เมื่อวานไปช่วยบ้านแม่ยาย อพยพครอบครัวออกจากอยุธยา เพราะน้ำท่วในตัวเมืองอย่างหนัก
อยู่สู้น้ำไม่ไหว เพราะโดนตัดน้ำตัดไฟหมดแล้ว น้ำที่หน้าบ้านสูงกว่าสองเมตร
หาทางอยู่นานไม่รู้จะเข้ายังไง เพราเมืองโดนน้ำท่วมมิด รถเข้าไม่ได้
สุดท้ายได้ความช่วยเหลือจาก เพื่อนที่บ้านอยู่ที่บางไทร ให้ยืม สปีดโบ๊ตพร้อมคนขับ
ไปรับออกมา ตลอดทางที่ขับเข้าไปอยุธยา บ้านริมน้ำ แทบทุกหลังจมอย่างน้อยก็ครึ่งหลัง
หลังที่ต่ำก็มิดหลังคา วัดนิเวศธรรมประวัติ ที่บางปะอิน จมน้ำไปเรียบร้อยแล้ว
วัดพนัญเชิงกำลังต่อสู้กับน้ำอย่างเต็มที่ กำแพงกั้นน้ำสูงกะเอาจากสายตาน่าจะสูงประมาณไม่ต่ำกว่าสามเมตร
และน้ำก็สูง เหลืออีกประมาณฟุตกว่าๆก็จะพ้นของกำแพงกั้นน้ำ ที่อยุธยาผู้คนในเมืองกำลังทยอยอพยพออกมา
กันอย่างทุลักทุเล เพราไม่มีเรือของทางการเข้าไปอพยพคนออกมา คนที่จะออกมาต้องหาเรือเล็กๆแจวออกมาเพื่อ
หาเรือใหญ่พาข้ามแม่น้ำออกมาอีกที ความช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึงในกลางเมือง เห็นแค่เรือที่แจกถุงยังชีพแจกอยู่แค่บ้านตามริมน้ำ
ปริมาณน้ำที่ไหลมาเร็วและแรงมากๆ ไม่อยากนึกถึงกรุงเทพเลยครับ
เห็นของจริงแล้วเครียดเลย ไม่มีกะใจจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายเลย ได้แค่เอารูปจากพี่ภรรยาที่ถ่ายไว้มาให้ดูนะครับ
รูปนี้ถ่ายไว้ก่อนออกมาหนึ่งวัน เมื่อวานน้ำสูงกว่าที่เห็นในรูปอีก
ถ่ายจากชั้นสอง วันที่ออกมาน้ำมิดศาลพระภูมิไปแล้ว

ถนนที่เห็นต้นไม้นั่นคือเกาะกลางถนน

ในบ้าน ดูเหมือนน้ำจะไม่สูง แต่ความจริงคือบ้านหลังนี้สร้างสูงกว่าถนนเกือบสองเมตร
ตอนสร้างกะว่าถ้าท่วมหนักอย่างปี 38 ก็ยังอยู่ได้ แต่... ก็ไม่รอดอยู่ดี


รถกระบะตอนเมื่อวานมิดหลังคาไปเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ทิ้งรถคันนี้ไว้แล้วขนของออกมากัน อยู่ๆแตรรถก็ดังขึ้นซะเฉยๆ
สงสัยไฟคงลัดวงจรพอดี ถ้าไม่คิดมากก็คงบังเอิญ แต่ดันพอดี้พอดีตอนที่จะทิ้งรถออกมาพอดี นี่สิแปลก
