มาต่อภาพของคณะ กปห ในงาน ฮ่องกง เอวี 2011 กัน ของวันที่ 2 และ 3 ที่เดินทางกลับให้จบซะทีนะครับ
เช้าวันเสาร์หลังจากนอนสลบเหมือนกันหลังจากกลับมาจากทานอาหารเย็น (ค่ำ) ที่แถวย่านไซก่อง เมื่อคืนวาน ด้วยคณะออกเดินทางจากบ้านมาสนามบินสุวรรณภูมิกันตั้งแต่เช้ามืดวันศุกร์ ยังไม่ได้พักผ่อนเลย
ตามสไตล์อีกล่ะ มาฮ่องกงแล้วเช้าไม่ได้ทานโจ๊กฮ่องกงร้านหม่อมถนัดศรีฯ ชวนชิม แล้วคงมาไม่ถึงฮ่องกง ผมเลยพา กปห เดินไปทานโจ๊กร้าน "เฉี่ยวฟ่ะ" บนถนน Hankaow ติดกับถนน Haiphong ข้างๆ สวนสาธารณะ Kowloon ที่เชื่อมระหว่างถนน Nathan กับ Harbour City
ที่ร้านนี้พบกับคณะคนไทยอีกหลายก๊วน ตั้งแต่คุณเด่น Paradigm และเพื่อน คุณป้อม KomforeSound และเพื่อน นั่งทานอยู่ก่อนแล้ว นอกนั้นในร้านโต๊ะที่เหลือก็เป็นคณะทัวร์คนไทยกลุ่มอื่นๆ อีกเต็มทุกโต๊ะ
ผมสั่งโจ๊กเครื่องในหมูใส่ใข่ แล้วสั่ง ใข่เยี่ยวม้ากับตับลวกและปาท่องโก๋ มาแกล้มต่างหาก ส่วนคุณหมอบอยไม่ทานโจ๊กเลยสั่งเส้นหมี่ขาวลูกชิ้นปลา ซึ่งก็อร่อยไม่แพ้โจ๊กมาทานแทน เสร็จจากทานโจ๊กจึงเดินทางไปงานเครื่องเสียงทีฝั่งเกาะฮ่องกงกัน คราวนี้ตัดสินใจพาเดินไปถึงท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามแม่น้ำวัตสันไปขึ้นที่ท่าเรือ Wanchai ใกล้ๆ กับ HK Convention Center แทน เพราะเดินใกล้กว่าไปรถๆไฟใต้ดินมาก
มาถึงหน้างานเวลา 10.30 น. ปรากฏว่าแถวเข้าคิวซื้อตั๋วเข้างานพร้อมแผ่น SACD + LPCD45 ยางเหยียด ประมาณ 800 -900 คนแล้ว เลยรีบไปต่อแถวเพื่อที่จะได้แผ่น LPCD45 กะเขาด้วย เดี๋ญวพอครบ 1000 คนแรกของแต่ละวันจะอดอีก
ยืนรอแล้วเดินตามแถวที่เลี่ยววกไปวนมายังกะเข้าแถวเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุกดีสนี่ย์เลย ใชเวลาประมาณ 30 นาทีก็มาถึงคิว จะขอซื้อแผ่น LPCD45 2 ชุดก็ไม่ได้ต้องไปเข้าคิวใหม่ (ใจร้ายมาก ขนาดบอกว่าบินมาจากเมืองไทยเพื่อการนี้โดยเฉพาะขอซื้อไปฝากเอนๆ ที่เมืองไทยหน่อยก็ไม่ยอมบอกแต่ว่าให้ไปต่อแถวใหม่ เฮ้อ
สุดท้ายคณะเราก็ได้มาคนและ 1 ชุดเท่านั้น
ในงานตั้งแต่เช้าผมก็เดินลุยถ่ายภาพชุดต่างๆ ของห้องชั้น สาม ชั้นสี่ และจบที่ชั้นสองจนหมดทุกห้อง ใช้เวลาไปจนถึง 17.00 น. 18.00 น. มารวมพลกันหน้างงานเพื่อจะไปเดินซื้อแผ่นกันต่อที่ย่าน มงก๊ก อีก
ไอ้ตัวกระผมการเดินถ่ายภาพทุกชั้นทุกห้องที่เบียดคนชมที่หนาแน่นน่ะไม่ค่อยเท่าไหร่ สามารถอยู่แล้ว แต่ไอ้การที่เราต้องเล่นกายกรรม ยืนหิ้วถุงแผ่นเสียงที่รีบไปซื้อมาก่อนตั้งแต่เช้า (เพราะกลัวหมด) แล้วยังต้องสะพายเป้หลังบรรจุไว้ด้วย CD Fim และของ Stockfish เต็มพิกัด แล้วใช้มือขวาถือกล้อง Nikon D90 พร้อมเลนซ์ 18-200 universal เข้าไปอีก ต้องบอกว่ายิ่งกว่าเล่นยก weight เสียอีก พอเสร็จครบทุกห้องตอน 17 น. ผมต้องมานั่งหมดแรงนวดไหล่นวดหลังตัวเองรอ คณะพรรค อยู่หน้างาน เก้าอี้ก็หมดเลยต้องนั่งกับพื้นแบบยาจก น่าอเน็ถอนาถมาก สุดท้ายด็มีทั้งคุณหมออี๊ดยอดกัปิตัน และเพื่อนๆ คณะอื่นๆ อีกหลายคนตั้งแต่ คุณโก้ฝคริสต์ IAV เฮียเกษมฯ เจ้าของแอมป์มหากาฬ Karan 1200 ที่กรุณาให้ผมมาลองจับคู่กับน้อง Magico Q5 จนผมต้องเสร็จมนต์เส่ห์ Karan ไปอีกคน และคุณป้อม คุณบอล นั่งสมทบที่พื้นกันหมด เหมือนๆ กับพวกแรงงานไทยรอเข้าคิวขอใบ work permit อย่างไงอย่างงั้นเลย
สุดท้ายเพื่อเห็นแก่สุขภาพของเท้าและแผ่นหลังอันเต็มอวบอิ่มของผม ผมเลยตัดสินใจตรงดิ่งกลับโรงแรมที่พักดีกว่า ขืนแบกสังขารแบบนี้ไปย่าน มงก๊ก ยามเย็นของวันเสาร์ที่คนจะแน่นเบียดเสียดแน่นอนอย่างงี้ ผมคงไม่ได้กลับไทยในสภาพสมบูรณ์แน่ๆ มีแต่คุณหมอกับคุณวินัยฯ บึ่งไปขนแผ่นดำกะซีดีกันต่อที่ร้าน Win Win กับร้าน The Beat ย่านมงก๊กกันสองต่อสอง รู้ภายหลังว่าคุณหมอและคุณวินัยขนแผ่นกันจนหมดกะตังค์เงินสดที่แลกมาเลย ขนาดคุณวินัยฯ ไม่ยอมขึ้นรถไฟใต้ดินกลับที่พักต้องขึ้นแท๊กซี่กลับรงแรมแทนเพราะแบยกแผ่นมาเยอะมากๆ
คืนนั้นผมอยู่โรงแรมเลยเดินเล่นๆ ไปหาบะหมี่ขาหมูร้านจานด่วนแถวๆ โรงแรมแทน ก็พบกับคุณเอ่ที่ไม่ได้ไปไหน มารอรับของที่สั่งซื้อไว้ให้มาส่งที่โรงแรมเหมือนกัน
ทานอาหารเสร็จผมแยกตัวมานั่งจิบเบียรืในบาร์เบียร์ข้างๆ แรงแรมแทนจนถึง 21 น. เลยกลับไปจัดกระเป๋าเพื่อเช็คเอ้าท์ตั้งแต่เช้า
เช้ารุ่งขึ้น วันอาทิตย์ (วันสุดท้ายที่ฮ่องกงทริปนี้) ผมหาคณะไม่พบสักคนด้วยตัวเองนัดกับคนอื่นๆ ไว้ว่าจะเช๊คเอ้าท์เวลา 10.00 น. แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน
ผมเลยเดินไปหาอาหารเช้าทาน เดินไปเดินมาถึงร้านโจ๊กเยวฟ่ะเจ้าเก่าอีก เลยเลี้ยวเข้าไป อ๊ะคราวนี้พบกับคณะดุงานเครื่องเสียงชาวไทยอีกหลายคน ตั้งแต่ คุณชัยวัฒน์ จากปิยะนัส คุณธานี จาก GM2000 คุณนาวี จาก Audiophile คุณกัมปนาทกับทีมงานเคลฟ (แต่เอ๊ะเสี่ยกัมฯ มาทริปนี้มีปิ่นโตมาด้วยแน่ะ อิจฉา) ทานเสร็จเลยต่อไปเช็คเอ้าท์ แล้วพาคุณหมอบอยกับคุณวินัยไปเดินฆ่าเวลาเล่นๆ ที่ Citygate outlet Mall แถวนอกเมืองใกล้ๆ กับสนามบิน เดินไปเดินมาไม่มีอะไรน่าสนเท่ากับแผ่นเสียง คุณหมอกะคุณวินัยเลยชวนผมไปเก็บตกที่ร้าน Win Win กับ The Beat ย่านมงก๊กอีกรอบ คราวนี้ผมอดไม่ไหวหมดไปหลายแผ่นเหมือนกัน แต่ก้ยังน้อยกว่าคุณหมอบอยและคุณวินัย มากมายนักทริปนี้ ดีใจที่เสียแชมป์ซื้อแผ่นลงไปได้เสียที

เสร็จมารอรถมารับไปสนามบิน ไปนั่งๆ นอนๆ ใน lounge ของ Cathey ที่นี่ ดีกว่าที่ไทยมากมาย บรรยากาศดี อาหารอร่อย เพราะใช้บริการจาก The Penninsula เลยทีเดียว ผมซัด Cheese ไปหลายก้อน อร่อยมากๆ มีซาลาเปาไส้หมูแดงอันลือชื่อของ penninsula ด้วย ตบท้ายด้วยไอศรีม ฮาเดก้นท์ดาสก์สุดอร่อย ขึ้นเครืองได้ ก็สั่งไวน์มาดื่มอยู่คนเดียวทั้งชั้นธุรกิจ น้องแอร์ฝึกหัด หน้าตาสวย ชื่อ May มายืนให้บริการอย่างใกล้ชิด ได้ถ่ายรูปไว้แต่ขอสงวนที่จะลงให้ดู (หมาหวงก้างน่ะ อิอิ)
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิช้ากว่ากำหนดเดิมไป 1.30 ชั่วโมง ครับ
จบรายงานข่าวสไตล์พี่ใหญ่แค่นี้ แต่รายละเอียดของชุดต่างๆ ตามไปอ่านในหน้ากระทู้กลางนะครับ

มาดูรูปกันต่อ
บรรยากาศเกาะฮ่องกงยามเช้า ร้อนมากๆ

หน้าร้านโจ๊ก เฉี่ยวฟ่ะ หม่อมถนัดศรีชวนชิม


หมอบอยไม่ทานโจ๊กเลยทานเส้นหมี่น้ำลูกชิ้นปลาน่าอร่อย

ขุนจิตต์กะน้องปูสั่งโจ๊กหมูใส่ใข่เยี่ยวม้า เบิ้ลด้วยใข่ไก่อีกสองฟอง ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย สงสัยเมื่อคืนคงทำการบ้านฉลองวันเกิดน้องปูย้อนหลังกันดึก อิอิ


สำหรับผมต้องโจ๊กเครืองในหมูแสนอร่อย โดยเฉพาะไส้อ่อน (ตือฮุ้น) สุดยอดมาก


ภาพกับแกล้มกับโจ๊ก ใข่เยี่ยวม้าและตับหมูลวก



ภาพอาหารกลางวันที่คาเฟทีเรียในโถงชั้นสาม ง่ายๆ ครับ น่องไก่อบซีอิ้ว กับสลัดมันฝรั่ง พร้อมชาเขียว 1 ชุด ราคา 70 HK$
