ลุงมาแชร์ประสบการณ์ในอดีตร่วมสิบปีที่เริ่มเล่นเครื่องเสียงใหม่ๆ
จำได้แม่นว่ากำลังคุยกับคนขายอยู่ในร้าน
มีพระรูปหนึ่ง ที่สุดท้ายแล้วลุงไม่ค่อยจะนับถือเท่าไหร่
เข้ามาขอดูสายลำโพงแบรนด์ดัง MIT ราคาเป็นหมื่น
สำหรับตอนนั้นสิบปีที่แล้ว ถือว่าแพงมากสำหรับลุงครับ
ตัวเองก็ยังไม่ใช้ขนาดนั้น
พระนั้นก็ดูพักนึงแล้วก็ซื้อไปคู่นึง
ลุงทีแรกก็ว่ามัยพระรูปนี้เล่นหนักวุ้ย สายเป็นหมื่น เครื่องที่ใช้ไม่เป็นแสนเหรอวะเนี่ย
จะเอาชุดดีๆไปฟังพระธรรมให้สะอาด ฟังสบายหู รู้ซึ้งถึงพระธรรมหรืออย่างไรกัน
แต่แค่นั้นยังไม่พอครับ
สิ่งที่ทำให้ลุงตะลึงต่อที่สองคือตอนจ่ายเงินครับ
สิ่งที่เห็นคือแกควักเงินจากถุงย่าม แต่เป็นเงินแบ้งค์ย่อยยี่สิบบ้าง ร้อยบ้าง รวมๆกันเอามาซื้อสายลำโพงราคาหมื่น
แล้วจะให้คิดยังไงกันครับ ถ้าไม่คิดว่าเงินเหล่านั้นอาจจะมาจากตู้บริจาคในวัดรึเปล่า
แต่ถึงเป็นเงินที่คนนับถือบริจาคให้กับพระโดยตรงก็ตาม เงินนั้นน่าจะให้พระมาจับจ่ายใช้สอยในกิจของสงฆ์ เช่นเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ แต่ไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ
ถ้าคนที่ให้มารู้ว่าพระทำแบบนี้มันหมดศรัทธาทันที
ยิ่งปัจจุบัน คนห่มเหลืองที่เรียกตัวเองว่า พระ นั้นมีมากเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าพระจริงๆเหลือสักเท่าใด
อยากให้พุทธศาสนา ศาสนาประจำชาติยังเป็นสิ่งที่คนเลื่อมใสศรัทธาเหมือนในอดีต
ไม่อยากให้คนมาอาศัยผ้าเหลืองหากิน แต่อย่างว่าคนไม่ค่อยกลัวบาปกันแล้ว
แผ่นดินต่ำเพราะไอ้คนเหล่านี้และครับ
กระทรวงวัฒนธรรมหรืออะไรที่เกี่ยวข้องน่าจะมีมาตรการแรงๆออกมาบ้าง
เช่นห้ามพระเข้าห้าง อะไรประมาณนี้
หรือไอ้พวกที่ผิดแล้วโดนสึก ก็ให้ทำเครื่องหมายประจานที่ร่างกาย จะได้ไม่สามารถหลบไปบวชใหม่ได้อีก
เฮ้อ เบื่อจัง สังคมที่วุ่นวาย
ลุงขอหลบไปดูหนังคนเดียวดีกว่า อิอิ
