หัวข้อ: *** Test : Ferrex Clipon กับสายแพใน DVD ...

[เต้]

ดื่มดำ่กับเสียงดนตรี 

[zax]

อย่าเอาไปเล่าให้คนที่ไม่ได้สนใจเครื่องเสียงฟังนะครับ
ขนาดสายไฟ คนที่เล่นเครื่องเสียงบางคนยังไม่ยอมรับว่ามีผลต่อเสียงก็มี
เรื่องแบบนี้ต้องรู้เองเห็นเองครับ

 
       เป็นเช่นนั้นเลย  ผมละเข็ดกับคนในที่ทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกันที่พูดกันไม่รู้เรื่อง  จนมักถูกใส่ความกับผู้ใหญ่ และแทงข้างหลัง   อดทนมา 5 ปีกว่าแล้ว  จนตอนนี้ยื่นลาออกแล้วครับ  กำลังจะหางานใหม่อยู่   

      ขอต่ออีกหน่อยครับ      ในความรู้สึกของผม   พบว่า หากเซ็ทไม่ถูกต้อง  หรือยังไม่ลงตัว   ในจิตใต้สำนึกจะมีความรู้สึกว่า    จะมองหาซื้อ เครื่อง สาย ปลั๊ก รุ่นใหม่ล่าสุด  ที่เขาว่าดีกันมาเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ     แต่ถ้าได้ที่แล้ว  จิตใต้สำนึกจะไม่รู้สึกอยากไปซื้อ จะไปเปลี่ยนอะไร แม้มีอะไรใหม่ๆออกมา     พอเสียงเพลงดังขึ้นปั๊บ จิตใจจะไปดื่มด่ำอยู่ที่บทเพลง  ความเป็นดนตรี   โดยลืมเครื่อง ลืมลำโพง ฯลฯ ไปได้อย่างรวดเร็ว    ฟังจบแผ่นแล้ว ในใจก็ไม่นึกอยากเปลี่ยนโนน่เปลี่ยนนี่อีก     เดี๋ยวนี้ผมใช้วิธีนี้เป็นตัวตัดสินครับว่ามาถูกทางหรือยัง   

[MezzoBello]

    หลายปีก่อน  ตอนที่เครื่องเสียง เสียงยังไม่ดีพอ    ผมบ้าบิดเกลียวสายทุกเส้น ไม่ว่าสายภายในเครื่อง  สายสัญญาณ สายลำโพง สายไฟ  เท่าที่จะบิดได้   โดยบิดทั้งตามเข็มนาฬิกา และบิดทวนเข็มนาฬิกา   อีกทั้งขดเป็นวงกลมโดยตีเกลียวตามเข็มและทวนเข็มดู   พบว่ายิ่งบิดแน่นตึงเท่าไหร่  เสียงทุ้มยิ่งกระชัด เป็นตัวตนมากขึ้น   (อาจจะเป็นเพราะนอกจากการหักล้างน้อยส์แล้ว การบิดสายยังทำให้ลดการสั่นสะเทือนไปด้วย)     แต่ในที่สุดพบว่า การคลายสายออกไม่ให้แตะต้องกัน  รู้สึกฟังได้ผ่อนคลายกว่า  น่าฟังกว่า  รายละเอียดยิ๊บๆของเสียงที่หายไปก็กลับคืนมาครับ   
    ส่วนก้อนไม้ Cardas  ผมก็เคยเล่นมาเมื่อ 3-4 ปีก่อนแล้ว  ตอนซื้อ สังเกตุลายไม้ ลายวงปี รวมทั้งสีไม้ ของแต่ละอันไม่เหมือนกันเลย   จึงขอลองฟังเสียงทีละอัน แล้วเลือกตัวที่ชอบทีสุดไป  พบว่าบางก้อนวางนอนเสียงดีกว่าวางตั้งครับ    ตอนนำมาใช้ใหม่ๆ  ใช้หนุนสายไฟให้ลอยจากพื้น   หนุนสายลำโพงไม่ให้แตะขาเหล็กวางลำโพง    วางบนเครื่องเล่น CD  วางบนแอมป์  ฯลฯ   โดยบิดหมุน พลิก ควำ่หงาย หาเสียงที่ถูกใจที่สุด   ตอนแรกเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น  ก็ไปซื้อเพิ่ม    แต่ต่อมาได้ ลำโพง  กับ  สายไฟ  ทีมีความเป็นมอนิเตอร์สูง  กลับฟ้องว่า มันทำให้เสียงนุ่มลง  เสียงขาดความเด้งดึ่ง  เอาออกแล้วเสียงน่าฟังกว่า   ตอนหลังๆ จึงใช้หนุนสายแบบ เอาก้อนเฟอร์ไรท์วางคั่นรองสายไฟอีกที   ที่หนุนสายลำโพงก่อนเข้าตู้ก็เอาออกด้วย   อีกทั้งพวกทิปโทต่างๆ ก็ต้องเอาออกหมดด้วย   เสียงจึงจะเปิดและเป็นอิสระกว่า ไม่รู้สึกอั้นๆยังไงไม่รู้   
     ผมเคยใช้วิธีไปฟังเทียบกับเครื่องราคาแพงๆมากๆ เป็น 10เท่าตัว เวลาออกงานโชว์ต่างๆ   หากกลับมาฟังที่บ้านแล้ว ยังสู้ได้ หรืิิอดีกว่าบางแง่ก็คิดว่าน่าจะมาถูกทาง   หากด้อยกว่าบางแง่  ก็พยายาม แสวงหาวัสดุ และเทคนิคการปรับจูนเรื่อยมา   โดยผมยึดเอานักวิจารณ์เครื่องเสียงท่านหนึ่งมาเป็นครูมาตลอดชั่วชีวิตนี้ 

โอ้โห... hard core ตัวจริง
ขนาดผมเพิ่งได้ไม้ลองสายลำโพงมา ลองกลับด้านไปมา พบว่าเสียงไม่เหมือนกัน  
ยังยากที่จะเชื่อที่คุณ zax พูดมาทั้งหมดได้เลยครับ

อย่าเอาไปเล่าให้คนที่ไม่ได้สนใจเครื่องเสียงฟังนะครับ
ขนาดสายไฟ คนที่เล่นเครื่องเสียงบางคนยังไม่ยอมรับว่ามีผลต่อเสียงก็มี
เรื่องแบบนี้ต้องรู้เองเห็นเองครับ

[ยิ้มละไม]

ตามอ่านมานานเหมือนกัน  แชร์ IDEA กันเยอะ ๆ ดีครับ ผมเคยเอากระบอก Ferrite ใส่ตามสายไฟต่าง ๆ ที่อยู่ใน AMP พบว่าเสียงทึบลงจนต้องถอดออกเกือบหมด ที่หายไปคือความสดใสของเสียงแหลมครับ ส่วน FERREX ไม่ได้ลองครับ

[monbuny]

 บรรยายได้ดีมากทุกท่านครับ ต้องรักและชอบจริงๆ จึงจะทำสิ่งที่ดีแบบนี้ได้ 

[zax]

คุณ Zax ขยันเล่นจริงๆ ส่วนตัวผมคิดว่าการใส่เกลียวสายไฟในทางทฤษฎีมันช่วยลด noise ได้ครับ
ผมเลยไม่ไปยุ่งกับมัน (ไม่มีความพยายามขนาดนั้นด้วยครับ)
เท่าๆที่อ่านดูผมคิดว่า คุณ Zax ต้องออกแนว Hard core แน่เลย
ของผมเพิ่งเล่นได้ไม่นาน ส่วนใหญ่ชอบเล่นสายไฟ ประสบการณ์กับ accesorries ยังไม่มีมาก
ไว้นึกอยากเล่นจะมารบกวนขอความคิดเห็นเห็นครับ

โดยเฉพาะก้อนไม้ Cardas มันต่างจากไม้บ้านเรายังไง 

    หลายปีก่อน  ตอนที่เครื่องเสียง เสียงยังไม่ดีพอ    ผมบ้าบิดเกลียวสายทุกเส้น ไม่ว่าสายภายในเครื่อง  สายสัญญาณ สายลำโพง สายไฟ  เท่าที่จะบิดได้   โดยบิดทั้งตามเข็มนาฬิกา และบิดทวนเข็มนาฬิกา   อีกทั้งขดเป็นวงกลมโดยตีเกลียวตามเข็มและทวนเข็มดู   พบว่ายิ่งบิดแน่นตึงเท่าไหร่  เสียงทุ้มยิ่งกระชับ เป็นตัวตนมากขึ้น   (อาจจะเป็นเพราะนอกจากการหักล้างน้อยส์แล้ว การบิดเกลียวสายยังทำให้ลดการสั่นสะเทือนไปด้วย)     แต่ในที่สุดพบว่า การคลายสายออกไม่ให้แตะต้องกัน  รู้สึกฟังได้ผ่อนคลายกว่า  น่าฟังกว่า  รายละเอียดยิ๊บๆของเสียงที่หายไปก็กลับคืนมาครับ   
    ส่วนก้อนไม้ Cardas  ผมก็เคยเล่นมาเมื่อ 3-4 ปีก่อนแล้ว  ตอนซื้อ สังเกตุลายไม้ ลายวงปี รวมทั้งสีไม้ ของแต่ละอันไม่เหมือนกันเลย   จึงขอลองฟังเสียงทีละอัน แล้วเลือกตัวที่ชอบที่สุดไป  พบว่าบางก้อนวางนอนเสียงดีกว่าวางตั้งครับ    ตอนนำมาใช้ใหม่ๆ  ใช้หนุนสายไฟให้ลอยจากพื้น   หนุนสายลำโพงไม่ให้แตะขาเหล็กวางลำโพง    วางบนเครื่องเล่น CD  วางบนแอมป์  ฯลฯ   โดยบิดหมุน พลิก ควำ่หงาย หาเสียงที่ถูกใจที่สุด   ตอนแรกเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น  ก็ไปซื้อเพิ่ม    แต่ต่อมาได้ ลำโพง  กับ  สายไฟ  ทีมีความเป็นมอนิเตอร์สูง  กลับฟ้องว่า มันทำให้เสียงนุ่มลง  เสียงขาดความเด้งดึ่ง  เอาออกแล้วเสียงน่าฟังกว่า   ตอนหลังๆ จึงใช้หนุนสายแบบ เอาก้อนเฟอร์ไรท์วางคั่นรองสายไฟอีกที   ที่หนุนสายลำโพงก่อนเข้าตู้ก็เอาออกด้วย   อีกทั้งพวกทิปโทต่างๆ ก็ต้องเอาออกหมดด้วย   เสียงจึงจะเปิดและเป็นอิสระกว่า ไม่รู้สึกอั้นๆยังไงไม่รู้   
     ผมเคยใช้วิธีไปฟังเทียบกับเครื่องราคาแพงๆมากๆ เป็น 10เท่าตัว เวลาออกงานโชว์ต่างๆ   หากกลับมาฟังที่บ้านแล้ว ยังสู้ได้ หรืิิอดีกว่าบางแง่ก็คิดว่าน่าจะมาถูกทาง   หากด้อยกว่าบางแง่  ก็พยายาม แสวงหาวัสดุ และเทคนิคการปรับจูนเรื่อยมา   โดยผมยึดเอานักวิจารณ์เครื่องเสียงท่านหนึ่งมาเป็นครูมาตลอดชั่วชีวิตนี้ 

[MezzoBello]

ขอบคุณครับพี่อูฐ รีวิวผม เอาขำ เอาฮา เข้าว่าครับ 

สวัสดีครับคุณ Mr.Big: ในรูปเป็น Onkyo 804 ครับ (เปลี่ยนสายไฟไม่ได้)
แต่ผมอยากเปลี่ยนสายไฟ เลยทดลองใช้สายไฟที่ใช้ wiring ในบล๊อคไม้ wattgate 381 (Cardas)
มาใส่แทน connector แล้วต่อไปยังท้าย IEC Furutech FI10 เสียบสายไฟ Hovland เข้าไป ได้ผลที่ดีมาก
ก็คงใช้ solution นี้แทนการระเบิดบั้นท้ายกับการบัดกรีสายไฟตรงๆเข้าบอร์ดไปได้ครับ

คุณ Zax ขยันเล่นจริงๆ ส่วนตัวผมคิดว่าการใส่เกลียวสายไฟในทางทฤษฎีมันช่วยลด noise ได้ครับ
ผมเลยไม่ไปยุ่งกับมัน (ไม่มีความพยายามขนาดนั้นด้วยครับ)
เท่าๆที่อ่านดูผมคิดว่า คุณ Zax ต้องออกแนว Hard core แน่เลย
ของผมเพิ่งเล่นได้ไม่นาน ส่วนใหญ่ชอบเล่นสายไฟ ประสบการณ์กับ accesorries ยังไม่มีมาก
ไว้นึกอยากเล่นจะมารบกวนขอความคิดเห็นเห็นครับ

โดยเฉพาะก้อนไม้ Cardas มันต่างจากไม้บ้านเรายังไง 

[toom93]

ผมว่าเรื่องการฟังนี่เป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ ครับ นาๆ จิดตัง แต่เห็นผลที่สุดคือเรื่องภาพ

[Mr.Big]

คุณ Zax ขยันจริงครับ  แป๊ปเดียวจำนวน Post จ่อติดผมแล้ว ... 555

...

ประสบการณ์ Ferrex บน System ของผม ไม่พบปัญหาด้านเสียงระดับใดแย่ไปครับ

ตัว Clip on มันมีช่วงต่อบานพับ และฝาเปิด  อาจทำให้การบิดหมุนมีผล

แต่ผมไม่มีเวลา กับความพยายามขนาดนั้น  แค่เห็นภาพรวมว่าดีขึ้นแบบวัดผลได้ ก็ OK แล้วครับ

...

เสียดายสาย AC ด้านในของผมเป็นแบบแข็ง เลยทำแบบคุณ MezzoBello ไม่ได้

[zax]

     ขอบคุณท่าน MezzoBello ครับ ตามไปอ่านโดยละเอียดแล้วครับ    ไว้มีเวลาแล้ว จะลองทดลองทดสอบไปเรื่อยๆครับ
     ขอบคุณท่านอูฐ ที่มาช่วยแสดงความคิดเห็น   ทำให้บอร์ดคึกคักตลอดเวลา    วันนี้นอนดึกเหมือนกันนะครับ

หมายเหตุ ชุดของผม ได้แกะแหกสายภายในเครื่องเป็นเส้นๆ   ให้มีการแตะกันน้อยที่สุดครับ   ถ้าไปถูกตัวถังก็จะหนุน หรือกันด้วยก้อนผนึกอะมิทิส  เป็นต้น     กอปรกับล่าสุด ได้ก้อนยางดูดซับแรงสั่นสะเทือนชอง VibraTack   Quantum Resonance Killer  ผลิตจาก Nano Nitrille Silicone Rubber  มาติดบนลำโพง  และในแอมป์    ทำให้เสียงสงัดขึ้น นิ่งขึ้น ได้ยินลมหายใจของนักร้องอย่างชัดเจน ฯลฯ   ฟังออกง่ายกว่า และยังไม่พบข้อเสียต่อเสียงเลยครับ    จึงรู้สึกน่าเล่นกว่าครับ   เป็นความเห็นส่วนตัวครับ  

[อูฐ]

ขอชืนขมคุณ Mezzo Bello    mr. big    zax    สามท่านนี้ เขียนรีวิวได้เยี่ยมมาก ๆๆๆๆ คับ     


เพื่อน ๆ มาช่วยกันเขียน รีวิว  เยอะ ๆ น่ะคับ      ไม่ต้องกลัวหรืออายว่า เอาจะมีความคิดเห็นหรือ ได้ยิน ได้เห็นแตกต่างจากคนอื่น       คนเราหูและตาไม่เท่ากันอยู่แล้ว  มาคุยมาแชร์มาเล่ากันฟัง  สนุกดี   ช่วยกันหาความรู้คับ   

[MezzoBello]

สวัสดีครับ

ผมก็มีโอกาสได้ทดลองเจ้า Ferrex ตัวนี้เช่นเดียวกัน
ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน โดยค่อยๆทยอยใส่เข้าไปใน system



และได้ทำมินิรีวิวแบบขำๆไว้เหมือนกัน (ถ้าสนใจอ่าน click ที่รูปเลยครับ)

สำหรับผมแล้ว วิธีในการทดสอบว่า system ตัวเอง ดีขึ้นหรือเลวลง
ผมมักจะใช้วิธี Zen Test คือไม่ได้สนใจนั่งฟัง เสียง ทุ้ม กลาง แหลม
แต่ให้ความสำคัญกับ music appreciation หรือนั่งฟังแล้วอดกระดิกขา เขย่าหัวตามไม่ได้
แบบนั้นถือว่าดีขึ้น

ซึ่งการที่ได้ผลเช่นนั้น ผมเชื่อว่า ทั้ง Tonal Balance
Dynamic Range Dynamic Contrast และ Dynamic Transient ต้องดีขึ้น
และใช้ความเป็น Hi-fidelity เป็นตัวตัดสิน โดยเฉพาะเสียงกีตาร์โปร่ง

สำหรับ system ผม ไม่พบปัญหาในแง่ รายละเอียด หรือทำให้ Tonal Balance เสียไปแต่อย่างใดครับ


เพิ่มเติม...ทั้งนี้ผมได้ลองฟังในแนวเพลงที่หลากหลายเช่น
Depapepe, Jenifer Warnes - The hunter โดยเฉพาะ track ที่ 8 ที่ทดสอบย่านทุ้ม ต่ำ และจังหวะ impact
Jazz at the pawnshop ที่หากเครื่องทึบลงจะฟังไปหงุดหงิดไปทันที
Denon Hi fi Strings ซึ่งเป็นแผ่นรวมเพลงคลาสสิค
Best Audiophile Voices II ทดสอบเพลงแนว vocal

ผลการทดลองฟังพบว่าทุกแผ่นล้วนมีความไพเราะขึ้นทั้งนั้นครับ
และผมเห็นด้วยในประเด็นที่ว่า ก่อนหน้าที่จะ clip system ต้องมีความเหมาะสมลงตัวอยู่ก่อนแล้วจึงจะได้ผลดีครับ

[zax]

เห็นพี่หมอเอา Silverstone Sata มาใส่แทนของเดิมแล้วดีขึ้น
แต่ DVD ผมเป็นสายแพเล็ก ๆ บางมาก ไม่น่าจะมีขายทั่วไป ( และคิดว่าฉนวนแพ ก็คงไม่สามารถป้องกัน Noise ได้ )
เลยเอา Ferrex Clipon มาคร่อมสายแพ ระหว่างตัวอ่านกับ Board
( เคยเห็นเครื่องใหญ่ ๆ บางเครื่องใช้ Ferrite คร่อม )
ด้านเสียง
1. เสียงสงัดขึ้น  รายละเอียดชัดเจนขึ้น  ตอนน้ำหยด เดิมไม่ได้สังเกตุ คราวนี้ชัดขึ้น
2. เกิดมิติด้านข้างระหว่างลำโพงหน้า กับหลัง  *** ชอบมาก ***
3. ลำโพงหลัง มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
.... เพิ่มไปอีก 2 ตัว จากภาคจ่ายไฟเข้า Board
ทุกอย่างดีขึ้นไปอีกจากเดิม แต่ไม่มากเท่า
.... ลองฟังเพลง
มันก็ตื่นเต้นดี Focus ชัดเจน
รายละเอียดชัดเจน เสียงก้องของเครื่องดนตรี เสียงเปิดปาก
เสียงออกไปทางคม 
*** รู้สึกว่ามันชัดเจนไปหรือเปล่า เหมือนมันจริงจังไปจนไม่ค่อย Relax เท่าเดิม
( อาจเป็นเพราะลำโพงยังไม่พ้น Burn in ด้วย )
อย่างไรก็ตาม
แนะนำอย่างยิ่ง ให้ทดลองคร่อมสายแพ ผลลัพธ์คุ้มค่ามาก ๆ
ใครทดสอบแล้ว มา Share กันหน่อยครับ

       ผมเคยเล่นแบบนี้กับกระบอกเฟอร์ไรท์   ในเครื่องเสียงทุกเครื่อง    โดยใส่ในทุกจุดที่มีสายต่างๆเดินภายในเครื่อง  ทุกจุดที่คิดว่าใส่ได้่ครับ    แม้แต่ในตู้ลำโพงก็เคยใส่       และถึงขนาดแกะออกมาเป็นตัวๆ วาง บนตัวถัง เรียบเป็นตับ   วางบนไอซีทุกตัว  วางบนแผงวงจร  วางบนสายแพ   วางบนขั้วต่อสายสัญญาณ   วางบนหม้อแปลง   วางบนตัวเก็บประจุ  ฯลฯ      ผมจึงมีเฟอร์ไรท์เป็นกิโล เพราะเที่ยวหาซื้อและสะสมมาหลายปี      อาการก็เหมือนอย่างที่โพสต์ไว้ข้างบน  ซึ่งพบว่า   Ferrex Clipon  มีอาการมาในทำนองเดียวกัน สำหรับในชุดของผมนะครับ   ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆ ได้สังเกตุเห็นปัญหาในจุดนี้ด้วยไหม   

[zax]

   ขอให้สังเกตุทีี่เสียงแหลมด้านความสดใส รายละเอียดยิ๊บๆ   โดยฟังเสียงก่อนใส่  หลังใส่   ฟัง CD หลายๆแผ่นเปรียบเทียบ     จากนั้นเอาออกให้หมดแล้วฟังดูใหม่    ถ้าฟังออกว่าเสียงทึบลง แสดงว่าเครื่องขี้ฟ้อง มีความเป็นมอนิเตอร์ มาถูกทางแล้วครับ  หมายเหตุ  เครื่องเสียงก่อนใส่  Ferrex Clipon จะต้องมีความน่าฟังเป็นพื้นฐานที่ดีก่อนแล้วนะครับ    และถ้าใส่แล้วดีขึ้น จะต้องฟังเพลงได้เพราะขึ้นทุกแผ่นครับ  ไม่ใช่บางแผ่นฟังดีขึ้น แต่บางแผ่นกลับฟังแย่ลง   ( แต่กับที่เครื่องที่เสียงยังไม่ดีพอ ไม่ขี้ฟ้อง  อาจจะดูเหมือนทำให้เสียงดีน่าฟังขึ้น  เหมือนอย่าครั้งหนึ่งที่เคยใช้ Q B0X ต่อคั่น  และการต่อผ่านเครื่องกรองไฟต่างๆ ครับ)
    จุดเด่นของ Ferrex Clipon  ที่ เครื่องของผมเห็นชัดคือ ด้่านเสียงทุ้ม ที่เหมือน ชัด หนักแน่น และลงลึก เห็นเป็นตัวตนมากขึ้น   เสียงร้อง มิติเด่นชัดขึ้น   แต่เสียที่เสียงแหลมครับ  รายละเอียดยิ๊บๆ  เสียงหายใจระหว่างเพลงของนักร้อง   อารมณ์ ความน่าฟังที่ฟังได้เพลิน ฟังได้นานๆ หายไป มาอาการเดียวกับ  กระบอกเฟอร์ไรท์เลย ที่ตอนนี้ผมถอดทิ้งหมด (มีเป็นกิโลเลย) 
    ที่ผมใช้ได้ผลคือ  Ferrex แบบท่อ ตัวใหญ่ ที่ไม่มีกระบอกพลาสติกหุ้ม  มาหุ้มด้านหัวท้ายปลั๊กสายไฟก่อนเข้ารางไฟเลี้ยงให้ทุกเครื่อง   แต่จะต้อง "พลิกหาด้าน  กลับหัวกลับท้่าย และบิดหมุน"  จนกว่าจะจุดที่ให้เสียงที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งฟังออกได้ว่าถูกต้องแล้ว ค่อนข้างยากมากกว่าตัวช่วยอื่นๆที่เคยทดลองมาเลยทีเดียว    ( สำหรับเครื่องของผม  การ "พลิกหาด้าน  กลับหัวกลับท้่าย และบิดหมุน" มี่ผลต่อเสียงที่เปลี่ยนไปหมด  ต้องใช้เวลาและความตั้งใจสูงมากๆกับ ของเล่นชิ้นนี้ครับ )       ถ้าพบจุดที่ต้องการ  ผลที่ได้ตอนแรกมีความน่าฟังกว่าตอนยังบิดหมุนไม่พบ แต่ความชัดเจนเป็นตัวตนดูเหมือนแย่ลง    แต่เมื่อเปิดฟังไปนานๆ ข้ามวัน  พบว่า  เสียงมีความตื่นตัว  เด้งตัวกว่า  ไม่เล่นไปเรื่อยๆแบบไร้อารมย์ เหมือนตอนใส่ไม่ถูกด้านครับ    มิติเสียงเหมือนจริงมากกว่า  จึงคิดว่าน่าจะมาถูกทางแล้ว   
    ล่าสุดได้ลองเอา  Ferrex Clipon มาหุ้ม ที่ปลายสายลำโพงด้านก่อนเข้าตู้อีกครั้ง หลังจากที่เคยลองครั้งหนึ่งแล้ว  ได้พลิกหมุนกลับด้าน  กลับหัวท้าย แล้วฟังดูทีละครั้ง     ก็ยังมีอาการเดิม นั่นคือ แม้ดูเหมือนตัวตนชิ้นดนตรี เสียงร้องจะเป็นตัวตนขึ้นชัดเจน และเสียงเหมือนมีมิติดีขึ้น   แต่ที่เสียไปคือเสียงทึบลง จนต้องเอาออก     ไว้มีเวลา จะลองแกะเอาพลาสติกออก แล้วมาฟังหาทิศที่ละข้าง ก่อนใส่เข้าไปใหม่  เพราะเคยลองกับพวกกระบอกเฟอร์ไรท์ พบว่าต้องทำแบบนี้มาแล้ว   

[Mr.Big]

เท่าที่ทดสอบ ด้าน Tonal Balance / Dynamic Contrast / ความสงัด ดีขึ้นทุกทาง

จนกระทั่งมาทดลองภายในตัวเครื่องนี่แหละ ที่ต้องขอลองวัดผลดูอีกครั้ง

( สำหรับ ที่สายแพ นี่คงไว้ครับ เพราะดีขึ้นทุกทาง )

[zax]

ขยันไม่เท่าคุณ Zax หรอกครับ และผมหยุด Test มานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสตอนเปลี่ยนลำโพงนี่แหละ
( PSB Imagine กินขาด Image ... ราคาก็ด้วย )

สายไฟทุกเส้น ที่ปลายผมให้ทาง Merrex หุ้มหมดแล้วเหมือนกัน  ... 555

      ขออนุญาตใช้สิทธิ์พาดพิงครับ    การงานอาชีพของผม ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเสียงและภาพโดยตรงอยู่แล้วทุกวัน     จึงมีเวลาทดลองได้มากกว่าท่านอื่นเท่านั้น      กอปรกับเงินเดือนก็ไม่มาก ไม่สามรถซื้อ-เปลี่ยน ซื้อ-เปลี่ยน ได้อย่างท่านอื่นๆ     ต้องพยายามเค้นประสิทธิภาพให้ได้สูงสุดครับ    ก่อนที่จะได้ทักษะและความเข้าใจในเคล็ดลับเกี่ยวกับเสียง ที่พบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น    มาถึงตอนนนี้ ผมทำเครื่องพังไม่เยอะมาแล้วครับ        ยกตัวอย่างเช่น   ผมทำฟิวส์ เพาว์เวอร์เฮ้าส์ รุ่นแพงสุด (ของร้านท่านขุนจิต)  ระเบิดในแอมป์มาแล้ว โชคดีที่แอมป์ไม่เป็นไร แต่ไฟดับทั้งบ้าน   
     
      สำหรับเรื่อง  Test : Ferrex Clipon   พอดีรอจังหวะอยู่ว่าจะเขียนโพสต์ดีหรือไม่     เพราะเห็นท่านอื่นๆพูดแต่ข้อดีของมัน   แต่ผมพบข้อเสียด้วยครับ      นี่พูดเฉพาะในแง่การฟังเพลง 2 CH เท่านั้น  ยังไม่ได้เอาไปลองกับด้านภาพ     
      ผมซื้อ  Ferrex แบบ Clipon มา 1 เซ็ท  6 ตัว   และแบบตัดเป็นท่อชิ้นใหญ่อีก 1 อัน   จากงาน BAV Winter Show ที่ผ่านมา    หลังจากที่ได้ลองใส่ ลองพลิก ลองหมุนด้านต่างๆมาหลายวันแล้ว   
     ขออนุญาต   ยกคำพูดของคุณยุทธพงศ์ ลิ้ม จากเว็บเพื่อนบ้านมาอ้างอิงดังนี้ก่อน  ไว้พอจะเรียบเรียงความคิดได้แล้วจะมาโพสต์ในรายละเอียดอีกที   

     "การห่อด้วยอลูมินั่มฟอลย์, แผ่นทองแดง, ถุงผ้าใส่คาร์บอน, หรือวัสดุ/สารอื่นๆ ถ้ามากเกินไป และไม่มีคุณภาพ ย่อมมีผลต่อเสียงในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแน่นอน แต่ส่วนใหญ่ที่คิดทำขึ้นมาเอง จะเสียมากกว่าได้ครับ

เรื่องพวกนี้ลางเนื้อชอบลางยา ราว 7 ปีก่อนผมเองก็คิดเช่นนี้และทำเช่นนี้ จนวันนี้ก็ยังทดลองอยู่เสมอ พบว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เป็น "ผลเสีย" มากกว่าดี แต่ก็ไม่แน่นะครับ คุณอาจค้นพบเทคนิคที่ทำให้ "ดีมากกว่าเสีย" ก็เป็นได้

วิธีง่ายๆในการสังเกตก็คือ การชิลด์ที่ดีมากกว่าเสียนั้น จะต้องมีคุณสมบัติในแง่ "ความสงัด" เพิ่มขึ้น โดยไม่แตะต้องดุลน้ำเสียง (Tonal Balance) และทำให้ช่วงกว้างของความดัง (Dynamic
Range) กว้างขวางขึ้น รวมทั้งยังสามารถแสดงความเปรียบต่างทางเสียงในทุกลักษณะได้อย่างชัดเจน (Dynamic Contrast)

ถ้ากระทำใดๆแล้วรักษา 3 อย่างที่ว่านี้ไว้ได้ โดยมีความสงัดเพิ่มขึ้นมา นั่นถือว่ามาได้ถูกทางแล้วครับ ส่วนความสด ความชัด มิติเสียง ความกว้าง ความลึก หรือคุณสมบัติทางเสียงระดับเบื้องต้นประเภทนี้ เป็นเรื่องรสนิยมและความชอบส่วนบุคคล

นับได้ว่าเสียงเปลี่ยน แต่ไม่นับได้ว่าเสียงดี

หรือถ้าเป็นเสียงดี ก็เป็นเสียงดีที่ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลเท่านั้น"

   อ้างจากที่นี่ครับจาก  http://www.audio-teams.com/webboard/?ca1=16&id=90886

[toom93]

ผมเคยลองเอาไปใส่กับสายไฟเส้นเล็กๆ ใน AVR Marantz SR-5003 ตรงที่มีแท่ง Ferrite ครับ ลองเอา Ferrite ออกแล้วแทนไป 1 ตัว เรื่องภาพ สีเข้มขึ้น อิ่มสวย ดำดีขึ้น ไม่มีหมอกฝ้า เรื่องเสียงต้องยกให้ครับด้านมิติ แต่ใช้แค่ 2 วัน ผมก็ถอดออกครับ เสียงแหลมมันคมมากๆ ฟังนานแล้วล้าหูมากครบ เลยคิดว่ามันไม่เหมาะกับพวก AVR แต่น่าจะเหมาะกับสายมากกว่า จะสายอะไรเห็นผลหมดครับ

ตอนนี้ M1000 ผม clip ที่หัวท้าย แล้วลองเพิ่มไปตรงกลาง สีอิ่มขึ้นอีก ตอนแรกคิดว่านึกไปเอง เลยถอดออก มันก็ไม่สวยเท่าเดิมเลยใส่ใหม่ ลองกับ adapter ของ hdd ที่ต่อเข้ากับ media player K100 ก็เห็นผลเหมือนกันครับ ทั้งชุดตอนนี้มี 12 ตัวแล้ว แต่ยังไม่พอ ครับ เห็นผลๆ

[หมอทีเจ]

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

[Mr.Big]

ขยันไม่เท่าคุณ Zax หรอกครับ และผมหยุด Test มานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสตอนเปลี่ยนลำโพงนี่แหละ
( PSB Imagine กินขาด Image ... ราคาก็ด้วย )

สายไฟทุกเส้น ที่ปลายผมให้ทาง Merrex หุ้มหมดแล้วเหมือนกัน  ... 555

........

หนังสือฮวงจุ้ย ผมจะได้รับปลายอาทิตย์นี้  ( ในงานเลี้ยง หนังสือเป็น Lot แรก )
เดี๋ยวจะไปฝากไว้ 2 เล่มที่ Planet อาทิตย์หน้าครับ

[หมอทีเจ]

ขยันจริง ๆ ท่าน Big  ดีครับของดีราคาไม่แพงมากทำแล้วคุ้ม
ไม่อยากบอกว่าผมมี Ferrex size กลาง  อยู่อีกสองเส้นเส้นละสองเมตร อิ อิ เมื่อไหร่ไปแกะออกจากสายไฟมาจะตัดมาหุ้มให้หมดบ้านเรย อิ อิ

[Mr.Big]

เห็นพี่หมอเอา Silverstone Sata มาใส่แทนของเดิมแล้วดีขึ้น

แต่ DVD ผมเป็นสายแพเล็ก ๆ บางมาก ไม่น่าจะมีขายทั่วไป ( และคิดว่าฉนวนแพ ก็คงไม่สามารถป้องกัน Noise ได้ )

เลยเอา Ferrex Clipon มาคร่อมสายแพ ระหว่างตัวอ่านกับ Board

( เคยเห็นเครื่องใหญ่ ๆ บางเครื่องใช้ Ferrite คร่อม )

ผลปรากฎว่า ... ด้านภาพ

1. สว่างขึ้น Contrast ดีขึ้น

2. ความอิ่มของสี ดีขึ้นเล็กน้อย ( บังเอิญผมดูเรื่องที่ไม่ได้เน้นสีสัน KungFu Hustler และดึกมากแล้ว เกรงใจคนอื่น )

3. Noise ลดลง เล็กน้อย

ด้านเสียง

1. เสียงสงัดขึ้น  รายละเอียดชัดเจนขึ้น  ตอนน้ำหยด เดิมไม่ได้สังเกตุ คราวนี้ชัดขึ้น

2. เกิดมิติด้านข้างระหว่างลำโพงหน้า กับหลัง  *** ชอบมาก ***

3. ลำโพงหลัง มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น


.... เพิ่มไปอีก 2 ตัว จากภาคจ่ายไฟเข้า Board

ทุกอย่างดีขึ้นไปอีกจากเดิม แต่ไม่มากเท่า

.... ลองฟังเพลง

มันก็ตื่นเต้นดี Focus ชัดเจน

รายละเอียดชัดเจน เสียงก้องของเครื่องดนตรี เสียงเปิดปาก

เสียงออกไปทางคม 

*** รู้สึกว่ามันชัดเจนไปหรือเปล่า เหมือนมันจริงจังไปจนไม่ค่อย Relax เท่าเดิม

( อาจเป็นเพราะลำโพงยังไม่พ้น Burn in ด้วย )


อย่างไรก็ตาม

แนะนำอย่างยิ่ง ให้ทดลองคร่อมสายแพ ผลลัพธ์คุ้มค่ามาก ๆ

ใครทดสอบแล้ว มา Share กันหน่อยครับ


หมายเหตุ :

ขนาดก่อนเข้าเครื่อง ผมต่อจาก AVZone HD + DreamPower Audio + Ferrex ทีี่ปลายสาย กรองมาเยอะแล้ว

ยังอุตส่าห์จะมี Noise อีก ( เป็นของฟรี ที่ไม่มีใครอยากได้ )