วันนี้มีธุระจำเป็นจึงไม่ได้ไปร่วมแจมที่ร้านใหม่พาราไดซ์ อดเจอเพื่อนๆ เลย

กลับถึงบ้านตอนค่ำเลยหยิบเอาสายลำโพงStealth Dream V10 ยาว 1.5 เมตร จำนวน 3 เส้นที่เมื่อเย็นวันก่อนคุณเอ๋เอามาส่งให้ไว้ วันนี้เลยหยิบออกมาเตรียมเปลี่ยนเอาสายลไโพง wireworld Platinum ออก ทั้งสามเส้นหน้า (ซ้าย-ขวา-เซ็นเตอร์) ก่อนเปลี่ยนก็นั่งทำความคุ้นเคยกับแนวเสียงจากสาย wireworld platinum คู่ทุกข์คู่ยากเดิมๆ ก่อน ด้วยแผ่นอะไรคงไม่ต้องบอกเพื่อนๆ คงเดากันถูกอยู่แล้ว เสร็จแล้วเริ่มเอาแพคเกจอันสวยงาม เน้น โคตะระสวย เลย (เดี๋ยวเห็นภาพด้านล่างก็คงถึงบางอ้อว่ามันสวยอย่างไง อิอิ) ของสาย Stealth Dream v10 ที่อีตา Michale Framer จาก Stereophile เล่มล่าสุด เชียร์และชมนักชมหนาว่าพอๆ กันกับ TaraLAb ที่แบบรักพี่เสียดายน้องกันเลย
จัดการเสียบแทนสายเดิม แต่ Usher Be 20 + 777 ดันมี binding post แบบ biwire ส่วนสาย Stealth Dream ที่สั่งมาสำหรับเตรียมไว้้ใช้กับ Magico Q5 เป็น single wire คราวนี้ทำอย่างไงดีล่ะ พอดีมีสาย Nordost Biwire Jumper เหลืออยู่ 3 คู่ พอดีเป๊ะ เลยเอามาเป็นตัวช่วยไปก่อน แต่ก็เกรงว่าเสียงกลางแหลมจะไม่แมทช์กับเสียงต่ำ แต่ก็ยังดีกว่าใช้ Jumper ของ Usher เองที่ให้มากับลำโพงเป็นแน่แท้

เป็นไงครับ packaging ของสายลำโพงราคาคู่ละ 12000 $ US สวยตามที่ผมแซวไหมล่ะ ใช่แล้วครับพี่น้อง มันมากับถุงพลาสติกขุ่นๆ อย่างที่เห็นนั่นล่ะครับ ไม่รู้ว่าตอนส่งมาจากทางโน้นเขากลัวจะเสียภาษีแพงมั๊งเลยทำมาเป้นแบบยาจกให้ดูโลว์คอสต์ แต่เรื่อง packaging ของสาย Stealth นี่ทางอีตา Michael Framer ก็วิจารณไว้เหมือนกันว่า มันไม่มีอะไรมาเลยจริงๆ ใส่มาในถุงซิปเปอร์เท่านั้น

แกะเอาออกจากถุงพลาติก ข้างในปลายสายบริเวณหัวก้ามปูหุ้มกันรอยไว้ด้วยพลาสติกแรบเป้อร์บางๆ กับมีโฟมบางๆ ห่อตรงขั้วที่มีป้ายยี่ห้อและบอก serial number ของสายไว้กันถลอกแล้วหุ้มด้วยพลาสติกแรบอีกชั้นหนึ่ง

ก่อนใช้เลยต้องแกะพลาสติกออกก่อนจึงเห็นเนื้อในของน้อง Dream ว่าขาวจ๊วะน่าเจี๊ยะ

โฉมหน้าน้อง Wireworld Platinum ที่ถูกปลดจากตำแหน่งเมียหลวง กะว่าจะเอาไปเป็นเมียน้อยอยู่ที่ลำโพงเซอร์ราวน์หลัง (Be10)
ผลการทดลองฟัง โดยสาย Dream ยังไม่ได้เบิร์นเลยสักชั่วโมง เปิดปุ๊บลองเทียบในโอกาสแรกก่อน ผลน่ะหรือครับ สมดังคำวิจารณ์ของอีตาเฟรมเมอร์ เสียงกลางอิ่มมีน้ำหนักมากขึ้นกว่า WW Platinum เสียงแหลมไม่สดจนมีอาการแข็งบาดหูเล็กน้อยแบบ WW Platinum เรียกว่าเสียงแหลม กรุ็๊งกริ๊งแต่นุ่มนวลกว่า เสียงเบสไม่ใหญ่และหนักแน่นเท่า WW Platinum แต่เบสมีน้ำมีนวล มีมิติที่ใหญ่กว่า เรียกว่าออกโทนนุ่มนวลแต่ก็แฝงไว้ด้วยน้ำหนักที่อาจจะพอดี สาเหตุนี้ทำให้สายลำโพงชุด Dream นี้เวลาเปิดวอลลุ่มดังๆ ประมาณ 45/99 ยังสามารถฟังได้แบบสบายๆ ไม่มีอาการล้าหู แบบสาย WW Platinum คู่เดิม
ในชั่วโมงที่สอง (23-24 น.) ที่นั่งฟังสาย Dream V10 โดยรวมแล้วได้เวทีเสียงที่กว้างกว่า WW Platinum มิติและตำแหน่งชิ้นดนรีชัดเจนกว่า WW Platinum แต่ทั้งสองข้อนี้ผมว่า Dream V10 ตอนนี้ยังด้อยกว่าสาย JPS Aluminata ที่ปิยะนัสเอามาให้ลองเดือนก่อน เรียกว่าจนวันนี้ผมยังติดหูไมรู้ลืมในประสบการณ์ช่วงนั้นเลยจริง ๆ ผมว่าวันนั้นก็ได้ลองเทียบฟังสายทั้ง 3 เส้น (WW, Stealth และ JPS) พร้อมๆ กันไปแล้วครั้งหนึ่ง วันนั้นผม Love at first bite เอ้ย Love at first heard สาย JPS Aluminata จริงๆ
แต่ ณ ขณะนี้ ถ้าเทียบกับราคาต่อหน่วยแล้ว ด้วยราคาของ Dream V10 แล้วเสียงและคุณลักษณะที่ได้้ยินไปเป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา เสียงเวลาเปิดดังๆ วงออร์เคสตร้าวงใหญ่ เสียงชิ้นดนตรีไม่บวม ฟุ้ง หรือปนกันจนฟังแยกแยะชิ้นดนตรีได้ยากแบบ WW Platinum ผมก็ว่า สาย Stealth Dream V10 คู่นี้คุ้มค่า สมราคาเชียร์ของ อีตา Michael Framer / Stereophile Magazine จริงๆ กะว่าจะลองเบิร์นให้ครบ 100 ชั่วโมงแล้วฟังอีกที ก่อนจะต้องเก็บชุดเครื่องเสียงลงกล่องเพื่อทำห้องใหม่
ตอนนี้ผมให้คะแนนสาย Stealth Dream V10 คู่นี้ 8.5/10 ไปก่อนก็แล้วกันครับ แต่โดยรวมแล้วมีแววที่ได้คะแนนเกือบเต็ม 10 ครับ