วันนี้ตอนเย็นคุณเอ๋กับเซียนหมายเข้ามาที่ห้องมาดูจิตต์เอาคนงานมาช่วยกันยกลำโพง Usher Be20 วางลงบนแผ่นอลูมิเนียมที่ขอเจียดได้มา 2 แผ่น นอกจากนั้นวันนี้ยังได้สายไฟ Stealth มาเพิ่มอีก 2 เส้น เอามาเปลี่ยนใส่กับ SACD EmmLabs ซึ่งเดิมใส่ด้วยสายไฟ Absolute อยู่ อีกเส้นหนึ่งเดิมกะจะเอามาเปลี่ยนกับสาย Absolute ที่เครื่องปรีโฟโน Audioresearch Ref2 แต่เจ้ากรรมดันได้ปลายปลั๊กตัวเมียแบบ 15 amp มา แต่เจ้า ARC Ref ดันเป็นปลั๊กแบบ 20 amp เลยต้องเอาสาย Stealth เส้นนี้ไปเปลี่ยนที่ปรีโปรเซสเซอร์ Mc MX150 ซึ่งเดิมใช้สาย Wireworld Gold หัวท้าย F1N1 ออก พอลองฟังเสียงแล้วบอกได้เลยว่าคงต้องเปลี่ยนมันยกชุดแหง๋มๆ ทำให้วันนี้ต้องกัดฟันสั่งสาย Stealth ไปเพิ่มใหม่อีก 2 เส้น เปลี่ยนมันอีก 2 ตัวเลย เปลี่ยน ARC Ref 2 กับ BD Marantz 9004 ขอเลียนแบบคุณหมอที่ได้ข่าวว่าสั่งสาย Stealth ไปอีกหลายเส้นเหมือนกัน

เอารูปสายไฟ Stealth ที่ได้มาใหม่ 2 เส้นวันนี้ให้ดูกันหน่อย สายเส้นสีฟ้าสำหรับเครื่องปรีแอมป์เท่าน้น ส่วนสายสีเหลืองทองสำหรับพวกเครื่องซีดีและบลูเรย์ที่เป็นดิจิตอล

รูปแท่นอลูมิเนียมที่จับมาวางสำหรับรองลำโพง Usher Be20
ผลของเสียงที่ได้ในวันนี้
หลังจากเปลี่ยนสายไฟ (ยังไม่ได้ใส่แท่นอลูมิเนียม) : เสียงฟังได้เปิดขึ้น เสียงร้องกับเสียงกลางโปร่งใสและเคลียรืขึ้นทันที เมื่อเทียบกับสายไฟ Absolute ที่ดูมวลเสียงรวมๆ อั้นและทึบกว่า
หลังจากใส่แท่นอลูมิเนียมลงไปใต้ Usher Be20 : เสียงกลาง แหลม ลอยและเปิดมีมิติมากขึ้นทันที ฟังได้ออกชัดเจนว่าการแยกแยะชิ้นดนตรีแม่นขึ้น เสียงต่ำพวกเบสและกลองมีน้ำหนักและปลายมีมวลที่พริ้วไหวมีมิติด้านลึกมากขึ้น ชอบมากๆ แต่คงต้องรอให้ตัวลำโพงมันเซ๊ทตัว ลูกตะกั่วที่ถ่วงไว้ในตู้เรียงตัวกันใหม่เพราะวันนี้มีการยกขยับลำโพงกันรุนแรงพอสมควร แต่ที่รู้ๆ น่ะตะกี้ฟังซีดีติดต่อกันไป6 แผ่น (ไม่ได้ฟังทุกเพลงเลื่อกเฉพาะเพลงที่คุ้นเคย) ต้องบอกว่าชอบมากกว่าเดิมๆ ที่ฟังอยู่ เดี๋ยวคุณหมอว่าผมคุยโม้อีก จริงๆ อยากบอกว่าเสียงร้องเด่นชัดสะอาดขึ้นกว่าเดิมมากๆ ปลายแส้ snare ที่ตีลงที่กลองและฉาบ เห็นเส้นๆ ของแส้ชัดเจน
วันนี้ฟังไปจาก 6 แผ่นต่อไปนี้

แผ่นนี้ต้องฟังแทรคที่ 1 ABANGOMA(The Healers) กับแทรคที่ 12 STIMELA (Cold Train) ต้องบอกว่าสะใจ เสียงกลองลงได้ต่ำและมีมิติด้านลึกมากขึ้น

แผ่นนี้ต้องฟัง แทรคที่ 1 Desperado แทรคที่ 4 Perhaps Love พริ้วไหวเสียงน้ำลายของนักร้องหญิงชัดเจนมากขึ้น แทรคที่ 10 Better Be Home Soon เสียงเบสเปลี่ยนไปจากที่เคยได้ยินเดิมๆ ฟังดูลึกมากขึ้น

แผ่นนี้ต้องแทรคที่ 1 Tears of Joy สายกีตาร์เด่นลอยออกมาชัดเจน แทรคที่ 2 In Your Wild Garden เสียงน้ำลายที่วิ่งเข้าไปในท่อแซคโซโฟนตอนเป่าชัดเจนมากขึ้น แทรคที่ 5 Take Five อะมะตะมากสำหรับแทรคนี้ เสียงกลองหนักแน่นฟังออกถึงความตึงและสั่นไหวของหนังกลองทุกครั้งที่ถูกไม้ตีลงไป


แผ่นบรรเลงโอเปร่าของจีน 2 แผ่นนี้ แนะนำเลยครับ ฟังได้อารมณ์มากๆ ยิ่งใกล้เทศกาลตรุษจีนด้วย แต่ยังมีความรู้สึกว่าเสียงซอและปี่แป้ยังแหลมบาดหูเล็กน้อย

แผ่นนี้เป็นเพลงบรรเลงประกอบในหนังเรื่องสามก๊ก ต้องบอกว่ามันส์ได้อารมณ์มากๆ บันทึกเสียงมาดีจริงๆ แทรคที่ 1 The Fateful Moment บรรเลงได้อ่อนช้อยหวานจับใจ แทรค 7 The War of the Red Cliff แทรค 9 The Battle of Guandu บอกเลยว่าเสียงยิ่งใหญ่มากๆ กลองใหญ่รัวจังหวะได้น่าตื่นเต้นเหมือนเข้าไปอยู่ในสงครามจริงๆ แทรคสุดท้าย แทรคที่ 12 Three Kingdom Become One ได้อารมณ์ถึงความสำเร็จความสมหวังของสงครามจริงๆ คล้ายๆ กับอารมณ์ที่ฟังจากสงครามรัสเซีย 1812 เลยครับ
สุดท้าย เฮียเม้งคงร้องไห้ เพราะที่แกอุตสาห์มานั่งเซ๊ทลำโพงหา Dipols ให้จนได้มา 90 กว่าๆ แล้ว สงสัยวันนี้ DiPols กระเด็นตกไปหมดแล้วแน่ๆ ขอโทษนะเฮีย เอาไว้ให้โปรเจคห้องดูหนังฟังเพลงใหม่ของผมเหนือโรงรถเสร็จก่อน (กลางปี 2011เลย) ค่อยให้เฮียมาช่วยจูนเคาะลำโพงกันใหม่นะครับ
![knock K]](https://www.htg2.club/Smileys/default/knocked.gif)