หัวข้อ: ไม่ทราบว่าควรเลือก เครื่องกรองไฟ หรือ เครื่องคุมไฟ ดีครับ

[DS]

ไฟมาสูงสุดไม่เคยเกิน222vครับ (ประมาณตีสาม)  ช่วงกลางวันจะอยู่ประมาณ 205 - 218 ไม่เกินนี้ครับ

ตอนนี้ใช้Puresineคุมครับ  แต่สเปคเดิมถ้าไฟมาต่ำกว่า195 เครื่องจะตัดการทำงานครับ และไฟขาออกหลังผ่านเครื่องเป็น230v

...ถ้า Volt meter ไม่เพี้ยน  ... น่าจะ ปรึกษากับการไฟฟ้า นะครับ...เพราะว่า มันหลุด Lower limit ของการไฟฟ้า คือ 220+/-10% ซึ่งมันต้องอยู่ในช่วง 198-242 Volt ...ซึ่งถ้า อิงตามตัวเลข Pure sine ยังรับได้ นะครับ...

ปัญหาไฟตกนี้เราสามารถแจ้งทางการไฟฟ้าได้เหรอครับ

เค้าจะมาสนใจเราคนเดียวที่เล่นเครื่องเสียงเหรอครับ.....

แจ้งได้เลยครับ  ผมได้ข้อมูลจากวิศวกรของการไฟฟ้ามาว่า
การไฟฟ้าจะเป็นห่วงบริเวณที่ระบบจำหน่ายที่แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่ามาตรฐาน
เพราะทำให้ มิเตอร์วัดหน่วยจำหน่ายได้ต่ำกว่าปกติ

ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ
ถ้าเราเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาด 1,000 วัตต์
ไว้ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

ที่แรงดัน 220V.  มิเตอร์ของการไฟฟ้าจะวัดได้เป็น 1 หน่วย (Kw/Hr)

ถ้าแรงดันต่ำกว่า 220V. มิเตอร์จะวัดได้ไม่ถึง 1 หน่วย ทำให้การไฟฟ้าเก็บเงินค่าไฟได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

และในทางกลับกัน ถ้าแรงดันเกินกว่า 220V. มิเตอร์จะวัดได้มากกว่า 1 หน่วย ผู้ใช้ไฟก็จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้ามากกว่าปกติ

โทร.ไปแจ้งได้เลยครับ
การไฟฟ้าเค้าห่วงใยบริเวณที่ไฟตก มากกว่าบริเวณที่ไฟเกิน

แรงดันที่จ่ายออกจากหม้อแปลง การไฟฟ้าจะเผื่อไว้ให้ออกมาประมาณ 240V.
เพื่อให้บ้านที่อยู่ไกลจากหม้อแปลงที่แรงดันไฟฟ้าลดลง จะได้มีแรงดันได้ไม่ต่ำกว่า 220V.
แต่ถ้าบ้านอยู่ไกลมากและมีผู้ใช้ไฟหลายราย ก็อาจทำให้แรงดันเหลือไม่ถึง 220V

[WK]

 :)ไฟบ้านผมใจกลาง กทม. วัดทีไรก็ 230v ทุกทีดับก็ไม่เคยดับ วูบวาบนานๆครั้งถึงจะเป็น ผมใช้ ตัวคุมไฟและกรองไฟ ของ Silicon ตัวใหญ่ 1 ตัว และตัวกรองไฟ SIDITAL Space 1 ต่อผ่าน Silicon ซ้อนเข้าไป....เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานั่งดูหนังอยู่ มีกลิ่นไหม้
โชยมายังไม่ทันไร ไฟดับทั้งระบบ ปรากฎว่าSpace 1 ควันออกหู   มาฉงนว่าต่อผ่าน Silicon ไม่ยอมตัด space 1 ก็ไม่ตัด ฟิวส์ยังอยู่ครบ  ที่ตัดไฟก็คือเบรกเกอร์ เพราะห้องดูหนังผมดึงไฟจากเมนแยกมาต่างหาก แล้วมี loadcenter คุมอีกที ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมทั้ง Space 1 และ Silicon ไม่ยอมตัดไฟ

[chat]

ไฟมาสูงสุดไม่เคยเกิน222vครับ (ประมาณตีสาม)  ช่วงกลางวันจะอยู่ประมาณ 205 - 218 ไม่เกินนี้ครับ

ตอนนี้ใช้Puresineคุมครับ  แต่สเปคเดิมถ้าไฟมาต่ำกว่า195 เครื่องจะตัดการทำงานครับ และไฟขาออกหลังผ่านเครื่องเป็น230v

...ถ้า Volt meter ไม่เพี้ยน  ... น่าจะ ปรึกษากับการไฟฟ้า นะครับ...เพราะว่า มันหลุด Lower limit ของการไฟฟ้า คือ 220+/-10% ซึ่งมันต้องอยู่ในช่วง 198-242 Volt ...ซึ่งถ้า อิงตามตัวเลข Pure sine ยังรับได้ นะครับ...

ปัญหาไฟตกนี้เราสามารถแจ้งทางการไฟฟ้าได้เหรอครับ

เค้าจะมาสนใจเราคนเดียวที่เล่นเครื่องเสียงเหรอครับ.....

...ย้ำว่า ถ้า Volt meter ไม่เพี้ยน...นะครับ.....แสดงว่าตัวเลขที่วัดมานั้น เป็นจริง... กรณีนี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับการไฟฟ้าครับ... เพราะ สินค้าเขา ไม่ได้มาตรฐาน ตามที่เขา ให้คำมั่นสัญญาไว้ (อิ อิ ... ขอพูด เวอร์ๆ หน่อย ).... อย่างน้อย ถ้าเราแจ้งเขาไป จะต้องมีการส่งเจ้า หน้าที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน...ผมว่าหลังๆเนี่ย การไฟฟ้า เขา Take care ดีขึ้นมาก ... ลองแจ้ง ดูดีกว่าครับ...

[Clef-Audio]

ให้ข้อมูลระบบไฟฟ้าคุณหมอในแง่เทคนิคนะครับ

1. แรงดันไฟฟ้าของไทย  เราเรียกกันว่า 220V แต่จริงๆแล้วมาตรฐานการจ่ายไฟของการไฟฟ้าเป็น 230V ครับ  แรงดันในช่วงคุณหมอวัดมาก็ OK ในมาตรฐานของการไฟฟ้าแล้วครับ

2. การป้องกันไฟดับแบบเสี้ยววินาที  ยังไงก็ต้องใช้ UPS ครับ  แต่ UPS จะไม่ค่อยแพร่หลายในวงการเครื่องเสียง 

3. ป้องกันไฟกระชาก ฟ้าผ่า (ระดับหนึ่ง) ที่มาตามสายไฟ สายอากาศ สายโทรศัพท์ ด้วยวิธีการตามที่ระบุมา  ก็ช่วยป้องกันเพิ่มขึ้นได้แน่นอนครับ  ดีกว่าไม่มี  แต่ต้องมั่นใจว่าทำได้ถูกต้อง  คือ
-  การเดินสาย ground และการฝัง ground rod ต้องทำอย่างถูกต้อง  เมื่อมี surge หรือ spike มาวงจรป้องกันจะได้ทำงานได้ย่างถูกต้อง
-  การป้องกันสายอากาศด้วย gas tube ถ้าทำไม่ถูกต้อง  จะทำให้ impedance ของระบบผิดไป  อาจจะ loss ในบางความถี่ได้  มีผลในการรับชมครับ
-  การป้องกันระบบโทรศัพท์ด้วย gas tube นั้น  เท่าที่พบกล่องยึดนอกบ้านโดนฝนโดนความชื้นไม่นานก็ขึ้นสนิมหมด ไม่สามารถป้องกันได้  และที่สำคัญการลง ground ก็จะทำไม่ถูกต้อง  คือเอาตะปูมาตอกๆให้เหมือนลงดินไว้เท่านั้น  การลงดินที่ถูกต้องคือการใช้ ground rod เท่านั้นเหมือนระบบไฟฟ้าเท่านั้น  กล่อง gas tube อาจจะซื้อของดีๆมาติดตั้งใหม่ก็จะดีครับ

การใช้เครื่องกรองไฟหรือคุมระดับไฟที่มีวงจรป้องกัน surge อยู่ด้วย  ก็เป็นวิธีหนึ่งในการป้องกันไฟกระชากหรือฟ้าผ่าได้ดีระดับหนึ่ง  โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับระบบที่มีอยู่   ลองเลือกดูครับ



 

[Thehow]

บ้านอยู่ต่างอำเภอ และก็ต่างจังหวัดด้วย แค่ฝนทำท่าจะตกไฟก็ดับแล้ว ดับนานด้วย ถ้าไม่ดับก็วูบๆวาบๆ เจอปัญหาไฟตกบ่อยมาก  ปกติถ้าไม่ใช้งานก็ถอดสายอย่างเดียว แต่ตอนกำลังดูหนังหรือฟังเพลง ไฟตกบ่อยๆนี่ไม่รู้จะแก้ยังไง แล้วเครื่องวัดไฟว่ามีไฟในบ้านเท่าไรนี่เค้าเรียก เครื่องอะไครับ ไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้า อิเลคทรอนิคเท่าไรครับ อีกอย่างที่บ้านเลี้ยงปลาคาร์ฟ(บ่อ)ต้องเปิดปั๊มตลอดเวลา มันจะกวนกับระบบเครื่องเสียงมากมั้ยครับ ให้ช่างเค้าแยกสายเมนคนละชุดแล้ว(แต่ค่าไฟเอาเรื่องเหมือนกัน)
ระบบหลักๆ
Plasma PV8 42นิ้ว
AV marantz
ลำโพง Mordaunt ทั้งชุด
SUB marant  อันนี้เวลาไฟตกจะคราง เวลาหนักๆดังปุ๊
ที่เหลือเป็นHTPC
และก็ UBC
ควรใช้ตัวคุมไฟประมาณไหนครับ
ช่วงนี้หน้าฝนเจอปัญหาไฟตกถี่มาก
(เคยไปดูที่ปิยะนัสโคราช ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวคุมหรือตัวกรอง ราคาประมาณ 5000 บาทไม่รู้ว่าใช้ได้หรือเปล่า)
หรือควรใช้ตัวใหนที่จะดูแลระบบทั้งหมดได้ครับ งบประมาณ 10000 ครับ
ขอบคุณล่างหน้าครับ

[วิทวัสพงศ์]

ไฟมาสูงสุดไม่เคยเกิน222vครับ (ประมาณตีสาม)  ช่วงกลางวันจะอยู่ประมาณ 205 - 218 ไม่เกินนี้ครับ

ตอนนี้ใช้Puresineคุมครับ  แต่สเปคเดิมถ้าไฟมาต่ำกว่า195 เครื่องจะตัดการทำงานครับ และไฟขาออกหลังผ่านเครื่องเป็น230v

...ถ้า Volt meter ไม่เพี้ยน  ... น่าจะ ปรึกษากับการไฟฟ้า นะครับ...เพราะว่า มันหลุด Lower limit ของการไฟฟ้า คือ 220+/-10% ซึ่งมันต้องอยู่ในช่วง 198-242 Volt ...ซึ่งถ้า อิงตามตัวเลข Pure sine ยังรับได้ นะครับ...

ปัญหาไฟตกนี้เราสามารถแจ้งทางการไฟฟ้าได้เหรอครับ

เค้าจะมาสนใจเราคนเดียวที่เล่นเครื่องเสียงเหรอครับ.....

[DS]

ผมก็เจอปัญหาจากการไฟฟ้าคล้าย ๆ กับ คุณ วิทวัสพงศ์
แต่ในทางกลับกันครับ บ้านผมอยู่ใกล้หม้อแปลงของการไฟฟ้า
แรงดันที่ได้จะประมาณ 235-238V. ตลอดทั้งวันทั้งคืน

ทีแรกก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกหลอดไฟที่ใช้ในบ้านถึงมีอายุงานใช้งานสั้นผิดปกติ
รวมทั้งเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น ก็ทำความเย็นได้มากกว่าปกติด้วย

มารู้ก็อีตอนที่ทำแอมป์หลอดนี่แหละครับ สั่งพันหม้อแปลงต้องการแรงดัน 260V.
แต่วัดทีไรได้ 280V.ทุกที  จนคนที่พันให้บอกว่าลองวัดแรงดันไฟที่บ้านดูว่ามันเท่าไร
ถึงได้รู้ว่ามีแถมมาตั้งหลายสิบโวลท์  ก็เลยต้องหาตัวคุมไฟมาใช้ ทำให้ต้องจ่ายค่าไฟ
แพงขึ้นไปอีก

[chat]

ไฟมาสูงสุดไม่เคยเกิน222vครับ (ประมาณตีสาม)  ช่วงกลางวันจะอยู่ประมาณ 205 - 218 ไม่เกินนี้ครับ

ตอนนี้ใช้Puresineคุมครับ  แต่สเปคเดิมถ้าไฟมาต่ำกว่า195 เครื่องจะตัดการทำงานครับ และไฟขาออกหลังผ่านเครื่องเป็น230v

...ถ้า Volt meter ไม่เพี้ยน  ... น่าจะ ปรึกษากับการไฟฟ้า นะครับ...เพราะว่า มันหลุด Lower limit ของการไฟฟ้า คือ 220+/-10% ซึ่งมันต้องอยู่ในช่วง 198-242 Volt ...ซึ่งถ้า อิงตามตัวเลข Pure sine ยังรับได้ นะครับ...

[วิทวัสพงศ์]

บ้านผมอยู่บางใหญ่ ซอยวัดลาดปลาดุกครับ

เจอปัญหาไฟตกครับ หลังทุ่มนึงไปแล้วจะต่ำกว่า200  สามทุ่มครึ่งถึงประมาณสี่ทุ่มกว่าๆจะต่ำสุดๆครับ   ต่ำกว่า190

ไฟมาสูงสุดไม่เคยเกิน222vครับ (ประมาณตีสาม)  ช่วงกลางวันจะอยู่ประมาณ 205 - 218 ไม่เกินนี้ครับ


ตอนนี้ใช้Puresineคุมครับ  แต่สเปคเดิมถ้าไฟมาต่ำกว่า195 เครื่องจะตัดการทำงานครับ และไฟขาออกหลังผ่านเครื่องเป็น230v

แต่ได้เอาเครื่องไปให้ทางclefปรับให้มันยืนหยุ่นได้อีกนิดหน่อยครับ  คือถ้าไฟมาต่ำกว่า190vเครื่องก็จะตัดครับ และไฟออกหลังผ่านเครื่องจะอยู่ประมาณ217v - 220v ครับ

แต่ส่วนมากเครื่องจะตัดทุกคืนครับ  ไฟแถวบ้านผมมันห่วยมากๆเลยครับ   เซ็งจริงๆครับ


มีใครเจอปัญหาเรื่องไฟตกมากๆเหมือนผมบ้างหรือเปล่าครับ .....   

[NooM333]

ผมมี Monster Power HTPS7000 รุ่น TOP
มี 12 Output ผมนำเข้ามาขายลองดูรูปตาม Link นี้นะครับ

http://noom-hifi.com/webboard/webboard_ans.php?id=25572

[nammm]

ลงทุนเลยครับ ไฟตกแบบนั้นอันตรายมากๆ เชียร์อีกแรง เอาทั้งคุม และกรองไปเลยจบครับ

[DS]

ต้องเลือกใช้ให้ตรงกับปัญหาครับ
เครื่องกรองไฟ ไว้ใช้กำจัดขยะพวกความถี่หรือคลื่นต่าง ๆ ที่เราไม่ต้องการ แต่ปนมาในกระแสไฟฟ้า
เครื่องคุมไฟ ไว้ควบคุมแรงดันไฟด้านขาออกให้คงที่สม่ำเสมอ

ปัญหาของคุณหมอคือแรงดันไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอ
ตัวที่จะเอามาแก้ปัญหา ต้องเป็นเครื่องคุมไฟ ครับ
เพื่อรักษาแรงดันขาออกด้านทีจ่ายให้เครื่องใช้ไฟฟ้า
ให้มีแรงดันคงที่

แต่ถ้าคุณหมอมีงบประมาณไม่จำกัด ก็เลือกซื้อเครื่องที่ทำหน้าที่ได้ทั้งกรองไฟและคุมไฟได้ในตัวเดียวกัน
และถ้ามีปัญหาเรื่องไฟกระพริบเป็นประจำด้วย ก็เอาเครื่องที่มีสำรองไฟในตัวด้วยยิ่งดี
เป็นเครื่องสำรองไฟ รักษาระดับแรงดัน และกรองไฟด้วย ที่ใช้กับเครื่องมือแพทย์ครับ

[อูฐ]

ส่วนอาการไฟฟ้าที่เคยปรากฏคือ ไฟดับแล้วมาทันที่ ไม่ถึงเสี้ยววินาที ประมาณเดือนละครั้ง โดยไม่เกี่ยวกับฟ้าฝน

....ตัวนี้ แหละครับเป็นปัญหาตั้งต้นที่ น่าจะสำคัญที่สุด (ขออนุญาติ มองต่างมุม กะท่าน อูฐ... ไม่ว่ากัน นะครับ  )  ซึ่ง ผมว่ามันได้ ประโยชน์จาก เครื่องคุมไฟเป็นอย่างมาก ... เช่นที่ผมใช้อยู SIDITAL มันจะตัดไฟ ไปเลยครับ... ต้อง MANUAL RESET ถึงจะมา(ตั้งได้ ว่าจะเอา manual/auto) ....ยิ่งเป็นเดือนละครั้ง นี่น่ากลัว ครับ... มันจะเพิ่มความเสี่ยงให้ ชุดราคาแพงของเรา กลับบ้านเร็วขึ้นครับ (โปรเจคเตอร์ เนี่ย ตัวดีเลย)....ในส่วน ของไฟ นิ่ง ก็ถือว่านิ่ง มาก ค่ากลางที่ 230 -/+ 3% โชคดีมากครับ  ... เพราะการไฟฟ้า เขา +- 10 % ...ถ้าไม่มีปัญหาอย่างข้างบน ก็ไม่ควรใช้เครื่องคุมไฟ ....ส่วนเรื่อง เดินสายไฟ แยกมาที่ชุดเครื่องเสียงต่างหาก มาเข้าตู้เบรคเกอร์ เครื่องเสียง ...เป็นสิ่งที่ ควรต้องทำอยู่แล้ว ถ้าทำได้....ในส่วนของ กราวน์ ... ถ้ามีอยู่แล้ว ก็น่าจะใช้กราวน์เดิมก็ได้ .... ของผม กราวน์ที่ตอกใหม่ แบบ Star ด้วย... ตอนนี้ ก็ไม่ได้ใช้ เพราะลองทดสอบดู โดยให้ลูก เอาหู แนบที่ลำโพงเพื่อฟังเสียง รบกวน สรุปว่าใช้กราวน์เดิม เงียบกว่า .... สุดท้าย ครับ... Power AMP ...เนี่ย ผมว่าไม่ผ่านเครื่องคุม/เครื่องกรองดีกว่า (ไม่เคยลอง ของแพง)...... 

เห็นแตกต่างกัน  เป็นสิ่งที่ดีคับ  ยินดีด้วย  หลากหลายความคิดเป็นสิ่งที่ดี     ช่วย ๆ กันแลกเปลี่ยน     

ส่วนอาการไฟฟ้าที่เคยปรากฏคือ ไฟดับแล้วมาทันที่ ไม่ถึงเสี้ยววินาที ประมาณเดือนละครั้ง โดยไม่เกี่ยวกับฟ้าฝน

ผมลืมอ่านข้อนี้เหมือนกันแฮะ  เพิ่งอ่านเจอ  มัวแต่ไปดูตัวเลขโวท

ผมว่าอันนี้อันตราย  น่ากลัวเหมือนกันคับ      ตอนแรกผมเข้าใจว่าบ้านอยู่ใจกลางเมืองที่ไม่มีปัญหาเรื่องไฟ

อย่างนี้ เครื่องคุมไฟ จำเป็นใช้น่ะคับ     ป้องกันไว้ก่อนคับ


ว่าแต่ว่างง  บ้านอยู่ที่ไหนเหรอ  ทำไมมีการไฟตก อย่างน้อยเดือนล่ะหนึ่งครั้งอ่ะคับ

[chat]

ส่วนอาการไฟฟ้าที่เคยปรากฏคือ ไฟดับแล้วมาทันที่ ไม่ถึงเสี้ยววินาที ประมาณเดือนละครั้ง โดยไม่เกี่ยวกับฟ้าฝน

....ตัวนี้ แหละครับเป็นปัญหาตั้งต้นที่ น่าจะสำคัญที่สุด (ขออนุญาติ มองต่างมุม กะท่าน อูฐ... ไม่ว่ากัน นะครับ  )  ซึ่ง ผมว่ามันได้ ประโยชน์จาก เครื่องคุมไฟเป็นอย่างมาก ... เช่นที่ผมใช้อยู SIDITAL มันจะตัดไฟ ไปเลยครับ... ต้อง MANUAL RESET ถึงจะมา(ตั้งได้ ว่าจะเอา manual/auto) ....ยิ่งเป็นเดือนละครั้ง นี่น่ากลัว ครับ... มันจะเพิ่มความเสี่ยงให้ ชุดราคาแพงของเรา กลับบ้านเร็วขึ้นครับ (โปรเจคเตอร์ เนี่ย ตัวดีเลย)....ในส่วน ของไฟ นิ่ง ก็ถือว่านิ่ง มาก ค่ากลางที่ 230 -/+ 3% โชคดีมากครับ  ... เพราะการไฟฟ้า เขา +- 10 % ...ถ้าไม่มีปัญหาอย่างข้างบน ก็ไม่ควรใช้เครื่องคุมไฟ ....ส่วนเรื่อง เดินสายไฟ แยกมาที่ชุดเครื่องเสียงต่างหาก มาเข้าตู้เบรคเกอร์ เครื่องเสียง ...เป็นสิ่งที่ ควรต้องทำอยู่แล้ว ถ้าทำได้....ในส่วนของ กราวน์ ... ถ้ามีอยู่แล้ว ก็น่าจะใช้กราวน์เดิมก็ได้ .... ของผม กราวน์ที่ตอกใหม่ แบบ Star ด้วย... ตอนนี้ ก็ไม่ได้ใช้ เพราะลองทดสอบดู โดยให้ลูก เอาหู แนบที่ลำโพงเพื่อฟังเสียง รบกวน สรุปว่าใช้กราวน์เดิม เงียบกว่า .... สุดท้าย ครับ... Power AMP ...เนี่ย ผมว่าไม่ผ่านเครื่องคุม/เครื่องกรองดีกว่า (ไม่เคยลอง ของแพง)...... 

[อูฐ]

อ่านทีแรก  นึกว่าเจ้าของห้องเป็นวิศวกรไฟฟ้า  ไม่น่าเชื่อว่าเป็นหมอ  บ้านอยู่แถวไหนหรือ เห็นระแวงและระวังจะวางระบบป้องกันไว้เพียบเลย ทั้งจากฟ้าผ่า และ อื่น ๆ     ถ้าอยู่ในเมือง กทม   บางอย่างก็ไม่ค่อยจำเป็นน่ะคับ    ถ้าไม่ได้ใกล้ หม้อแปลงไฟการไฟฟ้า    หรือ ใกล้่โรงงานใหญ่ ๆ     ผมเห็นด้วยกับคุณ ukrit  คับ  คนนี้ไม่ใช่เซียนไม่ใช่เทพ แต่โคตรเซียน เลย  ขำ ๆ น่ะ  แต่ประสพกราณ์เขาลองมามากอ่ะคับ  และชอบมาช่วยแชร์ประสพกราณ์ให้พวกเราอ่านกัน

ไม่ทราบคุณหมอได้ แยกเมนหรือเปล่าครับ สำหรับเครือ่งเสียงเพียวๆกับเบรคเกอร์ดีๆซํกชุดครับ โดยไม่ผ่านสะพานไฟ ไม่ผ่านเซพที ฟิวส์ครับ แล้วก็ใช้สายดีหน่อยพวกเบลเด้นก็เหลือๆแล้วครับเดินตั้งแต่หน้าบ้านมาห้องฟังเลยครับ โดยไม่ต่อซ้ำซ้อน  ปลั๊กวัตเกตซักสองชุด เลือกเงินและทองไว้ลองฟังจูนดูว่าเข้ากับอะไรเช่น ภาพก็ตัวเงิน เสียงก็ตัวทองครับ
สำหรับผมขายทิ้งหมดเลยครับทั้งกรองไฟ คุมไฟ พอได้ลองแยกแล้วอุปกรณ์พวกนี้มองข้ามไปเลยครับ ก่อนหน้าที่เล่นพวกนี้ผมไม่ได้แยกเมนครับ พอแยกเมนลงทุนไม่มากก็ เห็นผลชัดเจนกว่าครับ
สำหรับกรองไฟ ดีสำหรับพวกที่เครือ่งกระจายแมคเนติกรบกวน พวกมอเตอร์ทั้งหลายครับ ลองง่ายๆเปิดสว่านแล้วลองเช็คภาพดูซิครับ เห็นชัดเจน  ส่วนพวก  noise filter ที่่ขายทั่วไปผมว่าไม่ดีครับ สิ้นเปลืองเปล่าๆ ลองมาหลายตัวครับ ตัวใหญ่ๆแบบโรงงาน5-60แอมป์ ก็ลองมาแล้วไม่ชัดเจนครับ เสียงยังกุดๆ ปลายหายๆ พวกฮาโมนิค ละอองความกังวาลยังบดบังครับ  ส่วนบรรยากาศก็หายไปพอควรครับ ambience airy หายครับ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกวนก็คงไม่ต้องใช้หรอกครับ แต่ถ้าเป็นพวกกรองไฟยี่ห้อดีหน่อย อย่างที่เคยลอง shunyata ก็ดีครับไม่อั้นครับ แต่เสียงออกซีดๆลองครับ ได้อย่างเสียอย่างหายากที่จะเฟอเฟคครับ
ส่วนคุมไฟก็น่าสนครับ แต่ก็ต้องแลกกับ เสียงที่ปลายหุบลง แต่ได้ความนิ่งน้ำหนัก ดีกว่าเดิมเล็กน้อย ชิ้นดนตรีมีระเบียบขึ้น แต่ปลายเสียง ละออง บรรยากาศ เวทีหุบลงครับ  ข้อดีก็พอสมควรครับ เช่นไฟกระชาก ก็มีเสียงเตือน ปรับบวกลบได้ ตามกระแสขาดเกินของบ้านเรา ไฟเกินก็ตัด หรือหน่วงไว้ก่อนตัดครับ ถนอมเครื่องดีครับ
ถ้าไม่ได้มีปํญหาอะไร ก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ
เลือกเฟสที่เวลากลางคืนเราฟังเพลงจากเฟสที่เราเดินทำงานกลางวันครับ สำหรับผมเลือกเฟสไฟสนามไว้ฟ้งกลางวัน ส่วนเฟสในครัวไว้ฟังกลางคืนครับ ตัดปัญหาการรบกวนกันครับ แต่ละเฟสเสียงไม่เหมือนกันเลยนะครับ ลองเกี่ยวฟังคร่าวๆก่อนก็ดีนะครับ

และไฟบ้านคุณหมอ  ตัวเลขนี้ถือว่า เสถียรน่ะ   จัดว่าเป็นไฟนิ่งที่ดีเลยแหละ  เครื่องคุมไฟ  เก็บไว้ก่อน ยังไม่ต้องคิด


ทำต้นน้ำให้ดีที่สุดก่อน   เปรียบเสมือนให้คนไข้ กินอาหารสะอาดดี ๆ ออกกำลังกายให้ดีก่อน  ดีกว่าไปกินวิตามินเสริมคับ

[chat]

ตามโจทย์...ที่ให้มา ความเห็นผม ควรจะมีเครื่องคุมไฟอย่างดี สัก 1 ตัว เช่น ของ Magnet /CLEF /Sidital  อะไรก็ได้ ตามความชอบ และงบประมาณ ...ซึ่งเครื่องคุมไฟ ดีๆ นอกจากจะมีวงจรป้องกัน ปัญหาอย่างที่เล่ามาแล้ว ส่วนใหญ่จะมี วงจรกรองไฟ มาให้แล้วระดับ ค่อนข้างดี หลังจากนั้นค่อยมาเล่นเครื่อง กรองไฟ ตามแต่ใจปราถนา ... แต่จากที่เล่ามา ใจเอนเอียงมาทาง DIY ด้วย...แนะนำ หม้อแปลง บาลานซ์ ขนาด 2000 Watt สักตัว ก็แหล่มแล้ว.... ที่เหลือ ค่อยปรุงแต่งเอาที่หลังครับ .... อิ อิ เรื่อง ปรุงแต่งทีหลัง เนี่ยแหละ ต้องเตรียมตังค์ไว้เยอะๆ นะครับ

[ukrit]

ไม่ทราบคุณหมอได้ แยกเมนหรือเปล่าครับ สำหรับเครือ่งเสียงเพียวๆกับเบรคเกอร์ดีๆซํกชุดครับ โดยไม่ผ่านสะพานไฟ ไม่ผ่านเซพที ฟิวส์ครับ แล้วก็ใช้สายดีหน่อยพวกเบลเด้นก็เหลือๆแล้วครับเดินตั้งแต่หน้าบ้านมาห้องฟังเลยครับ โดยไม่ต่อซ้ำซ้อน  ปลั๊กวัตเกตซักสองชุด เลือกเงินและทองไว้ลองฟังจูนดูว่าเข้ากับอะไรเช่น ภาพก็ตัวเงิน เสียงก็ตัวทองครับ
สำหรับผมขายทิ้งหมดเลยครับทั้งกรองไฟ คุมไฟ พอได้ลองแยกแล้วอุปกรณ์พวกนี้มองข้ามไปเลยครับ ก่อนหน้าที่เล่นพวกนี้ผมไม่ได้แยกเมนครับ พอแยกเมนลงทุนไม่มากก็ เห็นผลชัดเจนกว่าครับ
สำหรับกรองไฟ ดีสำหรับพวกที่เครือ่งกระจายแมคเนติกรบกวน พวกมอเตอร์ทั้งหลายครับ ลองง่ายๆเปิดสว่านแล้วลองเช็คภาพดูซิครับ เห็นชัดเจน  ส่วนพวก  noise filter ที่่ขายทั่วไปผมว่าไม่ดีครับ สิ้นเปลืองเปล่าๆ ลองมาหลายตัวครับ ตัวใหญ่ๆแบบโรงงาน5-60แอมป์ ก็ลองมาแล้วไม่ชัดเจนครับ เสียงยังกุดๆ ปลายหายๆ พวกฮาโมนิค ละอองความกังวาลยังบดบังครับ  ส่วนบรรยากาศก็หายไปพอควรครับ ambience airy หายครับ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องกวนก็คงไม่ต้องใช้หรอกครับ แต่ถ้าเป็นพวกกรองไฟยี่ห้อดีหน่อย อย่างที่เคยลอง shunyata ก็ดีครับไม่อั้นครับ แต่เสียงออกซีดๆลองครับ ได้อย่างเสียอย่างหายากที่จะเฟอเฟคครับ
ส่วนคุมไฟก็น่าสนครับ แต่ก็ต้องแลกกับ เสียงที่ปลายหุบลง แต่ได้ความนิ่งน้ำหนัก ดีกว่าเดิมเล็กน้อย ชิ้นดนตรีมีระเบียบขึ้น แต่ปลายเสียง ละออง บรรยากาศ เวทีหุบลงครับ  ข้อดีก็พอสมควรครับ เช่นไฟกระชาก ก็มีเสียงเตือน ปรับบวกลบได้ ตามกระแสขาดเกินของบ้านเรา ไฟเกินก็ตัด หรือหน่วงไว้ก่อนตัดครับ ถนอมเครื่องดีครับ
ถ้าไม่ได้มีปํญหาอะไร ก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ
เลือกเฟสที่เวลากลางคืนเราฟังเพลงจากเฟสที่เราเดินทำงานกลางวันครับ สำหรับผมเลือกเฟสไฟสนามไว้ฟ้งกลางวัน ส่วนเฟสในครัวไว้ฟังกลางคืนครับ ตัดปัญหาการรบกวนกันครับ แต่ละเฟสเสียงไม่เหมือนกันเลยนะครับ ลองเกี่ยวฟังคร่าวๆก่อนก็ดีนะครับ

[Help !!!]

ต้องการ upgrade อุปกรณ์ ใหม่ครับ เนื่องจากจำนวนเต้าเสียบไม่พอใช้ (วางแผนว่าต้องมีถึง 10 เต้าจึงจะพอ)

ระบบไฟฟ้าที่บ้าน เป็นระบบ 3 เฟส อาคารพานิช 2 คูหา 3 ชั้นครึ่ง
ชั้นล่าง เดินครบ 3 เฟส แบ่งตามห้องต่างๆ โซนละเฟส ครบ3 โซน เดินกราวน์เรียบร้อย
เนื่องจากเป็นคลินิก จึงมียูนิตทำฟัน x2 ปั๊มลม x2 Xray x1 แอร์ x5
ชั้นลอย เดินไฟ 1 เฟส เป็นห้องโฮม ห้องครัว แอร์ x1 เดินกราวน์เฉพาะห้องโฮมห้องเดียว
ชั้น 2 และ 3 เดินไฟ อีกชั้นละ 1 เฟส

ดังนั้นผมจึงใช้มิเตอร์วัดไฟที่เต้าเสียบห้องโฮมดู แบบต่อเนื่อง โดยพบว่าตลอดทั้งวัน ไฟจะสวิงอยู่ในช่วง 223V - 238V (โดยมีค่ากลางที่ 230V เป็นส่วนใหญ๋ ไม่ใช่ 220V อย่างที่เข้าใจแต่แรก)
ส่วนอาการไฟฟ้าที่เคยปรากฏคือ ไฟดับแล้วมาทันที่ ไม่ถึงเสี้ยววินาที ประมาณเดือนละครั้ง โดยไม่เกี่ยวกับฟ้าฝน

จึงขอเรียนถามว่าผมควรใช้อุปกรณ์อะไร รุ่นไหมดี ที่ตอบความต้องการผมดังนี้
1. กรองไฟ เพื่อให้ภาพและเสียงดีขึ้น
2. ป้องกันไฟตก ไฟเกิน
3. ป้องกันไฟกระชาก ฟ้าผ่า (ระดับหนึ่ง) ที่มาตามสายไฟ สายอากาศ สายโทรศัพท์
(ทางสายไฟ คิดว่าจะติด Surge arrester ที่ตู้ไฟเมน ช่วยได้ไหมครับ)
(ทางสายอากาศ คิดว่าจะติด gas MOV ที่ splitter box ของสายอากาศ แล้วต่อลงกราวน์ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่า)
(ทางสายโทรศัพท์ ที่หน้าอาคารมีกล่องกันฟ้า ที่ติดคั่นสายโทรศัพท์ก่อนเข้าอาคารแล้ว ไม่ทราบว่าช่วยไหม)

อุปกรณ์ที่มองไว้ เพื่อจุดประสงค์ ข้อ 1 และ 2
1. กรองไฟ DIY (เอา line filter ของ DEXICON บ้านหม้อ มาประกอบเอง)
2. Line filter สำเร็จ ของ dexicon หรือ NPE บ้านหม้อ ที่เป็น rack คล้ายๆจะใช้กับงาน PA
3. line filter สำเร็จ ตัวไหมดีครับ ระหว่าง Mountain Next, Magnet LC-1, LC-2, Clean Source (เริ่มเกินงบ)

ขอบคุณครับ

Dr@Joe