หัวข้อ: การใส่ capacitor ในปลั๊กกรองไฟ

[Tube Collector]

C ใส่ในเครื่องกรองไฟชนิดดีๆ หรือที่ทำในยุโรป เป็น Polypropylene ทั้งชนิด  X Capacitor , Y Capacitor สำหรับระบบไฟสามเส้น ไม่น่ามีผลนักกับเสียงถ้าใช้ของที่ถูกต้อง

[ohm]

ขอบคุณครับ ไปดูมาน่าจะใช้เบอร์นี้ TVR14511KSW
เพราะมันทนไฟ 320V ac เนื่องจากไฟบ้าน 220V RMS น่าจะเท่ากับ 308V peak เลือกที่ 320V น่าจะกำลังพอดีครับ(ถ้าเลือกผิดช่วยแก้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ)

varistor ไม่จำเป็นต้องเลือกเผื่อไว้ครับ  ตัว230V มันก็ตัดที่ประมาณ 650 V peak อยู่แล้วครับ 

จริงๆถ้าไม่กลัวต้องเปลี่ยน varistor เร็ว เลือก 215V ยังได้่เลย

[Wasin]

http://www.aheadamp.com/diyaudiomenu/dcBlocker.htm

เผื่อคนอยากลองทำ จะได้เห็นภาพชัดๆครับ ว่าต่อยังไง ผมยังไม่เคยลองนะครับ

ถ้าใครได้ลองแล้ว ได้ผลยังไง ก็มาโพสบอกกันมั่งนะครับ

[boy]

ผมเคยลองใช้ C แบบขนานเข้าไปทื่อ ๆ
ผลที่ได้คือ เสียงจะค่อนข้างนิ่ง (เวทีและตำแหน่งเสียงนิ่ง)
แต่ บ้านผมมี Safe T Cut ที่ตั้งตัดไว้ค่อนข้างไว 5ma. ผลคือทุกครั้งที่เสียบรางไฟตัวนี้ Safe T Cut จะตัด
ลำบากต้องไปตั้งให้ความไวต่ำ ๆ ก่อนเสียบแล้วค่อยตั้งกลับมาให้ไวสูง ผมเลยไม่ถอดรางไฟอันนี้ออกอีกเลย 

[maw]

[พี่บี]

วงจรเมือนกันมั้ย 

http://www.tnt-audio.com/clinica/mains_e.html

อันนี้วงจรเพิ่ม impedance ของปลั๊กไฟครับ

[พี่บี]

ดูวงจรแล้วก็ไม่เข้าใจครับว่าทำมาทำไม
คือวงจรมันก็แค่กันไม่ให้ไฟ DC ไหลเข้าหม้อแปลง ซึ่งในสายไฟบ้านมันไม่มีไฟ DC อยู่แล้ว วงจรนี้นอกจากจะไม่ตัดสัญญาณรบกวนแล้ว แถมมันยังเป็นตัวเพิ่มสัญญาณรบกวนด้วย โดยจะมีสัญญาณความถี่สูงจากการตัดต่อไดโอด และยังมีว่าถ้ามีสัญญาณรบกวนความถี่สูงจากข้างนอก มันจะวิ่งผ่าน C เข้าวงจรไปเลยไม่ต้องผ่านไดโอด ทำให้สัญญาณรบกวน หันมายิ้มกับเราพร้อมกับพูดว่า หวานตูล่ะงานนี้ 

ไฟบ้านมันไม่สะอาดแบบนั้นสิครับ ช่วงที่มันลงมาเป็น 0V มันดันไม่เป็น 0V จริงๆ ในวงจร DC Blocker แบบนี้ช่วยให้ไฟ DC ที่ปนมาเหลือประมาณ 0.7V ตามคุณสมบัติแรงดันตกคร่อมตอนนำกระแสของไดโอด 

วงจรนี้ไม่ใช่วงจร rectifier หรือวงจร clipper นะครับ

[พี่บี]

อีกสองวงจรครับ ทำหน้าที่เหมือนกับ DaBlock วงจรแรกใช้ในแอมป์ Bryston 
อีกวงจรมาจากฟอรัมที่แก้ปัญหาเรื่องหม้อแปลงไฟสั่น อ่อ เห็นว่าช่วยลดความร้อนให้หม้อแปลงด้วยครับ 
คำเตือน เนื่องจากทำงานกับไฟบ้านระวังหน่อยนะครับ 

อันนี้วงจร Clip สัญญาณ สมัยเรียน Pulse and Switching

[พี่บี]

ไม่ลองทำ DaBlock เล่นมั่งครับ



http://diyparadise.com/dablok.html

วงจรแก้สัญญาณ AC ให้มันผิดรูป

ปกติมันผิดไม่พอก็เลยเติมให้มันผิดหนักเข้าไปอีก

[tudring]

อย่างนี้ต้องลองแล้ว

[nopphong]

หนีไม่พ้นวงจร A ครับ อาจจะมีเพิ่ม C กรองอีกชุด หรือบางตัวก็เพิ่มขดลวดซ้อนเข้าไปอีกชุด  แกะมาหลายตัวยังไม่เคยเห็นวงจรพิสดารกว่านี้เลย เพียงแต่เกรดของอุปกรณ์เช่น ตัวปลั๊ก ขดลวด และค่าของขดลวดกับ C ก็ต่างกันออกไปแล้วแต่จะทำจุดตัดความถี่ที่เท่าไรน่ะครับ

[maw]

แล้วเทคนิคพวกเครื้องกรองไฟที่ทำให้TVภาพสวยนี่เค้าคิดกันแบบใหนครับใครพอมี idea บ้าง

[nopphong]

ขอบคุณครับ ไปดูมาน่าจะใช้เบอร์นี้ TVR14511KSW
เพราะมันทนไฟ 320V ac เนื่องจากไฟบ้าน 220V RMS น่าจะเท่ากับ 308V peak เลือกที่ 320V น่าจะกำลังพอดีครับ(ถ้าเลือกผิดช่วยแก้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ)

[0]

Metal Oxide Varistor = MOV

http://www.es.co.th/search.asp?Word=&PC=012010&Mode=2&tb=012010&stk=&pb=&view=Select&pic=checked

ลองเลือกสเปคดูครับ ES.CO.th บ้านหม้อ น่าจะมีขาย 

[nopphong]

ส่วนสองรูปนี้รูป A เป็นวงจรของปลั๊กกรองไฟที่ขายทั่วไปครับ โดนค่า L และ C จะเปลี่ยนไปตามแต่จะคำนวณกันออกมา ทีนี้มักจะมีคนบ่นว่าเจ้าแบบ A เนี่ยมันเสียงแห้งซึ่งผมก็สรุปเอาเองว่า มันเกิดจากการที่กระแสต้องไหลผ่านลายปริ๊นที่เป็นแผ่นทองแดงบางๆ ต้องผ่านขดลวดที่เป็นแค่ลวดอาบน้ำยาเส้นไม่โตเท่าไร แถมบางตัวยังผ่านฟิวส์ห่วยๆอีก
อย่ากระนั้นเลย เราก็ใช้ปลั๊กเทพของเราเดิมๆเนี่ยแหละ แล้วก็ยุบวงจรมันให้เหลือแค่แบบ B แล้วเอาไปเสียบไว้ข้างๆปลั๊กเทพของเรา แค่เนี้ยสัญญาณรบกวนความถี่สูงที่มากับสายไฟ ก็จะโดนบายพาสทิ้งไปหมด กระแสที่จะวิ่งเข้าอุปกรณ์ก็ไม่ต้องไปวิ่งผ่านขดลวดและลายวงจรให้เสียงมันแห้งอีกนะครับ แถมยังมีข้อดีที่ทำหลายๆตัวเสียบให้รอบห้องก็ยังได้ ลงทุนไม่ถึง 100 น่าลองไหมครับ อิอิ

ปล.เจ้า u1 เป็นตัวกันฟ้านะครับ เรียกว่า mov พอดีผมไม่มีเบอร์ที่ขายในไทย เลยเอาเจ้าตัวนี้ในโปรแกรมซิมใส่มาพลางๆ ครับ จริงๆจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ไม่ค่อยมีผลกับเสียง แค่ช่วยเวลาฟ้าผ่าไม่ให้ไฟมันวิ่งเข้าเครื่องเสียงเราได้ง่ายๆแค่นั้นแหละครับ

[nopphong]

อันนี้เป็นวงจรจากเว็ป http://www.headphoneresearch.com/forum/index.php?topic=1495.0 ครับ(ขออ้างชื่อเว็ปนิดนึงนะครับเพราะไปเอารูปเขามา)
เป็นวงจรที่ผมคุยกันไว้น่ะครับ คนออกแบบเขาว่าดัดแปลงวงจรมาจากของนอก ยังไงลองกันดูนะครับ

[โตงเตง]

lสรุปว่าวงจรนี้ยังไงก็ไม่ดีใช่มั้ยครับ ?  จากกรอบของด้านความคิดและทฤษฎี ? 
แปลกนะครับ อะไรที่ผมไม่เชื่อผมมักจะลองทำดู  เพื่อพิสูจน์ให้มันรู้กันไปเลย 
(หลายกรณีครับ    บางทีอาจจะมีความรู้จำกัดในด้านนั้นทำให้ประสบการณ์ตื้นเขินเลยอยากลอง ก็ลองดู  )
บางอย่างเป็นอย่างที่คิด บางอย่างนอกเหนือความคิด ก็ได้ประสบการณ์เพิ่ม (ต้องไม่กระทบคนอื่นและต้องไม่เป็นอันตราย)
เปิดความคิดในอีกมุมมองนึง เอ้า... DIY จงเจริญครับ 

[0]

lสรุปว่าวงจรนี้ยังไงก็ไม่ดีใช่มั้ยครับ ?  จากกรอบของด้านความคิดและทฤษฎี ? 
แปลกนะครับ อะไรที่ผมไม่เชื่อผมมักจะลองทำดู  เพื่อพิสูจน์ให้มันรู้กันไปเลย 
(หลายกรณีครับ    บางทีอาจจะมีความรู้จำกัดในด้านนั้นทำให้ประสบการณ์ตื้นเขินเลยอยากลอง ก็ลองดู  )
บางอย่างเป็นอย่างที่คิด บางอย่างนอกเหนือความคิด ก็ได้ประสบการณ์เพิ่ม (ต้องไม่กระทบคนอื่นและต้องไม่เป็นอันตราย)
เปิดความคิดในอีกมุมมองนึง เอ้า... DIY จงเจริญครับ 


 
 

[nopphong]

ไฟบ้านมันไม่สะอาดแบบนั้นสิครับ ช่วงที่มันลงมาเป็น 0V มันดันไม่เป็น 0V จริงๆ ในวงจร DC Blocker แบบนี้ช่วยให้ไฟ DC ที่ปนมาเหลือประมาณ 0.7V ตามคุณสมบัติแรงดันตกคร่อมตอนนำกระแสของไดโอด 

ผมว่ามันไม่ 0 นะครับ มันติดลบเสียด้วยซ้ำ ยังนึกไม่ออกครับ ว่ามันจะขี่ DC มาได้ยังไง เพราะหม้อแปลงการไฟฟ้าไม่น่าจะพสดารขนาดปล่อยไฟ DC ข้ามขดลวดมาได้นะครับ

ลองไปอ่านดูครับว่าไฟ DC มาไง 
http://sound.westhost.com/articles/xfmr-dc.htm

ขอบคุณมากครับ เข้าไปอ่านมาแล้วก็อ๋อ สรุปว่าการไฟฟ้าไม่ผิด  กลายเป็นอุปกรณ์รอบๆบ้านเป็นตัวก่อสัญญาณเหล่านี้ ทีนี้ก็สงสัยต่อแหละครับว่า noise จากเจ้า DC ที่ว่า กับ noise ที่เกิดจากวงจรที่เราต่อเข้าไปอันไหนจะมีผลเสียต่อเสียงมากกว่ากัน เพราะจากเดิมที่กระแสจะไหลผ่านอย่างสะดวกเข้าอุปกรณ์เรา มันกลับต้องผ่าน C และมีบางช่วงก็ต้องผ่านไดโอดเสียอีก มีการเลื่อนเฟสของแรงดันและกระแสเพราะมีการผ่าน C มี crossover distortion จาก diode อีกต่างหาก นี่ยังไม่นับว่ากระแสต้องผ่านขาเล็กๆของ C แทนสายเส้นโตๆที่เราใช้
ผมไม่ค่อยเชื่อครับว่าวงจรนี้จะทำให้เสียงดีขึ้น แต่ยังไงก็ตามถ้าใครลองทำแล้วได้ผลยังไงเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ

[AnalogLism]

ไฟบ้านมันไม่สะอาดแบบนั้นสิครับ ช่วงที่มันลงมาเป็น 0V มันดันไม่เป็น 0V จริงๆ ในวงจร DC Blocker แบบนี้ช่วยให้ไฟ DC ที่ปนมาเหลือประมาณ 0.7V ตามคุณสมบัติแรงดันตกคร่อมตอนนำกระแสของไดโอด 

ผมว่ามันไม่ 0 นะครับ มันติดลบเสียด้วยซ้ำ ยังนึกไม่ออกครับ ว่ามันจะขี่ DC มาได้ยังไง เพราะหม้อแปลงการไฟฟ้าไม่น่าจะพสดารขนาดปล่อยไฟ DC ข้ามขดลวดมาได้นะครับ

ลองไปอ่านดูครับว่าไฟ DC มาไง 
http://sound.westhost.com/articles/xfmr-dc.htm

[Goda Takeshi]

ผมก็สรุปตามฝรั่งมาครับ โดยส่วนตัวผมนับว่าโชคดี ที่ผมไม่ได้ยินความแตกต่างสำหรับอุปกรณ์พวก AC

ปล. ผมใช้สายไฟไทยยาซากิหน้าตัดหนา ตัวปลั๊กก็ไช้แบบสำหรับก่อสร้าง ผมก็คงดีกว่าแบบทั่วไปอยู่แล้วมั้งครับ

เรา diy กันได้ อยากลองพวกนี้ทำกันเองคงไม่เกิน 30 บาท. แค่ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวเองครับ  เผื่อๆใครทำแล้วเสียงดีภาพดีขึ้นถือว่าคุ้มมาก มีความรู้กับแบ่งข้อมูลกันก็ไม่ต้องเสียสตางค์เกินความจำเป็นครับ

ปล อย่างลืมนะครับ ทำอะไรกับไฟบ้านไฟสูง ต้องใช้ความระมัดระวังครับ

[nopphong]

ไฟบ้านมันไม่สะอาดแบบนั้นสิครับ ช่วงที่มันลงมาเป็น 0V มันดันไม่เป็น 0V จริงๆ ในวงจร DC Blocker แบบนี้ช่วยให้ไฟ DC ที่ปนมาเหลือประมาณ 0.7V ตามคุณสมบัติแรงดันตกคร่อมตอนนำกระแสของไดโอด 

ผมว่ามันไม่ 0 นะครับ มันติดลบเสียด้วยซ้ำ ยังนึกไม่ออกครับ ว่ามันจะขี่ DC มาได้ยังไง เพราะหม้อแปลงการไฟฟ้าไม่น่าจะพสดารขนาดปล่อยไฟ DC ข้ามขดลวดมาได้นะครับ

[maw]

วงจรเมือนกันมั้ย 

http://www.tnt-audio.com/clinica/mains_e.html

[Wasin]

 

[AnalogLism]

ดูวงจรแล้วก็ไม่เข้าใจครับว่าทำมาทำไม
คือวงจรมันก็แค่กันไม่ให้ไฟ DC ไหลเข้าหม้อแปลง ซึ่งในสายไฟบ้านมันไม่มีไฟ DC อยู่แล้ว วงจรนี้นอกจากจะไม่ตัดสัญญาณรบกวนแล้ว แถมมันยังเป็นตัวเพิ่มสัญญาณรบกวนด้วย โดยจะมีสัญญาณความถี่สูงจากการตัดต่อไดโอด และยังมีว่าถ้ามีสัญญาณรบกวนความถี่สูงจากข้างนอก มันจะวิ่งผ่าน C เข้าวงจรไปเลยไม่ต้องผ่านไดโอด ทำให้สัญญาณรบกวน หันมายิ้มกับเราพร้อมกับพูดว่า หวานตูล่ะงานนี้ 

ไฟบ้านมันไม่สะอาดแบบนั้นสิครับ ช่วงที่มันลงมาเป็น 0V มันดันไม่เป็น 0V จริงๆ ในวงจร DC Blocker แบบนี้ช่วยให้ไฟ DC ที่ปนมาเหลือประมาณ 0.7V ตามคุณสมบัติแรงดันตกคร่อมตอนนำกระแสของไดโอด 

[nopphong]

ดูวงจรแล้วก็ไม่เข้าใจครับว่าทำมาทำไม
คือวงจรมันก็แค่กันไม่ให้ไฟ DC ไหลเข้าหม้อแปลง ซึ่งในสายไฟบ้านมันไม่มีไฟ DC อยู่แล้ว วงจรนี้นอกจากจะไม่ตัดสัญญาณรบกวนแล้ว แถมมันยังเป็นตัวเพิ่มสัญญาณรบกวนด้วย โดยจะมีสัญญาณความถี่สูงจากการตัดต่อไดโอด และยังมีว่าถ้ามีสัญญาณรบกวนความถี่สูงจากข้างนอก มันจะวิ่งผ่าน C เข้าวงจรไปเลยไม่ต้องผ่านไดโอด ทำให้สัญญาณรบกวน หันมายิ้มกับเราพร้อมกับพูดว่า หวานตูล่ะงานนี้ 

[Diy_ชาติ]

ไม่ลองทำ DaBlock เล่นมั่งครับ



http://diyparadise.com/dablok.html

น่าลองครับ

[silicon]

แล้ว 4700uf เลือกกี่โวลล์ดีคับ  ตัวจะบักเอ๊บขนาดไหนเอ่ย

6 โวลท์ก็ได้แล้วครับ ถ้ากันเหนียวหน่อยก็ 16 โวลท์

[gump]

น่าสนครับ เอาไปโมแอมป์กีตาร์จะได้ไม๊เนี่ย

[โตงเตง]

แล้ว 4700uf เลือกกี่โวลล์ดีคับ  ตัวจะบักเอ๊บขนาดไหนเอ่ย

[AnalogLism]

ไม่ลองทำ DaBlock เล่นมั่งครับ



http://diyparadise.com/dablok.html

ชุดนี้ใช้ ไดโอด เบอร์ อะไรดีครับ พี่

อะไรก็ได้ 1000V 3A  ได้พวก Ultrafast ก็ดีครับ เคยมีคนทำเป็นสาย AC มาให้ลองฟังเหมือนกัน แต่เผอิญว่าสายที่ใช้เป็นของ Fim เลยไม่แน่ใจว่ามันดีเพราะ Fim หรือ DC Block 

[ปาท่องโก๋]

ไม่ลองทำ DaBlock เล่นมั่งครับ



http://diyparadise.com/dablok.html

ชุดนี้ใช้ ไดโอด เบอร์ อะไรดีครับ พี่

[ปาท่องโก๋]

 
อย่างนี้ต้อง ลอง 
  ขอบคุณมากครับ

[AnalogLism]

อีกสองวงจรครับ ทำหน้าที่เหมือนกับ DaBlock วงจรแรกใช้ในแอมป์ Bryston 
อีกวงจรมาจากฟอรัมที่แก้ปัญหาเรื่องหม้อแปลงไฟสั่น อ่อ เห็นว่าช่วยลดความร้อนให้หม้อแปลงด้วยครับ 
คำเตือน เนื่องจากทำงานกับไฟบ้านระวังหน่อยนะครับ 

[AnalogLism]

ไม่ลองทำ DaBlock เล่นมั่งครับ



http://diyparadise.com/dablok.html

[nopphong]

  อ่านยากมากครับ งง

[tanadiy]

จริงๆแล้วก็ทางปฏิบัติที่ได้นำเสียงก็เปนอย่างที่ว่าครับแหงๆไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่เป้นกลางซักเท่าไรครับเสียงที่ได้ก็ดีบางอย่างก็หายไม่สมบรูณเท่าที่ควร เครื่องกรองไฟac ใช่ต่อตรงๆไปเลยจะเห็นผลของนำเสียงที่ดีกว่า แล้วไปกรองเเรงดันไฟสูงในวงจรด้วยc คัดเกรท ผลออกมาเอาหลอดไฟซัก 60wต่อทางออกของไฟที่เรยงกระแสแล้ว ว่ามีสีเปลี่ยนไปมากแค่ไหนนั้นคือไฟที่สะอาดๆ จะออกเป็นดงออ่นๆออกชมพูๆ ลองทำตามดูแล้วกันไดผลอย่างไรบอกด้วย

[nopphong]

ผมว่าฝรั่งมั่วครับ
เคยคุยกันไว้ที่นึงครับ
โดยสรุปที่สรุปกันได้คือเมื่อใส่ C ลงไป มันจะกรองสัญญาณรบกวนความถี่สูงออก ทำให้สัญญาณความถี่สูงมีความชัดเจนขึ้น(ในเรื่องของคุณภาพเสียงสูงนะครับ ลองคิดถึงสภาพที่ของเดิมมีสัญญาณรบกวน ที่เสียงความถี่ต่ำๆมันจะเบลอก็ไม่ค่อยมีผลเพราะรูปคลื่นมันใหญ่เมื่อเทียบกับสัญญาณรบกวน แต่ที่ความถี่สูงพอมันเบลอก็จะได้รับผลกระทบมากกว่าเพราะสัญญาณมันถี่กว่า)
ในขณะเดียวกันพวกปลั๊กพวกนี้จะมีลายวงจรในปลั๊ก บวกกับขดลวดที่ใช้กรองสัญญาณในปลั๊กมีขนาดเล็ก ทำให้กระแสเดินได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับการเสียบโดยตรงไม่ต้องผ่านอะไรเลย ผลคือเสียงความถี่ต่ำจะหายไปบางส่วน ซึ่งบางคนจะรู้สึกได้ว่าใส่ปลั๊กกรองไฟพวกนี้แล้วเสียงจะแห้ง บางคนถึงกับเรียกว่าเจ้าแห้งเลยก็มี
สองอย่างผสมกันก็เลยกลายเป็นว่าได้เสียงใสๆไม่อวบๆไปน่ะครับ

[Goda Takeshi]

http://www.avguide.com/forums/shunyata-hydra-8

ผมไปเจอฝรั่งเขาให้ข้อสันนิฐานว่าทำไม การใส่ capacitor ในปลั๊กทำให้เสียงหรือภาพเปลี่ยน

โดยสรุป เขาเดาว่า C อาจทำหน้าที่ขยายคลื่น วิทยุ (RF) เลยทำให้เหมือนเสียงมันสูงขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งมันเป็นตัวขยาย noise 
 เห็นแล้วทำให้นึกถึง ลวดหนีบเสาโทรทัศน์ ที่ขายตามบ้านหม้อในสมัยก่อนเลยครับ

โปรดระวังการทดลองหรือดัดแปลงไฟสูงนะครับ ส่วนใครมีความรู้ลองได้ครับ C ตัวละไม่ถึง 10 บาท อยากได้ปลั๊กดีๆจะเอา ปลั็กหัวจรวดมาใช้ก็ได้ครับ  สะใจแน่ๆ