หัวข้อ: คุณจะทำอย่างไรที่ให้ชุดเครื่องเสียง เสียงดีขึ้น โดยไม่ไปเปลี่ยนบุคลิกของ...

[ชัย สาธุ]

ขอบคุณครับ คุณZax ที่มาแชร์ประสบการณ์กัน

[zax]

แนวทางของคุณZax เกี่ยวกับข้อ2ครับ Room Acoustic Treatment การทำAcoustic Treatment ต้องรู้ค่าabsorption Coeffecient ของวัสดุต่างๆ ดูคร่าวๆ ตามlink http://www.saecollege.de/reference_material/audio/pages/Coefficient%20Chart.htm

สนใจเรื่องปัญหาต่างๆ ของเสียง ลองหาข้อมูลได้ที่นี่ครับ http://www.saecollege.de/reference_material/audio/pages/fullindex.htm

เสร็จแล้วมานั่งรอ คุณM.lex บรรยายต่อ
[/quote]


ขอขอบคุณท่านชัย สาธุ  มากครับ     ที่มาช่วยให้ข้อมูลที่มี่การวิจัย เป็นหลักการหรือทฤษฎีทีี่เป็นที่ยอมรับใช้อ้างอิงกัน  
  
     แต่ก็มีบางจุดที่ผมได้พบมา  จึงอยากจะขอเน้นยำ้เพื่อให้เห็นความสำคัญ  นั่นก็คือเรื่องที่      วัสดุอุปกรณ์ทุกชนิดมีทิศทางของมัน  ในอันที่จะเปล่งประสิทธิภาพ หรือมีผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆที่อยู่แวดล้อมในแง่บวก     แต่ถ้าผิดทิศกลับส่งผลลบ หริอผลเสียออกมาต่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในบริเวณนั้น    
     ซึ่งเรื่องนี้ น่าจะยังไม่มีคนฝรั่งเขียนถึงเรื่องนี้ในลักษณะที่เป็นหลักการหรือทฤษฎี อย่างในลิ้งค์ที่ยกมา    แต่ คนไทย เช่นคุณไมตรี ,คุณยุทธพงษ์ ลิ้ม และท่านอื่นๆ   ก็ได้เผยแพร่และพูดถึงไว้บ้างแล้วในแง่ผลจากการใช้จริง    
     ขอยกตัวอย่างเช่น   พรมผืนเดียวกัน ในห้องฟังเพลงที่รู้สึกว่าช่วยให้เสียงดีชึ้น   กับอีกบ้านหนึ่งที่ซื้อพรมแบบเดียวกัน หรือรุ่นเดียวกัน (แม้กับในบ้านแบบเดียวกัน  หรือชุดเครื่องเสียงเหมือนกัน)  กลับรู้สึกว่าทำให้เสียงทึบลง      ซึ่งโดยทั่วไปมักคิดกันว่าที่มันไม่เข้ากับสภาพห้อง น่าจะเป็นเพราะเกิดจากการซับเสียงมากไปน้อยไปในห้องนั้น        แต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องที่พรมมันก็มีทิศทางในการวาง       ซึ่งอาจจะขอเรียกอย่างคร่าวๆไปก่อนว่า   มันมีฮวงจุ้ยทางด้านเครื่องเสียง  (หรือมองในแง่วิทยาศาสตร์ ทุกสิ่งมีการอ้างอิง แกน x แกน y แกน z  ตามหลักควันตั้มฟิสิกส์ ?)
     อยากจะท้าพิสูจน์ (โดยเฉพาะชุดเครื่อเสียงที่เซ็ทไว้ดีแล้ว เพราะช่วยให้เห็นความแตกต่างได้ง่ายขึ้น)    โดยให้ท่านลองบิดหมุนพรมให้ด้านตรงข้ามมาอยู่ด้านลำโพงแทน (อย่าลืมลองบิดฟังด้านที่เหลืออีกสองด้านด้วย)   แล้วฟังเสียงดูว่า ทำไมเสียงเพลงถึงไพเราะต่างกัน   ทั้งๆที่มันน่าจะมีอัตราการดูดซับสะท้อนเสียงเท่าเดิม      
     ผมเคยเอาแผ่นกระดาษ ขนาด A4  มาวางบนเครื่องเล่นซีดี หรือบนแอมป์    โดยให้หันให้ขนานไปกับตัวเครื่อง  จากนั้นได้ลองบิดการะดาษให้หันข้างด้านอื่นขนานกับตัวเครื่องแทน  โดยฟังเสียงเพลงเดิมเปรียบเทียบ บิดฟังจนครบ 4 ด้าน    จากนั้นพลิกแผ่นกระดาษแล้วบิดฟังเทียบอีกทั้ง 4 ด้าน    พบว่า มีด้านหนึ่งที่ให้เสียงเพลงฟังดีกว่าด้านอื่นๆ   และมักพบว่า ด้านตรงข้ามมักให้เสียงไม่ดีเสมอ        
     ผมจึงไม่สงสัยเลยว่า ทำไม แผ่นเก็บเสียง sonex ของเยอรมัน ที่คุณไมตรี ใชับุห้องฟังของเขาเองทั้งห้อง แล้วแนะนำให้พวกเราใช้กัน เพราะช่วยให้ห้องไม่ก้องได้ผลดีจริง    แต่นักวิจารณ์ท่านอื่นกลับบอกว่าใช้แล้วเสียงทึบ   เพราะผมได้เคยซื้อมาใช้พบว่า ต้องบิดหมุนหาทิศในการตั้งวางทุกแผ่น  และเมื่อเปลี่ยนด้านผนังที่วางก็ต้องฟังหาทิศใหม่   
      ท้ายสุด  ปรากฏการณ์เรื่องนี้ บังเอิญ สามารถอธิบายได้อย่างสอดคล้องที่สุด กับหลักพุทธธรรมที่เรียนรู้มา   เรื่อง "ตัวตนกับสิ่งแวดล้อมไม่แยกจากกันเป็นสอง" เลยครับ    
    

[ชัย สาธุ]

มีเรื่องมาแอบเล่าให้ฟัง     โดยเฉพาะสำหรับพวกอนาถาไฮเอ็นด์   ที่อยากได้มิติ เวทีเสียงแบบลำโพงล่องหน    ชนิดที่ไม่ต้องเสียเงิน   แต่ต้องแลกด้วยแรงกาย + แรงใจที่จะกล้าท้าพิสูจน์ครับ   

    วันนี้วันหยุด และพอมีเวลาว่าง มากพอที่จะมาตรวจเซ็ทระบบเสียงใหม่      จากที่ครั้งหนึ่งเสียงห้องนึ้ (ห้องนอน) เคยฟังเพลงได้ไพเราะ  และมิติเสียงดีแบบลำโพงล่องหน       แต่ต่อมาครั้นมีการเปลี่ยน แอมป์ที่เสียงน่าฟังขึ้น    ปลั๊กไฟออดิโอเกรด    หัวท้ายปลั๊กไฟออดิโอเกรด    และสายไฟที่ดีกว่าแพงกว่าเข้าไป    ซึ่งทำให้เสียงดีขึ้นจนถึงขนาดต้องถอดไม่ใช้เครื่องกรองไฟใดๆที่มาต่อมาคั่น  (ยกเว้นพวกตัวกรองคลื่นขยะแบบไม่เสียบคั่น)       มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่  มีการปูเบาะที่นอนใหม่    ทำให้มีการขยับลำโพงใหม่     ตอนแรกดูเหมือนว่าเสียงดี    แต่ฟังไปนานๆ พบว่าเหมือนสู้ของเก่าไม่ได้  ทั้งที่ใช้ของดีขึ้น       ได้พยายามทำการเซ็ทอัพเครื่องต่างๆใหม่    ปรับการวางลำโพงใหม่  ปรับจูน หมุน ย้าย ตัวช่วยต่างๆ  ให้ทุกอย่างจูนเสียงให้ดีที่สุด อยู่หลายๆๆครั้ง       ล่าสุดก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์  ตรวจไปตรวจมาพบว่า ตอนใช้ไขควงวัดไฟตรวจขาไฟ เข้า ของรูเสียบสายไฟ  พบว่าไฟเข้า ขา L  N  ผิดขั้วมาตราฐานสากลใช้กัน    วันนี้พอมีเวลา จึงลงมือแก้ไข โดยรื้อดูว่าต้องถอกออกมาบัดกรีสลับขั้วไฟ  ใหม่  หรือแค่กลับขาปลั๊กไฟ       หลังจากแก้ไข้ได้แล้ว  เสียงก็ดีขึ้นมามากในแง่ความน่าฟัง  ลำโพงก็ล่องหนได้มากกว่าเดิมแล้ว    แต่ก็ยังฟังเหมือนฟังเครื่องเสียงไม่ใช่ฟังเพลงอยู่    คือยังไม่สามารถทำให้ลืมเครื่องเสียง แล้วอารมณ์ไปอยู่ที่ดนตรีอย่างเดียว เหมือนอย่างที่เคยทำได้มาก่อน   ทั้งๆที่อัพไปมากมาย   
    ในที่สุดตัดสินใจรื้อที่นอนออกมาปูใหม่   โดยฟังเสียงว่า ก่อนปู เบาะและฟูกที่นอน ตอนเป็นพื้นเปล่าๆ เสียงก็สดขึ้นน่าฟังกว่าเดิม แม้จะเสียงจัดขึ้นนิดๆ  น่าจะแสดงว่า เครื่องเซ็ทได้ที่ถูกทางแล้ว       จากนั้นกลับหัวท้ายเบาะรองพื้น ปูแล้วฟังเสียงเอา  พบว่ากลับแล้วมิติเสียงดีขึ้น   เพื่อความแน่ใจ จึงลองกลับหัวท้ายปูแบบเดิม  พบว่าฟังเสียงเพลงแล้วสู้แบบกลับหัวท้ายใหม่ไม่ได้  จึงกลับหัวท้ายปูใหม่แล้วฟังซ้ำ พบว่ามาถูกทางแล้ว   ต่อมาปูฟูกนอน ก็กลับหัวท้าย ฟังเสียงเพลงแบบเดียวกันปูเบาะ พบว่าต้องกลับหัวท้ายเช่นกัน และได้ลองกลับควำ่หงายผ้าม่านหน้าต่างบังแสงด้านหลังห้องที่เป็นหน้าต่างด้วย   ( หากกลับผิด บางครั้งเสียงเหมือนโอบรอบเป็นเซอร์ราด์ มีนักร้อง และดนตรีมาอยู่ด้านหลังเราด้วย  ซึ่งฟังแรกๆ เหมือนดี แต่นานไปจะรู้ว่าไม่ใช่ )      ถึงตอนนี้ ลำโพงล่องหนเกือบ 100 % แล้ว    แต่มิติทรวดทรงชิ้นดนตรี นักร้องยังไม่ชัดเจน หรือเป็นตัวตนที่ถูกต้องนัก   จึงลองขยับลำโพงข้างหนึ่งที่เห็นว่าเสียงยังปรากฏแถวตู้อยู่   จนทุกอย่างได้ที่แล้ว     สิ่งที่ต้องการและโหยหามานาน ก็สามารถกลับมาให้ได้ยินได้ฟังอีกครั้ง    นั่นคือ เสียงจากลำโพงที่สามารถทำให้ลืมว่าฟังเครื่องเสียง  แล้วอารมณ์ไปอยู่ที่ดนตรีอย่างเดียวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงดนตรีเริ่มขึ้น  โดยที่ชิ้นดนตรึและนักร้องก็ลอยเป็นชิ้นเป็นอัน  แต่เล่นสอดรับกันขึ้นเป็นบทเพลงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ต่างคนต่างเล่นตัวใครตัวมัน      ถึงตอนนี้เล่นฟังเอาจนเคลิ้มเกือบเผลอหลังเพราะออกแรงไปเยอะ  จนถึงกับไม่อยากหยุดฟัง  เพื่อไปทำงานอย่างอื่นต่อเอาเลย  หากไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่นัดไว้แล้ว   ก็ขอจบประสบการณ์ล่าสุดเพียงเท่านี้        
     
    ปล. สาเหตุที่กล้าลองกลับหัวท้ายเบาะที่นอนใหม่ เพราะก่อนหน้านี้หลายครั้ง ได้เอาผ้าปูที่นอนออกไปซัก  2 - 3 อาทิดย์ /ครั้ง   พบว่าเวลาเอามาปูใหม่ ฟังเพลงไม่เพราะเหมือนเดิม   เมื่อมีเวลา ได่ลองพลิกหงาย หรือกลับหัวกลับท้ายปูใหม่ เพี่อฟังเสียงเพลงดู   พบว่าให้เสียงต่างกันแน่นอน   
( เคล็ดลับอีกอย่าง เวลารู้สึกนอนไม่หลับเสียที่ หรือหลับๆตื่นๆบ่อย ก็ลอกหมุนกลับหมอนนอนใหม่  ก็รู้สึกดีขึ้นเช่นกัน)
     

แนวทางของคุณZax เกี่ยวกับข้อ2ครับ Room Acoustic Treatment การทำAcoustic Treatment ต้องรู้ค่าabsorption Coeffecient ของวัสดุต่างๆ ดูคร่าวๆ ตามlink http://www.saecollege.de/reference_material/audio/pages/Coefficient%20Chart.htm

สนใจเรื่องปัญหาต่างๆ ของเสียง ลองหาข้อมูลได้ที่นี่ครับ http://www.saecollege.de/reference_material/audio/pages/fullindex.htm

เสร็จแล้วมานั่งรอ คุณM.lex บรรยายต่อ

[zax]

มีเรื่องมาแอบเล่าให้ฟัง     โดยเฉพาะสำหรับพวกอนาถาไฮเอ็นด์   ที่อยากได้มิติ เวทีเสียงแบบลำโพงล่องหน    ชนิดที่ไม่ต้องเสียเงิน   แต่ต้องแลกด้วยแรงกาย + แรงใจที่จะกล้าท้าพิสูจน์ครับ   

    วันนี้วันหยุด และพอมีเวลาว่าง มากพอที่จะมาตรวจเซ็ทระบบเสียงใหม่      จากที่ครั้งหนึ่งเสียงห้องนึ้ (ห้องนอน) เคยฟังเพลงได้ไพเราะ  และมิติเสียงดีแบบลำโพงล่องหน       แต่ต่อมาครั้นมีการเปลี่ยน แอมป์ที่เสียงน่าฟังขึ้น    ปลั๊กไฟออดิโอเกรด    หัวท้ายปลั๊กไฟออดิโอเกรด    และสายไฟที่ดีกว่าแพงกว่าเข้าไป    ซึ่งทำให้เสียงดีขึ้นจนถึงขนาดต้องถอดไม่ใช้เครื่องกรองไฟใดๆที่มาต่อมาคั่น  (ยกเว้นพวกตัวกรองคลื่นขยะแบบไม่เสียบคั่น)       มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่  มีการปูเบาะที่นอนใหม่    ทำให้มีการขยับลำโพงใหม่     ตอนแรกดูเหมือนว่าเสียงดี    แต่ฟังไปนานๆ พบว่าเหมือนสู้ของเก่าไม่ได้  ทั้งที่ใช้ของดีขึ้น       ได้พยายามทำการเซ็ทอัพเครื่องต่างๆใหม่    ปรับการวางลำโพงใหม่  ปรับจูน หมุน ย้าย ตัวช่วยต่างๆ  ให้ทุกอย่างจูนเสียงให้ดีที่สุด อยู่หลายๆๆครั้ง       ล่าสุดก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์  ตรวจไปตรวจมาพบว่า ตอนใช้ไขควงวัดไฟตรวจขาไฟ เข้า ของรูเสียบสายไฟ  พบว่าไฟเข้า ขา L  N  ผิดขั้วมาตราฐานสากลใช้กัน    วันนี้พอมีเวลา จึงลงมือแก้ไข โดยรื้อดูว่าต้องถอกออกมาบัดกรีสลับขั้วไฟ  ใหม่  หรือแค่กลับขาปลั๊กไฟ       หลังจากแก้ไข้ได้แล้ว  เสียงก็ดีขึ้นมามากในแง่ความน่าฟัง  ลำโพงก็ล่องหนได้มากกว่าเดิมแล้ว    แต่ก็ยังฟังเหมือนฟังเครื่องเสียงไม่ใช่ฟังเพลงอยู่    คือยังไม่สามารถทำให้ลืมเครื่องเสียง แล้วอารมณ์ไปอยู่ที่ดนตรีอย่างเดียว เหมือนอย่างที่เคยทำได้มาก่อน   ทั้งๆที่อัพไปมากมาย   
    ในที่สุดตัดสินใจรื้อที่นอนออกมาปูใหม่   โดยฟังเสียงว่า ก่อนปู เบาะและฟูกที่นอน ตอนเป็นพื้นเปล่าๆ เสียงก็สดขึ้นน่าฟังกว่าเดิม แม้จะเสียงจัดขึ้นนิดๆ  น่าจะแสดงว่า เครื่องเซ็ทได้ที่ถูกทางแล้ว       จากนั้นกลับหัวท้ายเบาะรองพื้น ปูแล้วฟังเสียงเอา  พบว่ากลับแล้วมิติเสียงดีขึ้น   เพื่อความแน่ใจ จึงลองกลับหัวท้ายปูแบบเดิม  พบว่าฟังเสียงเพลงแล้วสู้แบบกลับหัวท้ายใหม่ไม่ได้  จึงกลับหัวท้ายปูใหม่แล้วฟังซ้ำ พบว่ามาถูกทางแล้ว   ต่อมาปูฟูกนอน ก็กลับหัวท้าย ฟังเสียงเพลงแบบเดียวกันปูเบาะ พบว่าต้องกลับหัวท้ายเช่นกัน และได้ลองกลับควำ่หงายผ้าม่านหน้าต่างบังแสงด้านหลังห้องที่เป็นหน้าต่างด้วย   ( หากกลับผิด บางครั้งเสียงเหมือนโอบรอบเป็นเซอร์ราด์ มีนักร้อง และดนตรีมาอยู่ด้านหลังเราด้วย  ซึ่งฟังแรกๆ เหมือนดี แต่นานไปจะรู้ว่าไม่ใช่ )      ถึงตอนนี้ ลำโพงล่องหนเกือบ 100 % แล้ว    แต่มิติทรวดทรงชิ้นดนตรี นักร้องยังไม่ชัดเจน หรือเป็นตัวตนที่ถูกต้องนัก   จึงลองขยับลำโพงข้างหนึ่งที่เห็นว่าเสียงยังปรากฏแถวตู้อยู่   จนทุกอย่างได้ที่แล้ว     สิ่งที่ต้องการและโหยหามานาน ก็สามารถกลับมาให้ได้ยินได้ฟังอีกครั้ง    นั่นคือ เสียงจากลำโพงที่สามารถทำให้ลืมว่าฟังเครื่องเสียง  แล้วอารมณ์ไปอยู่ที่ดนตรีอย่างเดียวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงดนตรีเริ่มขึ้น  โดยที่ชิ้นดนตรึและนักร้องก็ลอยเป็นชิ้นเป็นอัน  แต่เล่นสอดรับกันขึ้นเป็นบทเพลงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ต่างคนต่างเล่นตัวใครตัวมัน      ถึงตอนนี้เล่นฟังเอาจนเคลิ้มเกือบเผลอหลังเพราะออกแรงไปเยอะ  จนถึงกับไม่อยากหยุดฟัง  เพื่อไปทำงานอย่างอื่นต่อเอาเลย  หากไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่นัดไว้แล้ว   ก็ขอจบประสบการณ์ล่าสุดเพียงเท่านี้        
     
    ปล. สาเหตุที่กล้าลองกลับหัวท้ายเบาะที่นอนใหม่ เพราะก่อนหน้านี้หลายครั้ง ได้เอาผ้าปูที่นอนออกไปซัก  2 - 3 อาทิดย์ /ครั้ง   พบว่าเวลาเอามาปูใหม่ ฟังเพลงไม่เพราะเหมือนเดิม   เมื่อมีเวลา ได่ลองพลิกหงาย หรือกลับหัวกลับท้ายปูใหม่ เพี่อฟังเสียงเพลงดู   พบว่าให้เสียงต่างกันแน่นอน   
( เคล็ดลับอีกอย่าง เวลารู้สึกนอนไม่หลับเสียที่ หรือหลับๆตื่นๆบ่อย ก็ลอกหมุนกลับหมอนนอนใหม่  ก็รู้สึกดีขึ้นเช่นกัน)
 
 
   

[rut]

ว้าว

[hiroyuki (หยก)]

รออ่านตอนสุดท้ายอยู่ครับ 

[M.lex]

2.Room Acoustic Treatment

การปรับจูน Acoustic ห้องดูหนังฟังเพลง แบ่งออกเป็นสองแบบ
1.เก็บเสียง
2.ซับเสียง
เอาแล้วซิ ก็แล้วที่กะรูทำอยู่นี่มัน มันเก็บเสียงหรือซับเสียงกันแน่ละเนี่ย เป็นงงๆ?
ไม่ต้องงง เก็บเสียงก็หมายฟามว่า ไม่มีเหลือตกค้างอยู่เลย ส่วนการซับคือการเอาออกไปบางส่วนไม่หมดเสียทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น เราทำน้ำหกลงพื้น แล้วเอาผ้ามาซับน้ำที่หก น้ำก็ยังคงเหลือค้างอยูาที่พื้นบางส่วน แต่ถ้าเราเก็บกาดเช็ดถู น้ำที่หกลงพื้นก็หมดไม่เหลือหลอ สะอาดสะอ้าน
คงหายงงแล้วนะ เฮ่อ...

มาต่อกันเลยดีกว่า กับการที่เราทำเสียงให้ดีขึ้นไปอีกระดับโดยไม่ไปเปลี่ยนบุคลิด เครื่องเสียงที่แสนจะภูมิใจ
หลังจากที่เรารู้ปัญหาที่แท้จริงแล้ว จากการ Setup เราจะรู้ไดทันทีว่า ห้องมันมีอาการของเสียงแบบได
1.บวม(Boomie) สาเหตุเกิดจาก ห้องไม่แข็งแรง ผนังกลวง ห้องแบบนี้มักจะช่วยกันสร้างความถี่ตำใหม่ เบสเต็มห้องหรือบวมเต็มห้องกันล่ะเนี่ย ดีเนอะ ไม่ต้องเสียตังค์ เราก็ได้ความถี่ต่ำมาฟรีๆ
แบบนี้แก้อยาก ซับไปเถอครับ โอกาสที่จาหาย ลิบหลี่ ยกเว้น เปฺิดเสียงแค่พอฟังได้ ไม่มีความถี่ต่ำมาก ห้องที่ลักษณะนี่ มีน้อย เสียงบวมไม่ใช่ใช้การ "ซับ" แต่ต้องเก็บครับ ความถี่ต่ำซับยังไงก็ไม่หมด เก็บเถอะครับ

2.ก้อง สะท้อน (reverberation) อีกคำนึงที่เรามักใช้ผิดกันคือ echo แปลเป็นภาไทย ก็มีความหมายคล้ายกัน คือก้อง สะท้อน แต่ที่ไม่เหมือนกัน ที่ reverberation มีการสะท้อนของเสียงแค่ช่วงเดียว เราตบมือ หนึ่งครั้ง เราก็จะได้ยินเสียงก้อง สะท้อนกลับมาแค่ครั้งเดียว
ส่วนecho เราตบมือหนึ่งครั้ง มันมีเสียงก้องสะท้อน ไปมาหลายครั้ง ถ้านึกไม่ออกว่า Echo เป็นอย่างไร ไปเที่ยวถ่ำซิครับ แล้วตะโกนออกไปดังๆ นั่นและครับ (อะโหล 123 อะโหล เทสสสสสสส)
ฉนั้น ในห้องดูหนังฟังเพลง ไม่มีเสียง Echo มี่แต่ reverberation เท่านั้น ห้องที่มีปัญหาเสียงแบบนี้ แก้ไม่ยาก ซับครับซับ รับรองไม่ไปเปลี่ยนบุคลิก เครื่องเสียงของเราแน่นอน แต่เราจาได้รู้ว่า เฮ้ย อะไรกัน เอาไอ้นั่นไปแปะนิดเดียวเสียงดีขึ้นถึงเพียงนี่้เชียวหรือ ไม่ชื่ออย่าลบหลู่
คำเตือน! Setup ก่อนครับ Setup

อ่านตรงนี้ก่อนไปปรับ Acoustic ในห้อง

อย่าไปเดินตบมือ แล้วบอกว่าเสียงก้องตรงนั้น ก้องตรงนี้ เสียงตบมันมีกี่ความถี่ ตอบที ให้ใช้การฟังจากเสียงที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ก็จากเครื่องเสียงเรานั่นแหละครับ อย่าไปเดินตบมือนะครับ ไม่มืออาชีพ ฟังเสียงจริงครับฟังเสียงจริง

ติดตาม 3.Vibration&Resonace Point รับรองสนุกแน่นอน เป็นสิ่งที่คนเล่นเครื่องเสียงรู้น้อยที่สุด แต่ถ้าใครไปฟังเครื่องเสียงที่ร้าน คุณโก้ตอนนี้ที่คุณโก้ Show อยู่ รองถามเรื่องชั้วางดูนะครับ

ติดตามตอนจบ คุณจะทำอย่างไรที่ให้ชุดเครื่องเสียงของคุณ เสียงดีขึ้น โดยไม่ไปเปลี่ยนบุคลิกของเครื่องเสียง

[M.lex]

สามอย่างที่ทำแล้วไม่ไปเปลี่ยนเสียง ของเครื่องเสียง

1.Setup
2.Room Acoustic Treatment
3.Vibration&Resonace Point

แล้วจะมาแจกแจงรายละเอียด

1.Setup
เมื่อเครื่องเสียงเราพร้อมทุกอย่างแล้ว แต่เอ...? เสียงแหลมไม่ดีไม่มีประกาย เสียงกลางก็ไม่หวาน เสียงเบสไม่มี ไม่มีพลัง
อื่ม...ต้องเปลี่ยนหรือไมก็เพิ่มอะไรสักอย่างคงจะดีขึ้นเป็นแน่แท้ คิดได้ดังนั้น ก็ออกไปด้อมๆมองๆ ตามสถานที่ต่างๆที่มีอุปกรณ์ Tweak ขายกัน  จะเอาอะไรน้า
แต่เดี๋ยวก่อน (มีมารมาขัดขวางทันเวลาพอดี) มารเอ่ยถามว่าชุดเครื่องเสียงคุณมีปัญหาอะไร ทันทีที่ถามออกไป เขาคนนั้นฟูมฟายตอบอย่างตั้งอกตั้งใจ
จับใจความได้ว่า ไอ้นู้นไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่เห็นเป็นอย่างที่เขาว่ากัน และอีกสารพัด สรุปว่าไม่มีอะไรดีเลยใช้ไหมนี่ เขาตอบว่ามันก็ไม่เชิงนะครับ
มารเลยถามอีกว่าอุปกรณ์ Tweak มันช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือ เอไม่ไม่แน่ใจ เขาว่าใส่แล้วไอ้นั้นดีขึ้น ไอ้นี่หวานใสกระจ่าง เวทีกว้างขวางใหญโต โอ่อ่า
เขาว่าอย่างนั้นหรือ ผมมีวีธีที่ทำให้ เครื่องเสียงของคุณเสียงดีขึ้น และพร้อมกันนี่ คุณเองก็จะฟังเก่งขึ้นด้วย และหนำซ้ำ คุณเองก็จะได้รู้สักยภาพของชุดเครื่องเสียง
ของคุณด้วยว่า แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณต้องการนั้น มันอาจจะอยู่แค่ขยับลำโพงเพียงนิดเดียวก็ได้ นี่ไงละ ที่บอกว่า ไม่ไปเปลี่ยนบุคลิคเสียง ของเครื่องเสียงเลย
แต่กับกัน มันกับทำให้เรามองเห็น(ได้ยิน)สักยภาพที่แท้จริงของเครื่องเสียง ของเราที่ใช้อยู่ เศรษฐกิจอย่างนี้ นี่คือวิธีที่เสียตังค์น้อยที่สุด

การหัด Setup เป็นการเพิ่มทักษะการการฟังมากที่สุด

การเปลี่ยนหรือไปเพิ่มอุปกรณ์บางอย่างในชุดเครื่องเสียงนั้น ตัวผมเอง จัดอยู่ในรูปแบบของการ Tweak คือการเพิ่มสักยภาพของเครื่องเสียง
ให้เครื่องเสียงแสดงความดีออกมาได้อย่างเต็มที่ การ Setup ก็คือการรีดสักยภาพของเครื่องเสียงออกมาให้หมด หรือให้ได้มากที่สุด นั่นแหละ เราถึงจะรู้ว่าเราต้องการอะไรมาเพิ่มหรือเติมเข้าไป
ลงมืทำเลยครับ Showtime

[Huge 007]

ปรับ อคูสติกSetup ห้องฟัง

[nammm]

Room Acoustic Treatment   นี่ละครับ ห้องดี ช่วยได้เยอะ

[M.lex]

สามอย่างที่ทำแล้วไม่ไปเปลี่ยนเสียง ของเครื่องเสียง

1.Setup
2.Room Acoustic Treatment
3.Vibration&Resonace Point

แล้วจะมาแจกแจงรายละเอียด

[aouzaa]

เห็นด้วยกับสมาชิกท่านอื่นที่ตอบมาก่อนหน้านี้ ทุกๆท่านครับ

ส่วนตัวขอแคะหู +++ บิวท์อารมณ์ให้สบายๆก่อนฟัง ฮะ

 

[หมี]

ก่อนฟัง ก็ไปนั่งฟัง mini compo ก่อน แล้วค่อยมาฟังชุดจริง 

[pee1323]

ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มอะไร  ยกทุกอย่างให้หนีพี้นห้องครับ ไม่เสียตั้งด้วย

ถ้าอยากเริ่มเสียตังก็ ระบบไฟครับ กับอคูสติกให้ห้องฟัง มีผลนะมากด้วย

[hiroyuki (หยก)]

...

[hiroyuki (หยก)]

ตอบถูกได้รับรางวัลหรือเปล่าครับ คุณเล็ก อิอิ

อ่าว...ห้ามเฉลยข้อสอบ ไม่งั้นตก...อะอะอะ

  อิอิ ครับท่าน

เอ แต่เหมือนจะมีคนตอบ .....

[bt5000]

ไปฟังชุดที่เสียงแย่กว่า (เช่น ตามห้าง)  แล้วกลับมาจะรู้สึกว่า  ของเราเพราะจัง

( คุยสนุกๆกันนะครับ  )

เห็นด้วยครับ ไปฟังชุดห่วยๆๆ รับรองกลับบ้าน สุดยอด
หรือไปฟังชุดแพงๆๆมากๆๆ แต่ไม่ใช่แนวก็ช่วยได้ครับ

[wat12(คุ้ม)]

ไปฟังชุดที่เสียงแย่กว่า (เช่น ตามห้าง)  แล้วกลับมาจะรู้สึกว่า  ของเราเพราะจัง

( คุยสนุกๆกันนะครับ  )

[ยิ้มละไม]

ตกไปอีก 1 ข้อครับ ต้องทำการเคาะขี้หูด้วย หรือใช้ น้ำยาล้างหู ที่ WAXOL มาทำล้างหู อาจจะุได้ยินเสียงเพราะขึ้น แบบทันตาเห็นได้เหมือนกัน

[ยิ้มละไม]

ขอแบบเหวี่ยงแห

๑. ปรับ อคูสติก ห้องฟัง
๒. จัดการ เซตอัพลำโพงใหม่
๓. จัดการเื่รื่องระบบไฟ สายไฟ ต่าง ๆ อย่าทับกัน ให้ลอยจากพื้น ใช้เครื่องกรองไฟดี ๆ อุปกรณ์ป้องกันสัญญานรบกวนต่าง ๆ หรือป้องกันขยะทางไฟฟ้า ฯ
๔. จัดการสายไฟ เปลี่ยนสายไฟดี ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนบุคลิกเสียง เข้ามาแทน IEC เต้ารับต่าง ๆ ฟิวส์ดี ๆ อย่าง C 3
๕. จัดการเรื่องสายสัญญาน สายลำโพง อย่าให้พันกัน อย่าให้มีอะไรทับ พยายามให้ลอยจากพื้น
ุ๖. จัดการเรื่องขั้ว Contact ต่าง ๆ ทั้งภายในเครื่องและนอกเครื่อง ( สาย ต่าง ๆ ) อาจจะใช้ Pro gold ทาทุกขุดทั้งภายนอกและภายใน
ึ๗. จัดการเรื่องสลายแรงสั่นสะเทือน เช่น ให้ revaluation ลองใต้พื้น CD AMP เป็นต้น
๘. จัดการเรื่องขาตั้งลำโพง ให้แข็งแรงมั่นคง
๙. จัดตำแหน่งนั่งฟังใหม่
๑๐. เลือกแผ่นดี ๆ มาฟัง

ถ้าทำครบ ๑๐ ข้อนี้หรือมากกว่า จะมีข้อสุดท้ายครับ

ข้อสุดท้าย ให้คิดเสมอว่า เครื่องของเราดีขึ้น ฟังเพลงเพราะขึ้น ของเราดีแล้ว ของเราสุดยอดแล้ว
และ ห้ามไปฟังชุดของชาวบ้าน หรือไปฟังชุดในงานโชว์ ครับ รับรอง ได้ผลแน่ ๆ ของเราวันนี้เสียงดีจังเลย เสียงดีขึ้นกว่าเมื่อวานอีก คิด   คิด   คิดอย่างนี้   

[zax]

    ผมขอร่วมด้วยหนึ่งข้อก่อนครับ...คือ

กรณีใช้ปลั๊กผนัง  หรือปลั๊กราง หรือตัวคุมไฟที่มีหลายรูเสียบ  ให้ย้ายสายไฟปลั๊กตัวผู้ของเครื่องที่เห็นว่าสำคัญที่สุด ไปเสียบรูปลั๊กที่ใกล้ต้นทางไฟเข้าที่สุดครับ     

ยกตัวอย่างเช่น ให้เลือกช่องเสียบ ปลั๊กตัวเมียรูแรกที่ใกล้ต้นทางที่สุด  เสียบเครื่องเล่นซีดี   รูต่อไปเสียบแอมป์    หรือลองสลับกันดู     ผมพบว่าสามารถช่วยให้คุณภาพเสียงของเครื่องนั้นๆดีขึ้น   และมีความน่าฟัง ความเป็นดนตรี ไม่เอื่อยเฉื่อย   เบสที่เด้งดึ่ง  รายละเอียดความสดใสกรุ้งกริ้ง  โดดเด่นขึ้นจากเดิมมากๆ จนไม่คิดอยากซื้อเครื่องใหม่ได้เลย   
      ในทางกลับกัน  ถ้าต้องการเทสต์เครื่องใด   เช่นการกลับขั้วปลั๊กไฟ L N G   ให้เสียบสายไฟเครื่องนั้นที่รูปลั๊กไฟแรกๆไว้ก่อนเลย    จะช่วยให้ฟังความแตกต่างง่ายขึ้น
    ปล. ต้องทำให้ระบบขี้ฟ้องก่อนนะ  ตามที่ท่านอื่นๆแนะนำไว้  เช่นที่ท่านกุ้งสยาม คุณyai-united  คุณขุนดง บอกไว้   เดี๋ยวจะฟังไม่ออกแล้ว แล้วมาโทษกัน   

[Saitosan]

1.ปรับและทรีตอะคูสติคห้องฟังซึ่งเป็นเรื่องที่ยากที่สุด ต้องมีความรู้และประสบการณ์
2.ปรับเซ็ตลำโพง ชั้นวาง การจัดเรียงสายต่างๆในระบบทั้งหมด
3.ตรวจเช็คความเรียบร้อยการต่อสายต่างๆให่แน่นกระชับ ทำความสะอาดหน้าสัมผัสต่างๆ
ทั้งหมดปีละ ๒ ครั้ง ขันยึดนอ๊ตและสลักเกลียวต่างๆให้แน่นกระชับ ฯ
เอาแค่ 3 ข้อตามที่กำหนด ส่วนใหญ่จะเน้นที่ไม่เสียเงินก่อนปรับปรุงของที่มีอยู่เดิมให้ได้
เสียงที่ดีที่สุดก่อน(คือรีดประสิทธิภาพของมันออกมาให้ได้เต็มร้อย)แล้วคุณอาจจะงงว่า
ชุดของเราเสียงดีขนาดนี้เชียวหรือ 

กระทู้ปราบเซียนเลยนะเนี่ย อิๆๆ ล้อเล่นครับ 
พี่ yai-united ตอบเกือบคล้ายๆผมเลยครับ  
ขอเดานะครับ
1. Setup
2. Acoustic Treatment
3. ..............

ใช่อ๊ะเปล่าคร๊าบบ  
ข้อ 3 ไม่กล้าตอบครับ อิๆๆ 

[M.lex]

ตอบถูกได้รับรางวัลหรือเปล่าครับ คุณเล็ก อิอิ

อ่าว...ห้ามเฉลยข้อสอบ ไม่งั้นตก...อะอะอะ

[M.lex]

-ปรับอครุสติกของห้องฟัง(หรือทำห้องใหม่ )

-เพิ่มขนาดสายไฟ+เครื่องกรองไฟ ให้ได้ไฟฟ้าเพียงพอและสะอาด

-เพิ่มอุปกรณ์ลดสัญญาณรบกวน และเสริมความมั่นคงให้ระบบ

 

เข้าหลักการ

[กุ้งสยาม]

ผมเน้นเรื่องเดิมๆครับ  คือ การตรวจเช็คทิศทางของสายต่างๆ ที่สามารถเช็คได้
เช่นสายลำโพง สายสัญยาณต่างๆ  ไม่ใช่แค่ว่า  ต่อเรียงตามทิศทางที่ระบุมากับสาย
แล้วจบ  เพราะหลายๆครั้ง  พอกลับแล้วต่อย้อนทิศ เสียงถูกต้องกว่าเดิม

แล้วการจัดสายต่างๆ ไม่ให้ทับกันไปทับกันมา  การเสียบปลั๊กที่เต้ารับต่างๆ
หลายๆครั้ง  เช่น เครื่องเล่น CD DVD ไปเสียบ ช่องที่เต้ารับ ปลั๊กราง ตัวกรองไฟ
ที่ระบุว่ามีฟิลเตอร์กรอง คลื่นต่างๆ กลับให้เสียงสู้ช่องที่เป็น อนาล๊อคไม่ได้

แต่ทุกอย่างคงจะต้องขึ้นอยู่กับการใส่ใจ  ทักษะในการรับฟังของคนที่ใช้ด้วย

[INDY]

ก็แค่ไม่ต้องให้คนอื่นมาวิจารณ์ชุดของเราแค่นี้ก็ดีที่สุดในโลกแล้ว ฮ่าๆๆ

[hotbodies]

ทำใจให้ ...สบายๆๆๆ 
 

[Era]

Alcohol ช่วยท่านได้

[Golf]

แคะขี้หูครับ

[yai-united]

1.ปรับและทรีตอะคูสติคห้องฟังซึ่งเป็นเรื่องที่ยากที่สุด ต้องมีความรู้และประสบการณ์
2.ปรับเซ็ตลำโพง ชั้นวาง การจัดเรียงสายต่างๆในระบบทั้งหมด
3.ตรวจเช็คความเรียบร้อยการต่อสายต่างๆให่แน่นกระชับ ทำความสะอาดหน้าสัมผัสต่างๆ
ทั้งหมดปีละ ๒ ครั้ง ขันยึดนอ๊ตและสลักเกลียวต่างๆให้แน่นกระชับ ฯ
เอาแค่ 3 ข้อตามที่กำหนด ส่วนใหญ่จะเน้นที่ไม่เสียเงินก่อนปรับปรุงของที่มีอยู่เดิมให้ได้
เสียงที่ดีที่สุดก่อน(คือรีดประสิทธิภาพของมันออกมาให้ได้เต็มร้อย)แล้วคุณอาจจะงงว่า
ชุดของเราเสียงดีขนาดนี้เชียวหรือ 

[hiroyuki (หยก)]

ตอบถูกได้รับรางวัลหรือเปล่าครับ คุณเล็ก อิอิ

[FIAT500]

ไปทำสปาหู

[ขุนดง]

-ปรับอครุสติกของห้องฟัง(หรือทำห้องใหม่ )

-เพิ่มขนาดสายไฟ+เครื่องกรองไฟ ให้ได้ไฟฟ้าเพียงพอและสะอาด

-เพิ่มอุปกรณ์ลดสัญญาณรบกวน และเสริมความมั่นคงให้ระบบ

 

[M.lex]

คุณจะทำอย่างไรที่ให้ชุดเครื่องเสียงของคุณ เสียงดีขึ้น โดยไม่ไปเปลี่ยนบุคลิกของเครื่องเสียง
คุณจะทำอะไรกันบ้าง สำหรับผม มีอยู่3อย่างด้วยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่เฉลย ผมอยากจะรูว่า เราๆจะทำอะไรเพื่อจะให้
ชุดเครื่องเสียง เสียงดีขึ้นโดยไม่ไปเปลี่ยนบุคลิกของเสียง
รองแนะนำกันมานะครับ