดังๆ อย่าง Nakabishi Soundstream  ads  ส่วนตัวยอดฮิตที่พวกบ้านชอบมาใช้กัน ก็ X-2001 แต่ที่กล่าวมาเป็น 16 Bit 8X Oversampling 

  ไหนๆก็พูดถึง HDCD แล้ว ขอซักหน่อยแล้วกันครับ
 
 HDCD  คืออะไร

             


  HDCD ย่อมาจาก High Definition Compatible Digital พัฒนาขึ้นโดยคุณ Keith Johnson และคุณ Pflash Pflaumer

HDCD เป็นชื่อของกระบวนการเข้าและถอดรหัส (Encode/Decode) แบบพิเศษสำหรับใช้บันทึกข้อมูลลงแผ่น CD ปกติทั่วไป (สามารถใช้ร่วมกับเทคนิคของ XRCD และ DVD-Audio)

ในกรณีของแผ่น CD Audio ทั่วๆ ไปนั้น ข้อมูลจะถูกบันทึกลงไปในแบบ PCM Digital ที่ความละเอียด 16 bits แต่สำหรับแผ่น CD ที่มีเครื่องหมาย HDCD นั้นจะมีการเพิ่มข้อมูลแฝงรวมเข้าไว้กับชุดข้อมูลปกติด้วยเทคนิคพิเศษซึ่งจะทำให้ได้ความละเอียดของข้อมูลเพิ่มขึ้นอีก 4 bits รวมได้เป็นความละเอียดที่ 20 bit ในขณะเดียวกันที่ยังสามารถใช้แผ่น HDCD นี้กับเครื่องเล่น CD แบบปกติทั่วไปได้

 

  การจะได้รับอรรถประโยชน์จากแผ่น HDCD ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์นั้น เครื่องเล่น CD จะต้องมีออปชั่นการถอดรหัส HDCD ด้วย ซึ่งโดยปกติจะมีสัญลักษณ์ HDCD บอกไว้ที่หน้าปัดของเครื่องเล่น

ด้วยความละเอียดของข้อมูล HDCD ที่ 20 bits จะทำให้ได้คุณภาพเสียงสูงกว่าขีดข้อจำกัดของระบบข้อมูล 16 bits ของแผ่น CD ปกติทั่วๆ ไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ผลิตด้วย และสำหรับแผ่น HDCD ที่มีคุณภาพเข้าขั้นแล้วก็จะได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแผ่น CD ในเวอร์ชั่นปกติในหลายๆ ด้าน

 ขอถามกลับด้วยครับว่า Jitter คือ อะไร มีหน้าที่ และ มีความสำคัญอย่างไรใน DAC และ มีผลต่อ เสียงอย่างไรบ้าง ครับ และ การ มี jitter หลาย ค่า (ปรับค่าได้) บน DAC ส่งผล และ มีผลดี ผลเสีย อย่างไรบ้าง ครับ ขอบพระคุณครับ

[Mr. Tube]

ตามนี้เลยครับ  เรื่องลึกๆมากแบบที่คุณอาร์ตรู้ผมก็ไม่รู้เช่นกัน 

ส่วน ชิพ dac ที่ถามไว้ เป็น PCM 1704 ร่วมกับ CS 8412 ครับ

ถ้าอย่างตัวนี้ใช่ครับ PCM1704 เป็น 24 Bit DAC ครับ ส่วนตัวที่เป็น Signal Processing คือตัวที่มีพิมพ์ว่า HDCD น่ะครับ มองเบอร์ไม่เห็นครับแต่คิดว่าเดาไม่ผิดครับ

อันนี้ขอสอบถามครับ DAC รถยนต๋ที่บอกว่าเป็น 24 Bit ส่วนใหญ่ใช้ Chip PCM1704 รึเปล่าครับ เผื่อผมมีใครเอาขยะมาให้ผม ผมจะได้รับมาแกะดูครับ เดิมผมเดาเอาว่าน่าจะเป็นพวก PCM1728, 1732, 17XX ที่มากกว่า 1704 น่ะครับ เลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่  

[Create_Lek]

 ตามนี้เลยครับ  เรื่องลึกๆมากแบบที่คุณอาร์ตรู้ผมก็ไม่รู้เช่นกัน 

ส่วน ชิพ dac ที่ถามไว้ เป็น PCM 1704 ร่วมกับ CS 8412 ครับ


     

[Mr. Tube]

วงการรถยนต์ผมไม่มีความรู้เลยครับ อยากทราบว่า 24 bit Processing ที่ว่านั้นเป็น Chip เบอร์อะไรครับ แบบนี้จะบอกได้ชัดๆ จาก Datasheet เลยว่าเป็น Technology 1 bit หรือไม่ใช่ครับ ผมแยกกันนะครับ Processing น่ะต้อง 16-24 bit ตามสัญญาณที่เข้ามาอยู่แล้ว ส่วน Digital to Analog Converter เป็นการถอดรหัสครับ 

[Create_Lek]

 ทุกวันนี้มีแต่ Technology 1 bit ครับคุณ Create IC Audio DAC ที่เป็น 24 bit จริงๆ มีแค่ PCM1704 ครับ ซึ่งมีคนใช้น้อยมากครับ เคยเห็นแต่ใน Mark No.30 กว่าๆ นี่แหล่ะ จำไม่ได้แล้ว กะ Denon รุ่น Top น่ะครับ คือ 24/96 ที่เรียกกันเป็น Format ของสัญญาณเท่านั้นครับ ไม่ใช่วิธีการถอดรหัสครับ วงจรไหนที่เรียกตัวเองว่า Delta-sigma, Bitstream, Mash ล้วนใช้ Technology การถอดรหัสแบบ 1 bit ทั้งหมดครับ

 เผอิญในงานรถที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้เป็น 24 bit Processing ทุกตัว เครื่อง 1 bit ผมไม่เคยจับมา 6-7 ปี แล้วมั้งครับ ส่วนใหญ่ที่ทำก็จะใช้ PCM  คู่ (Dual Dac )เกือบทั้งหมดครับ โดยเฉพาะ ใน Clarion และ mcintosh ส่วน Denon ก็ไม่ค่อย จะนิยมเพราะเป็น 192 KHz อีกอย่างกลุ่มรถนิยมที่จะใช้แผ่น 24 Bit Processing ไม่ค่อยจะมีใครนิยมเอาแผ่นธรรมดามาฟังกันเท่าไหร่นักครับ  ส่วนพวก 1 ฺBit ที่แอบทำแอ๊ปเป็น 24 Bit (Resolution)  ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ครับจริงแล้วเทคโนโลยี ถูกพัฒนามาเหมือนๆกัน แต่ระยะหลังมารู้สึกว่ารถจะได้รับการพัฒนามากกว่ายกเว้นช่วงสองปีหลัง เหมือนตลาดตาย ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ออกมาให้เห็น มีแต่งานพัฒนาพวกบีบอัดข้อมูลให้มีคุณภาพขึ้นตามสภาพตลาด ทำให้เครื่องที่เน้นคุณภาพเสียงไม่ได้รับการพัฒนาต่อ 

  ขอบคุณครับที่ช่วยเสริมข้อมูลให้กระจ่าง

[Mr. Tube]

       ลองศึึกษาตาม link นี้ครับ               http://www.thaiavclub.org/forums/index.php?topic=106.25%3Bwap2

แสดงรายละเอียดต้อง 24  Bitครับ จำนวน Bit rate ยิ่งมาก รายละเอียดจะมากตามครับ เป็นความเร็วเทียบเวลา ครับ ส่วน 1 Bit น่าจะหาได้ยากแล้ว ถ้าฟังเพลงก็ต้อง 24 ฺBit/96KHz ถ้าเป็นวงการรถก็ใช้ 24 Bit/96 มาเป็นสิบปีแล้วครับ

ทุกวันนี้มีแต่ Technology 1 bit ครับคุณ Create IC Audio DAC ที่เป็น 24 bit จริงๆ มีแค่ PCM1704 ครับ ซึ่งมีคนใช้น้อยมากครับ เคยเห็นแต่ใน Mark No.30 กว่าๆ นี่แหล่ะ จำไม่ได้แล้ว กะ Denon รุ่น Top น่ะครับ คือ 24/96 ที่เรียกกันเป็น Format ของสัญญาณเท่านั้นครับ ไม่ใช่วิธีการถอดรหัสครับ วงจรไหนที่เรียกตัวเองว่า Delta-sigma, Bitstream, Mash ล้วนใช้ Technology การถอดรหัสแบบ 1 bit ทั้งหมดครับ

BITSTREAM คือ วิธีการเปลี่ยนสัญญาณดิจิตอลมาเป็นสัญญาณอะนาล็อกสำหรับซีดี ตัวแปลงสัญญาณในระบบ BITSTREAM นี้จะจัดการถอดรหัสดิจิตอลด้วยความเร็วสูงกว่าระบบ DAC ทำให้มีความต่อเนื่องราบเรียบ

Bitstream ก็เป็น DAC แบบหนึ่งครับ

ผมอธิบาย DAC Multi-bit แบบพื้นฐานก่อนดีกว่า คือ DAC Multi-bit จะเอาข้อมูล 16 Bit เข้าไปถอดรหัสพร้อมกันทีเดียวออกมาเป็นสัญญาณ Analog ค่าหนึ่งแบบตรงไปตรงมา เราจึงเรียกว่า Multi-bit เพราะเวลามันทำงานมันทำงานที่ละหลายๆ Bit พร้อมกันครับ ส่วน DAC แบบ 1 Bit จะใช้วิธีการเพิ่มปริมาณข้อมูลด้วยการ Oversampling & Interpolation ทำให้ได้ข้อมูลมากขึ้น แล้วเอามาเรียงต่อๆ กันทีละ Bit แล้วค่อยถอดรหัสทีละ Bit ด้วยความเร็วสูงกว่าการถอดรหัสแบบ Multi-bit ครับ ช่วงที่มีการแข่ง Technology 1 Bit กัน Bitstream ได้รับคำชมเรื่องความเป็น Analog สูงกว่า DAC 1 Bit Technology อื่นๆ ครับ (ผมลองฟังแล้วก็เห็นด้วยกับเค้าครับ) น่าเสียดายที่ Philips ไม่ได้พัฒนาต่อจาก TDA1547 อีก

ใครสังเกตเห็นผมเอาแผ่น PCB โกโรโกโสกลับมาจากงาน Meeting บ้างครับ นั่นแหล่ะ DAC Bitstream แบบ Dual Differential ครับ   

[Mr. Tube]

จะหาDACมาใช้แนะนำหน่อยเราจะเลือกอย่างไร

ลองไปฟังและเลือกตัวที่เราชอบครับ 

ควรจะใช้กี่บิทและที่ระบุว่า  bitstream  คืออะไรครับ รบกวนด้วยอ่านดูหลายๆกระทู้ยังงงครับ

ถ้าถามเป็นตัวเลขว่าควรใช้กี่บิท ก็ขึ้นกับว่าเรามีอยู่กี่บิทครับ คือผมหมายถึงว่าถ้าคุณใช้แผ่น CD ยังไงในแผ่นมันก็มีแค่ 16 bit ครับ ขั้นต่ำคุณจึงควรใช้ 16 bit ครับ ส่วนจะใช้มากกว่านี้ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ ถ้าคุณมี DVD-A อยู่ ในแผ่นมันเป็น 24 bit คุณก็ควรใช้ 24 bit เป็นอย่างน้อยครับ

Bitstream เป็นชื่อ Technology การแปลง Digital to Analog แบบ 1 bit ของ Philips ครับ จะเห็นใช้ใน CD Philips และ Marantz เป็นส่วนใหญ่ครับ 

[stc09]

ทำความเข้าใจนิดหนึ่ง ถ้าจะหาdacคุณภาพต้องดีกว่าภาคdacของcdเราใช่ไหมครับ ไม่ทราบdacตัวที่ลิงค์มานี้คุณภาพเป็นอย่างไร ใครมีข้อมูลบ้างครับ รบกวนผู้รู้หน่อยน่าใช้ไหมครับ
http://www.savantaudio.com/qeddigu1.html

[AMP150]

บิทเดียว ก็sacd ไง ยังบิทเดียวอยู่ แต่น้อยคนจะใช้แล้ว สมัยก่อน บิทเดียวได้รับความนิยม เพราะราคาถูก เสียงเข้มดี แต่พักหลังชิปมัลติบิทราคาถูกลง แถมคุณสมบัติด้านความเพี้ยนก็ลดลง ทำให้เป็นที่นิยมมากกว่า ขนาดดีวีดีเครื่องพันกว่าบาทยังเป็นมัลติบิทเลย

[Create_Lek]

       ลองศึึกษาตาม link นี้ครับ               http://www.thaiavclub.org/forums/index.php?topic=106.25%3Bwap2

แสดงรายละเอียดต้อง 24  Bitครับ จำนวน Bit rate ยิ่งมาก รายละเอียดจะมากตามครับ เป็นความเร็วเทียบเวลา ครับ ส่วน 1 Bit น่าจะหาได้ยากแล้ว ถ้าฟังเพลงก็ต้อง 24 ฺBit/96KHz ถ้าเป็นวงการรถก็ใช้ 24 Bit/96 มาเป็นสิบปีแล้วครับ


BITSTREAM คือ วิธีการเปลี่ยนสัญญาณดิจิตอลมาเป็นสัญญาณอะนาล็อกสำหรับซีดี ตัวแปลงสัญญาณในระบบ BITSTREAM นี้จะจัดการถอดรหัสดิจิตอลด้วยความเร็วสูงกว่าระบบ DAC ทำให้มีความต่อเนื่องราบเรียบ


BITRATE คืออัตราข้อมูลทางสัญญาณดิจิตอล ซึ่งแบ่งออกเป็นช่วงสั้นๆ ของชุดสัญญาณ เช่น อาจเป็น 8 Bit, 14 Bit ซึ่งจะบอกถึงความแรงของสัญญาณในช่วงหนึ่งๆ ของเครื่องเล่น CD

[แพร่]

   อยากรู้เหมือนกันครับ 

[jadis]

ใครรู้ ทราบละเอียดลึกๆช่วยมาไขข้อข้องใจหน่อยครับ

[Michael stb]

เท่าที่เคยศึกษา และทดลองฟังมานะครับ 1 Bit (Bitstream) ให้เสียงกลางแหลมที่ดี ส่วน Multi Bit ให้ความสะใจของเสียงเบสมากกว่า

[stc09]

รอข้อมูลจากเพื่อนสมาชิกอยู่ครับ

[stc09]

จะหาDACมาใช้แนะนำหน่อยเราจะเลือกอย่างไร ควรจะใช้กี่บิทและที่ระบุว่า  bitstream  คืออะไรครับ รบกวนด้วยอ่านดูหลายๆกระทู้ยังงงครับ