หัวข้อ: choke ตรงไฟ B+ มีไว้ทำไมครับ

[Aufklarung]

เลิกใช้ Choke ไปนานแล้วครับ
ทำใหม่ ๆ ก็เคยเปรียบเทียบ ระหว่าง R กับ L
ไม่เห็นจะฮัมเลยครับ เลยเลิกไม่ใช้ Choke  เพราะ หนัก แพง ดีไม่ดีมีเสียงคราง สั่นอีก

หลัง ๆ มานี่ทุกเครื่องไม่มี Choke ครับ
ของผมถ้าจะฮัมมันฮัมจากสาเหตุอื่น

ผมคิดว่า ไม่ว่าจะใช้วงจร  CRC หรือ CLC ถ้าค่าไม่เหมาะสมมีโอกาสฮัมทั้งคู่
แต่ถ้าค่าเหมาะสมถูกต้องดีครับก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องฮัมครับ
 

เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะย่อหน้าที่สอง เครื่องผมเคยมีโช๊คถึง 4 ตัว ฮัมกระจายเลยเพราะใช้ค่า C น้อยไปและ
โช๊คที่พันมาได้ค่าไม่ตรง ตอนหลังลดเหลือ 2 ตัว จาก LCLC2L2C (อันหลังแยกเป็นสองกิ่งสำหรับซ้ายขวา)
เป็น LCLCRC ฮัมน้อยกว่าเดิมเยอะเลยครับ แต่ยังไม่หมดไป (อยากจะลดเหลือตัวเดียวแต่เนื่องจากหม้อแปลง
ออกแบบมาเป็น Choke input เลยต้องมีตัวหลักอีก 1 ตัว) เลยจะเปลี่ยน PT แล้วใช้เป็น CLCRC แทนละครับ
เหลือไว้ตัวเดียวก็พอ (นอกจากได้โช๊คดีๆหน่อยมาแทนครับ  ) 

อีกตัวก็คือ AC จุดใส้หลอดครับ ผมว่าถ้าแหล่งจ่ายไฟเรียบๆดีๆ ทำแท่นทำกราวนด์ดีๆ มันจะไม่ฮัมจากที่นี่แน่ๆครับ
ผมลองเอา AC จุดใส้ในบอร์ดทดลองของผม ทั้ง 812a 2A3 ไม่เห็นมีฮัมสักตัวเลยครับ (ใช้ HUM POT)

[สุรศักดิ์]

ผมก็อยากทำได้ แต่ไม่ทราบว่าหาค่ายังไงให้เหมาะสมครับ 
โดยเฉพาะฮัมที่มาเมื่อเครื่องร้อนนี่

ใครมีประสบการณ์ในการแก้อาการนี้ ช่วยด้วยครับ ผมก็กำลังแก้ปัญหาอยู่ครับ เล่นกับ 2A3 รื้อมา 2 รอบแล้ว 

[pisit]

จากที่สังเกตุวงจรต่างๆที่เขาออกแบบมา ผมเห็นว่าถ้าใ่ช้กับแอมป์จะใช้ค่าน้อยกว่าที่ใช้กับปรีครับ ใช้กับแอมป์ประมา๊ณ 5-10 H  ส่วนปรีประมาณ 20-30 H

ส่วนค่าความต้านทานในโช๊คก็แปรเปลี่ยนขึ้นตามขนาดของเฮนรี๋ครับ จากที่เคยวัดดูก็น่าจะประมาณ 100 โอห์มก็ประมาณ 10 h  ส่วนท่านอื่นจะมีสูตรอย่างไรก็ช่วยบอกด้วยนะครับ

ความเห็นส่วนตัวที่ใช้ในปรีก็ได้รับผลดีครับ แต่ควรหาโช๊คที่คุณภาพดีหน่อย  ถ้าพันมาไม่ดี อาจแย่กว่าไม่ใส่ก็ได้ครับ

L ต้องใช้ค่ามากกว่าเพราะปรีกระแสใหลน้อยครับ ถ้ากระแสน้อย ค่า L ก็น้อย ก็ไม่ต่างอะไรกับลวดลัดวงจรครับ

ไม่ได้ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ครับผม

[SOUNDTUBE]

จากที่สังเกตุวงจรต่างๆที่เขาออกแบบมา ผมเห็นว่าถ้าใ่ช้กับแอมป์จะใช้ค่าน้อยกว่าที่ใช้กับปรีครับ ใช้กับแอมป์ประมา๊ณ 5-10 H  ส่วนปรีประมาณ 20-30 H

ส่วนค่าความต้านทานในโช๊คก็แปรเปลี่ยนขึ้นตามขนาดของเฮนรี๋ครับ จากที่เคยวัดดูก็น่าจะประมาณ 100 โอห์มก็ประมาณ 10 h  ส่วนท่านอื่นจะมีสูตรอย่างไรก็ช่วยบอกด้วยนะครับ

ความเห็นส่วนตัวที่ใช้ในปรีก็ได้รับผลดีครับ แต่ควรหาโช๊คที่คุณภาพดีหน่อย  ถ้าพันมาไม่ดี อาจแย่กว่าไม่ใส่ก็ได้ครับ

[pisit]

เลิกใช้ Choke ไปนานแล้วครับ
ทำใหม่ ๆ ก็เคยเปรียบเทียบ ระหว่าง R กับ L
ไม่เห็นจะฮัมเลยครับ เลยเลิกไม่ใช้ Choke  เพราะ หนัก แพง ดีไม่ดีมีเสียงคราง สั่นอีก

หลัง ๆ มานี่ทุกเครื่องไม่มี Choke ครับ
ของผมถ้าจะฮัมมันฮัมจากสาเหตุอื่น

ผมคิดว่า ไม่ว่าจะใช้วงจร  CRC หรือ CLC ถ้าค่าไม่เหมาะสมมีโอกาสฮัมทั้งคู่
แต่ถ้าค่าเหมาะสมถูกต้องดีครับก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องฮัมครับ
 

 

ผมก็อยากทำได้ แต่ไม่ทราบว่าหาค่ายังไงให้เหมาะสมครับ 
โดยเฉพาะฮัมที่มาเมื่อเครื่องร้อนนี่

ไม่เคยเจออาการนี้ครับ เป็นที่อุปกรณ์หรือเปล่าครับ   

คือโครงสร้างแบบ CRC CLC หรือจะผสมแบบ CRCLC , CLCRC ,LCRC , RCLC
เป็นโครงสร้างแบบทั่วไปมีเอกสารให้อ่านมาก พวกที่เรียนมาทางนี้ต้องผ่านทุกคน
ทีนี้การนำมาปรับใช้ก็แล้วแต่เทคนิคส่วนบุคคล ผมไม่คิดว่าแบบใหนจะดีที่สุด
ที่คุณภาพเท่ากัน(หมายถึงไม่ฮัม) บางคนอาจจะใช้อุปกรณ์ 300 บาท อีกคนเลือกอีกแบบอาจจะ 3000 บาท
แล้วแต่จะมองหรือถนัดแบบใหน

หลัง ๆ มาผมใช้ตัวต้านทานตลอดครับ เพราะข้อดีเรื่องขนาดครับ ผมไม่ชอบทำแอมป์กล้ามโต
ชอบทำหลอดเล็กครับ ไฟเกิน 350 โวลท์ ก็ถอยแล้วครับ เต็มที่ก็จะประมาณ EL34 , 6B4G
โดยปกติสูตรส่วนตัวคือให้ภาคจ่ายไฟดรอปไฟไว้ 20%

เช่น ไฟ B+ ที่ต้องการจ่ายให้วงจร = 250 โวลท์ ก็ให้ดรอปที่ภาคจ่ายไฟประมาณ 4-50 โวลท์
หลังหลอดเรคติไฟร์หรือไดโอดก็จะต้องมีประมาณ 285-300 โวลท์ครับ

อันนี้เป็นสูตรส่วนตัวครับ ถ้าใช้ตามนี้แล้วฮัมค่อยแก้ต่อ ส่วนใหญ่ไม่ฮัม

ถ้ามีเวลาค่อยมาปรับทีหลังครับ

ส่วนเรื่องเสียงก็แล้วแต่ฉันทะครับ   

 

 


 

[Earth]

เลิกใช้ Choke ไปนานแล้วครับ
ทำใหม่ ๆ ก็เคยเปรียบเทียบ ระหว่าง R กับ L
ไม่เห็นจะฮัมเลยครับ เลยเลิกไม่ใช้ Choke  เพราะ หนัก แพง ดีไม่ดีมีเสียงคราง สั่นอีก

หลัง ๆ มานี่ทุกเครื่องไม่มี Choke ครับ
ของผมถ้าจะฮัมมันฮัมจากสาเหตุอื่น

ผมคิดว่า ไม่ว่าจะใช้วงจร  CRC หรือ CLC ถ้าค่าไม่เหมาะสมมีโอกาสฮัมทั้งคู่
แต่ถ้าค่าเหมาะสมถูกต้องดีครับก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องฮัมครับ
 

 

ผมก็อยากทำได้ แต่ไม่ทราบว่าหาค่ายังไงให้เหมาะสมครับ 
โดยเฉพาะฮัมที่มาเมื่อเครื่องร้อนนี่

[GEN4]

เลิกใช้ Choke ไปนานแล้วครับ
ทำใหม่ ๆ ก็เคยเปรียบเทียบ ระหว่าง R กับ L
ไม่เห็นจะฮัมเลยครับ เลยเลิกไม่ใช้ Choke  เพราะ หนัก แพง ดีไม่ดีมีเสียงคราง สั่นอีก

หลัง ๆ มานี่ทุกเครื่องไม่มี Choke ครับ
ของผมถ้าจะฮัมมันฮัมจากสาเหตุอื่น

ผมคิดว่า ไม่ว่าจะใช้วงจร  CRC หรือ CLC ถ้าค่าไม่เหมาะสมมีโอกาสฮัมทั้งคู่
แต่ถ้าค่าเหมาะสมถูกต้องดีครับก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องฮัมครับ
 

 

[pisit]

เลิกใช้ Choke ไปนานแล้วครับ
ทำใหม่ ๆ ก็เคยเปรียบเทียบ ระหว่าง R กับ L
ไม่เห็นจะฮัมเลยครับ เลยเลิกไม่ใช้ Choke  เพราะ หนัก แพง ดีไม่ดีมีเสียงคราง สั่นอีก

หลัง ๆ มานี่ทุกเครื่องไม่มี Choke ครับ
ของผมถ้าจะฮัมมันฮัมจากสาเหตุอื่น

ผมคิดว่า ไม่ว่าจะใช้วงจร  CRC หรือ CLC ถ้าค่าไม่เหมาะสมมีโอกาสฮัมทั้งคู่
แต่ถ้าค่าเหมาะสมถูกต้องดีครับก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องฮัมครับ
 

[Diy_ชาติ]

เรื่องจริงครับใช้ choke แล้วเสียงฮัมลดลงได้มากครับ จนถึงเงียบสงัดเลยล่ะครับ

[aphiphot]

ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นในเวปนี่ใช้กันก็ประมาณ5-10เฮนรี่500mAครับ ส่วนอย่างอื่นรอท่านอื่นมาตอบครับ อ้อ!ขออภัยครับตัวที่ทำให้ไฟเรียบขึ้นคือCครับ

[aphiphot]

เป็นตัวกรองความถี่สูงตามที่ท่านmarkyบอกครับทำให้ไฟเรียบขึ้นความเงียบของแอมป์ก็มากขึ้น ประสบการณ์ตรงคือใส่Rจะฮัมมากกว่าใส่Lครับ

[PAIPAI]

ขอบคุณคุณ marky กับคุณ เอก tube amp มากครับ

พวกค่า L กับค่า C  มีสูตรคำนวนมั้ยครับ

 สมมุติ B+ผมใช้ไฟ 245VDC กินกระแส 100 mA

สูตรหา XL = 2Pi*F*L

เราจะเอาอะไรเป็นตัวกำหนดค่า XL ครับ ว่าควรจะให้ได้กี่โอห์ม แล้วควรกำหนด frequency ไว้ที่เท่าไรดีครับ

[Eak-tubeamp]

ใช้โช๊คในภาคจ่ายไฟ ทำให้ไฟสูงราบเรียบมากกว่า การใช้แบบอื่นๆ(เท่าที่เคยลองครับ) ประสบการณ์เดียวกับท่าน marky ครับ

[marky]

ง่ายๆคือเป็น filter กรองสัญญาณความถี่สูงๆจะเข้ามารบกวนไฟไบอัสต่างๆน่ะครับ ...
ผมเคยลองเปลี่ยนจาก choke >>> CLC มาเป็น CRC แทนปรากฏว่าเสียงฮัมดังขึ้นมาอย่างชัดเจนเลยล่ะครับ   
..แต่หากจะเอาเงียบแบบไร้กังวลทำเป็นสองสเตจแจ๋วดีนะครับผมกะว่าจะทำบ้างอยู่เหมือนกัน >>> CLCLC  แต่ต้องระวังเรื่องดร็อปไฟสูงไปมากพอจะเหลือไปเลี้ยงวงจรด้วยนะครับ 

[PAIPAI]

เห็นส่วนใหญ่พวกแรงดันสูงเค้าจะใส่ไว้