HTG2.club

การเปรียบเทียบภาพที่ได้จาก บลูเรย์ : DVico : MKV

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ khun_sor

  • ***
    • กระทู้: 216
    • เพศ:ชาย
จากที่ลองนะครับ ภาพของDvico(เล่นหนังFull Rip) ใกล้เคียงกับBDP-51
แต่เสียง สู้51ไม่ได้เลยครับ   d_d d_d d_d
แต่ถ้าเทียบภาพDvicoกับHTPC ผมว่าDvicoสวยกว่าครับ คอมNoiseเยอะ (หรือผมSetupคอมไม่ถูกหว่า)

ไม่ใช่แล้วครับอย่างนี้   ชิปประมวลผลใน Dvico ธรรมดาครับ เครื่องเล่นรุ่นย่อมลงมายี่ห้ออื่นก็ใช้ตัวเดียวกัน เมื่อเทียบกับ การ์ดจอค่ายแดง รุ่นเทพ ใช้ร่วมกับ TMT แล้วต้องเอาไปชนกับ Bluray รุ่นใหญ่ครับ   Dvico ยังเอามาอ้างอิงไม่ได้ครับ 
ประเด็นของการ์ดจอค่ายแดง .....ต้อง...... เปลี่ยนพัดลมครับ  และเผื่อพื้นที่พัดลมให้มันเงียบๆ ซัก 3 สล็อต  ราคาการ์ด+พัดลมใหม่ ก็จะเท่า Dvico แล้วครับ    ภาพเทียบกันไม่ได้ครับ      ผมก็ใช้ครับ Dvico แต่เอาไว้ในห้องนอน  ส่วน HTPC ใช้ในห้องโฮมครับ

ส่วนเรื่องระบบเสียง  ผมใช้ อนาลอกจากซาวน์การ์ด มันดีกว่าออกจาก HDMI ไปเข้า AVR   เสียงมันแบ่งแชลแนลได้ดีกว่า อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเคยไปยกแอมป์ฟังเพลงมาต่อกับลำโพง center โห  คนละเรื่องกับให้ AVR ทำทุกอย่างจริงๆ    แต่ถ้า AVR ตัวท็อปๆ ที่ใช้ชิปถอดรหัสจำนวนเท่ากัน ยังไม่เคยลองครับ  ระหว่าง HDMI กับ อนาลอก ใน HTPC



Xonar 1.3 deluxe หรือเปล่าครับ
ของผมเปลี่ยนอ็อปแอ็มป์ 2114  ทั้ง๘ตัวเป็นOPA2107(มีของอยู่คงไม่ลงทุนไปมากกว่านี้แล้ว)
เสียงดีขึ้นอีกพอควรเลย

แต่ชุดใหญ่ยังไม่มี  ใช้หูฟังอย่างเดียวครับ


ใช่ครับท่าน    สำหรับ opamp มันเปลี่ยนได้อีกที่ภาคสุดท้ายอีกตัวนะครับ  ผมดัดแปลงการ์ด ใช้ opamp sun ครับ ลองดูเสียงไปได้อีกไกลครับ
แต่ผมใช้แค่ คู่หน้ากับ เซ็นเตอร์ครับ ตอนนี้กำลังจะ ออเดอร์ 627 single ที่กอดกันเป็น dual มาทดสอบครับ ไปฟังที่ HTPC ราคาเกินแสนเค้าใช้
แล้วติดใจครับ  เวลาฟังเพลงลืม พวก DAC ราคาแสนกว่าได้เลยครับ จริงๆ sun ที่ผมใช้ก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่ดันใช้คนเดียว ไม่มีพวก บอกว่าดีไม่ได้
(จริงๆ จะสั่งมาเพื่อทำ music server อีกตัวครับ จะกรุ๊ปบายก็ pm มาครับ)
ชุดของผม อัพเกรดไปหลายส่วนครับ ทั้งพัดลม ซีพียู และการ์ด ฯลฯ เปลี่ยนหมด ให้ประสิทธิภาพเมื่อใช้งานเป็น HTPC ได้ดีกว่า

ผมขออนุญาตเห็นแย้งต่อหลายๆ ท่าน เรื่อง HTPC ครับ   สงสารมันครับ มันไม่มีเจ้าภาพ(ไม่มียี่ห้อ และไม่ได้มีคนขาย ไอ้ที่มีขายก็สเปค ไม่ถูกต้อง) อย่าเอาไปอ้างอิงมาก

เวลาเราพูดถึงเครื่องเล่น Bluray หรือเครื่องเล่นไฟล์ hi-def สำเร็จรูป เช่น Dvico ไม่ว่าใครได้ครอบครอง มันก็คือมาตรฐานเดียวกัน ใช้งานง่าย
      สะดวกสบาย คล่องตัว  ราคาต่อประสิทธิภาพดี (แต่ไม่ดีมาก)

เวลาเราพูดถึง HTPC ไม่ว่าใครใช้อยู่  ไม่มีวันเหมือนกัน 100%  เพราะแต่ละคนมีมาตรฐานที่กล่าวอ้างว่าเป็น HTPC ไม่เหมือนกัน  ใช้งานยาก(ถ้าไม่
      มีความเข้าใจทั้ง ฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์)  ไม่คล่องตัวมากนัก   ราคาต่อประสิทธิภาพมีตั้งแต่พอใช้ถึงดีมาก     นั้นหมายความว่าถ้าเลือกส่วนประกอบ
      (ฮาร์ดแวร์) ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน HTPC หรือการตั้งค่าโปรแกรมที่ใช้ ทั้ง OS และ Application (ซอฟแวร์) ไม่เหมาะสมเช่นกัน  ผลลัพธ์อาจ
      ออกมาแค่ ..พอใช้... และทำให้หลายคนคิดว่า  มันแย่กว่า   แต่ในความเป็นจริงเชิงเทคนิค HTPC ที่ราคาประมาณ 1 แสน ให้ผลลัพธ์ได้ดีกว่า
      Blu-ray ที่ราคาระดับเดียวกัน และทำให้มันมี ราคาต่อประสิทธิภาพในระดับที่ ดีมาก

      HTPC ที่ผมใช้และอัพเกรดนิดหน่อย ตามยถากรรม  ก็ตกไปกว่า 6 หมื่นแล้ว ก่อนการจัดทำผมก็เปรียบเทียบกับเครื่องเล่นในระดับราคาเดียวกัน
เช่นกัน และอย่างน้อยมันก็ให้ ราคาต่อประสิทธิภาพ ในระดับที่ ดี เช่นกัน อาจเป็นเพราะผมมีความเข้าใจทั้ง ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟแวร์ เลยทำให้
สามารถเปรียบเทียบคุณภาพเชิงเทคนิคของสินค้ากับส่วนประกอบต่างๆ ได้  แต่ไม่จำเป็นต้องบอกว่ามันดีกว่า Dvico  เพียงเพราะผมจ่ายมากว่า
เช่นเดียวกันกับที่หลายคนพูดว่า Dvico มันดีกว่า HTPC เพียงเพราะว่า HTPC ที่แต่ละท่านได้สัมผัส มันไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ   
ซึ่งมันไม่แฟร์กับ คำว่า HTPC ที่ทุกคนเอาไปพูดถึงกันตลอด

      กลับกัน ถ้าใครเปรียบเทียบ ของที่มีเจ้าภาพ เราจะได้เห็นการโต้แย้งอย่างดุเดือด โดยมีผู้ใช้สินค้าชนิดเดียวกันเป็นแนวร่วมเสมอ   ต้องขอโทษที่
พาดพิง  ผมเห็นในอีกเวป เจ้าภาพอีกยี่ห้อหนึ่งออกมาใหม่ตอนนี้ แต่ราคาแค่ 6 พันกว่า บอกว่า มันให้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่า Dvico(เค้าก็ไม่ได้บอกว่ามันดีกว่า)
แค่พูดแค่นี้  คนใช้ Dvico ใครจะยอม อุตส่าห์จ่ายแพง แล้วมาบอกว่าเทียบเท่าของ 6 พันกว่า ก็ซัดกันไปมาอยู่  โถ... ก็ราคาชิปที่ใช้ มันราคาตกลงมาแล้ว
คนผลิตใหม่ ก็ต้นทุนต่ำกว่าเดิม มันก็ขายได้ ประสิทธิภาพก็เหมือนกัน ในที่สุด Dvico ก็ต้องออกรุ่นใหม่ ชิปใหม่ ฟีเจอร์ใหม่ ให้ก้าวหน้ากว่าเค้าต่อไป


เออ.... แต่ยังไงก็เป็นแค่ชิป ที่โปรแกรมและประมวลผลในตัวนะครับ  คนละเรื่องกับ ชิป ประมวลผลที่ใช้ในการ์ด ใน Com หรือ HTPC นะครับ ศึกษาก่อนอ้างอิง


ออฟไลน์ พงษ์

  • ***
    • กระทู้: 169
กระทู้นี้จำได้ว่าหลายเดือนแล้วล่ะครับ

ข้อสรุปหลังจากผ่านมาหลายเดือนผมว่ามันมีอยู่หลายปัจจัยครับ
ถ้างบถึงเงินถึงก็เล่น BD ไปเลยไม่ต้องสงสัยว่า ภาพตัวไหนดีกว่ากัน
แต่ถ้างบปานกลางไม่มากไม่มีเงินซื้อแผ่น ก็ Dvico ครับโหลดหนังเอาประหยัดเงิน

ถ้าถามแบบว่าอันไหนดีกว่าผมว่าคนที่ตอบได้ดีกว่าคือคนจ่ายเงินครับว่าพร้อมที่จะจ่ายไหม
BD ยอมดีกว่าแต่แพงกว่า ซื้อหนังเรื่องละเกือบพัน ไม่ต้องสงสัยภาพมันก็ดีกว่าแน่นอน
ถ้าถูกลงมาหน่อย แต่ได้ภาพคมชัดกว่า DVD เล่น Dvico ก็พอ ภาพแม้มันจะสู้ไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาด 1080P กลายเป็น DVD แน่นอน
เพราะถ้าคน ซีเรียสระดับ Video Phile แล้วผมว่าเขาเล่น BD กันหมดครับ   Dvico  ถ้าเล่น Full rip ถ้าไม่ได้ตาชั้นเทพหรือเอามาเปิดเทียบกันแบบ AB Test แล้ว
ผมว่ามันก็หายใจรดต้นคอ BD รุ่นกลางๆแล้วครับ

ส่วนเรื่องคอมมาดูหนังภาพถ้าจะให้มันดีกว่า Dvico อันนี้ผมว่าถ้าจะให้สู้กันได้และกิน Dvico ก็ต้องจ่ายแพง กว่า Dvico อยู่หลายตังนะครับ
 ไหนจะค่าการ์ดเสียงที่ถอดหรัส HD ได้ การ์ดจอ ที่คุณภาพ ดีดี อย่าง Ati รุ่นกลางๆ ไหนจะ Cpu ram อีก แถมกินไฟไม่ต่ำกว่า 300W ถ้าโดยรวมๆ แล้ว
Dvico ยังเล่นไฟล์ได้ดีกว่าและปัญหาน้อยกว่าสำหรับ user ที่ไม่ได้เก่งทางด้าน computer แต่ถ้าเป็น user ระดับเชียวชาญการปรับแต่งคอมแล้ว ใช้คอมดีกว่า
เพราะมันยืดหยุ่นแก้ไขอะไรได้ง่ายกว่า แต่ถ้าคอม สเปกไม่ดีก็จะมีปัญหาเรื่องกระตุก เวลาเล่นหนังอีกในบางครั้ง ถ้าคอมมีแล้ว ก็เล่นเลยครับ ระวังเรื่องพัดลมที่มีเสียงรบกวนนิดหน่อย 
แต่ถ้าจะซื้อใหม่ผมแนะนำว่า Dvico เล่นง่ายกว่า ราคาเดียวนี้ หมื่นสอง ก็เล่นได้แล้ว ถือว่าซื้อ BD รุ่นเล็กๆมาเล่นละกัน ประหยัดค่าซื้อแผ่นหนังไปได้เยอะ 
 

สรุปก็คือ ซื้อมาเพื่ออะไร งบประมาณ ที่จะเล่นมีแค่ไหน
สำหรับผมเคยเอามา com มาดูหนัง ผมว่ามันใช้งานลำบากกว่าหน่อยและภาพถ้าการ์ดรุ่นเล็กภาพก็ออกคล้ายๆคุณ Lukjeab's Daddy 
เสียงที่ได้ยังคุณภาพไม่ดีนักและที่เป็นปัญหาสำหรับ BD rip อยู่ก็ระบบเสียง HD ณ เวลานี้ยังต้องซื้อการ์ดเสียงที่ support และ com กินไฟมากกว่าพร้อมเสียงพัดลมที่รบกวนจากเคสอีกทางนึง
ถ้างบถึง เล่น case ดีดี เก็บเสียง การ์ดจอดีดี  Cpu แรงๆ sound card ดีดี ก็น่าใช้กว่า Dvico ครับ
Dvico เล่นง่ายภาพคุณภาพรับได้หาไฟล์สะดวก ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน รองรับระบบ เสียง HD 
BD คุณภาพดีเสียงดีที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นไฟล์ Hidef แต่ต้องยอมจ่ายค่า Software ที่ยังมีราคาสูงอยู่บ้าง ในอนาคตผมว่าราคาคงจะลงมาเหลือ 2-300 บาท ก็คงแพร่หลาย

ลองวิเคราะห์เอาว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหน
ผมเลิกคิดไปแล้วเพราะเวลาดูหนังจริงๆผมไม่เคยมานั่งจับผิดเรื่อง noise ความคม สีสรร อะไรแล้วครับถ้าชุดมันดีระดับหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
เวลาดูหนังสิ่งที่ดูคืออะไรครับ จะดูภาพจับผิดภาพไม่คมสีไม่สด noise เพียบหรือดูเอาความสนุกจากหนังครับ     


เห็นด้วยอย่างยิ่ง ถ้ามีตังค์ถ้างบไม่จำกัด เล่น HTPC มันมีอะไรให้เล่นเยอะแยะ up เข้าได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ

ต้องเอาตัวแปรมาเพิ่มถ้าจะเทียบกัน เช่น งบประมาณเท่าไหร่ อะไรเป็น display

จอ FullHD 50 นิ้ว นั่งห่าง 3 m. มันมองความแตกต่างได้แค่ไหนครับ ลองเอาความเป็นจริงนะ อย่าเอาทฤษฏีว่าของแพงกว่าต้องดีกว่า

ถ้าจอใหญ่ๆ เป็น 100 นิ้ว อันนี้น่าจะมองออกได้ง่ายกว่า

สำหรับผมนะเคยผ่านมาแล้วตอนตัดสินใจจะเล่นและก็จบตรงแนวคิดเดียวกับพี่ Pete ว่าเอามาทำอะไร ผมเอามาดูหนังแบบประหยัดเลยลงตัวที่ DVICO ครับ


ออฟไลน์ nut_ty

  • คนดีคือคนที่ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
  • ผู้สนับสนุน web 1ปี
  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,901
    • เพศ:ชาย
ไม่ได้โฆษณานะครับ แต่ HTPC ต้องเป็นแบบที่ทำมาเฉพาะครับ PC ที่เอามาดัดแปลงเป็น HTPC จะมีความสามารถด้านอื่นๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องใช้อยู่ด้วยครับ ลองอ่านตามลิ้งค์ของผมดูครับ  :)

http://www.htg2.net/index.php?topic=58580.msg717997#msg717997
นายวัชระ สลัดแก้ว
โทร 083 1214445


ออฟไลน์ TripleXXX

  • *****
    • กระทู้: 539
    • เพศ:ชาย
กระทู้นี้จำได้ว่าหลายเดือนแล้วล่ะครับ

ข้อสรุปหลังจากผ่านมาหลายเดือนผมว่ามันมีอยู่หลายปัจจัยครับ
ถ้างบถึงเงินถึงก็เล่น BD ไปเลยไม่ต้องสงสัยว่า ภาพตัวไหนดีกว่ากัน
แต่ถ้างบปานกลางไม่มากไม่มีเงินซื้อแผ่น ก็ Dvico ครับโหลดหนังเอาประหยัดเงิน

ถ้าถามแบบว่าอันไหนดีกว่าผมว่าคนที่ตอบได้ดีกว่าคือคนจ่ายเงินครับว่าพร้อมที่จะจ่ายไหม
BD ยอมดีกว่าแต่แพงกว่า ซื้อหนังเรื่องละเกือบพัน ไม่ต้องสงสัยภาพมันก็ดีกว่าแน่นอน
ถ้าถูกลงมาหน่อย แต่ได้ภาพคมชัดกว่า DVD เล่น Dvico ก็พอ ภาพแม้มันจะสู้ไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาด 1080P กลายเป็น DVD แน่นอน
เพราะถ้าคน ซีเรียสระดับ Video Phile แล้วผมว่าเขาเล่น BD กันหมดครับ   Dvico  ถ้าเล่น Full rip ถ้าไม่ได้ตาชั้นเทพหรือเอามาเปิดเทียบกันแบบ AB Test แล้ว
ผมว่ามันก็หายใจรดต้นคอ BD รุ่นกลางๆแล้วครับ

ส่วนเรื่องคอมมาดูหนังภาพถ้าจะให้มันดีกว่า Dvico อันนี้ผมว่าถ้าจะให้สู้กันได้และกิน Dvico ก็ต้องจ่ายแพง กว่า Dvico อยู่หลายตังนะครับ
 ไหนจะค่าการ์ดเสียงที่ถอดหรัส HD ได้ การ์ดจอ ที่คุณภาพ ดีดี อย่าง Ati รุ่นกลางๆ ไหนจะ Cpu ram อีก แถมกินไฟไม่ต่ำกว่า 300W ถ้าโดยรวมๆ แล้ว
Dvico ยังเล่นไฟล์ได้ดีกว่าและปัญหาน้อยกว่าสำหรับ user ที่ไม่ได้เก่งทางด้าน computer แต่ถ้าเป็น user ระดับเชียวชาญการปรับแต่งคอมแล้ว ใช้คอมดีกว่า
เพราะมันยืดหยุ่นแก้ไขอะไรได้ง่ายกว่า แต่ถ้าคอม สเปกไม่ดีก็จะมีปัญหาเรื่องกระตุก เวลาเล่นหนังอีกในบางครั้ง ถ้าคอมมีแล้ว ก็เล่นเลยครับ ระวังเรื่องพัดลมที่มีเสียงรบกวนนิดหน่อย 
แต่ถ้าจะซื้อใหม่ผมแนะนำว่า Dvico เล่นง่ายกว่า ราคาเดียวนี้ หมื่นสอง ก็เล่นได้แล้ว ถือว่าซื้อ BD รุ่นเล็กๆมาเล่นละกัน ประหยัดค่าซื้อแผ่นหนังไปได้เยอะ 
 

สรุปก็คือ ซื้อมาเพื่ออะไร งบประมาณ ที่จะเล่นมีแค่ไหน
สำหรับผมเคยเอามา com มาดูหนัง ผมว่ามันใช้งานลำบากกว่าหน่อยและภาพถ้าการ์ดรุ่นเล็กภาพก็ออกคล้ายๆคุณ Lukjeab's Daddy 
เสียงที่ได้ยังคุณภาพไม่ดีนักและที่เป็นปัญหาสำหรับ BD rip อยู่ก็ระบบเสียง HD ณ เวลานี้ยังต้องซื้อการ์ดเสียงที่ support และ com กินไฟมากกว่าพร้อมเสียงพัดลมที่รบกวนจากเคสอีกทางนึง
ถ้างบถึง เล่น case ดีดี เก็บเสียง การ์ดจอดีดี  Cpu แรงๆ sound card ดีดี ก็น่าใช้กว่า Dvico ครับ
Dvico เล่นง่ายภาพคุณภาพรับได้หาไฟล์สะดวก ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน รองรับระบบ เสียง HD 
BD คุณภาพดีเสียงดีที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นไฟล์ Hidef แต่ต้องยอมจ่ายค่า Software ที่ยังมีราคาสูงอยู่บ้าง ในอนาคตผมว่าราคาคงจะลงมาเหลือ 2-300 บาท ก็คงแพร่หลาย

ลองวิเคราะห์เอาว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหน
ผมเลิกคิดไปแล้วเพราะเวลาดูหนังจริงๆผมไม่เคยมานั่งจับผิดเรื่อง noise ความคม สีสรร อะไรแล้วครับถ้าชุดมันดีระดับหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
เวลาดูหนังสิ่งที่ดูคืออะไรครับ จะดูภาพจับผิดภาพไม่คมสีไม่สด noise เพียบหรือดูเอาความสนุกจากหนังครับ     


ถูกทุกข้อเลยครับ   คอมมันเล่นยากกว่า กินไฟกว่า คนไม่รู้เรื่อง เล่นไม่ได้แน่นอน  O0

SuperRich International1965
รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
อยู่ชั้นใต้ดินสนามบินสุวรรณภูมิ
ติดต่อผมได้ครับ


ออฟไลน์ yai-united

  • ****
    • กระทู้: 438
กระทู้นี้จำได้ว่าหลายเดือนแล้วล่ะครับ

ข้อสรุปหลังจากผ่านมาหลายเดือนผมว่ามันมีอยู่หลายปัจจัยครับ
ถ้างบถึงเงินถึงก็เล่น BD ไปเลยไม่ต้องสงสัยว่า ภาพตัวไหนดีกว่ากัน
แต่ถ้างบปานกลางไม่มากไม่มีเงินซื้อแผ่น ก็ Dvico ครับโหลดหนังเอาประหยัดเงิน

ถ้าถามแบบว่าอันไหนดีกว่าผมว่าคนที่ตอบได้ดีกว่าคือคนจ่ายเงินครับว่าพร้อมที่จะจ่ายไหม
BD ยอมดีกว่าแต่แพงกว่า ซื้อหนังเรื่องละเกือบพัน ไม่ต้องสงสัยภาพมันก็ดีกว่าแน่นอน
ถ้าถูกลงมาหน่อย แต่ได้ภาพคมชัดกว่า DVD เล่น Dvico ก็พอ ภาพแม้มันจะสู้ไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาด 1080P กลายเป็น DVD แน่นอน
เพราะถ้าคน ซีเรียสระดับ Video Phile แล้วผมว่าเขาเล่น BD กันหมดครับ   Dvico  ถ้าเล่น Full rip ถ้าไม่ได้ตาชั้นเทพหรือเอามาเปิดเทียบกันแบบ AB Test แล้ว
ผมว่ามันก็หายใจรดต้นคอ BD รุ่นกลางๆแล้วครับ

ส่วนเรื่องคอมมาดูหนังภาพถ้าจะให้มันดีกว่า Dvico อันนี้ผมว่าถ้าจะให้สู้กันได้และกิน Dvico ก็ต้องจ่ายแพง กว่า Dvico อยู่หลายตังนะครับ
 ไหนจะค่าการ์ดเสียงที่ถอดหรัส HD ได้ การ์ดจอ ที่คุณภาพ ดีดี อย่าง Ati รุ่นกลางๆ ไหนจะ Cpu ram อีก แถมกินไฟไม่ต่ำกว่า 300W ถ้าโดยรวมๆ แล้ว
Dvico ยังเล่นไฟล์ได้ดีกว่าและปัญหาน้อยกว่าสำหรับ user ที่ไม่ได้เก่งทางด้าน computer แต่ถ้าเป็น user ระดับเชียวชาญการปรับแต่งคอมแล้ว ใช้คอมดีกว่า
เพราะมันยืดหยุ่นแก้ไขอะไรได้ง่ายกว่า แต่ถ้าคอม สเปกไม่ดีก็จะมีปัญหาเรื่องกระตุก เวลาเล่นหนังอีกในบางครั้ง ถ้าคอมมีแล้ว ก็เล่นเลยครับ ระวังเรื่องพัดลมที่มีเสียงรบกวนนิดหน่อย 
แต่ถ้าจะซื้อใหม่ผมแนะนำว่า Dvico เล่นง่ายกว่า ราคาเดียวนี้ หมื่นสอง ก็เล่นได้แล้ว ถือว่าซื้อ BD รุ่นเล็กๆมาเล่นละกัน ประหยัดค่าซื้อแผ่นหนังไปได้เยอะ 
 

สรุปก็คือ ซื้อมาเพื่ออะไร งบประมาณ ที่จะเล่นมีแค่ไหน
สำหรับผมเคยเอามา com มาดูหนัง ผมว่ามันใช้งานลำบากกว่าหน่อยและภาพถ้าการ์ดรุ่นเล็กภาพก็ออกคล้ายๆคุณ Lukjeab's Daddy 
เสียงที่ได้ยังคุณภาพไม่ดีนักและที่เป็นปัญหาสำหรับ BD rip อยู่ก็ระบบเสียง HD ณ เวลานี้ยังต้องซื้อการ์ดเสียงที่ support และ com กินไฟมากกว่าพร้อมเสียงพัดลมที่รบกวนจากเคสอีกทางนึง
ถ้างบถึง เล่น case ดีดี เก็บเสียง การ์ดจอดีดี  Cpu แรงๆ sound card ดีดี ก็น่าใช้กว่า Dvico ครับ
Dvico เล่นง่ายภาพคุณภาพรับได้หาไฟล์สะดวก ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน รองรับระบบ เสียง HD 
BD คุณภาพดีเสียงดีที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นไฟล์ Hidef แต่ต้องยอมจ่ายค่า Software ที่ยังมีราคาสูงอยู่บ้าง ในอนาคตผมว่าราคาคงจะลงมาเหลือ 2-300 บาท ก็คงแพร่หลาย

ลองวิเคราะห์เอาว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหน
ผมเลิกคิดไปแล้วเพราะเวลาดูหนังจริงๆผมไม่เคยมานั่งจับผิดเรื่อง noise ความคม สีสรร อะไรแล้วครับถ้าชุดมันดีระดับหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
เวลาดูหนังสิ่งที่ดูคืออะไรครับ จะดูภาพจับผิดภาพมืดไปสีไม่สด noise เพียบหรือดูเอาความสนุกจากหนังครับ     

:clapตอบได้เยี่ยมครับ ชัดเจนเข้าใจง่าย  O0  O0  O0


ออฟไลน์ tsainont (FilmJunkie)

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,593
    • เพศ:ชาย
    • Sanguan Electric
ลองวิเคราะห์เอาว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหน
ผมเลิกคิดไปแล้วเพราะเวลาดูหนังจริงๆผมไม่เคยมานั่งจับผิดเรื่อง noise ความคม สีสรร อะไรแล้วครับถ้าชุดมันดีระดับหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
เวลาดูหนังสิ่งที่ดูคืออะไรครับ จะดูภาพจับผิดภาพมืดไปสีไม่สด noise เพียบหรือดูเอาความสนุกจากหนังครับ     


จริงๆ ครับ หลังๆ นั่งปรับไปปรับมา เทียบไปเทียบมา เหนื่อยครับ มันต่างกันไม่เท่าไหร่หรอก พอหันกลับมาดู มีหนังยังไม่ได้ดูอีกหลายเรื่อง มานั่งดูหนังดีกว่า จับผิดแล้วเครียด
เปล่าๆ (แต่ตอนนี้ติดเล่นเกมส์ Uncharted 2 อยู่ อิอิ)

ส่วนเครื่องก็ตามสะดวก ถนัดอันไหนเอาอันนั้น
สนใจผลิตภัณฑ์พัดลมอุตสาหกรรม พัดลมโรงงาน พัดลมฟาร์ม พัดลมเกษตร โบลเออร์ เชิญที่ www.se-fan.com นะครับ


ออฟไลน์ Pete

  • *****
    • กระทู้: 786
กระทู้นี้จำได้ว่าหลายเดือนแล้วล่ะครับ

ข้อสรุปหลังจากผ่านมาหลายเดือนผมว่ามันมีอยู่หลายปัจจัยครับ
ถ้างบถึงเงินถึงก็เล่น BD ไปเลยไม่ต้องสงสัยว่า ภาพตัวไหนดีกว่ากัน
แต่ถ้างบปานกลางไม่มากไม่มีเงินซื้อแผ่น ก็ Dvico ครับโหลดหนังเอาประหยัดเงิน

ถ้าถามแบบว่าอันไหนดีกว่าผมว่าคนที่ตอบได้ดีกว่าคือคนจ่ายเงินครับว่าพร้อมที่จะจ่ายไหม
BD ยอมดีกว่าแต่แพงกว่า ซื้อหนังเรื่องละเกือบพัน ไม่ต้องสงสัยภาพมันก็ดีกว่าแน่นอน
ถ้าถูกลงมาหน่อย แต่ได้ภาพคมชัดกว่า DVD เล่น Dvico ก็พอ ภาพแม้มันจะสู้ไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาด 1080P กลายเป็น DVD แน่นอน
เพราะถ้าคน ซีเรียสระดับ Video Phile แล้วผมว่าเขาเล่น BD กันหมดครับ   Dvico  ถ้าเล่น Full rip ถ้าไม่ได้ตาชั้นเทพหรือเอามาเปิดเทียบกันแบบ AB Test แล้ว
ผมว่ามันก็หายใจรดต้นคอ BD รุ่นกลางๆแล้วครับ

ส่วนเรื่องคอมมาดูหนังภาพถ้าจะให้มันดีกว่า Dvico อันนี้ผมว่าถ้าจะให้สู้กันได้และกิน Dvico ก็ต้องจ่ายแพง กว่า Dvico อยู่หลายตังนะครับ
 ไหนจะค่าการ์ดเสียงที่ถอดหรัส HD ได้ การ์ดจอ ที่คุณภาพ ดีดี อย่าง Ati รุ่นกลางๆ ไหนจะ Cpu ram อีก แถมกินไฟไม่ต่ำกว่า 300W ถ้าโดยรวมๆ แล้ว
Dvico ยังเล่นไฟล์ได้ดีกว่าและปัญหาน้อยกว่าสำหรับ user ที่ไม่ได้เก่งทางด้าน computer แต่ถ้าเป็น user ระดับเชียวชาญการปรับแต่งคอมแล้ว ใช้คอมดีกว่า
เพราะมันยืดหยุ่นแก้ไขอะไรได้ง่ายกว่า แต่ถ้าคอม สเปกไม่ดีก็จะมีปัญหาเรื่องกระตุก เวลาเล่นหนังอีกในบางครั้ง ถ้าคอมมีแล้ว ก็เล่นเลยครับ ระวังเรื่องพัดลมที่มีเสียงรบกวนนิดหน่อย 
แต่ถ้าจะซื้อใหม่ผมแนะนำว่า Dvico เล่นง่ายกว่า ราคาเดียวนี้ หมื่นสอง ก็เล่นได้แล้ว ถือว่าซื้อ BD รุ่นเล็กๆมาเล่นละกัน ประหยัดค่าซื้อแผ่นหนังไปได้เยอะ 
 

สรุปก็คือ ซื้อมาเพื่ออะไร งบประมาณ ที่จะเล่นมีแค่ไหน
สำหรับผมเคยเอามา com มาดูหนัง ผมว่ามันใช้งานลำบากกว่าหน่อยและภาพถ้าการ์ดรุ่นเล็กภาพก็ออกคล้ายๆคุณ Lukjeab's Daddy 
เสียงที่ได้ยังคุณภาพไม่ดีนักและที่เป็นปัญหาสำหรับ BD rip อยู่ก็ระบบเสียง HD ณ เวลานี้ยังต้องซื้อการ์ดเสียงที่ support และ com กินไฟมากกว่าพร้อมเสียงพัดลมที่รบกวนจากเคสอีกทางนึง
ถ้างบถึง เล่น case ดีดี เก็บเสียง การ์ดจอดีดี  Cpu แรงๆ sound card ดีดี ก็น่าใช้กว่า Dvico ครับ
Dvico เล่นง่ายภาพคุณภาพรับได้หาไฟล์สะดวก ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน รองรับระบบ เสียง HD 
BD คุณภาพดีเสียงดีที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นไฟล์ Hidef แต่ต้องยอมจ่ายค่า Software ที่ยังมีราคาสูงอยู่บ้าง ในอนาคตผมว่าราคาคงจะลงมาเหลือ 2-300 บาท ก็คงแพร่หลาย

ลองวิเคราะห์เอาว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหน
ผมเลิกคิดไปแล้วเพราะเวลาดูหนังจริงๆผมไม่เคยมานั่งจับผิดเรื่อง noise ความคม สีสรร อะไรแล้วครับถ้าชุดมันดีระดับหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
เวลาดูหนังสิ่งที่ดูคืออะไรครับ จะดูภาพจับผิดภาพไม่คมสีไม่สด noise เพียบหรือดูเอาความสนุกจากหนังครับ     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 พฤศจิกายน, 2009, 10:36:51 am โดย Pete »


ออฟไลน์ yos_iambox

  • *
    • กระทู้: 37
ผมอยากลองเอามาเทียบกัน แล้วถ่ายรูปมาดูกันผมอยากรู้เรื่องภาพว่ามันต่างกันยังงัย แล้วก็สเปกคอมสัก2หมื่น ว่าคอมจะทำได้แค่ไหน


ออฟไลน์ Lukjeab's Daddy

  • Lukjeab Hi Fi
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 11,132
  • รักวัวให้ผูก รักลูกให้ซื้อเครื่องเสียงให้ลูกฟัง
เล่าให้ฟังเฉยๆ

คอมผมธรรมดา การ์ดจอ on board intel X4500 เล่น file hidef ก็โอเค ภาพดูดี มี noise เล่นไฟล์ DVD ทั่วไปภาพไม่สวยเท่าไหร่สู้เครื่องเล่น DVD ไม่ได้

เล่นไฟล์พวกซีรีย์เกาหลี ภาพดูไม่ได้เลย ยังกะ VCD

พอดีสั่งเครื่องเล่น Media player ราคา 6 พันกว่า

ลองเล่น file hidef ภาพสวย noise น้อยกว่าคอม เล่นไฟล์ DVD ทั่วไป upscale ที่ 1080i ภาพสวยต่างจาก hidef บ้างแต่ดีกว่าคอม

เล่นไฟล์พวกซีรีย์เกาหลี ที่เล่นกับคอมภาพดูไม่ได้แปลกดี แค่ที่ 480i ภาพก็ปกติเหมือน DVD ทั่วไป ไม่หยาบเป็นโมเสคเหมือน VCD ตอนที่เล่นกับคอม

ผมว่าภาพจากเครื่องเล่นโดยเฉพาะมันคงมี chip ประมวลผลเฉพาะทาง เลยทำให้ภาพสวยกว่า ไม่งั้นคงขายไม่ออก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 พฤศจิกายน, 2009, 01:15:16 pm โดย Lukjeab's Daddy »


ออฟไลน์ wat12(คุ้ม)

  • ชอบรวมสิ่งที่ดีๆเข้าด้วยกัน จึงไม่เกี่ยงทั้งเทคโนโลยี่แรกเริ่ม หรือล่าสุด
  • ผู้สนับสนุน web
  • Super Star.
  • *
    • กระทู้: 2,839
  • DLP 4 Studiotek130 , TUBE 4 STAX , SSamp 4 spk
จากที่ลองนะครับ ภาพของDvico(เล่นหนังFull Rip) ใกล้เคียงกับBDP-51
แต่เสียง สู้51ไม่ได้เลยครับ   d_d d_d d_d
แต่ถ้าเทียบภาพDvicoกับHTPC ผมว่าDvicoสวยกว่าครับ คอมNoiseเยอะ (หรือผมSetupคอมไม่ถูกหว่า)

ไม่ใช่แล้วครับอย่างนี้   ชิปประมวลผลใน Dvico ธรรมดาครับ เครื่องเล่นรุ่นย่อมลงมายี่ห้ออื่นก็ใช้ตัวเดียวกัน เมื่อเทียบกับ การ์ดจอค่ายแดง รุ่นเทพ ใช้ร่วมกับ TMT แล้วต้องเอาไปชนกับ Bluray รุ่นใหญ่ครับ   Dvico ยังเอามาอ้างอิงไม่ได้ครับ 
ประเด็นของการ์ดจอค่ายแดง .....ต้อง...... เปลี่ยนพัดลมครับ  และเผื่อพื้นที่พัดลมให้มันเงียบๆ ซัก 3 สล็อต  ราคาการ์ด+พัดลมใหม่ ก็จะเท่า Dvico แล้วครับ    ภาพเทียบกันไม่ได้ครับ      ผมก็ใช้ครับ Dvico แต่เอาไว้ในห้องนอน  ส่วน HTPC ใช้ในห้องโฮมครับ

ส่วนเรื่องระบบเสียง  ผมใช้ อนาลอกจากซาวน์การ์ด มันดีกว่าออกจาก HDMI ไปเข้า AVR   เสียงมันแบ่งแชลแนลได้ดีกว่า อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเคยไปยกแอมป์ฟังเพลงมาต่อกับลำโพง center โห  คนละเรื่องกับให้ AVR ทำทุกอย่างจริงๆ    แต่ถ้า AVR ตัวท็อปๆ ที่ใช้ชิปถอดรหัสจำนวนเท่ากัน ยังไม่เคยลองครับ  ระหว่าง HDMI กับ อนาลอก ใน HTPC



Xonar 1.3 deluxe หรือเปล่าครับ
ของผมเปลี่ยนอ็อปแอ็มป์ 2114  ทั้ง๘ตัวเป็นOPA2107(มีของอยู่คงไม่ลงทุนไปมากกว่านี้แล้ว)
เสียงดีขึ้นอีกพอควรเลย

แต่ชุดใหญ่ยังไม่มี  ใช้หูฟังอย่างเดียวครับ
ไม่มีอะไรดีที่สุด การค้นหาข้อดีของแต่ละอย่างแล้วผนวกเข้าด้วยกันเพื่อความพึงพอใจคือสิ่งที่ท้าทาย  " ทำเหมือนเขา ได้ดีที่สุดคือเท่าเขา แต่ส่วนใหญ่จะแพ้เขา แต่ถ้าเราใส่ไอเดียคิดใหม่ของเราเข้าไป โอกาสชนะและดีกว่ามีครับ " สนับสนุนการคิด ไม่พิศมัยการลอกทั้งดุ้น

http://www.htg2.net/index.php?topic=23262


ออฟไลน์ khun_sor

  • ***
    • กระทู้: 216
    • เพศ:ชาย
จากที่ลองนะครับ ภาพของDvico(เล่นหนังFull Rip) ใกล้เคียงกับBDP-51
แต่เสียง สู้51ไม่ได้เลยครับ   d_d d_d d_d
แต่ถ้าเทียบภาพDvicoกับHTPC ผมว่าDvicoสวยกว่าครับ คอมNoiseเยอะ (หรือผมSetupคอมไม่ถูกหว่า)

ไม่ใช่แล้วครับอย่างนี้   ชิปประมวลผลใน Dvico ธรรมดาครับ เครื่องเล่นรุ่นย่อมลงมายี่ห้ออื่นก็ใช้ตัวเดียวกัน เมื่อเทียบกับ การ์ดจอค่ายแดง รุ่นเทพ ใช้ร่วมกับ TMT แล้วต้องเอาไปชนกับ Bluray รุ่นใหญ่ครับ   Dvico ยังเอามาอ้างอิงไม่ได้ครับ 
ประเด็นของการ์ดจอค่ายแดง .....ต้อง...... เปลี่ยนพัดลมครับ  และเผื่อพื้นที่พัดลมให้มันเงียบๆ ซัก 3 สล็อต  ราคาการ์ด+พัดลมใหม่ ก็จะเท่า Dvico แล้วครับ    ภาพเทียบกันไม่ได้ครับ      ผมก็ใช้ครับ Dvico แต่เอาไว้ในห้องนอน  ส่วน HTPC ใช้ในห้องโฮมครับ

ส่วนเรื่องระบบเสียง  ผมใช้ อนาลอกจากซาวน์การ์ด มันดีกว่าออกจาก HDMI ไปเข้า AVR   เสียงมันแบ่งแชลแนลได้ดีกว่า อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเคยไปยกแอมป์ฟังเพลงมาต่อกับลำโพง center โห  คนละเรื่องกับให้ AVR ทำทุกอย่างจริงๆ    แต่ถ้า AVR ตัวท็อปๆ ที่ใช้ชิปถอดรหัสจำนวนเท่ากัน ยังไม่เคยลองครับ  ระหว่าง HDMI กับ อนาลอก ใน HTPC



ออฟไลน์ bt5000

  • ***
    • กระทู้: 246
ระบบเสียงได้ truehd, dts hd 5.1 ไหมครับ สำหรับ hd player ตอนนี้มีรุ่นไหนน่าเล่นบ้างครับ


ออฟไลน์ chung_usa

  • ***
    • กระทู้: 148

ออฟไลน์ yos_iambox

  • *
    • กระทู้: 37
เก็บข้อมูลครับ เอาไว้หาที่ test กันไหมครับ สงสัยมาหลายเดือนแล้วไม่เห็นมีเวปไหน testกัน หรือผมหาไม่เจอ


ออฟไลน์ Pete

  • *****
    • กระทู้: 786
รอพี่ saitosan มาตอบดีกว่า

ผมรอรีวิว LX71 vs DVICO 7010 นานมากๆ ละ  c) c) c)
ได้เลยครับ ผมดูคร่าวๆ จากเรื่อง kungfu Panda Bluray Rip VS Dvico เรื่องภาพแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ เรื่องเสียงยังไม่ได้เปรียบกันจะๆครับ
เดี๋ยวยังไงจะรีวิวให้ดูอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดนึงครับ ทำธุรกิจหลายอย่างครับ อิๆๆๆๆ  :)


น่าสนใจครับ  ถ้ามีเพื่อนๆที่มีเครื่อง LX71 และสามารถยืมมาลองที่บ้านได้ก็รบกวนด้วยนะครับ จะได้ลองเทียบแบบจ๊ะๆ เลย... สงสัยมานานแล้ว เหมือนกัน..จะรีวิวให้ครับ O0

ผมมี LX70 พอสูสีมั้ยครับ

ผมว่ากระทู้นี้อยากได้ ความแตกต่างระหว่าง Bluray ต้นฉบับ กับ MKV นะครับ ผมว่าแค่ LX70 ก็น่าจะเทียบกันเห็นแล้วครับ
ถ้าคุณเจ้าแดงอยากลองมาเทียบภาพและเสียงกัน เดียว PM คุยกันได้เลยครับผม ขอบคุณครับ   


ออฟไลน์ tawatchai

  • ***
    • กระทู้: 124
สงสัยถูกบล๊อค  :cry2 :cry2 :cry2ทำไมมองไม่เห้นกระทู้ที่มีการตอบมา


ออฟไลน์ เจ้าแดง

  • *
    • กระทู้: 38
รอพี่ saitosan มาตอบดีกว่า

ผมรอรีวิว LX71 vs DVICO 7010 นานมากๆ ละ  c) c) c)
ได้เลยครับ ผมดูคร่าวๆ จากเรื่อง kungfu Panda Bluray Rip VS Dvico เรื่องภาพแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ เรื่องเสียงยังไม่ได้เปรียบกันจะๆครับ
เดี๋ยวยังไงจะรีวิวให้ดูอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดนึงครับ ทำธุรกิจหลายอย่างครับ อิๆๆๆๆ  :)


น่าสนใจครับ  ถ้ามีเพื่อนๆที่มีเครื่อง LX71 และสามารถยืมมาลองที่บ้านได้ก็รบกวนด้วยนะครับ จะได้ลองเทียบแบบจ๊ะๆ เลย... สงสัยมานานแล้ว เหมือนกัน..จะรีวิวให้ครับ O0

ผมมี LX70 พอสูสีมั้ยครับ


ออฟไลน์ aouzaa

  • *****
    • กระทู้: 706
    • เพศ:ชาย
ชม นี้อะไรคุ้มสุดครับ

ถ้า BD copy ทำได้ดีพอหรือยังครับ สำหรับการเล่น BD Player
แล้ว HTPC สามารถใส่ BD Drive เพื่อเล่นแผ่น BD ได้หรือไม่ครับ

BD Drive สำหรับ HTPC เริ่มมีขายแล้วแต่ ชม.นี้ ยังไม่น่าซื้อ
เพราะราคาตกอยู่ 6-7,000 บาท
 :nono


ออฟไลน์ PiNG

  • **
    • กระทู้: 55
ชม นี้อะไรคุ้มสุดครับ

ถ้า BD copy ทำได้ดีพอหรือยังครับ สำหรับการเล่น BD Player
แล้ว HTPC สามารถใส่ BD Drive เพื่อเล่นแผ่น BD ได้หรือไม่ครับ


ออฟไลน์ Mimi_dady

  • ***
    • กระทู้: 138


เท่าที่ผมเคยดูเปรียบเทียบกันระหว่างไฟล์ .mkv (15-20 GB.) กะ full rip Blu-ray (30-50 GB.)
ผ่านทาง HTPC >HDMI >PJ Sony HS-50
ฉากเดียวกัน เรื่องเดียวกัน ผมว่า full rip (Blu-ray) เหนือกว่าชัดเจน ในแง่คุณภาพของภาพและเสียง
Bitstream >>> DTS-HD, Dolby True-HD  เสียงเข้า AVR Yamaha RX-V1800
การโยนเสียง ออกลำโพงแต่ละ channal ก็ทำได้อย่างชัดเจน

แทบจะไม่ต่าง(อาจดีกว่า) กะการเล่นจาก Blu-Ray Player เลย

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ...ตัว HTPC,การ์ดจอ,การ์ดเสียง,softwares,การ setup ที่ถูกต้องด้วยครับ
จึงจะได้สัมผัส ขีดความสามารถที่แท้จริงของ HTPC

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองที่เล่น HTPC นะครับ
เพราะ HTPC ตัวนี้กะว่าประกอบมาเพื่อรอเจ้า oppo Blu-ray player เท่านั้น (รอ..รออ... เมื่อหร่าย มานจาออกซะที)

พอได้ใช้ HTPC ก็รู้สึก "O" มากครั้นจะถอย Dvico มาอีกก็ซ้ำซ้อน เก็บเงินไว้ถอย Blu-ray Player เลยดีกว่า

แต่ข้อเสีย HTPC คือ เล่นแล้ว "งบ...บานปลาย"
(ฮาร์ดดิสก์ 1.5 TB ปาไป 13 ลูกแล้ว :'( )

 :kicking :kicking :kicking

[/quote]


โห 1.5  TB 13 ลูก ไม่ทราบว่าพี่พอจะแบ่งให้น้อง ๆ  ดูดบ้างได้มั้ยครับ   :o


ออฟไลน์ เจ้าแดง

  • *
    • กระทู้: 38
เคยเล่น HTPC อยู่พักนึงครับช่วง 2ปีก่อน สมัย เจ้า BDP-LX70 ของ Pioneer เปิดตัวมา 79,900 หรือ 69,900 เนี่ยแหล่ะครับ ซื้อไม่ลงจริงๆ เริ่มขยับมาเป็นเจ้า PS3 ซึ่งขอบอกตามตรงเลยว่า HTPC ดีกว่าเจ้า PS3 เป็นอย่างมาก เสียง PS3 ต่อเข้า Receiver เสียง Drop ลงอย่างน่าใจหาย เรียกได้ว่าห่วยเลยครับ แต่ HTPC ก็ขึ้นอยู่กับ sound ที่เราใช้อีกครับ  ผมสุดท้ายพี่ชายก็สอยเจ้า BDP-LX70A ในราคาไม่ถึง 50k มา เอาหนังเรื่อง I AM LEGEND มาเทียบเรื่องสีและ มิติ ตอนนั้นใช้เจ้า Philips PFL9532 ถือได้ว่าสี และมิติดีมากครับ สายผมใช้เจ้า Monster 1000 Ultra กับ Audioquest HDMI3  พักหลังเจ้า "สัตว์ประหลาด"ต้องอยู่ในตู้ตลอดไม่ได้เอาออกมาเล่นอีกเลย จริงๆก็แยกแยะไม่ค่อยออกเท่าไหร่หรอกครับ อิ อิ


ออฟไลน์ Pontus

  • ***
    • กระทู้: 191
ข้อดีอีกข้อของ HTPC คือ มันเล่นได้ทุก Format ไม่เสียเวลาแปลง file ครับ ;D


ออฟไลน์ tawatchai

  • ***
    • กระทู้: 124
ขอบคุณสำหรับข้อมูลทุกท่านที่ช่วยให้มาครับแต่งยังไงก้จะรอรีวิวเซียนทั้งหลายต่อครับ  เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกลงทุน(เพื่อนผมแนะอยากให้เล่น HTPC)  คุณหมอนพก็มีทั้ง 2 แบบ ก็น่าจะสามารถเปรียบเทียบนะครับ ตัวเอง เอ้า !!!!เล่นไม่เลิก ย้อเย่นนะหมอ :wiggle


ออฟไลน์ พายุ

  • **
    • กระทู้: 76
นั่นแน่ะ หมอนพ ขอดูด อะไรมิทราบบบบบ ;D ;D :D

บ้าน่าตัวเองก้ออออ ;)  55555555 :yahoo

เดี่ยวกระทู้นี้อาจจะโดนแบน  เพราะติดเรท..อิอิ 2f 2f 2f




ออฟไลน์ dr.nop

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,735
    • เพศ:ชาย
  • CIH club thailand
    • saensuk hifi.com


ออฟไลน์ dr.nop

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,735
    • เพศ:ชาย
  • CIH club thailand
    • saensuk hifi.com
ไม่ทราบว่าเคยมีสมาชิกท่านใดเคยดูภาพจากหนังเรื่องเดียวกัน (ฉากเดียว)จาก ทั้ง 3 แบบบ้างไหมครับว่าคุณภาพของภาพและเสียงที่ออกมาต่างกันมากน้อยแค่ไหน อันนี้ไม่มองเรื่อง software ถูกแพงอ่ะครับ
 :help
จากที่ลองนะครับ ภาพของDvico(เล่นหนังFull Rip) ใกล้เคียงกับBDP-51
แต่เสียง สู้51ไม่ได้เลยครับ   d_d d_d d_d
แต่ถ้าเทียบภาพDvicoกับHTPC ผมว่าDvicoสวยกว่าครับ คอมNoiseเยอะ (หรือผมSetupคอมไม่ถูกหว่า)

เท่าที่ผมเคยดูเปรียบเทียบกันระหว่างไฟล์ .mkv (15-20 GB.) กะ full rip Blu-ray (30-50 GB.)
ผ่านทาง HTPC >HDMI >PJ Sony HS-50
ฉากเดียวกัน เรื่องเดียวกัน ผมว่า full rip (Blu-ray) เหนือกว่าชัดเจน ในแง่คุณภาพของภาพและเสียง
Bitstream >>> DTS-HD, Dolby True-HD  เสียงเข้า AVR Yamaha RX-V1800
การโยนเสียง ออกลำโพงแต่ละ channal ก็ทำได้อย่างชัดเจน

แทบจะไม่ต่าง(อาจดีกว่า) กะการเล่นจาก Blu-Ray Player เลย

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ...ตัว HTPC,การ์ดจอ,การ์ดเสียง,softwares,การ setup ที่ถูกต้องด้วยครับ
จึงจะได้สัมผัส ขีดความสามารถที่แท้จริงของ HTPC

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองที่เล่น HTPC นะครับ
เพราะ HTPC ตัวนี้กะว่าประกอบมาเพื่อรอเจ้า oppo Blu-ray player เท่านั้น (รอ..รออ... เมื่อหร่าย มานจาออกซะที)

พอได้ใช้ HTPC ก็รู้สึก "O" มากครั้นจะถอย Dvico มาอีกก็ซ้ำซ้อน เก็บเงินไว้ถอย Blu-ray Player เลยดีกว่า

แต่ข้อเสีย HTPC คือ เล่นแล้ว "งบ...บานปลาย"
(ฮาร์ดดิสก์ 1.5 TB ปาไป 13 ลูกแล้ว :'( )

 :kicking :kicking :kicking

โห 1.5 tb. 13 ลูก  ขอดูด หน่อยดิ ฮิฮิ :whistling


ออฟไลน์ aouzaa

  • *****
    • กระทู้: 706
    • เพศ:ชาย
ไม่ทราบว่าเคยมีสมาชิกท่านใดเคยดูภาพจากหนังเรื่องเดียวกัน (ฉากเดียว)จาก ทั้ง 3 แบบบ้างไหมครับว่าคุณภาพของภาพและเสียงที่ออกมาต่างกันมากน้อยแค่ไหน อันนี้ไม่มองเรื่อง software ถูกแพงอ่ะครับ
 :help
จากที่ลองนะครับ ภาพของDvico(เล่นหนังFull Rip) ใกล้เคียงกับBDP-51
แต่เสียง สู้51ไม่ได้เลยครับ   d_d d_d d_d
แต่ถ้าเทียบภาพDvicoกับHTPC ผมว่าDvicoสวยกว่าครับ คอมNoiseเยอะ (หรือผมSetupคอมไม่ถูกหว่า)

เท่าที่ผมเคยดูเปรียบเทียบกันระหว่างไฟล์ .mkv (15-20 GB.) กะ full rip Blu-ray (30-50 GB.)
ผ่านทาง HTPC >HDMI >PJ Sony HS-50
ฉากเดียวกัน เรื่องเดียวกัน ผมว่า full rip (Blu-ray) เหนือกว่าชัดเจน ในแง่คุณภาพของภาพและเสียง
Bitstream >>> DTS-HD, Dolby True-HD  เสียงเข้า AVR Yamaha RX-V1800
การโยนเสียง ออกลำโพงแต่ละ channal ก็ทำได้อย่างชัดเจน

แทบจะไม่ต่าง(อาจดีกว่า) กะการเล่นจาก Blu-Ray Player เลย

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ...ตัว HTPC,การ์ดจอ,การ์ดเสียง,softwares,การ setup ที่ถูกต้องด้วยครับ
จึงจะได้สัมผัส ขีดความสามารถที่แท้จริงของ HTPC

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองที่เล่น HTPC นะครับ
เพราะ HTPC ตัวนี้กะว่าประกอบมาเพื่อรอเจ้า oppo Blu-ray player เท่านั้น (รอ..รออ... เมื่อหร่าย มานจาออกซะที)

พอได้ใช้ HTPC ก็รู้สึก "O" มากครั้นจะถอย Dvico มาอีกก็ซ้ำซ้อน เก็บเงินไว้ถอย Blu-ray Player เลยดีกว่า

แต่ข้อเสีย HTPC คือ เล่นแล้ว "งบ...บานปลาย"
(ฮาร์ดดิสก์ 1.5 TB ปาไป 13 ลูกแล้ว :'( )

 :kicking :kicking :kicking


ออฟไลน์ beer99

  • *****
    • กระทู้: 925
  • King Kong
จากที่ลองนะครับ ภาพของDvico(เล่นหนังFull Rip) ใกล้เคียงกับBDP-51
แต่เสียง สู้51ไม่ได้เลยครับ   d_d d_d d_d
แต่ถ้าเทียบภาพDvicoกับHTPC ผมว่าDvicoสวยกว่าครับ คอมNoiseเยอะ (หรือผมSetupคอมไม่ถูกหว่า)


ออฟไลน์ dr.nop

  • Super Star.
  • **
    • กระทู้: 2,735
    • เพศ:ชาย
  • CIH club thailand
    • saensuk hifi.com
file mkvด้านคุณภาพขึ้นกับต้นทาง หรือ master ที่ปล่อยมาครับ ถ้าต้นน้ำดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งครับ ผมได้ลอง full rip เทียบกับ bd ไกล้กันมากครับ ยี่งผ่าน scaler เพิ่ม fine detail และ edge enhancement นิดหน่อยก็ ดูความแต่ต่างยากแล้วละครับ (ผมดูจอ 100" optoma hd 65  bluray pana bd30( modify by clef audio) dvdo edge ) ส่วนเรื่องเสียง ยี่งต่างกันน้อยกว่าภาพอีกครับ น่าจะขึ้นกับ system ที่ใช้ด้วยครับ
แต่ยังไงซะถ้าคุณภาพได้ 80 % upผมก็ว่าคุมค่ามากๆแล้วครับ ยิ่งถ้าดูจากจอ 40-50" ผมว่าภาพต่างกันไม่เกิน 20% ครับ


ออฟไลน์ xenix

  • ***
    • กระทู้: 140
    • เพศ:ชาย
    • http://www.xenix-av.com
รอพี่ saitosan มาตอบดีกว่า

ผมรอรีวิว LX71 vs DVICO 7010 นานมากๆ ละ  c) c) c)
ได้เลยครับ ผมดูคร่าวๆ จากเรื่อง kungfu Panda Bluray Rip VS Dvico เรื่องภาพแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ เรื่องเสียงยังไม่ได้เปรียบกันจะๆครับ
เดี๋ยวยังไงจะรีวิวให้ดูอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดนึงครับ ทำธุรกิจหลายอย่างครับ อิๆๆๆๆ  :)


อ่าวนึกว่าดูหนังเป็นอาชีพหลักนะ  :D


ออฟไลน์ Pete

  • *****
    • กระทู้: 786
รอพี่ saitosan มาตอบดีกว่า

ผมรอรีวิว LX71 vs DVICO 7010 นานมากๆ ละ  c) c) c)
ได้เลยครับ ผมดูคร่าวๆ จากเรื่อง kungfu Panda Bluray Rip VS Dvico เรื่องภาพแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ เรื่องเสียงยังไม่ได้เปรียบกันจะๆครับ
เดี๋ยวยังไงจะรีวิวให้ดูอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดนึงครับ ทำธุรกิจหลายอย่างครับ อิๆๆๆๆ  :)


น่าสนใจครับ  ถ้ามีเพื่อนๆที่มีเครื่อง LX71 และสามารถยืมมาลองที่บ้านได้ก็รบกวนด้วยนะครับ จะได้ลองเทียบแบบจ๊ะๆ เลย... สงสัยมานานแล้ว เหมือนกัน..จะรีวิวให้ครับ O0


ออฟไลน์ Saitosan

  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 10,352
    • เพศ:ชาย
รอพี่ saitosan มาตอบดีกว่า

ผมรอรีวิว LX71 vs DVICO 7010 นานมากๆ ละ  c) c) c)
ได้เลยครับ ผมดูคร่าวๆ จากเรื่อง kungfu Panda Bluray Rip VS Dvico เรื่องภาพแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ เรื่องเสียงยังไม่ได้เปรียบกันจะๆครับ
เดี๋ยวยังไงจะรีวิวให้ดูอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดนึงครับ ทำธุรกิจหลายอย่างครับ อิๆๆๆๆ  :)


ออฟไลน์ xenix

  • ***
    • กระทู้: 140
    • เพศ:ชาย
    • http://www.xenix-av.com


ออฟไลน์ กัมปนาท KK

  • สมาชิกรุ่น Classic
  • Superstar...
  • *****
    • กระทู้: 4,044

ออฟไลน์ tawatchai

  • ***
    • กระทู้: 124
ไม่ทราบว่าเคยมีสมาชิกท่านใดเคยดูภาพจากหนังเรื่องเดียวกัน (ฉากเดียว)จาก ทั้ง 3 แบบบ้างไหมครับว่าคุณภาพของภาพและเสียงที่ออกมาต่างกันมากน้อยแค่ไหน อันนี้ไม่มองเรื่อง software ถูกแพงอ่ะครับ
 :help