หัวข้อ: แนะนำ Subwoofer Accuris – Ares Sig Series, The Next Top Model

[ช้าง]

bi-wired ในที่นี้ เหมือนต่อท่อน้ำสองท่อ เลี้ยงก็อกห้วเดียวครับ

ใช้ได้ดีถ้ากลัวว่าสายไฟอาจเล็กไปครับ เผื่อเหลือเผื่อขาด ไ ม่ได้มีผลอะไรมากถ้าสายไฟดีอยู่แล้วครัีบ

ถ้าจะทำควรใช้สายไฟ ยี่ห้อเดียวกันตัดมาจากเส้นเดียวกันนะครับ

ที่ใช้ไม่ได้เจะจงว่าต้อง biwire ครับ แต่ เพราะมีสาย canare 4 core เหลือก็เอามาใช้กับ subwoofer พอดีครับ

 
คุณ Pete

ผมกำลังจะอับเป็น 15นิ้วสองตัวเอามาตีกับ JBL คุณ pete อยู่ครับ เผื่อหา DSPมาใส่เพิ่ม

ถามคุณ pete หน่อยครับว่าใช้ DSP อยู่หรือเปล่าครับ

กำลังคุยๆกับคุณโก้อยู่ครับ แต่มีแววว่าคงได้เสียตังค์ แหง่มๆ  ตอนไปงาน Traning ของคุณโก้ตัว DSP มันเจ๋งจริงๆ แก้ปัญหาในหลายๆเรื่องใน system ได้ดี แถมถ้าจูนในระบบได้ลงตัวแล้ว Sub จะแสดงสักยภาพเบสออกมาได้สุดๆ เลยครับ  เหมือนซับติดปีก

[Pete]

ยืนยันครับ ที่บ้าผมใช้อยุ่ สายของ Canare แบบสี่เส้นต่อเป็น biwiring เสียงไม่มีอั้นครับ

ผมเข้าใจว่า Bi-wiring นั้นใช้สำหรับลำโพงที่มีมากกว่า 1 ดอก เพื่อแยกขับในแต่ละดอก
ในกรณีของ Sub-woofer ที่มีลำโพงแค่ดอกเดียวอยู่แล้ว ทำไมถึงมีั Bi-wiring ด้วยหล่ะครับ

ถ้าไม่รวบสายรวมกัน ก็ต่อข้างเดียวเอาครับ เพราะเหมือนว่า  Canare รุ่น 2S11 จะหาซื้อลำบากครับ เลยใช้ รุ่น Bi-wi 4S11 มาแทนครับ ไม่มีอารัยในกอไผ่ครับ...
ของคุณ KCharng เดินในระบบคู่หน้าด้วยนะครับ เลยต่อ แบบ ไบร์ไวร์

[nutsaint]

ยืนยันครับ ที่บ้าผมใช้อยุ่ สายของ Canare แบบสี่เส้นต่อเป็น biwiring เสียงไม่มีอั้นครับ

ผมเข้าใจว่า Bi-wiring นั้นใช้สำหรับลำโพงที่มีมากกว่า 1 ดอก เพื่อแยกขับในแต่ละดอก
ในกรณีของ Sub-woofer ที่มีลำโพงแค่ดอกเดียวอยู่แล้ว ทำไมถึงมีั Bi-wiring ด้วยหล่ะครับ

[Pete]

ถามคุณ pete หน่อยครับว่าใช้ DSP อยู่หรือเปล่าครับ

กำลังคุยๆกับคุณโก้อยู่ครับ แต่มีแววว่าคงได้เสียตังค์ แหง่มๆ  ตอนไปงาน Traning ของคุณโก้ตัว DSP มันเจ๋งจริงๆ แก้ปัญหาในหลายๆเรื่องใน system ได้ดี แถมถ้าจูนในระบบได้ลงตัวแล้ว Sub จะแสดงสักยภาพเบสออกมาได้สุดๆ เลยครับ  เหมือนซับติดปีก

[ช้าง]

ยืนยันครับ ที่บ้าผมใช้อยุ่ สายของ Canare แบบสี่เส้นต่อเป็น biwiring เสียงไม่มีอั้นครับ

ถามคุณ pete หน่อยครับว่าใช้ DSP อยู่หรือเปล่าครับ

ขอสอบถามท่านโก้หน่อยครับ
อย่างนี้ก็ต้องมีสายต่อออกมาจากตัว Power ไำปที่ตัว Sub ใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ ใช้สายสัญญานหรือสายลำโพงครับ โดยมากแล้วใช้ยี้ห้อไหนหรือรุ่ีนไหนต่ออยู่นะครับ

ขอสอบถามท่านโก้หน่อยครับ
อย่างนี้ก็ต้องมีสายต่อออกมาจากตัว Power ไำปที่ตัว Sub ใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ ใช้สายสัญญานหรือสายลำโพงครับ โดยมากแล้วใช้ยี้ห้อไหนหรือรุ่ีนไหนต่ออยู่นะครับ

ขออนุญาติแอบตอบแทนคุณโก้นะครับ เพราะผมเองก็เล่น แบบนี้อยู่ สายใช้สายลำโพง ปกติครับ ขอเส้นหน้าตัดใหญ่ๆหน่อย ของผมใช้ Kimber 8TC รู้ลึกว่าใช้เวอร์ไปหน่อย เสียดายสายเดียวว่าจะเปลี่ยนอยู่เหมือนกันครับ ถ้าเน้นถูกๆ เสียงไม่ขึ้แหร่ ก็ canare แมตรละ ร้อยกว่าบาท เอาหน้าตัดใหญ่ๆหน่อยถ้าจะเอาแพงหน่อยเน้นไปทางเบสก็ลองดู monster ครับ...

สอบถามนิดนึ่งครับ ราคารุ่น Muses-12S Sig  สามหมื่นต้นนี่รวม DSP แล้วหรือยังครับ

ราคานี้สงสัยต้องเสียงเงินเพิ่มค่า DSP อีก หมื่นกว่าๆครับ

[Pete]

ขอสอบถามท่านโก้หน่อยครับ
อย่างนี้ก็ต้องมีสายต่อออกมาจากตัว Power ไำปที่ตัว Sub ใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ ใช้สายสัญญานหรือสายลำโพงครับ โดยมากแล้วใช้ยี้ห้อไหนหรือรุ่ีนไหนต่ออยู่นะครับ

ขออนุญาติแอบตอบแทนคุณโก้นะครับ เพราะผมเองก็เล่น แบบนี้อยู่ สายใช้สายลำโพง ปกติครับ ขอเส้นหน้าตัดใหญ่ๆหน่อย ของผมใช้ Kimber 8TC รู้ลึกว่าใช้เวอร์ไปหน่อย เสียดายสายเดียวว่าจะเปลี่ยนอยู่เหมือนกันครับ ถ้าเน้นถูกๆ เสียงไม่ขึ้แหร่ ก็ canare แมตรละ ร้อยกว่าบาท เอาหน้าตัดใหญ่ๆหน่อยถ้าจะเอาแพงหน่อยเน้นไปทางเบสก็ลองดู monster ครับ...

สอบถามนิดนึ่งครับ ราคารุ่น Muses-12S Sig  สามหมื่นต้นนี่รวม DSP แล้วหรือยังครับ

ราคานี้สงสัยต้องเสียงเงินเพิ่มค่า DSP อีก หมื่นกว่าๆครับ

[pee1323]

ขอสอบถามท่านโก้หน่อยครับ
อย่างนี้ก็ต้องมีสายต่อออกมาจากตัว Power ไำปที่ตัว Sub ใช่ไหมครับ
ถ้าใช่ ใช้สายสัญญานหรือสายลำโพงครับ โดยมากแล้วใช้ยี้ห้อไหนหรือรุ่ีนไหนต่ออยู่นะครับ

[nutsaint]

สอบถามคุณโก้หน่อยครับ
ได้ทราบรายละเอียดของรุ่น Muses-12S และ Ares-12S Sig แล้ว
ส่วนรุ่น Ares-12S กับ Muses-12S Sig นั้น ยังไม่ทราบรายละเอีัยด เข้าใจว่าน่าจะอยู่ตรงกลาง
ช่วยเกริ่นคร่าว ๆ ให้หน่อยได้ไหมครับว่าต่างกันอย่างไรบ้าง

เข้าใจว่าดอกลำโพงของ JL ไม่มีแบบ 15 นิ้ว Ares ก็เลยไม่มีรุ่นที่เป็น 15 นิ้ว
จึงอยากจะถามว่า Muses-15S Sig กับ Ares-13S Sig นั้น ให้เสียงแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ใครควรจะใช้รุ่น Muses-15S Sig ใครควรจะใช้รุ่น Ares-13S Sig ครับ

สุดท้ายคือที่คุณโก้บอกว่า

Sub ของ Accuris รุ่นต่อไปนี้ เหมาะที่จะเล่น 2 ch Stereo ครับ
- Fates-12 ความไว 92 dB @ 2.83 V
- Fates-15 ความไว 90 dB @ 2.83 V
- Muses-12S ความไว 89 dB @ 2.83V
- Muses-12T ความไว 92 dB @ 2.83V
- Muses-15S ความไว 90 dB @ 2.83V
- Ares-12S ความไว 91.2 dB @ 2.83V
 -Ares-13S ความไว 91.6 dB @ 2.83V
- Ares-12S Sig ความไว 91.2 dB @ 2.83V
- Ares-13S Sig ความไว 91.6 dB @ 2.83V
- Grates-12 - Active Sub with Servo Control
- Grates-15 - Active Sub with Servo Control

วิธีการเลือก Sub ให้ Match กับลำโพงคู่หน้า คือดูจากความไวของลำโพงคู่หน้า แล้วเลือก Sub ที่มีความไวใกล้เคียงกันมากที่สุดครับ

ถ้าลำโพงคู่หน้าของผมเป็นแบบตู้ปิดความไว 86 dB/ 2.83V (น้อยกว่าทุกตัวเลย) แบบนี้ควรจะใช้รุ่นไหนครับ

[Mimi_dady]

สอบถามนิดนึ่งครับ ราคารุ่น Muses-12S Sig  สามหมื่นต้นนี่รวม DSP แล้วหรือยังครับ

[ขุนดง]

ขอบคุณท่าน PETE  และท่าน IAV มากครับ

คำตอบที่ได้รับเป็นประโยชน์มากครับ สำหรับผมและอีกหลายคนที่คิดอยากจะลองทำดู

ถ้าวันใหนรู้สึกว่า ขาดแคลนความถี่ต่ำ คงได้อุดหนุนซับฯ ท่าน IAV  แน่ๆเลย

[IAV]

เรียนคุณ B&K

ถ้าเอาดูหนังมันส์และฟังเพลงดี ก้อต้องรุ่น Muses-12S Sig นี่แหละครับ ลงตัวทั้งงบประมาณ และการลงทุนในระดับ 3 หมื่นต้นครับ ได้ดอกเป็น 800 w ช่วงชักยาว 21 มม. พร้อมทั้งเป็น Double Voice Coil เทียบกับ Muses-12S ธรรมดาที่่ใช้ดอก 400 W ช่วงชักยาว 14 มม. แล้วอึดกว่าเยอะครับ


เรียนคุณ Kcharng

ขอบคุณมากครับที่ช่วยหาคำตอบมาเสริมให้ ผมว่าถ้าคุณ Kcharng สนใจแบบนี้เรื่่อยๆ อีกหน่อยคงกลายเป็นนักเล่นมือฉมังอีกคนแน่ๆ เลยครับ

คุณ Kcharng เตรียมตัวได้เลย ช่วงปลายเดือนได้เจอ Muses-15S Sig ตัวใหม่แน่ๆครับ รุ่นนี้เป็นพวก Subwoofer Die Hard แล้วครับ

วันนี้ได้ไป Set อีกรอบ ผมยังประทับใจไม่หายเลยครับ กับชุดกลางๆ แต่ได้คุณภาพเกินตัว ฟังแล้ว ก้ออดปลื้มใจไม่ได้ว่า งบประมาณขนาดนี้ ทำได้แบบนี้เลยหรือ 

ขอให้มีความสุขกับการชม Home Theater มากๆ นะครับ


เรียนคุณ Iwamac

เกี่ยวกับคำว่า Passive และ Active อธิบายในแบบง่ายๆ นะครับ อะไรก้อตามที่ต้องมีภาคจ่ายไฟ โดยใช้ไฟไม่ว่า AC หรือ DC เข้าไปเลี้ยงวงจร เราถือว่าเป็นอุปกรณ์ Active หมดครับ สำหรับอุปกรณ์ที่ต่อขั้นในระบบโดยตัวมันไม่ต้องการไฟเลี่ยง เราถือว่าเป็นอุปกรณ์ Passive ทั้งหมดครับ

ยกตัวอย่างเช่น

Passive Crossover ก้อคือ Crossover ที่ตัวมันมีแต่ภาคตัดความถี่ให้เป็น High-Mid-Low โดยแต่ละย่านจะไม่มีวงจร Gain Stage เข้าไปชดเชยความดังของแต่ละ Channel พวกนี้จะกินกำลังการขับจาก Pre amp หรือ Power amp อย่างเดียว ส่วนใหญ่พวกนี้จะทำได้แต่ลดเสียง แต่เพิ่มแรงขับเสียงไม่ได้ ในขณะที่ Active Crossover ก้อเหมือนก้ับ Passsive Crossover แต่จะมีวงจร Input Buffer และ Output Stage ซึ่งต้องการไฟจากภาคจ่ายไฟไปเลี้ยง วงจรเพิ่ม Gain ขยายสำหรับแต่ละ Channel เราจึงเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ Active

เช่นเดียวกับลำโพง Active Subwoofer ซึ่งในตัว Active Sub เองจะประกอบไปด้วย Passive Sub + Power amp + Active Crossover + Input Level Controller ซึ่งในแต่ละวงจรก้อต้องการไฟจากภาคจ่ายไฟเข้าไปเลี่ยงไงครับ เราจึงเรียกว่า Active Sub

ในขณะที่ Passive Subwoofer ตัวมันเองมีแค่ดอกกับตู้ จึงต้องการ Power amp ภายนอกมาต่อเพื่อขับดอก Sub อีกทีเราจึงเรียกว่าเป็น Passive Sub เพราะในตัวมันเองไม่ต้องการไฟจากภาคขจ่ายไฟเข้าไปทำงานเลย นอกจากนี้คำว่า Passive sub ยังสามารถครอบคุมไปถึงการออกแบบ Passive Sub ให้มี Passive Crossover ฝังอยู่ในตู้ก้อได้ครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็น Fix Freq คือปรับ Freq ไม่ได้ แต่ไม่นิยมทำกันเนื่องจาก Passive Crossover ในตู้ Sub จะไปกินกำลัง Poweramp มากๆ เลยครับ บวกกับเดี๋ยวนี้ใน Surround Processor มี Built-in Active Crossover อยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องใช้ Passive Crossover ครับ

นอกจากนี้นิยามของ Passive Preamp กับ Active Preamp ก้อเป็นแบบเดียวกันครับ ลำโพงคู่หน้าที่เรานิยมใช้กัน ก้อเป็น Passive Speaker ทั้งหมดครับ ยกเว้นลำโพงในสตูดิโอ จะนิยมใช้เป็น Acitve Speaker เพื่อตัดปัญหาการ Matching ของ Poweramp กับลำโพง Passive อีกทั้งยังทำให้แน่ใจว่าลำโพง Active Speaker ตัวนี้จะให้ค่าได้ตามมาตรฐานที่ทางผู้ผลิตตั้งไว้ครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก้อจะเป็นค่า Freq Resp, Phase Resp, Distortion ที่ต้องได้ค่าเที่ยงตรงที่สุด ซึ่งในลำโพงบ้าน เราไม่ได้มี Requirement แบบนี้ครับ แต่เราต้องการได้คุณภาพที่ดีกว่านี้ และทำให้แต่งเสียงเล่นได้ด้วยจึงทำให้ลำโพง Active Speaker ไม่เป็นที่นิยมในบ้านครับ

คงพอได้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นนะครับ

 

[ช้าง]

อยากทราบคำตอบเหมือนกันครับ เลยลองหาดู google ครับ

http://hometheater.about.com/cs/loudspeakers/a/aasubwoofera.htm

ตัดมาบางตอนนะครับ

"...Subwoofers come in two basic types, Passive and Powered.

Passive Subwoofers

Passive subwoofers are powered by an external amplifier, in the same fashion as other speakers in your system. The important consideration here is that since extreme bass needs more power to reproduce low frequency sounds, your amplifier or receiver needs to be able to output enough power to sustain bass effects in the subwoofer without draining the amp. How much power depends on the requirements of the speaker and the size of the room (and how much bass you can stomach!).

Powered Subwoofers

To solve the problem of inadequate power or other characteristics that may be lacking in a receiver or amplifier, powered subwoofers are self-contained speaker/amplifier configurations in which the characteristics of the amplifier and sub woofer are optimally matched.

As a side benefit, all a powered subwoofer needs is a line output from an amplifier. This arrangement takes a lot of the power load away from the amp/receiver and allows the amp/receiver to power the mid-range and tweeters more easily. ..."

คุณโก้ครับ    ผมกำลังสับสนระหว่าง Sub ที่เราเรียกว่าแบบ Active กับ Passive วันก่อนที่ไปฟังเครื่องบ้านคุณบี     ผมยังเถียงกันกับคุณ Chris อยู่เลย     ว่าไอ้ที่เราเรียกกันว่า Active หนะ มันหมายถึง Integrated Active Sub-Woofer w/Amplifier Built In     แต่สำหรับ Passive - Subwoofer ของ IAV ไม่มี Passive Crossover  แต่เราไปผ่าน Active Cross ของ Behringer    ดังนั้นจริงๆเราควรเรียก Sub Woofer แบบนี้ว่า Active Subwoofer w/External Amplifier ไม่ใช่หรือครับ      ไม่ทราบผมเข้าใจถูกปล่าว    ช่วยชี้แนะด้วย     อันนี้เคยถามคุณ Chris แล้วต่างคนต่างงงครับ

[ช้าง]

อันนี้แล้วแต่งบอำนวยครับ

Ares JL 13S เลย ครับ จะได้ไปฟังด้วยคน

แอบเข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวครับ

พอออกมาหลายซีรี่ย์ ก็เริ่มสับสนล่ะครับ ระหว่างงบประมาณกับความอยาก

คุณโก้ครับ

รุ่นที่ดูหนังก็มันส์ ฟังเพลงจังหวะเร็วๆก็ดี

พอจะแนะนำได้ไหมครับ

[iwamac]

คุณโก้ครับ    ผมกำลังสับสนระหว่าง Sub ที่เราเรียกว่าแบบ Active กับ Passive วันก่อนที่ไปฟังเครื่องบ้านคุณบี     ผมยังเถียงกันกับคุณ Chris อยู่เลย     ว่าไอ้ที่เราเรียกกันว่า Active หนะ มันหมายถึง Integrated Active Sub-Woofer w/Amplifier Built In     แต่สำหรับ Passive - Subwoofer ของ IAV ไม่มี Passive Crossover  แต่เราไปผ่าน Active Cross ของ Behringer    ดังนั้นจริงๆเราควรเรียก Sub Woofer แบบนี้ว่า Active Subwoofer w/External Amplifier ไม่ใช่หรือครับ      ไม่ทราบผมเข้าใจถูกปล่าว    ช่วยชี้แนะด้วย     อันนี้เคยถามคุณ Chris แล้วต่างคนต่างงงครับ

[B&K]

แอบเข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวครับ

พอออกมาหลายซีรี่ย์ ก็เริ่มสับสนล่ะครับ ระหว่างงบประมาณกับความอยาก

คุณโก้ครับ

รุ่นที่ดูหนังก็มันส์ ฟังเพลงจังหวะเร็วๆก็ดี

พอจะแนะนำได้ไหมครับ

[IAV]

เรียน คุณ Zax และ คุณ Martra

Sub ของ Accuris รุ่นต่อไปนี้ เหมาะที่จะเล่น 2 ch Stereo ครับ
- Fates-12 ความไว 92 dB @ 2.83 V
- Fates-15 ความไว 90 dB @ 2.83 V
- Muses-12S ความไว 89 dB @ 2.83V
- Muses-12T ความไว 92 dB @ 2.83V
- Muses-15S ความไว 90 dB @ 2.83V
- Ares-12S ความไว 91.2 dB @ 2.83V
 -Ares-13S ความไว 91.6 dB @ 2.83V
- Ares-12S Sig ความไว 91.2 dB @ 2.83V
- Ares-13S Sig ความไว 91.6 dB @ 2.83V
- Grates-12 - Active Sub with Servo Control
- Grates-15 - Active Sub with Servo Control

วิธีการเลือก Sub ให้ Match กับลำโพงคู่หน้า คือดูจากความไวของลำโพงคู่หน้า แล้วเลือก Sub ที่มีความไวใกล้เคียงกันมากที่สุดครับ

สำหรับคุณ Zax และ คุณ Martra ถ้าเอาแบบคุ้มราคาเสียงดี ผมแนะนำ Fates-12 เนื่องจากเบสที่ได้จาก Fates-12 จะเป็นเบสที่โปร่งเร็ว มี character ที่เหมาะกับลำโพงคู่หน้าที่ใช้ดอก 5-1/2" ถึง 8" ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ข้อเสียรุ่นนี้คือให้เบสต้นดีกว่าเบสลึกมากๆ แต่ไม่ใช่ไม่มีเบสต่ำนะครับ แต่จะ Roll off เร็วมากที่ความถี่ต่ำกว่า 27Hz ซึ่งเกินพอสำหรับการเล่น 2 Ch แล้วครับ

คาดว่าช่วงปลายเดือน น่าจะได้ลองกันครับ Lot นี้มีแค่ 6 ตัวครับ ราคาไม่เกิน 18,000 บาทครับ รับรองคุณภาพเกินคุ้มไปมั่กๆ ครับ

แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ก้อรอตัว Grates ได้เลยครับ เป็น Subwoofer แบบมี Servo Control ที่ไม่เหมือนกับ Sub Servo ยี่ห้ออื่นๆ คือสามารถปรับเปลี่ยน Speed ของ sub ได้เลย ว่าจะให้เบสช้าเร็วได้ สามารถเปลี่ยน character ให้เป็น Sub ที่เหมาะกับ HT ที่เน้นความถี่ต่ำ หรือ เน้นเบสต้น ไม่ต้องลงลึก แต่อย่านำไปเทียบกับ Passsive Accuris รุ่นใหญ่ๆ นะครับ เพราะ รุ่นนี้ราคาอยู่แถวๆ 30,000 บาทครับ อดใจรออีกหน่อยนะครับ

[ช้าง]

ดอก Muses แตกเมื่อไหร่คงได้เห็นดอก JL มาแทนแน่ๆ

[IAV]

เรียนคุณ ขุนดง

เห็นด้วยกับคุณ Pete แหมคุณ Pete นี่โปรจริงๆ ครับ 

แต่ผมขอเสริมหน่อยครับ ในกรณีถ้าต้องการเปลี่ยนดอกจริงๆ ก้อทำได้ครับ แต่มันยากมากๆ สำหรับผู้ใช้ทั่วๆไป และถ้าต้องการเปลี่ยนดอก จะทำได้เฉพาะตู้ปิดเท่านั้นครับ ตู้เปิดลืมไปเลยยากมากๆ ครับ เพราะต้องเปลียนขนาด Port ด้วย

การจะเปลี่ยนดอกต้องทราบขนาดปริมาตรตู้ปิดที่จะโมดอกเป๊ะๆ ก่อน หลังจากนั้นต้องนำ spec ไปเทียบดูว่าดอกใหม่ของยี่ห้ออะไร ที่จะเหมาะกับตู้นี้ ซึ่งต้องพิจารณา ถึงว่าขนาด amp ของ Active Sub ตู้เก่าจะขับดอกใหม่ออกหรือเปล่า ซึ่งก้อยากอีกเพราะเราต้องรู้ค่า spec ของ amp นั้น อีก

สรุปแล้วผมว่า เปลี่ยน Sub ทั้งตู้ใหม่ ง่ายกว่าไหมครับ

ผิดกับกรณีการใช้ Passive Sub แบบ Accuris ซึ่่งเราสามารถเปลี่ยน Amp ให้เหมาะกับดอกใหม่ที่จะนำมาใช้แทนดอกเก่าได้ครับ

[Pete]

เรียน ท่านโก้

             ผมมีเรื่องจะเรียนถามเล็กน้อยครับ  การเปลี่ยนดอกลำโพงซับแอคทีป จากที่มากับมันเป็นยี่ห้อดังๆ เช่น JL หรือ JBL ซึ่งเป็นลำโพงติดรถยนต์

สมควรทำไหม มีข้อดีข้อเสียยังไง?  และท่านโก้มีข้อแนะนำในเรื่องนี้อย่างไรครับ? 

                                                                       
                                                                    ขอบคุณครับ

Sub active ผมว่าไม่ควรจะเปลี่ยนด้วยเหตุผลของปริมาตรของตู้เพราะดอกพวกนี้ต้องมีการคำนวนกันอย่างดีถึงจะได้เสียงออกมาดีครับ
ผมเคยมีความพยยามเอาดอก รถยนตร์มาเล่นกับ   Sub active   แต่ผลปรากฎ ว่าเสียงลงทะเลไปเลยครับ เหตุผลหนึ่งก็คือขนาดตู้และ Amp ในตู้มันไม่ค่อยจะดีนะครับ ถึงจะบอกวัตต์สูงๆ แต่พลังมันไม่ค่อยดีครับ เอาออกมาทั้งนุ่ม น่วม บวม เบลอ อันนี้ถ้าจะลองเล่นๆดูก็ได้นะครับ แต่เสียดายตู้เดิมๆ  แต่ถ้าดอกเท่ากันไม่ต้องเจาะหรือคว้านตู้ก็ลองเล่นเลยครับ แต่ถ้าถามผมผมขอผ่าน เคยลองซื้อเอาทำมาตัวหนึ่ง ขายเหลือแต่ซากไม่กี่บาท  ครับ

[zax]

อยากได้ซับ ที่ให้เสียงฉับไวที่ดีที่สุด  เพื่อใช้ฟังเพลงแบบ 2แชนแนล เหมือนกับคุณ martra ครับ 

[Martra]

เรียนคุณโก้
มีแนะนำรุ่นที่จะใช้ เน้นกับ 2 แชนแนล...มากกว่าดูหนังไหมครับ...

[ขุนดง]

เรียน ท่านโก้

             ผมมีเรื่องจะเรียนถามเล็กน้อยครับ  การเปลี่ยนดอกลำโพงซับแอคทีป จากที่มากับมันเป็นยี่ห้อดังๆ เช่น JL หรือ JBL ซึ่งเป็นลำโพงติดรถยนต์

สมควรทำไหม มีข้อดีข้อเสียยังไง?  และท่านโก้มีข้อแนะนำในเรื่องนี้อย่างไรครับ? 

                                                                       
                                                                    ขอบคุณครับ

[pee1323]

ห้องผมใช้ประมาณ 92 db ถึจะได้เสียงเต็มพื้นที่ 

[IAV]

เรียนคุณ pee1323

สำหรับเรื่องการใช้ขนาดและจำนวน Accuris Subwoofer กับขนาดห้องให้ได้เสียงเบสที่คลุมห้องได้เต็มๆ ดูตาม Guide line ง่ายๆดังนี้ครับ

ลำโพงความไว 89 dB ใช้ได้กับห้องขาดใหญ่สุดไม่เกิน 3.7 x 4.5 x 2.5 ม.
ลำโพงความไว 92 dB ใช้ได้กับห้องขาดใหญ่สุดไม่เกิน 4.5 x 6.5 x 2.7 ม.
ลำโพงความไว 95 dB ใช้ได้กับห้องขาดใหญ่สุดไม่เกิน 4.8 x 7 x 2.85 ม.
ลำโพงความไว 97 dB ใช้ได้กับห้องขาดใหญ่สุดไม่เกิน 5 x 8 x 3 ม.
ลำโพงความไว 100 dB ใช้ได้กับห้องขาดใหญ่สุดไม่เกิน 6 x 10 x 3.2 ม.

วิธีคำนวนความไวหรือ Sensitivity ให้ใช้ตามหลักง่ายๆดังนี้ครับ
เมื่อนำลำโพงที่มีความไวเท่ากันมาใช้เพิ่มขึ้นทีละหนึ่งตัวจะได้ความไวเพิ่มขึ้นตามนี้ครับ

1 units - +0 dB
2 units - +3 dB
3 units - +4.8 dB
4 units - +6 dB
5 units - +7 dB
6 units - +7.8 dB
10 units - +10 dB

ยกตัวอย่างนำ Muses-12S ที่มีความไว 89 dB มาใช้ 3 ตัว ก้อจะได้ความไวรวม 89 dB + 4.8 dB = 93.8 dB
หรือ Ares-12S ที่มีความไว 91.21 dB มาใช้ 4 ตัว จะได้ความไวรวม 91.21 dB + 6 dB = 97.21 dB

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้สูตรนี้ ไม่ได้บ่งบอกเรื่องการลงลึกของเบสนะครับ ถ้าต้องการให้เบสลงได้ลึก ยังไงก้อต้องใช้ดอกที่ใหญ่ขึ้น แต่ทั้งนี้ยกเว้นตัว Ares ที่ใช้ดอก JL Audio  W7 ที่มีช่วงชักยาวมากทำให้ไปชดเชยขนาดดอกได้ครับ

สำหรับท่านอื่นๆ ที่อยากได้คุณภาพใกล้เคียง Ares Sig แต่มีงบจำกัด แนะนำให้ลองดูรุ่น Muses-12S Sig, Muses-15S Sig, หรือ Ares-12S, Ares-13S ที่จะตามออกมาเร็วๆ นี้ ราคาประหยัดลงเยอะครับ ทำให้จับจองได้ง่ายขึ้นครับ

Sub ในตระกูล Accuris ที่ Approved ให้ใช้กับหนังพวก Haunting, U-571, Saving Private Ryan, The Last Commander หรือเรื่องอื่นๆ ที่โหดๆ เมื่อใช้กับขนาดห้องที่เหมาะสมกับจำนวน Sub ที่ใช้ มีดังนี้ครับ
Muses-12S Sig
Muses-12T Sig
Muses-15S Sig
Ares-12S
Ares-13S
Ares-12S Sig
Ares-13S Sig
Grates-12
Grates-15

ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่ารุ่นอื่นๆ เล่นไม่ได้นะครับ เพียงแต่หนังพวกนี้ เหมาะกับ Sub ที่มีช่วงชักยาวมากๆ ถึงจะปลอดภัยกว่า แต่ถ้าเป็นรุ่นอื่นก้ออาจจะต้องเปิดค่อยลงหน่อยก้อโอเคครับ

[pee1323]

คุณโก้ครับทั้งสองรุ้นสามารถใช้กับห้องประมาณเท่าไรครับเสียงถึงจะไม่กลวงไม่ล้นห้องนะครัล

[aouzaa]

เรียน คุณ พายุ

เรื่่องของคุณภาพเสียง ใน Line ของ Accuris ทั้งหมด จะเป็นแนวทางเดียวกัน ครับคือเบสสะอาด เร็ว เก็บตัว ไม่มีอาการ Hanging ที่หางเสียง มี Impact และ Dynamic ที่เหนือกว่า ให้ตัวโน๊ตที่ชัดเจน และกลืนเป็นเนื้อเดียวกับลำโพงตัวอื่นๆ ในระบบ ซึ่ง แนวเสียง Subwoofer ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดยังหาได้ยากครับฃ

สำหรับความแตกต่างระหว่าง Ares กับ Muses คือ Ares ลงได้ลึกกว่า ได้ปริมาณเบสที่ฐานต่ำสุดได้ดีกว่า สามารถใช้ในห้องที่ใหญ่กว่าได้ รับกำลังวัตต์์ได้สูงกว่า ให้เบสที่เป็นตัวตนคือสะอาดกว่า ซึ่่งถ้าจะเทียบในตลาดคงหาคู่กัดได้ยากเหมือนกัน แม้จะแพงกว่า Ares Sig ถึง 2-3 เท่าก้อตาม

สำหรับสนนราคาค่าตัวเป็นดังนี้ครับ ราคาตั้งของ Ares-13S Sig อยู่ที่ 75,900 บาท ครับ ส่วนรุ่น Ares-12S Sig อยู่ที่ 63,900 บาท ครับ

  :)เกินงบไปนิด ขอเวลาปั้มเงินอีกหน่อย+คุณโก้ลดพิเศษๆๆ เดี๋ยวมีเฮ

กำลังปั๊มเงินอยู่ ไม่รู้จะทันซื้อป่าว

[พายุ]

เรียน คุณ พายุ

เรื่่องของคุณภาพเสียง ใน Line ของ Accuris ทั้งหมด จะเป็นแนวทางเดียวกัน ครับคือเบสสะอาด เร็ว เก็บตัว ไม่มีอาการ Hanging ที่หางเสียง มี Impact และ Dynamic ที่เหนือกว่า ให้ตัวโน๊ตที่ชัดเจน และกลืนเป็นเนื้อเดียวกับลำโพงตัวอื่นๆ ในระบบ ซึ่ง แนวเสียง Subwoofer ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดยังหาได้ยากครับฃ

สำหรับความแตกต่างระหว่าง Ares กับ Muses คือ Ares ลงได้ลึกกว่า ได้ปริมาณเบสที่ฐานต่ำสุดได้ดีกว่า สามารถใช้ในห้องที่ใหญ่กว่าได้ รับกำลังวัตต์์ได้สูงกว่า ให้เบสที่เป็นตัวตนคือสะอาดกว่า ซึ่่งถ้าจะเทียบในตลาดคงหาคู่กัดได้ยากเหมือนกัน แม้จะแพงกว่า Ares Sig ถึง 2-3 เท่าก้อตาม

สำหรับสนนราคาค่าตัวเป็นดังนี้ครับ ราคาตั้งของ Ares-13S Sig อยู่ที่ 75,900 บาท ครับ ส่วนรุ่น Ares-12S Sig อยู่ที่ 63,900 บาท ครับ

  :)เกินงบไปนิด ขอเวลาปั้มเงินอีกหน่อย+คุณโก้ลดพิเศษๆๆ เดี๋ยวมีเฮ

[ช้าง]

สวยครับ

เข้าไปอ่านตัว JL Audio W7 น่าใช้มากๆครับ patent เพียบเลย

[Aragorn_R8]

น่าใช้จังครับ

[B&K]

ตอนประกอบไดร์เวอร์เข้ากับตัวตู้ คงต้องใช้รถเครนยกไดร์เวอร์กันเลยทีเดียว

[IAV]

เรียน คุณ พายุ

เรื่่องของคุณภาพเสียง ใน Line ของ Accuris ทั้งหมด จะเป็นแนวทางเดียวกัน ครับคือเบสสะอาด เร็ว เก็บตัว ไม่มีอาการ Hanging ที่หางเสียง มี Impact และ Dynamic ที่เหนือกว่า ให้ตัวโน๊ตที่ชัดเจน และกลืนเป็นเนื้อเดียวกับลำโพงตัวอื่นๆ ในระบบ ซึ่ง แนวเสียง Subwoofer ยี่ห้ออื่นๆ ในตลาดยังหาได้ยากครับฃ

สำหรับความแตกต่างระหว่าง Ares กับ Muses คือ Ares ลงได้ลึกกว่า ได้ปริมาณเบสที่ฐานต่ำสุดได้ดีกว่า สามารถใช้ในห้องที่ใหญ่กว่าได้ รับกำลังวัตต์์ได้สูงกว่า ให้เบสที่เป็นตัวตนคือสะอาดกว่า ซึ่่งถ้าจะเทียบในตลาดคงหาคู่กัดได้ยากเหมือนกัน แม้จะแพงกว่า Ares Sig ถึง 2-3 เท่าก้อตาม

สำหรับสนนราคาค่าตัวเป็นดังนี้ครับ ราคาตั้งของ Ares-13S Sig อยู่ที่ 75,900 บาท ครับ ส่วนรุ่น Ares-12S Sig อยู่ที่ 63,900 บาท ครับ


เรียน คุณ pee1323

นำรูปดอก JL Audio W7 มาให้ชมแล้วนะครับ คงเห็นความอลังการของดอกนี้นะครับ เฉพาะดอก Sub รุ่น 13W7 ราคาขายในเมืองไทยเกือบ 50,000 บาทแล้วครับ ราคาโหดมากครับ พอดีผมนำเข้ามาเอง เลยได้ราคาดีกว่า ไม่งั้นทำรุ่น Ares ขายราคานี้ไม่ได้ครับ

[pee1323]

น่าเสียตังอีกแล้วครับ
มีรูป driver ให้ดูไหมครับ
อยากเห็นครับ

[พายุ]

ขอถามคุณโก้ว่า..รุ่น Musus กับ Ares เสียงเหมือนหรือต่างกันประมาณไหน จะได้จินตนาการไว้ก่อน เพราะในใจตั้งใจจะถอยมาใช้ 1 ตัวครับ ขอราคากลางด้วยครับ..

[IAV]

เรียน ท่านสมาชิก

ถ้ามีตัวจริงออกมา ซึ่งหน้าจะทันงาน BAV 2009 ครับ จะเรียนเชิญให้มาทดสอบฟังกันครับ

สำหรับท่านกัมฯ ส่งให้ทดลองได้ครับ ไม่มีปัญหา แต่ ... ตอนขนไป ต้องมาช่วยด้วยนะครับ โดยเฉพาะตัว Ares-13S Sig 


เรียนคุณ B&K

ไม่ต้องตกใจครับ แม้กระทั่ง Sub ตัวละแสนบางยี่ห้อ ก้อยังใช้ไม้หนาไม่ถึง นิ้วเลยครับ   


เรียนคุณ Pete

สำหรับราคารุ่นนี้ หายห่วงครับ กระโดดขึ้นมาประมาณ 3 เท่ากว่าๆ ครับ ตามต้นทุนของวัตถุดิบและการผลิตที่มันสูงขึ้นมาเยอะครับ

[B&K]

กิเลส กิเลส

Muses ยังไม่ได้ไปหาที่ลองฟังเลย (จริงๆแล้วกะตังค์ไม่พอ )

เจ้า Ares เข้าไป เทพกว่าอีก

โครงสร้างอลังการมากครับ

เห็นแล้วนึกถึงซับที่ห้องจัง




วันก่อนกลับจากสงกรานต์ จะดูหนังซักหน่อย มาถึงห้องเปิดสวิตช์ปลั๊กไฟ

เสียงซัพตัวอภิมหาเทพ ดังแป๊ะ ๆ ๆ แล้วเงียบกริบ

งานเข้าแล้วไหมล่ะ

เงินก็เอาไปละลายน้ำสงกรานต์หมดตรูดแล้ว

แกะฝาหลังออกมาดู

พระเจ้า !!!!!!!!!!

มดเต็มเลย

พวกเอ็งไม่มีที่จะอยู่กันแล้วหรืองัย ถึงได้พากันมาอาศัยในแผ่นวงจรไดร์ฟ ขับซับอภิมหาเทพของข้า

ประกันยังไม่หมด แต่ขี้เกียจขับรถไปซีคอน ค่าน้ำมันจากศรีราชาอาจจะแพงกว่าค่าซ่อม

สรุปซ่อมหมดไป พัน นึง (แอบแพงนะเนี่ย ตอนที่แกะดู ดูเหมือนว่า C จะพังอย่างเดียว ยังไม่ได้แกะดูเลยว่าเปลี่ยนอะไรไปมั่ง)

ไม่ได้ซีเรียส ค่าซ่อมเท่าไหร่ครับ

ที่ซีเรียสกว่า


ก็ ตอนเปิดฝาหลังซับออกมาดูนั่นแหละครับ

นี่สภาพตู้ราคาหมื่นจริงๆเหรอเนี่ย 

ไม้หนา 10 กว่ามิล

วงจรไดร์ฟ 100 วัตต์ rms อนาถามาก

มี C ตัวเท่านิ้วโป้งอยู่ 2 ตัว

ถึงว่าเปิดแรงหน่อยแป๊กตลอด


เทียบกับโครงสร้างตู้ของคุณ โก้ ไม่ได้เลย อย่างปึ๊ก

จับคุ่กะแอม์  แดมปิ้งแฟคเตอร์มากกว่า 700-800

คงมันส์น่าดูชม




ต้องแอบแฟนเก็บเงินซะแล้ว 





ปล. คุณ โก้ มีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเจ้า Accuris หรือป่าวครับ เข้าเว็บ IAV ก็หาไม่เจอ

[ช้าง]

นี่ขนาดใช้ตัว accuris Musus อยู่สองตังยังอยากupgrade เลยครับ

ส่งมาให้ ทดสอบหน่อยสิท่าน KO  โครงสร้างดี ชาติตระกูลดี  ออกแบบมาสวย      อนาคตไปไกลครับ  ส่งออกแน่ๆ

[ssrkps]

ใช้ CNC กัดไม้มันช้าและทำให้COSTสูง ใช้เลเซอร์ตัดง่ายและเร็วกว่าครับ(ยกเว้นตอนกัดขึ้นรูปนะ )

[กัมปนาท KK]

ส่งมาให้ ทดสอบหน่อยสิท่าน KO  โครงสร้างดี ชาติตระกูลดี  ออกแบบมาสวย      อนาคตไปไกลครับ  ส่งออกแน่ๆ

[dr.nop]

ต้องลองฟัง ไห้ได้ 

[Pete]

ดูจากโครงสร้างตู้แล้ว สุดยอดแข็งแรง นึกว่ารถถังกันกระสุน   ไม้หนามากๆ ของนอกเจ๋งๆเจอตัวนี้เข้าไปคงต้อง ซูฮก
ว่าแต่ราคาเป็นยังไงบ้างครับ เทียบกับรุ่นปกติขึ้นมาเยอะไหมครับ

[ช้าง]

สวยมากครับ

[IAV]

Cont.

รป 1 เป็นแผ่นแกนกลางดามตู้หลังจากออกมาจากเครื่อง CNC

รูป 2 เป็นแผ่นฝาบนตู้หลังจากออกจากเครื่อง CNC

[IAV]

Cont.

แผ่นไม้ที่กำลังอยู่ในเครื่อง CNC แบบ 3 แกนอันทันสมัยในโรงงานสุด Hi-Tech

[IAV]

Specification Ares-12S Sig และ Ares-13S Sig

Accuris-12S Sig Specification

Cabinet Type: Sealed Box Speaker
Driver:  JL Audio 12W7 12" Highly Linear, DMA Optimized Motor System, W-Cone, Ultra Long Voice Coil
Group Delay: Less than 8 ms
Nominal Impedance: 3 Ohm
Power Handling: 750 W RMS/1000 W Peak @ 3 Ohm
Sensitivity: 91.21 dB/2.83V @ 1 m
Peak SPL: 115 dB@ 60 Hz, 111.5 dB@ 30 Hz
Power Requirement: Min 500 w RMS/Ch @ 3 Ohm
Dimension: W x H x D - 51 x 51 x 52 cm
Weight: 65 Kgs/Subwoofer unit, 90 Kgs/Sub with Arakne Plate


Accuris-13S Sig Specification

Cabinet Type: Sealed Box Speaker
Driver:  JL Audio 13.5W7 13.5" Highly Linear, DMA Optimized Motor System, W-Cone, Ultra Long Voice Coil
Group Delay: Less than 8 ms
Nominal Impedance: 2.41 Ohm
Power Handling: 1000 W RMS/1500 W Peak @ 3 Ohm
Sensitivity: 91.66 dB/2.83V @ 1 m
Peak SPL: 116.4 dB@ 60 Hz, 114.5 dB@ 30 Hz
Power Requirement: Min 750 w RMS/Ch @ 2.5 Ohm
Dimension: W x H x D – 53.5 x 53.5 x 58 cm
Weight: 75 Kgs/Subwoofer unit, 105 Kgs/Sub with Arakne Plate

[IAV]

Cont.

[IAV]

เรียนท่านสมาชิก HTG2

ขออนุญาติคุณ Too Ninja แนะนำรายละเอียด Accuris Subwoofer รุ่น Ares-12S Signature และ Ares-13S Signature

เนื่องจากตอนนี้ Process ในการทำ Accuris Sub รุ่น Ares-12S Sig และ Ares-13S Sig คืบหน้าไปมากแล้วจึงขอนำรายละเอียด Spec ต่างๆ อย่างเป็นทางการ มาเรียนแนะนำครับ
จริงๆ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเป็น Reference Model ใน Subwoofer Accuris ครับ เพราะฉะนั้น เทคโนโลยีที่ดีที่สุด จะถูกนำมาใส่ไว้ในรุ่นนี้อย่างเต็มที่ครับ ซึ่งเฉพาะรุ่น Ares Sig จะมี Feature เด่นๆดังนี้


Ares Signature Feature

JL Audio W7 Subwoofer Driver Feature
เป็นดอกลำโพง Subwoofer ที่ดีที่สุดโดยบรรจุ Technology ที่ก้าวล้ำหน้า กว่าดอกลำโพง Subwoofer อื่นๆทั่วไปมาก ให้ช่วงชักที่ยาวถึง  29 มม. (Ares-12S) และ 32 มม. (Ares-13S) พร้อมแม่เหล็กขนาดใหญ่ น้ำหนักดอกลำโพง Subwoofer อย่างเดียวหนักมากกว่า 20 Kgs เลยทีเดียว

ระบบ Tension Rod System (TRS)
เป็นระบบการยึดโครงสร้างตู้แบบพิเศษ ซึ่งจะเพิ่มแรงในการอัดตู้ให้แข็งแรงแน่นยิ่งขึ้นโดยการใช้โครงเส้น Stanless Steel เสริมแรง 4 เส้น ยึดตั้งแต่แผ่นหน้าตู้จนถึงแผ่นหลังตู้ โดยระบบ TRS จะให้แรง Tension Force ในการบีบอัดตู้ในแต่ละมุมได้มากกว่า 200 PSI ซึ่งระบบ TRS จะถูกใช้ใน Ares Sig รุ่นเดียวเท่านั้น

Super Ridge Cut (SRC)
เป็นระบบการเสริมโครงสร้างลำโพงที่รอยต่อในแต่ละด้าน ให้แข็งแรงขึ้นอีก 30% โดยการทำแนวฟันปากฉลามในแต่ละมุมที่ประกบกัน ทำให้แผ่นประกบด้านต่างๆ แต่ละมุมไม่มีการขยับตัวได้ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียง ทำให้เกิดความนิ่งเพิ่มขึ้นอีกมาก

โครงสร้าง Double Matrix Rigid Bracing System (DMRB)
เป็นระบบโครงสร้างแบบเมทริกที่ยึดโครงสร้างผนังตู้ทุกด้านให้ทำงานประสานเป็นเนื้อเดียวกัน และเป็นอุปกรณ์ที่เสริมความแข็งแรงของตู้ให้นิ่งที่สุด อีกทั้งยังกระจายแรงสะเทือนของตู้ให้กระจายออกไปทุกด้านของผนังตู้ โดยในรุ่น Ares จะเพิ่มโครงสร้างการดามตู้ ให้เหนือกว่ารุ่น Muses โดยเพิ่มการดามตู้ตามแนว Z ด้วย นอกเหนือจากแนว X,Y

ระบบการทำผนังตู้แบบ Dual Layer Damp Mode (DLDM)
เป็นระบบที่ใช้การทำผนังตู้แบบ 2 ชั้นโดยใช้ไม้ MDM หนาขนาด 1 นิ้ว 2 แผ่น โดยรอบเพื่อ Shift Mode ในการสั่นของตู้ ให้สูงกว่า ช่วงเสียงที่ดอกลำโพงทำงาน ซึ่งมีผลทำให้เสียงออกมาสะอาด และได้เบสต้นที่เร็วปราศจากการสั่นค้าง

การ Seal ตู้แบบ Triple Sealed Air Lock (TSA)
เนื่องจากการออกแบบให้มีพื้นที่สัมผัสระหว่างแนวประกบตู้แต่ละด้านให้มีพื้นที่มากชึ้นเป็น 3 เท่าจากพื้นที่ของตู้ลำโพงทั่วไป ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงสูงที่สุด และโอกาศที่อากาศจะหลุดรอดออกไปเป็นศูนย์

Detachable Plate Front Panel (DPFP)
ผนังด้านหน้าใช้ไม้ MDM หนา 4 นิ้ว โดยแบ่งเป็น 2 ชิ้น สามารถถอดแยกได้ เพื่อการ Service ดอกลำโพงได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความแข็งแรงสูงสุดเมื่อใช้ร่วมกับระบบ TRS

ระบบทั้งหมดที่กล่าวมาจะช่วยกันเพื่อให้ดอกลำโพงทำงานได้นิ่งที่สุด และมีแรงสะเทือนส่งผ่านไปส่วนอื่นๆ ของตู้น้อยที่สุด เสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงที่สะอาดที่สุด เร็ว มีหัวโน๊ตที่คมกว่า Subwoofer ทุกตัวโดยไม่เกี่ยงระดับราคา จึงสามารถบอกได้ว่า Accuris Ares Signature Series Subwoofer ถูกบรรจงสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นศาตราเทพแห่ง Subwoofer อย่างแท้จริง