ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณ M Lex มากครับ ที่กรุณาให้คำชมมาครับ ก้อจะพยายามพัฒนาระบบที่จะทำในชุดต่อๆไปให้ดียิ่งๆ ขึ้นครับ จริงๆผมเองพยายามพัฒนาระบบการ Set up ต่างๆ ให้หลุดพ้นจากชุดทั่วๆ ไป เพื่อจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดครับ 
หายไปพักนึงเลยครับ มีงานเข้ามาเยอะครับ และต้องเข้าไปโรงงานเช็คความคืบหน้างานที่ค้างที่โรงงานเยอะด้วยครับ เลยกลับมาต่อช้าไปหน่อย แต่คงไม่สายไปนะครับ เริ่มกันต่อเลยครับ
Harmonic และ AmbienceHarmonic คือเสียงที่เกิดซ้อนขึ้นมากับเสียงหลัก เช่นเมื่อเราเปิด Test tone ที่ 1 KHz ปกติจะเกิดเสียงซ้อนขึ้นมาที่ 2 KHz(2nd Harmonic), 3 KHz(3rd Harmonic), 4 KHz(4th Harmonic), etc. ตรงนี้แหละครับที่เราเอาเครื่องวัดเสียงมาวัดดูค่าความดังที่ 2 KHz, และ 3 KHz แล้วนำมาเปรียบเทียบกับเสียงหลักที่ 1 KHz ก้อจะได้เป็นค่า Harmonic Distortion โดยปกติเครื่องหลอดจะมี Harmonic Distortion สูงกว่าเครื่อง Transistor ครับแต่เผอิญโชคดีว่า Harmonic Distortion ของเครื่องหลอดจะเป็นมิตรกับหูคนฟังมากกว่าเครื่อง Transistor ซึ่งตรงนี้ก้อเป็น color เสียงที่นักฟังเครื่องหลอดหลงใหลและติดใจกับเสียงของมัน แต่ตรงนี้ก้อมีข้อเสียตรงที่ เมื่อไหร่ก้อตามที่เรามีแหล่งสัญญาณที่ดีมากๆ เมื่อไหร่ เครื่องหลอดจะไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดหางเสียงต่างๆ ที่ถูกบันทึกอยู่ในแผ่น CD หรือ Phono Record ได้เนื่องจากตัวเครื่องหลอดเองจะสร้างเสียง Color ในตัวมันเองออกมา ทำให้บดบังเสียงราบละเอียดสุดๆ หรือเสียงห้องจริงที่ถูกบันทึกในรูปสัญญาณที่เล็กมากๆ ได้ครับ ตรงนี้หลายอาจจะยังไม่ค่อยเชื่อหรือเข้าใจ เพราะหลายคนชอบหลอดมากๆ ไม่ได้พยายามเปลี่ยนความเชื่อนะครับ แต่อยากให้หาโอกาศลองฟังเปรียบเทียบชุดหลอดกับ Transistor ที่สุดๆดูเยอะๆนะครับ จะเข้าใจที่ผมบอกเองครับ ว่าพอเล่นเครื่องหลอดจะให้สนามเสียงของแต่ละแผ่นน้อยกว่าเครื่อง Transistor ยังไง แต่ถ้าเป็นชุดที่ราคาต่ำกว่า 300,000 บาท ผมถือหางทางเครื่องหลอดครับ
สำหรับคำว่า Ambience ก้อคือเสียงของสภาพแวดล้อมที่ถูกบันทึกพร้อมกับการอัดเสียงดนตรีหลัก เพื่อให้เกิดบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไปในแต่ละแผ่นที่ถูกบันทึก ซึ่ง Ambience โดยปกติจะมี 2 แบบคือ แบบที่บันทึกมาพร้อมกับการบันทึกการแสดง หรืออีกแบบก้อคือแบบที่เกิดจากการใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงขึ้นเช่น Digital Reverb, 3D Spatializer, 3D Imaging Processor, and etc. แต่เดี๋ยวนี้หาแผ่นที่บันทึก Ambience ตอนที่เล่นสดหายากมากครับ เนื่องจากการอัดแบบสดจะต้องมีการปรับตั้ง Microphone เพื่ออัด Ambience ปรับตั้ง Acoustic Treatment เพื่อเพิ่มหรือลด Ambience ให้เป็นไปตามที่ต้องการ และให้ Freq Response ที่ราบเรียบที่สุด
แผ่นที่บันทึก Ambience ดีมากๆ แนะนำให้ลองไปฟังดู จะเป็นแผ่นสังกัด Chesky Record, OPUS record, Groove Note, และพวก Concord ตอนนี้ผมเพิ่งได้ลองอีกแผ่นที่อยากแนะนำคือ แผ่น Fim หน้าปกสีทอง บันทึกในระบบ HD Master สำหรับแผ่น Sheffield ก้ออัดดีมากครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นการอัดแบบโบราณไปหน่อยครับ คืออัดเสียงทุกอย่างดีหมด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการอัดในสตูดิโอ ครับ สนามเสียงจะสู้พวกแผ่นที่ผมบอกก่อนหน้าไม่ได้ครับ คือฟังทุกแทร็ค สนามเสียงจะคงที่ครับ คือ Ambience จะคงที่ไม่เปลี่ยน ในขณะที่แผ่น Chesky หรือ Groove Note พวกนี้ Ambience จะเปลี่ยนไปตามแต่ละแทร็คเลยครับ ลองซื้อหาไปฟังดูครับ ถ้าชุดที่เล่นอยู่ฟังไม่เพราะเลย แสดงว่าชุดยังปรับแต่งไม่ดีครับ หรือถ้าให้ความแตกต่างของ Ambience ในแต่ละ Track ไม่ได้ คือฟังแล้วเหมือนกันหมด แสดงว่าชุดนั้นยังไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดสุดๆ ไม่ได้ครับ
แผ่น Chesky Record
Best of Ana Caram Best Collection
Paquito DRivera Havana Café แผ่นนี้ปราบเซียนครับ ชุดทั่วๆไป อาจจะเปิดแล้ว ปิดเลยครับ ต้องชุดสุดๆ จริงๆครับ ถ้าชุดที่สมบูรณ์ จะให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งดู หน้าเวทีคอนเสริท์ในห้องโถงใหญ่ๆ เลยครับ
Best of Chesky Jazz and Classic Audiophile Test disc Volume 3
Ultimate Demonstration Disc แผ่นหูทองที่มีบรรยายแต่ละ Track
แผ่น Groove Note หาที่เป็น SACD ได้ยิ่งดีครับ
Eden Atwood Wave
Jacintha Bossa Nova
Opus Record
Test 3 และ Test 4 ดีทั้ง 2 แผ่นเลยครับ หาที่เป็น SACD นะครับ
Eric Bibb
แผ่นประหลาดที่แนะนำคือ แผ่น Bitter Sweet ของ Tan Dun เป็นแผ่นปราบเซียนครับ มี Bandwidth ที่กว้างมากๆ มีเสียงกลองต่ำๆให้ Test เสียงเคาะ Cow Bell ที่ชัดมากๆ รวมทั้ง พวก Dynamic Range ที่สูงมากๆ ครับ ต้องหาโอกาศไปฟังในชุดสุดๆ ดูครับ แต่ผมบอกได้เลยว่าชุดนี้ เล่นชุดทั่วไป มากกว่า 85% เล่นไม่ผ่านครับ คือเล่นได้ไม่ครบในสิ่งที่แผ่นนี้มีครับ ถ้าได้สุดๆ ต้องได้โถงที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในศูนย์วัฒนธรรมไทย ญี่ปุ่น ยังไงยังงั้นเลยครับ ตั้งแต่ผม Set มาเจอแค่ 2 ชุดเท่านั้นเองครับที่ให้ความรู้สึกนี้ได้
นอกจากนี้ ยังมีแผ่นจาก Three Blind Mice, Fim, DMP, และอื่นๆอีกครับ จะนำมาแนะนำทีหลังครับ
กับแผ่นเพลงไทย Grammy หรือ RS ฟังยังไง ก้อคงเอามา Test พวก สนามเสียง Ambience ไม่ได้ครับ เพราะการอัดแผ่นเพลงไทยเดี๋ยวนี้ใช้ Computer เล่นทั้งหมด ที่เหลือพวกกีตาร์ เบส จะอัดเป็นชิ้นๆ แยกไปตาม Track แล้วนำ Mix รวมกัน เสร็จแล้วนำมาปรุงแต่งโดยการใช้ Digital Reverb อีกทีหนึ่ง แต่ปัญหาคือ Sound Engineer ไม่ได้เน้น คุณภาพเสียง สนามเสียงเลย ขอให้ดังฟังชัด Okay แล้ว แผ่นพวกนี้จึงเหมาะไปฟังในรถครับ และจริงๆ ถ้าเป็นคนชอบฟังแผ่นเพลงไทยพวกนี้มากๆ ผมแนะนำให้เล่นเครื่องหลอดครับ เพราะหลอดจะมี Slew Rate ที่ไม่สูงมากทำให้เสียงออกมาลดความคมของแผ่นพวกนี้ได้เยอะครับ ฟังแล้วไม่ต้องไป serious อะไรมาก คือฟังเป็น light music นี่โอเคครับ เล่นหลอดดีกว่าเพราะเล่นง่าย ฟังง่ายครับ
เจอกันกระทู้หน้าต่อนะครับ วันนี้เล่ามายาวแล้วครับ ขอไปพักก่อนครับ