หัวข้อ: วัดกำลังวัตต์ ต้องทำอย่างไรบ้างครับ """"

[ธีรพัชร์ TJAM]

  สงสัยเหมือนกันครับ ถ้าใช้สูตร W=E*E/R จะได้ W นิดเดียวเอง

[marky]

วันนี้ลองเอา AC meter ไปวัดที่ขั้วลำโพง และเปิดเพลงไปด้วย ค่อยๆหมุนโวลลุ่มไปจนเสียงดังเริ่มแตก แล้วลดมานิดนึง
...แต่ไหงค่าที่วัดมันจะวิ่งตาม range ของเสียงเพลง อันนี้น่าจะถูก
... แต่สุดท้ายให้วัดคร่าวๆได้แค่ 1.2vac  แล้วอย่างนี้แอมป์ EL84se ตัวเก่งของผมจะได้ซักกี่วัตต์ล่ะเนี้ย 

[Sarawut]

ถามเป็นความรู้นะครับ (ไม่ได้กวน)

3. HighPass Filter ตัดที่สัก 2 kHz (ถ้าใช้ 1kHz Tone) ใช้ 2nd หรือ 3rd order ใช้  C กับ L ทำเอาครับ.

ทำไมต้องใช้ต้วนี้ด้วยครับ

  ผมมาเดาอีกแล้ว คิดว่าตอนนี้ที่มันเริ่มขลิบ มันก็จะเริ่มมีอาร์โมนิดของ 1 kHZ ไม่รู้คู่ หรือ คี่ ออกมามาก  ก็อาศัยการจับจังหวะนี้ครับ ในการวัด

ใช่ครับ ถ้าเราไม่มี THD Meter หรือ Scope เวลามันเริ่ม Distort จะได้สังเกตุเห็น แต่ก็คงหยาบมาก อาจสังเกตเห็นที่สัก 10% THD ขึ้นไปครับ ขนาดเป็น Scope ที่จะเริ่มสังเกตุเห็น ก็ต้องระดับ 1-2% ขึ้นไป
ลองหาดูในกระทู้ของพี่ Porn ที่วัด THD ของ CD Player ดูครับ,    ปกติเวลาบอกกำลัง วัตต์ ต้องบอก Load , ความถี่ และ THD ด้วย 
ส่วนกำลังวัตต์ ที่คำนวนออกมาเป็น RMS อยู่แล้วครับเพราะเราใช้ AC voltmeter ถงจะวัดแบบ Average ถ้าเป็น Sinewave ก็จะเท่ากันกับวัดแบบ RMS ครับ.
ศราวุธ

[marky]

เท่าที่เคยลอง หากป้อน single tone ต่อลำโพงไม่ได้ครับ หรือ อาจจะต้องมีตัวช่วยอื่น อย่างเช่นใช้ พาสซีฟเป็น filter เพราะที่ผมเคยลองต่อเข้าลำโพงโดยตรง ปรากฎว่า ลำโพงกระจุยเลย 

แบบนี้ไปหากระบอกข้าวหลามเขียวๆมาเก็บไว้ดีกว่า... ปลอดภัยกว่ากันแยะ 

[dekdek]

ถามเป็นความรู้นะครับ (ไม่ได้กวน)

3. HighPass Filter ตัดที่สัก 2 kHz (ถ้าใช้ 1kHz Tone) ใช้ 2nd หรือ 3rd order ใช้  C กับ L ทำเอาครับ.

ทำไมต้องใช้ต้วนี้ด้วยครับ

  ผมมาเดาอีกแล้ว คิดว่าตอนนี้ที่มันเริ่มขลิบ มันก็จะเริ่มมีอาร์โมนิดของ 1 kHZ ไม่รู้คู่ หรือ คี่ ออกมามาก  ก็อาศัยการจับจังหวะนี้ครับ ในการวัด

[Create_Lek]

เท่าที่เคยลอง หากป้อน single tone ต่อลำโพงไม่ได้ครับ หรือ อาจจะต้องมีตัวช่วยอื่น อย่างเช่นใช้ พาสซีฟเป็น filter เพราะที่ผมเคยลองต่อเข้าลำโพงโดยตรง ปรากฎว่า ลำโพงกระจุยเลย 

 

 

[marky]

ระหว่าง Dummy load กับต่อลำโพงไปเลย แตกต่างกันมากมั้ยครับ ...ลำพังหาโหลดตัวใหญ่ๆไว้กันร้อนยากอยู่เหมือนกัน--- แต่หากต่อลำโพงน่าจะหมดปัญหาเรื่องนี้   
ส่วนสัญญาณที่ป้อนเข้าไปต้องเล่นที่ความถี่เดียวใช่มั้ยครับ หรือว่าเล่นเพลงไปเลยฟังจนมันเริ่มเพี้ยนๆ น่าจะที่สุดของกำลังแอมป์เราแล้ว

ถ้าหูไม่แตกตายซะก่อน ก็ใช้ speaker แทน dummy load ได้ครับคุณ Marky    (อย่าลืมว่าเราจะวัดกำลังสูงสุดของ amplifier )

กรณื solidstate ถ้าไม่มี instrument สำหรับวัดทดสอบ ก็คำนวนคร่าวๆจากสูตรข้างบนน่ะครับ

แต่อย่าลืมหัก RMS Factor .707 และ Loss Factor อีกซัก 5-10% 

แล้วหากต่อด้วย dummy load ต้องใช้มิเตอร์จับสัญญาณอย่างไรดีครับ ... ในกรณ๊ที่ผมไม่มีเครื่องวัดอื่นๆเลย
คือที่อยากทำเป็นเพราะจะได้ทราบว่าแอมป์ที่ทำเสร็จไปนั้นมันกำลังพอจะไปเล่นอะไรต่อได้บ้าง 
ดูจากต้องหักค่า RMS อีก เครื่องที่ผมมีคงเหลือไม่ถึงวัตต์แล้ว 

[sawasdee]

ระหว่าง Dummy load กับต่อลำโพงไปเลย แตกต่างกันมากมั้ยครับ ...ลำพังหาโหลดตัวใหญ่ๆไว้กันร้อนยากอยู่เหมือนกัน--- แต่หากต่อลำโพงน่าจะหมดปัญหาเรื่องนี้   
ส่วนสัญญาณที่ป้อนเข้าไปต้องเล่นที่ความถี่เดียวใช่มั้ยครับ หรือว่าเล่นเพลงไปเลยฟังจนมันเริ่มเพี้ยนๆ น่าจะที่สุดของกำลังแอมป์เราแล้ว

ถ้าหูไม่แตกตายซะก่อน ก็ใช้ speaker แทน dummy load ได้ครับคุณ Marky    (อย่าลืมว่าเราจะวัดกำลังสูงสุดของ amplifier )

กรณื solidstate ถ้าไม่มี instrument สำหรับวัดทดสอบ ก็คำนวนคร่าวๆจากสูตรข้างบนน่ะครับ

แต่อย่าลืมหัก RMS Factor .707 และ Loss Factor อีกซัก 5-10% 

[marky]

ระหว่าง Dummy load กับต่อลำโพงไปเลย แตกต่างกันมากมั้ยครับ ...ลำพังหาโหลดตัวใหญ่ๆไว้กันร้อนยากอยู่เหมือนกัน--- แต่หากต่อลำโพงน่าจะหมดปัญหาเรื่องนี้   
ส่วนสัญญาณที่ป้อนเข้าไปต้องเล่นที่ความถี่เดียวใช่มั้ยครับ หรือว่าเล่นเพลงไปเลยฟังจนมันเริ่มเพี้ยนๆ น่าจะที่สุดของกำลังแอมป์เราแล้ว

[Create_Lek]

ถามเป็นความรู้นะครับ (ไม่ได้กวน)

3. HighPass Filter ตัดที่สัก 2 kHz (ถ้าใช้ 1kHz Tone) ใช้ 2nd หรือ 3rd order ใช้  C กับ L ทำเอาครับ.

ทำไมต้องใช้ต้วนี้ด้วยครับ

ผมไม่รู้ครับ เพราะไม่เคยใช้ ในข้อสาม ป้อน single tone อย่างเดียว

[ลำน้ำ]

ถามเป็นความรู้นะครับ (ไม่ได้กวน)

3. HighPass Filter ตัดที่สัก 2 kHz (ถ้าใช้ 1kHz Tone) ใช้ 2nd หรือ 3rd order ใช้  C กับ L ทำเอาครับ.

ทำไมต้องใช้ต้วนี้ด้วยครับ

[Create_Lek]

ผมทำขั้นตอนเหมือนที่เพื่อนๆแนะนำ แต่ผมใช้ Dummy load ปรับค่าได้ 100W. กับ Scope ครับ

 

[Mr.so-nE]

ถ้าเสียงมันไม่เพี้ยนล่ะ  จะมีไหมหน้อ

[taoybb]

ขอบอกแบบลูกทุ่งครับ
 1.เอาลำโพง 8 โอห์ม มาต่อกับเครื่องขยาย
 2.ตั้ง Bass Treble ไว้ที่กึ่งกลาง
 3.ใช้ AC Voltmeter วัดที่ลำโพง
 4.เร่งเสียงไปเรื่อยๆจนเสียงเริ่มเพี้ยน ให้ลดเสียงมาก่อนเพี้ยน ดุว่าวัดได้กี่โวลท์
 5.ใช้สูตร P=V*V/R

[Sarawut]

เอาแบบง่ายที่สุดที่ผมคิด(แบบมั่วๆ)ได้นะครับ
อุปกรณ์
1. 1 kHz Tone generator  ใช้  CD Player + CD Tone Sinewave 1  kHz หรือตามต้องการ
2. Hi Power load  ใช้ ตัวต้านทาน ขนาด Ohm ที่ต้องการ เช่น 2,4,6,8 Ohm (P=V x V / R) ทนกำลังได้สัก 1.5 เท่าของกำลังวัตต์ที่จะวัด + พัดลมระบายความร้อน
3. HighPass Filter ตัดที่สัก 2 kHz (ถ้าใช้ 1kHz Tone) ใช้ 2nd หรือ 3rd order ใช้  C กับ L ทำเอาครับ.
4. AC volt meter 2 ตัว  Vac1 ใช้วัด Power ใช้ Range ที่เหมาะสม  Vac2 ใช้วัด THD ตั้ง Range ต่ำสุด (mV)
ต่อตาม Diagram
 - ค่อย ๆ ปรับ Volume ขึ้น Vac1 จะขึ้นตามการปรับ,    Vac2 ต้องไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อยมาก
 - ปรับขึ้นจนกระทั้ง Vac2 มีการขึ้นมากแบบผิดปกติ (เกิดการ Clip) ก็อ่านค่า Vac1 แล้วนำมาคำนวนหา Power จากสูตร P= V x V / R

หมายเหตุ : ผมไม่เคยใช้วิธีนี้วัดนะครับแต่คิดว่าน่าจะพอใช้ได้
ศราวุธ

[ปาท่องโก๋]

มารอเก็บความรู้ด้วยคน

 เปลี่ยน ชื่อ ไอ ดี ใหม่เหรอพี สงสัย อัน เก่า ไอ เสีย
แ ต่ กล้อง ไลก้า เหมือนเดิม อะจำได้

[Huatoe_Smoky]

มารอเก็บความรู้ด้วยคน

[marky]

อยากรู้ว่า กำลังวัตต์ของเครื่องที่ใช้อยู่มีค่าเท่าใด ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
เอาแบบว่า ผมไม่มีอุปกรณ์ใดๆเลย นอกจาก มิเตอร์ ...