วันนี้ปีใหม่ ไม่มีคิวไปไหน อยู่บ้านคนเดียวเลยจัดวางตำแหน่งของชุดเรื่องเสียงกันใหม่ โดยเอาเจ้า power amp McIntosh MC 1200 watts monoblock ไปอยู่ด้านข้างลำโพง Usher Be20 ซึ่งอยู่ด้านหน้าของ Subwoofer JL F113 โดยตามหลักแล้วจะต้องยกให้ลำโพง subwoofer JL F113 อยู่สูงกว่าตัว power amp เล็กน้อย แต่ยังไม่มีปัญญายกมันขึ้นมาวางบนขาตั้ง เพราะมันหนักจริงๆ ยกคนเดียวไม่ไหว เดี๋ยวหลังเดาะไปอีก เลยคงต้องรอวันอาทิตย์ให้ลูกน้องกลับจากหยุดปีใหม่เสียก่อนจึงจะยกให้สูงขึ้นเล็กน้อย แล้วยกเอา power amp Mc MC402 400 watts/channel ซึ่งทำการ bridge เป็น mono ได้กำลังมา 800 watts ที่ใช้ขับลำโพง center ของ Usher C616 มาวางข้างหน้าลำโพง C616 การทำเช่นนี้เพื่อที่จะได้ประหยัดสายลำโพงให้สั้นที่สุด โดยใช้สายสัญญาณจากปรี เป็นสาย XLR Absolute ซึ่งจะยาวข้างละ 6 เมตร การกระทำเช่นนี้มาจากที่กระผมมีความต้องการอั๊พสายลำโพงที่ใช้อยู่เดิมจาก Acoustic Zen Satori Shotgun มาเป็น Acoustic Zen Absolute ทีนี้ถ้าจัดวางแบบเดิมสายลำโพงจะยาวมากสู้ราคาไม่ไหว และยิ่งสายลำโพงยาวเท่าไหร่สัญญาณและพลังเสียงที่ได้ก็จะลดลงบ้างตามความยาวของสาย การใช้สายสัญญาณแบบ XLR ยาวๆ จะไม่ลดทอนความแรงของสัญญาณเท่าใดนัก และอีกแย่งหนึ่งที่จัดวางแบบนี้เพราะดูแล้วโหวงเฮ้งของระบบ 3 ตัวหน้าสวยกว่าจัดวางแบบเดิม วันนี้เลยถือโอกาสค่อยๆ ต่อสายและจัดระเบียบสายสัญญาณและสายไฟของชุด Home Theater ชุดเดิมใหม่หมด ทำการจัดวางและต่อสายตั้งแต่ 15.00 น. มาเสร็จเอา 22.00 น. เลยยังไม่มีโอกาสเปิดทดลองฟังว่าเสียงและภาพเป็นอย่างไร เอาไว้วันพรุ่งนี้ค่อยถ่ายรูป screen shot สวยๆ มาให้ดูกันนะครับ วันนี้ลุยอยู่คนเดียวเริ่มเจ๊บหลังเล็กน้อยเลยตัดสินใจว่าหยุดดีกว่าแล้วค่อยทดลองเสียงและภาพพรุ่งนี้สายๆ
ปล. จัดวางแบบใหม่นี้ดูดีขึ้นและมีความโปร่งของชั้นวางเครื่องเสียงมากกว่าเดิม ซึ่งคุณชัย สาธุ เทพหูทองได้เคยแนะนำกระผมไว้เมื่อเดือนที่แล้ว เรื่องตำแหน่งของการวาง power amp และชั้นวางเครื่องเสียงที่มาบังแนวสัญญาณเสียงของลำโพงหน้าขวา หากขยับชั้นวางออกไปได้สัก 1 ชุด เสียงลำโพงตัวขวาจะเปิดกว่าเดิม เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องลองฟังแต่เช้าแล้วจะรายงานผลให้ทราบ

รูป power amp Mc 3 ตัวมาเรียงกันหน้าสลอนอยู่ด้านหน้าลำโพงแต่ละตัว จะเห็นว่าสายสัญญาณยังวางอยู่บนพรม ไม่สามารถเอารอดใต้พรมได้คงต้องรอน้องๆ มาช่วยกันยกคราวหน้าครับ

รูปชั้นวางด้านข้างที่ลดจำนวนออกไป 1 ชุด ดูสะอาดตาขึ้นเล็กน้อย

ถ่ายชั้นวางด้านข้างให้ชัดเจนขึ้นหน่อย
- เริ่มตั้งแต่ด้านซ้ายจากบนลงมาข้างล่าง ตัวบนคือ Pre MC C500T controlller ลงมาเป็น Pre MC C500T power supply unit ล่างสุดเป็น Power MC402 ใช้ขับsurround หลัง (Usher Be10)
- ชุดต่อมาตรงกลางจากบนลงล่าง ตัวบนคือ SACD Transport + DAC EMMLabs XDS1 ตัวใหม่ล่าสุด วางบนแท่น Symposium รุ่น Svelte แบบบาง เครื่องถัดลงมาคือ Media Server Olive Opus 4HD ตัวใหม่ล่าสุดอีกนั่นแหล่ะ วางอยู่บน Symposium Coupler ถัดลงมาคือ AV Reciever ARCAM AVR600 ตัวดัง เอามาเล่นเป็น pre out แทน ARCAM pre/pro AV888 ที่ส่งให้ Fi-paragon เอากลับไปตรวจเช็คระบบ DSP ที่มีปัญหาหลังจากทำการอั๊พเดท firmware เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ตัวล่างสุดคือ Scaler Crystalio II รุ่น 3800 w SDI input มากับ power supply I-Fim
- ชุดสุดท้ายทางด้านขวามือจากบนลงล่าง ตัวบนคือ แท่น Symposium รุ่น Svelte Plus แบบหนา เตรียมไว้สำหรับเอาที่เล่นแผ่นเสียงตัวใหม่ซึ่งยังอยู่ในกล่อง คือ VPI Classic + JMP 10.5 tonearm + Dynavector MC cartridge เครื่องถัดลงมาคือ Sattelite HD Receiver Box w HDMI output ของ SMART (Germany) ต่อลงมาคือ HD Media Player DUNE HD Base 3.0 วางอยู่บน BD Player OPPO BD83 w SDI ซึ่งอยู่บน HDDVD Toshiba EX1S สุดท้ายล่างสุดคือขุมจ่ายพลังของ AV Paradise รุ่น Signature 2 ชุด

รูป remote control ทั้งหมดในห้อง HT Room ของผม มากมายจริงๆ
รูปสาย XLR ของ Acoustic Zen รุ่น WOW ยาว 7 และ 5 เมตร เอามาใช้กับ JL F113 ทั้ง 2 ตัวด้านหน้า


รูปแท่นรอง Symposium รุ่นหนา เพิ่งเอามาเพื่อใช้รองที่เล่นแผ่นเสียงตัวใหม่ VPI Classic