สวัสดีครับคุณหยก ผมใหญ่ครับไม่ได้โทรไปคุยด้วยนานแล้ว รู้สึกว่าชุดของ
คุณหยกจะมีการอัพไปเยอะมากนะครับ อืม.ต้องบอกว่าเปลี่ยนไปหมดเลยน่าจะถูกต้องกว่า
ผมสนใจห้องฟังใหม่ของคุณมากๆคิดถูกแล้วครับที่ทำห้องให้เป็นเรื่องเป็นราว มีการวาง
แผน-แปลนงานให้ดีทำครั้งเดียวให้จบ อย่ามาตามแก้กันทีหลังมันจะยุ่งและจบยาก
คุณหยกช่วยบอกรายละเอียด ขนาด การไวริ่งสายไฟ การทรีตอะคูสติค พื้น ผนัง เพดาน
ประตู เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนครับ
ถ้าห้องเส็รจแล้วผมขอเข้าไปเยี่ยมชมและฟังด้วยนะครับ รับรองไม่พลาดแน่ๆ 
หวัดดีครับ พี่ใหญ่
ห้องฟังของร้านผมนี่ จะว่าไปแล้ว ก็วางแผนงานไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ หาช่างมา 3 รอบ บางจ้าวก็หนีหาย (หลังรู้งานแล้วคงคิดว่างานละเอียดไป กลัวทำไม่ได้หรือเปล่า) หรือแม้แต่ SCG ก็เคยเข้ามาคุยครับ แต่ว่า จ้าวนี้ขอบอกว่านานครับ กว่าจะคุยเรื่องรายละเอียดจบก็ปาเข้าไปเดือนกว่าๆ หลังจากนั้น ก็ต้องรอใบเสนอราคาที่ทาง SCG บอกว่า ภายใน 1 สัปดาห์จะส่งมาให้ ผ่านไป 2 สัปดาห์ (โดยประมาณ) ก็ยังเงียบ โทรไปถามหลายรอบ ก็บอกว่ากำลังดำเนินงานให้อยู่ ผ่านไปอีก 1 เดือน ก็เงียบ ผมเลยขี้เกียจคุย เปลี่ยนจ้าวใหม่เลย ก็มาได้จ้าวนี้ครับ ยอมเข้ามาทำ จริงๆ งานน่าจะดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดบ่อยๆ เนื่องจากช่างนั้น เป็นช่างที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการทำห้องแบบนี้ ต้องคอยบอกกันตลอดเวลา สุดท้ายก็ผิดอยู่ดี เนื่องจาก ต่อหน้า บอกช่างหรือกำชับให้ทำตามที่เราต้องการ หัวหน้าช่างก็ตอบว่า ได้ครับ พอหันหลังให้ ก็ไม่ทำ หรือไม่ก็ทำแบบลวกๆ เพราะง่ายกว่ากันเยอะ พอจับได้ ก็เงียบ และก็แก้ใหม่ให้ แต่ผลก็คือเสียเวลาแก้ใหม่ ผนัง เจาะเข้าออกหลายครั้ง ก็ระบมไปหมด .................. ที่ต้องพูดยาว เนื่องจากเห็นว่าสำคัญครับ ถึงมาเขียนลงให้อ่าน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะทำห้องใหม่ ถ้าทำแบบ พอให้มีห้องฟัง แต่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องรายละเอียดภายในผนัง ก็จ้างช่างรับเหมาทั่วไปทำได้เลยครับ แต่ถ้าซีเรียส และต้องการงานละเอียด และเป็นไปอย่างที่เราต้องการ คืออยากทำทีเดียวจบ ไม่ต้องแก้ แบบผมให้เสียเวลา และ อารมณ์ ผมแนะนำว่า อย่าจ้างช่างรับเหมาทั่วไปครับ พวกนี้ตอนคุยก็บอกว่า ทำได้กันทุกคนแหละครับ Quote ราคาก็ Quote มาแบบ งานละเอียดหน่อย คือแพงหน่อยน่ะครับ แต่ถึงเวลา ช่างเข้ามาทำ มันไม่ได้ละเอียดอย่างที่ Quote ราคามา เพราะช่างส่วนใหญ่ เอาง่ายไว้ก่อนครับ ยิ่งถ้าเป็นส่วนประกอบด้านในผนัง ถ้าไม่มีผู้ไว้ใจมาคอยดูให้ ก็ต้องดูเองแบบผมนี่แหละครับ ถ้าไม่เช่นนั้น ผนังยิบซั่มพอติดเข้าไปแล้ว เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ฉนวนนั้นติดครบมั้ย ติดแผ่นแค่ไหน แน่นพอไหม เหล่านี้เป็นต้น ..... อิอิ ยาวอีกแล้ว สรุปคือ แนะนำว่าหาช่างเฉพาะทางที่เคยทำห้องแบบนี้ดีกว่า ไม่ต้องแบบที่จบต่างประเทศด้าน Acoustic หรอกครับ เพราะราคามันแรงตาม บัตรปริญญาของผู้ออกแบบ ขอแค่ เคยทำงานละเอียด และรับได้ ที่จะเจอข้อแม้ว่า "ทำไมต้องตีโครงเคร่า 40 หรือ 30 ซม. ทั้งๆ ที่ 60 * 60 ก็แข็งแรงแล้ว" เจอช่างแบบนี้ปวดหัวครับ ผมทำไปแก้ไป 3 รอบครับ สเปกบอกอยู่ว่า 40 * 40 มันก็ตี 60 * 60 ให้ ถามว่าทำไมไม่ทำตามแบบ มันก็เงียบ เป็นต้น
เอาหล่ะบ่นมานานและ คราวนี้มาถึงห้องผมนะครับ
- ขนาด 4.1 * 5.6 * 2.4 เมตรครับ ทำทุกอย่างถูกต้องหมด ทั้ง เรื่อง ความหนาแน่น (Mass) โดยการใช้แผ่นยิบซั่มบอด 2 ชั้นเลย, เรื่อง การซับเสียงด้วย Insulator หรือ ฉนวน, เรื่อง การแด็มป์เพื่อลดแรงสั่นสะเทือน WallDamp, เกือบสมบูรณ์ทั้งสี่ประการ ยกเว้นข้อสุดท้ายคือ Isolate ผนังด้านนอกและด้านในออกจากกัน คือ ผมตีโครงเคร่าไม้ไว้ 2 ชั้น ตามแบบ บอกว่าให้ ตีโครงเคร่าไม้สองชั้นนี้ให้เหลือที่ว่างตรงกลาง 1 นิ้ว ไม่ให้ชนกัน วันนั้น ออกไปธุระข้างนอก กลับมา ช่างมันดันเอาแผ่นยิบซั่มกันชื้น มาวางขั้นกลาง แล้วตอกโครงคร่าวไม้ทั้ง สอง ชั้นติดกับ แผ่นยิบซั่มนี้แล้ว หมดทางเยียวยา เพราะตีครบหมดเลย ถ้าจะรื้อคงยาว และอาจเสียหายต่อโครงทั้งหมด ผมเลย ย๋วนๆไป ไม่งั้นน่าจะ perfect กว่านี้ครับ
-ผนัง ผนังผมกรุด้วย ฉนวนกันเสียงสองชั้น ผนังภายนอกใช้แผ่นยิบซั่ม 12 มม. ด้านละสองชั้น นอกใน จริงๆ ถ้าใช้ สมาร์ทบอรด ชั้นนอกสุดก็จะได้ความแข็งแกร่งขึ้นอีกนิด แต่เรื่องการยืดหยุ่น ยิบซั่มดีกว่าครับ แต่ข้อเสียคือ ยุ่ยหน่อย ถ้าเจอของแหลมๆ ทิ่มเข้าไปก็ทะลุได้นะครับ ไม่กันน้ำดีเหมือนสมาร์ทบอด แต่ของผมเน้นเสียง เลยขอเป็นยิบซั่มทั้งสองชั้นเลย โครงเคร่าไม้เป็นไม้ยางทากันปลวก ตี 40 * 40 ซม.
-ฝ้า ก็กรุฉนวน แต่ชั้นเดียว ปิดผิวนอกด้วย ยิบซั่มสองชั้น 1 ชั้นกันชื้น อีก 1 ชั้นธรรมดาครับ
-การไวร์ริ่งนั้น เดินสาย 25 มม.จากมิเตอร์ไฟ ตรงมาเข้า เบรกเกอร์ Isoclean ตรงเลย เจาะแท่งกราวน์ 2.4 เมตร ทองแดงล้วน ไว้หน้าร้าน ใกล้ท่อน้ำทิ้งของเครื่องซักผ้า ดังนั้น คิดว่าคงชื้นดีพอครับ สายกราวน์ 25 sqmm เช่นกัน จากเบรกเกอร์ไปปลั๊กผนังในห้องฟัง 5 ปลั๊ก ใช้สาย Oyaide Tunami ทั้งหมด ปลั๊กไฟ เป็น Oyaide R1 ทั้งหมดเช่นกัน เพราะชอบเสียง จาก R1 มากที่สุด สมดุลทุกย่านเสียง ไม่มาก ไม่น้อย พอดีๆ
-ประตู ก็หนา 3 นิ้ว รายละเอียดด้านบนที่ผมเขียนไว้อะครับ
-อุปกรณ์ทรีทเมนต์ห้อง ก็อันนี้เลยครับ http://www.acusticaapplicata.com/prodotti.php?lang=eng เป็นสินค้าของ Acustica Applicata ITAY ชื่อว่า DaaD
ก็จบแล้วครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ รวมทั้ง พี่ใหญ่ United ด้วย ขอบคุณครับ 

หวีดดีคุณหยกมาโพสต่อ
ผมนำรูปการIsolateอีกแบบหนึ่งมาให้ชมครับ โดยใช้แผ่นยางแดมป์รองที่ไม้
คานหรือพื้น เพดานต่างๆก่อนไม่ให้สัมผัสกับโครงสร้างเดิมเลย ทำให้ทั้งห้องลอยตัวอยู่กับ
แผ่นยางที่แดมป์นี่(ขอขอบคุณ อ.เจเจ ที่ให้ข้อมูลและรูปภาพครับ)
ผมว่าการทำห้องฟังนี่ถือว่าเป็นสุดยอดของการฟังเพลงและเล่นเครื่องเสียงHT.เลยนะครับ
เพราะทำให้ดีจริงๆได้ยากมากต้องมีความพร้อมทุกด้านจึงจะสำเร็จได้ มันเป็นทั้งศาสตร์ ทั้งศิลป
ทั้งโชค(ต้องภาวนาให้ทำเสร็จแล้วออกมาดี) ผมว่าคงมีหลายๆท่านที่ทำแล้วยังไม่ดียังไม่ได้ดั่งใจ
ผิดหวังทำให้เสียอารมภ์หมดใจที่จะเล่นต่อก็เยอะ
สว่นผมก็หาข้อมูลความรู้จากเพื่อนๆในเวบต่างๆ แล้วเซฟเก็บเอาไว้รอว่าพร้อมเมื่อไรก็คงจะ
ทำห้องฟังมั้ง เสียดายครับที่คุณหยกไม่ได้ถ่ายรูปหรือวิดิโอเก็บไว้มีคำพูดว่า
ภาพหนึ่งภาพมีความ
หมายมากกว่าคำพันคำ ขอให้โชคดีและมีความสุขครับ