หลังจากขุนจิตต์ เสี่ยเอ๋ และจานหมาย กลับไปเมื่อเย็นวันศุกร์ตอนสามทุ่มครึ่งแล้ว ผมก็นั่งดูหนังต่อไปอีก 2 เรื่อง แล้วปล่อยให้เครื่องเบิร์นต่อไปอีกจนถึง 11 โมงเช้า เพื่อรอน้องๆ หลายคนมาเยี่ยมห้องก่อนจะไปร่วมงาน HTG2 ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์คกัน พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกันเพราะมัวแต่ยุ่งๆ จึงลืมชาร์ตถ่านกล้องทิ้งไว้ เอาว่านำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นไอเดียแทนก็แล้วกันะครับ
อาจารย์ชาติ PCT (ผู้ได้รางวัลฟิวส์ power house paladium จากงาน HTG2) มาถึงบ้านผมคนแรกพร้อมด้วยถุงเม็ดมะม่วงหิมพานต์ติดมือมาแกล้มกับการฟังเพลง แต่ตอนขากลับขอหยิบเอาสายสัญญาณ Nordost Red Dawn หัวแบบ balance กลับไปทดลองเล่นกับชุดที่บ้านดูบ้าง
ตามมาด้วยน้องนัท cinemania ผู้งำประกายความเป็นศิลปินไว้บนหน้าตาอันหล่อเหลาดังพระเอกในยุทธจักรของบู๊ลิ้ม (น้องเขาเป็นหนึ่งใน 8 ผู้ไปร่วมงาน HTG2 จำนวน 135 คน ที่ดวงแข็งโป๊กเหมือนผมที่ไม่ได้ของรางวัลซึ่งมีมากจริง ถือติดมือกลับบ้านซักกะชิ้นหนึ่งเลย) นัทฯ ได้สายไฟ monster powerline 400 signature ติดมือกลับบ้านไปใช้แทนสายไฟที่แถมมากับ power amp Vincent 1 เส้น
ตามมาด้วยเสี่ยเอ๋ (ผู้ได้รางวัล Isoclean 500 จาก Magnet ติดมือกลับมาแกะดูเพื่อโมต่อไป) ที่กรุณาเอาสายไฟ acoustic zen รุ่น absolute มาใช้กับ pre McIntosh C500T ที่ใช้สาย silver audio wattmaster อยู่เดิม (สงสัยกลัวเสียงไม่ดีพอ เพราะเสี่ยเอ๋เชิญแขกพิเศษมาเยี่ยมชมและฟังชุด HT ของผม 1 ครอบครัว เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจทำห้อง HT ใหม่ของครอบครัว)
จากนั้นหนึ่ง tripple x (ผู้ได้รางวัลเป็นตั๋วดูหนังจาก SF Cinema แต่หนึ่งเอาใจไปแจกให้กับน้องพริ๊ตตี้ไฮเสเก้นท์ หวังว่าน้องเขาจะชวนไปดูหนังด้วยกัน) ก็ตามมาด้วยการแบกเอาน้องแอมป์ cary 7.125 ที่เสียงลำโพงหน้าขาดไป 1 ข้างมาเพื่อฝากให้ขุนจิตต์ช่วยยกไปให้สมมาตร แห่งโกลเด้นท์ซาวน์ด จัดการให้เพราะยังอยู่ในประกัน
ตามติดมาด้วยคุณท๊อป Schweiz จากเรดิสัน (จำไม่ได้ว่าได้รางวัลอะไรกลับบ้าน) ที่อุ้มเอาเครื่อง music server ตัวใหม่ล่าสุดที่กำลังฮือฮาในอเมริกา Olive Opus4 ให้พวกเราได้ฟังเสียงและลองเล่นตัวเป็นๆ กัน
ผลการการทดลองทั้งดูหนังฟังเพลง ในระบบ McIntosh ทั้งชุด ร่วมกับปรี/โปร ของ ARCAM AV888 เสียงจากการฟังเพลง 2 แชนแนล หวาน ฉ่ำ แต่ปลายแหลมฝสูงยังพริ้วน้อยไปหน่อยมีอาการแหลมยังแข็งกระด้างติดออกมาอยู่บ้างบางช่วงเพลง ซึ่งสรุปกันว่าน่าจะมาจาก ปรี Mc C500T ยังไม่พ้นเบิร์น (เพิ่งได้แค่ 30 ชั่วโมงเอง) แต่การที่ใช้แอมป์ที่มีกำลังขับสูงอย่าง น้อง Mc 1201 momoblock 1200 watts นี่ช่วยทำให้พลังและความลึก รวมไปถึงมิติของชิ้นดนตรี เด่นชัด และถึงแม้จะเปิดเพลงเบาๆ ก็ยังฟังชิ้นดนตรีได้ครบทุกชิ้น
สำหรับระบบภาพ หลังจากถอดเลนซ์ anamorphic sygnatech ตัวกลมออก แทนด้วย panamorph ตัวเหลี่ยม ซึ่งสามารถติดตั้งได้แนบกับเลนซ์ Infocus IN83 มากกว่า ทำให้ภาพที่ได้ใส คมชัดมากขึ้น และไม่มีการเบลอของภาพตามแนวขอบด้านข้างของจอรับภาพ ตอนแรกๆ เมื่อเย็นวันพฤหัสที่มานั่งดูกันใหม่หลังจากติดเลนซ์เสร็จ ภาพที่ได้จาก oppo bluray BDP83 w HD-SDI ภาพมี noise เยอะมากๆ ซึ่งสรุปกันว่าน่าจะมาจากการที่น้อง oppo ยังไม่ได้เบิร์นเลย แต่พอปล่อยให้น้องเขาเบิร์นทั้งวันทั้งคืนอยู่ 24 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง ผลปรากฎว่า พอตกบ่ายวันเสาร์ที่น้องๆ มาเยี่ยมห้องกัน noise ที่มีเยอะมากในตอนวันแรกๆ ลดลงจนแทบจะหมดไป (คงต้องเบิร์นอีก 2 - 3 วัน)
ส่วนเสียง surround ที่ได้จากชุด แอมป์ Mc ทั้งชุด (คู่หน้า Mc1201/1200watts, เซ็นเตอร์ Mc402/400watts-bridge mono 800watts และคู่หลัง Mc402/400 watts) ร่วมกับ ซับ JL Fathom F113 2 ตู้ วางข้างลำโพงคู่หน้า (Usher Be20) นั้น บอกได้คำเดียวว่าเสียงมันส์ซะใจ ได้บรรยากาศ เสียงกลางจาก Usher C616อิ่มมีนำหนัก ดูหนังสนุกไม่ถูกเสียงเซอร์ราวน์ดรอบๆ ตัวกลบเสียงสนทนาของตัวละคร ส่วนเบสจาก sub JL Fathom F113 ที่ใช้ถึง 2 ตัวในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักนั้น ไม่บวมเบลอและฟุ้งตามที่กลัวกัน เสียงต่ำลงได้ลึกจริงๆ สมดังคำร่ำลือว่าลึกสะใจ แต่ยังคงมีอาการเบสแข็งกระด้างไปบ้าง เพราะน้อง JL ยังไม่ผ่านการเบิร์นเหมือนกัน ขอบกรวยจึงยังแข็งโป๊กอยู่ และจากการมีข้อจำกัดด้านระยะนั่งดู เพราะห้องมีช่วงระยะด้านลึกสั้นไปเล็กน้อย ทำให้ต้องวางลำโพงเซอร์ราวน์ดหลัง (Usher Be10) อยู่ใกล้กับตำแหน่งนั่งฟดู/ฟัง มากไปหน่อย จริงๆ ควรจะต้องอยู่ประมาณเลยไปทางด้านหลังตำแหน่งนั่งดู/ฟัง ไป ทำให้เสียงบรรยากาศความโอบล้อมด้อยไปเล็กน้อย นอกจากนั้นถ้านั่งฟังกันอย่างละเอียดพิถีพิถันสักหน่อยจะเห็นว่าเสียงจากด้านซีกขวาจะมาถึงตัวผู้ฟังเร็วกว่าเสียงทางด้านซีกซ้าย สาเหตุนี้น่าจะมาจากผนังด้าขวาเป็นกำแพงปูนและมีรูปใส่กรอบกระจกชุดใหญ่อยู่ 4 รูป ทำให้สะท้อนเสียงได้อย่างรวดเร็วไปเล็กน้อย ซึ่งจะต้องแก้ไขโดยติดม่านทึบหนาซับเสียงเช่นเดียวกับผนังด้านตรงข้าม ส่วนผนังด้านซ้ายมีผ้าม่านทึบหนาปิดอยู่ยาวตลอด ซึ่งทำหน้าที่บังแสงและซับเสียงไปในตัว
สรุปสุดท้าย ต้องเบิร์นอีก 200 ชั่วโมงน่าจะโอเค สักที
