HTG2.club

ลำโพง 6 ohm กับ เครื่องหลอด

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ EaGLEViEW

  • ****
    • กระทู้: 466
    • เพศ:ชาย
อ้างถึง
ปกติเวลาออกแบบ LoadLine หลอด Output เราต้องคำนึงถึงว่า เป็นกี่เท่าของ Rp ด้วยไหมครับ เพราะปกติผมเองเลือกเอาจากความผิดเพี้ยนที่ยอมรับได้และการ Swing ของแรงดันอย่างเดียวเลยครับ

ใช้เรื่อง distortion และการ swing ก็ได้ครับ และส่วนมาก loadline ยิ่งมากกว่า Rp มากขึ้นเรื่อยๆ distortion และการ swing ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ power ก็ตกลงเรื่อยๆเช่นกัน คือสรุปแล้วก็ต้องพบกันครึ่งทางระหว่าง  output และ distortion ครับ

ขอบคุณครับอาจารย์      :clap :showoff
ข้อมูลส่วนตัวครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=53520.0



ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
อ้างถึง
ปกติเวลาออกแบบ LoadLine หลอด Output เราต้องคำนึงถึงว่า เป็นกี่เท่าของ Rp ด้วยไหมครับ เพราะปกติผมเองเลือกเอาจากความผิดเพี้ยนที่ยอมรับได้และการ Swing ของแรงดันอย่างเดียวเลยครับ

ใช้เรื่อง distortion และการ swing ก็ได้ครับ และส่วนมาก loadline ยิ่งมากกว่า Rp มากขึ้นเรื่อยๆ distortion และการ swing ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ power ก็ตกลงเรื่อยๆเช่นกัน คือสรุปแล้วก็ต้องพบกันครึ่งทางระหว่าง  output และ distortion ครับ


ออฟไลน์ PR

  • ****
    • กระทู้: 357
ผมเคยถามช่างซ่อมเครื่องเสียงหลอดเก่าแก่จนทุกวันนี้ ช่างบอกว่าไม่เป็นไร คงหมายความว่าเครื่องไม่ถึงกับเป็นอะไร ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงอยู่ที่ใจเราเองครับ


ออฟไลน์ EaGLEViEW

  • ****
    • กระทู้: 466
    • เพศ:ชาย
สงสัยครับถ้าลำโพงผม 16ohm ผมเอา R ขนานให้เหลือ  8 ohm จะได้มั๊ยครับหรือต่อ ตรงๆจากแอมป์ ไม่ผ่าน R ก็ได้

ขอบคุณครับ

ไม่แนะนำเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอนุกรมหรือขนาน เพราะพลังงานส่วนหนึ่งจะมาตกอยู่ที่ resistor แทนที่จะไปอยู่ที่ลำโพง คือต่อเล่นๆพอได้ครับ แต่คุณภาพเสียงคงไม่ได้ตามที่ต้องการ

จริงๆแล้วอย่ากังวลมากครับเรื่อง impedance mismatch เพราะพอเอาเขาจริงๆก็ต้องทดลองด้วยการวัดผลจริง การคำนวนอาจจะพอใช้เป็นแนวทางได้บ้าง

โดยทั่วไปแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ
สมมติว่าเราตั้งจุด bias และลาก loadline ไว้ที่ 3K ต่อกับลำโพงแล้วทำให้ impedance reflection มากขึ้น คือทำให้ loadline มากขึ้นจะมีผลลัพธ์ดังนี้

  • กำลังลดลง
  • distortion ลดลง
  • damping factor มากขึ้น


ส่วนถ้า impedance reflection ลดลง ก็ได้ผลตรงกันข้าม

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง พอวัดออกมาเป็นตรงกันข้ามก็มี คือ กำลังกลับเพิ่มขึ้น เพราะหลอด output สามารถ  swing voltage มากขึ้นเพราะ gain มากขึ้น ในขณะที่ distortion กลับมากขึ้นนิดหน่อย เพราะ inductance ของ OPT มันน้อยไป

ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมนะครับว่า impedance ของลำโพงมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามความถี่อีก

สำหรับ DIY แล้ว เรามีโอกาสทดลองอะไรได้มากกว่าปกติ ผมแนะนำว่าควรทดลองฟังจริงดูครับ ถ้าไม่มีเครื่องมือวัด ถ้าเป็นห่วงเรื่องจุด loadline ก็ไม่ต้องกังวลมาก เพราะหลอดบางหลอดสามารถใช้งานกับ loadline ที่มีค่าเพียง 2 เท่าของ Rp ก็มี ยังไงก็ดูค่าระหว่าง 2-4 เท่านะครับ มากกว่า 4 เท่า อาจจะสิ้นเปลืองพลังงานที่ใช้ในการ bias หลอดไปโดยผลที่ได้อาจจะไม่คุ้มกัน




ตัวจริงมาตอบเองแล้วครับ

ว่าแต่อาจาร์ยครับ ปกติเวลาออกแบบ LoadLine หลอด Output เราต้องคำนึงถึงว่า เป็นกี่เท่าของ Rp ด้วยไหมครับ เพราะปกติผมเองเลือกเอาจากความผิดเพี้ยนที่ยอมรับได้และการ Swing ของแรงดันอย่างเดียวเลยครับ 

ช่วยชี้แนด้วยนะครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=53520.0


ออฟไลน์ Karin Preeda

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,060
สงสัยครับถ้าลำโพงผม 16ohm ผมเอา R ขนานให้เหลือ  8 ohm จะได้มั๊ยครับหรือต่อ ตรงๆจากแอมป์ ไม่ผ่าน R ก็ได้

ขอบคุณครับ

ไม่แนะนำเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอนุกรมหรือขนาน เพราะพลังงานส่วนหนึ่งจะมาตกอยู่ที่ resistor แทนที่จะไปอยู่ที่ลำโพง คือต่อเล่นๆพอได้ครับ แต่คุณภาพเสียงคงไม่ได้ตามที่ต้องการ

จริงๆแล้วอย่ากังวลมากครับเรื่อง impedance mismatch เพราะพอเอาเขาจริงๆก็ต้องทดลองด้วยการวัดผลจริง การคำนวนอาจจะพอใช้เป็นแนวทางได้บ้าง

โดยทั่วไปแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ
สมมติว่าเราตั้งจุด bias และลาก loadline ไว้ที่ 3K ต่อกับลำโพงแล้วทำให้ impedance reflection มากขึ้น คือทำให้ loadline มากขึ้นจะมีผลลัพธ์ดังนี้

  • กำลังลดลง
  • distortion ลดลง
  • damping factor มากขึ้น


ส่วนถ้า impedance reflection ลดลง ก็ได้ผลตรงกันข้าม

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง พอวัดออกมาเป็นตรงกันข้ามก็มี คือ กำลังกลับเพิ่มขึ้น เพราะหลอด output สามารถ  swing voltage มากขึ้นเพราะ gain มากขึ้น ในขณะที่ distortion กลับมากขึ้นนิดหน่อย เพราะ inductance ของ OPT มันน้อยไป

ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมนะครับว่า impedance ของลำโพงมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามความถี่อีก

สำหรับ DIY แล้ว เรามีโอกาสทดลองอะไรได้มากกว่าปกติ ผมแนะนำว่าควรทดลองฟังจริงดูครับ ถ้าไม่มีเครื่องมือวัด ถ้าเป็นห่วงเรื่องจุด loadline ก็ไม่ต้องกังวลมาก เพราะหลอดบางหลอดสามารถใช้งานกับ loadline ที่มีค่าเพียง 2 เท่าของ Rp ก็มี ยังไงก็ดูค่าระหว่าง 2-4 เท่านะครับ มากกว่า 4 เท่า อาจจะสิ้นเปลืองพลังงานที่ใช้ในการ bias หลอดไปโดยผลที่ได้อาจจะไม่คุ้มกัน




ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
สงสัยครับถ้าลำโพงผม 16ohm ผมเอา R ขนานให้เหลือ  8 ohm จะได้มั๊ยครับหรือต่อ ตรงๆจากแอมป์ ไม่ผ่าน R ก็ได้

ขอบคุณครับ

ตกลงผมคงถอย 8 ohm ดีกว่าครับ ดูแล้ว Save ต่อเครื่องหลอดมากกว่า  แต่บทเรียนคือ   ต่อไป OPT ให้มี Tap 6 Ohm ;D ;D ;D


ออฟไลน์ taoybb

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,393
    • เพศ:ชาย
น่าสนใจมากครับ  O0

แต่ปัญหามันหา R ดีๆ Watt สูงๆยากนี่ซิครับ ถ้าใช้พวกกระเบื้องต่ออนุกรมเข้าไปสงสัยเสียง :cold
ผมลองแล้วครับ R กระเบื้องธรรมดา อยากบอกว่าพี่ๆอย่าได้ลอง รับรองปาทิ้ง อิอิ เสียงแหลมดรอปโคตรๆ
ที่อยู่ครับ : http://www.htg2.net/index.php?topic=52074.0

Let's Play DA! : http://taoybb.deviantart.com/


ออฟไลน์ alee

  • *
    • กระทู้: 34
สงสัยครับถ้าลำโพงผม 16ohm ผมเอา R ขนานให้เหลือ  8 ohm จะได้มั๊ยครับหรือต่อ ตรงๆจากแอมป์ ไม่ผ่าน R ก็ได้

ขอบคุณครับ


ออฟไลน์ ช็อต

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,394
  • Michael Faraday
ความต้านทานของลำโพงที่เราพูดกันเป็น R dc ครับ จริงๆแล้วเวลาเราฟังเพลง
ค่าความต้านทานของขดลวดลำโพง ขึ้นอยู่กับควาถี่ครับ บางความถี่ลำโพงเราจะเหลือแค่
2 โอมห์ บางความถี่ก็ขึ้นไป หลายสิบโอมห์ครับความต้านทานของ เอ้าท์พุท ก็มีปฏิกริยาเช่นเดียวกันครับ
แต่สุดท้ายก็ควรเอาที่เราชอบเป็นสำคัญครับ 8 โอมห์ 6 โอมห์ไม่สำคัญหรอกครับ :bye1   
ข้อมูลส่วนตัว http://www.htg2.net/index.php?topic=37145.0


ออฟไลน์ Tryman

  • *****
    • กระทู้: 787
น่าสนใจมากครับ  O0

แต่ปัญหามันหา R ดีๆ Watt สูงๆยากนี่ซิครับ ถ้าใช้พวกกระเบื้องต่ออนุกรมเข้าไปสงสัยเสียง :cold

เอา R มาต่อก็ทำให้กำลังขับลดลงไปด้วยจะได้คุ้มกับที่เสียหรือครับ และ 6 ohm ลำโพงมันก็เป็นแค่ ค่าเฉลี่ยนี่ครับ มันมีขึ้นมีลง อยู่แล้ว ถ้าชอบเสียงมันก็เอามาใช้เลยครับ  อย่าคิดมาก
ข้อมูลติดต่อ และโอนเงิน
http://www.htg2.net/index.php?topic=35972.0


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
น่าสนใจมากครับ  O0

แต่ปัญหามันหา R ดีๆ Watt สูงๆยากนี่ซิครับ ถ้าใช้พวกกระเบื้องต่ออนุกรมเข้าไปสงสัยเสียง :cold

สมมุติว่าคุณ Mr. One ใช้แอมป์หลอด 2A3 SE ก็ไม่เกิน 4W on load 8 ohm เนื่องจากลำโพงกับ R อนุกรมกันอยู่ คิดง่ายๆ ว่ากำลัง 1/4 (2/8) จะไปลงที่ R แล้วที่เหลือลงที่ลำโพง เท่ากับเกิดกำลังสูญเสียที่ R 1W ครับ ถ้ารังเกียจ R กระเบื้อง จะใช้ R Carbon 2W ก็ OK แล้วครับ

สมมุติใหม่ว่าคุณ Mr. One ใช้แอมป์ PP EL34 40W ก็เท่ากับสูญเสียที่ R 10W ถ้ารังเกียจ R กระเบื้องก็เอา R Carbon 2W 7-8 ตัวขนานกันให้ได้ 2 ohm ก็ใช้ได้เหมือนกันครับ  ;)


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
น่าสนใจมากครับ  O0

แต่ปัญหามันหา R ดีๆ Watt สูงๆยากนี่ซิครับ ถ้าใช้พวกกระเบื้องต่ออนุกรมเข้าไปสงสัยเสียง :cold


ออฟไลน์ watnao

  • ***
    • กระทู้: 137
    • เพศ:ชาย
  • หมดงบแล้วครับ
อืม   เล่นง่ายๆยังงี้ก็เข้าท่านะ  ต้องลองทำมั่งแล้วล่ะครับ


ออฟไลน์ Mr. Tube

  • Admin
  • Super Star.
  • *****
    • กระทู้: 2,847
อันที่จริง ถ้ายังไงๆ ก็ต้องใช้ลำโพง 6 ohm และแอมป์หลอดมีแต่ Tab 8 ohm ก็มีอีกทางเลือกนึง คือ เอา R 2 ohm อนุกรมลำโพงครับ  :D :D


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
เป็นไงครับตัดสินใจได้หรือยัง :yahoo d_d

อ่านๆดู เสมอตัวกับ ขาดทุนนะครับ คงต้องไปเล่น 8 ohm ดีกว่า พอดีไปชอบๆ ลำโพงดูหนัง มัน 6 ohm หวังว่าจะมาเล่น กับเครื่องหลอดด้วย แต่คงหารุ่น 8 ohm น่าจะชัวร์กว่ามั้งครับ  :)


ออฟไลน์ ช็อต

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,394
  • Michael Faraday

ออฟไลน์ Old Tube

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,295
 O0 ความรู้ทั้งนั้น  :clap :clap :clap
oldtube
นายอุกฤษ เหมพิจิตร
184 อาคารฟอรั่ม ทาวเวอร์ ถ.รัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง แขวงห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
 tel.084-677-3599


ออฟไลน์ ต่อภูเขียว

  • ****
    • กระทู้: 364
    • เพศ:ชาย
เคยอ่านในนิตยสารเครื่องเสียงเขายอกว่า กรณีอิมพีแด๊นช์ลำโพงไม่ตรงกับเอ๊าท์พุท อย่าง กรณี 6 โอมห์ ให้ต่อที่ขั้ว 8 โอมห์จะปลอดภัยกว่า ตามที่หลายท่านว่ามาครับ ปลอดภัยกว่าครับ


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
ไม่พังหรอกครับ เวลาเราเปิดก็อย่าเปิดให้มันสุด สิครับ พอเสียงมันเริ่มแตกก็เบามันลงมา ก็แค่นั้น
เหมือนกับเราจูงควาย(บ้านๆพอใหมครับ  ;D)ถ้าเราเหนื่อยเราก็เดินให้ช้าๆหน่อยก็แค่นั้นเอง
กระแสจะสูงหรือต่ำอยู่ที่มือเราครับ ไม่ใด้อยู่ที่ลำโพง :bye1



ขอบคุณครับ ตอบได้ Feel มากครับ  d_d


ออฟไลน์ Eak-tubeamp

  • วันนี้ไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 4,849
    • เพศ:ชาย
  • ....ด้วยใจรัก....
ขออนุญาตแจมด้วยคน
สมมุติว่า OPT 5k แล้วกัน อัตราทดรอบเท่ากับ 25:1 ที่ 8 ohm
จากสูตร Np^2/Ns^2=Zp/Zs เมื่อ Zs=6   Zp=(25^2)*6=3750 ohm
ทำให้หม้อ5k กลายเป็น 3.75k ครับ ส่วนเรื่องความดัง กำลัง ต้องดูว่าหลอดอะไร จุดทำงานตรงไหนครับ :D
โชคดีที่ได้เจอสูตรนี้อีก ลืมไปหมดแล้ว
tel 083-3887864


ข้อมูลส่วนตัว  http://www.htg2.net/index.php?topic=44962.0


ออฟไลน์ prasan

  • ...Back to the Basic...
  • Superstar...
  • ****
    • กระทู้: 5,086
    • เพศ:ชาย
ลองดูตัวอย่างการเปลี่ยนลำโพงจาก 8 Ohm เป็น 4.8 Ohm ของหลอด 2A3 ครับ จะทำให้ได้กำลังวัตต์ที่เพิ่มขึ้นครับ  :) ที่จุดไบอัสเท่าเดิมครับ
ที่ผมใช้ตัวเลข 4.8 Ohm ก็เพื่อจะให้ได้ค่า Prim imp ที่ 1500 Ohm จะได้เขียนโหลดไลน์ง่ายหน่อย
กำลังวัตต์ที่สูงขึ้นหลอดก็จะทำงานหนักขึ้น รวมถึง OPT ก็จะทำงานหนักขึ้นด้วยครับ
"I haven't failed. I've found 10,000 ways that don't work." - Thomas Edison
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new." - Albert Einstein


ออฟไลน์ ช็อต

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,394
  • Michael Faraday
ไม่พังหรอกครับ เวลาเราเปิดก็อย่าเปิดให้มันสุด สิครับ พอเสียงมันเริ่มแตกก็เบามันลงมา ก็แค่นั้น
เหมือนกับเราจูงควาย(บ้านๆพอใหมครับ  ;D)ถ้าเราเหนื่อยเราก็เดินให้ช้าๆหน่อยก็แค่นั้นเอง
กระแสจะสูงหรือต่ำอยู่ที่มือเราครับ ไม่ใด้อยู่ที่ลำโพง :bye1
ข้อมูลส่วนตัว http://www.htg2.net/index.php?topic=37145.0


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
สรุปคือ ถ้าไม่พูดเรื่องเสียงไม่น่าเล่น  ใช่ใหมครับ หลอดทำงานหนัก กระแส OPT เกิน ทำนองนี้ใช่ใหมครับ เอาแบบบ้านๆเลย 8)


ออฟไลน์ taoybb

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,393
    • เพศ:ชาย
ผมว่ามันตรายกับหลอด แล้วก็ OPT นะครับเพราะ Impedance ทาง Pri มันลด
ที่อยู่ครับ : http://www.htg2.net/index.php?topic=52074.0

Let's Play DA! : http://taoybb.deviantart.com/


ออฟไลน์ อ้วน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,678
แต่ที่รู้อย่างคือจะทำให้ไม่ต้องเร่งมากครับ จะขับง่ายกว่าลำโพง8ohmอยู่แว้ว :whistling :whistling

ข้อเสีย ทำให้การถ่ายทอดกำลังงานลดลง ในความดังเท่ากันคุณต้องเร่งวอลลุ่มมากขึ้นแต่ก็ไม่แน่เสมอไปถ้าลำโพงนั้นมีความใวสูง
ถ้าฟังแล้วเสียทีได้มันถูกใจพอใจก็ฟังเถอะครับไม่มีอะไรเสียหายครับ

ตกลงเปลี่ยนแค่ลำโพงจาก 8 ohm เป็น 6 ohm เสียงจะดังขึ้นหรือเบาลงครับ เมื่อไม่ปรับอื่นๆ ???
ยืนยันครับว่าการถ่ายทอดกำลังลดลงครับ ทีเห็นกันว่าการต่อลำโพง8โอมห์เปลียนมาเป็น4โอมห์แล้วได้กำลังเพิ่มขึ้นนั้นเพราะเขามองความต้านทานเอาท์พุชเป็นศูนย์แต่โจทย์ข้อนี้กำหนดให้คือ8โอมห์
ลองใช้กฎของโอมห์คิดเล่นฯก็ได้ครับสนุกดี  จำได้สมัยเป็นนักสึกชาเรื่องการถ่ายทอดกำลังพิสูตรกันเป็นหน้าฯเลยครับ


ออฟไลน์ EaGLEViEW

  • ****
    • กระทู้: 466
    • เพศ:ชาย
ผมว่าการที่ใช้ลำโพง Ohm ต่ำๆกว่าวงจรที่ออกแบบมา มันอาจจะได้เสียงที่ดีงขึ้นก็จริงนะครับ แต่มันจะกินกระแสมากขึ้นนะครับ ซึงจะเป็นอันตรายต่อเครื่องเราเองครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=53520.0


ออฟไลน์ punTR

  • ***
    • กระทู้: 180
ขออนุญาตแจมด้วยคน
สมมุติว่า OPT 5k แล้วกัน อัตราทดรอบเท่ากับ 25:1 ที่ 8 ohm
จากสูตร Np^2/Ns^2=Zp/Zs เมื่อ Zs=6   Zp=(25^2)*6=3750 ohm
ทำให้หม้อ5k กลายเป็น 3.75k ครับ ส่วนเรื่องความดัง กำลัง ต้องดูว่าหลอดอะไร จุดทำงานตรงไหนครับ :D


ออฟไลน์ ใหญ่

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,548
  • เลิกซื้อก่อนครับ..... กระเป๋าบางแร้ววว...ว
ขอเสริมเล็กน้อยนะครับ

ในทางทฤษฎี Output 8 Ohm ควรจะใช้กับลำโพง 8 Ohm ขึ้นไป หรือสูงกว่า
การใช้ Output ที่มีค่าความต้านทานสูง ต่อกับลำโพงที่มีความต้านทานต่ำกว่า
จะมีผลทำให้ Output ทำงานหนักขึ้น เกิดความร้อนมากขึ้น  แต่เสียงที่ได้มีความดังมากขึ้น

เปรียบได้กับปั๊มน้ำที่มีท่อออกขนาดเล็ก  แต่ไปต่อท่อที่มีขนาดใหญ่กว่า
ซึ่งมีผลทำให้ปั๊มน้ำออกมามากขึ้น  แต่เช่นเดียวกันปั๊มน้ำก็จะทำงานหนักขึ้นด้วย

ถ้าแตกต่างกันไม่มาก ไม่เป็นไร แต่ถ้าแตกต่างกันมาก ระหว่างลำโพง 4 กับ Output 8 Ohm มีผลแน่นอนครับ

กรณีนี้ Output 8 Ohm กับลำโพง 6 Ohm ความต้านทานไม่ต่างกันมาก 
ในทางทฤษฎีก็อาจจะมีผลในระยะยาว  แต่ทางปฏิบัติ  ผมไม่เคยพบ Output ที่ร้อนจนเสียหาย
จากการต่อวงจรที่มีค่าความต้านทานเท่านี้ครับ

ส่วนเสียง มีผลแน่นอนครับ  ชอบอย่างไร ลองต่อฟังดูเอาเองครับ....หูใครหูมัน :) :)


อย่าเอ่ยปากโทษโลก ...ถ้ายังไม่ลงมือทำ


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
อย่าไปคิดมากครับถ้าชอบ ถูกใจ มีเงินซื้อเลยครับ Y] Y] Y]

ก้อ เล็งอยู่ จะมาเล่นกับ HT แต่ แล้วก้อมี Amp หลอดอยู่ กลัวใช้ไป ไม่ใครก้อใครพังกันไปข้างล่ะ  :'(  เพราะทั้งหลอด+OPT ก็หลาย K ลำโพงก็หลาย K


ออฟไลน์ Spacerider

  • **
    • กระทู้: 83
อย่างนี้ อิมพิแดนซ์ด้าน Primary น่าจะเปลี่ยนไปจากที่ออกแบบไว้ไหมครับ
ข้อมูลส่วนตัวครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=60556.msg752674#msg752674


ออฟไลน์ ช็อต

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,394
  • Michael Faraday
ทุกคนมีเหตุผลที่ดีครับ ส่วนของผมต้องลองเองครับ เราชอบตรงจุดใหน เพราะว่าเวลาเราฟัง เราไม่ใด้ฟังที่โอมห์
แต่เราฟังที่เสียง  K]ใครเคยมีโอกาสถอดดูลำโพงรุ่นเก่าๆ ที่มาจากญี่ปุ่นจะเห็นว่าบางตู้เสียงทุ้มกับกลาง 8 โอมห์แต่แหลมเป็น 4 โอมห์
แต่ถ้าจะซื้อมาใช้งาน อันนี้ต้องยกลำโพงเราไปลองครับ เพราะว่าแม้แต่ลำโพง 8 โอมห์ความไวแต่ละดอกแต่ละรุ่นก็ไม่เท่ากันครับ
และถ้าเป็นลำโพง Full rang ที่ต้องมาฟังกับแอมป์หลอด โอมห์นี้ก็มีผลอีกมากมาย ใหนจะแมชกันหรือเปล่า ใหนจะค่า K ของ Out put
ที่เปลี่ยนไปอีกอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมากมายโอ้ย..ปวดหัวตาย :nono อย่าไปคิดมากครับถ้าชอบ ถูกใจ มีเงินซื้อเลยครับ Y] Y] Y]
ข้อมูลส่วนตัว http://www.htg2.net/index.php?topic=37145.0


ออฟไลน์ คนไกลบ้าน

  • *****
    • กระทู้: 786
    • เพศ:ชาย
ในกรณีของแอมป์หลอดมันมีการใช้หม้อแปลงแมชชิ่งอิมพีแดนซ์ ถ้าลำโพงที่ใช้มีอิมพีแดนซ์ต่างไปจากที่แอมป์ระบุ เพาเวอร์เอาต์พุตจะลดลงครับ (ไม่ว่าลำโพงจะมีอิมพีแดนซ์มากกว่าหรือน้อยกว่าก็ตาม) เป็นไปตามกฎของ Power maxium transfer อ่ะนะ ....... ส่วนแอมป์ทรานซิสเตอร์จะไม่เป็นแบบนี้ เนื่องจากมันมีเอาต์พุตอิมพีแดนซ์ที่ต่ำมากๆ ยิ่งวงจรที่ใช้ NFB นี่อยู่ในระดับมิลลิโอห์มเลย ทำให้มันขับลำโพง 4 โอห์มแล้วได้เพาเวอร์มากกว่าลำโพง 8 โอห์มครับ


ออฟไลน์ ก.ไก่

  • ****
    • กระทู้: 386
    • เพศ:ชาย
  • ความพอใจทำให้เป็นสุข
โดยทฤษฎีแล้ว เมื่อใช้กับลำโพงที่มีความต้านทานต่ำลง เสียงจะดังขึ้นครับ (ในตำแหน่งวอลลุ่มเท่าเดิม)
เพราะว่า เมื่อความต้านทานต่ำลง กระแสกับแรงเคลื่อนจะผ่านไปได้ดีกว่าเดิม  Y]
ข้อมูลของ ก.ไก่ ครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=23901.msg264649#msg264649


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
แต่ที่รู้อย่างคือจะทำให้ไม่ต้องเร่งมากครับ จะขับง่ายกว่าลำโพง8ohmอยู่แว้ว :whistling :whistling

ข้อเสีย ทำให้การถ่ายทอดกำลังงานลดลง ในความดังเท่ากันคุณต้องเร่งวอลลุ่มมากขึ้นแต่ก็ไม่แน่เสมอไปถ้าลำโพงนั้นมีความใวสูง
ถ้าฟังแล้วเสียทีได้มันถูกใจพอใจก็ฟังเถอะครับไม่มีอะไรเสียหายครับ

ตกลงเปลี่ยนแค่ลำโพงจาก 8 ohm เป็น 6 ohm เสียงจะดังขึ้นหรือเบาลงครับ เมื่อไม่ปรับอื่นๆ ???


ออฟไลน์ อ้วน

  • Super Star
  • *
    • กระทู้: 1,678
มีใครเคยใช้ ลำโพง 6 ohm กับ เครื่องหลอดที่มี OPT ออก 8 ohm ตามปกติหรือไม่ครับ
มีข้อเสีย หรือ ข้อดีหรือไม่ครับ จะมีผลอะไรกับ เครื่อง OPT หรือ มีผลกับลำโพงเองหรือไม่ครับ  :)
ข้อเสีย ทำให้การถ่ายทอดกำลังงานลดลง ในความดังเท่ากันคุณต้องเร่งวอลลุ่มมากขึ้นแต่ก็ไม่แน่เสมอไปถ้าลำโพงนั้นมีความใวสูง
ถ้าฟังแล้วเสียทีได้มันถูกใจพอใจก็ฟังเถอะครับไม่มีอะไรเสียหายครับ


ออฟไลน์ MAXBOMB

  • ****
    • กระทู้: 427
อยากรู้เหมือนกันครับ ส่วนของผมอยากรู้ว่าถ้าลำโพงเป็น 11 โอห์มจะมีผลอย่างไร Y] Y]


ออฟไลน์ NK

  • ****
    • กระทู้: 355
ในความคิดของผมนะครับไม่มีผล นอกจากลำโพงที่มีความไวสูงๆทำให้เราสามารถฟังถึงความแตกต่างได้ แต่ที่รู้อย่างคือจะทำให้ไม่ต้องเร่งมากครับ จะขับง่ายกว่าลำโพง8ohmอยู่แว้ว :whistling :whistling
O0
ที่อยู่ ตามลิ้งนะครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=45946.0


ออฟไลน์ lovely

  • **
    • กระทู้: 66
ในความคิดของผมนะครับไม่มีผล นอกจากลำโพงที่มีความไวสูงๆทำให้เราสามารถฟังถึงความแตกต่างได้ แต่ที่รู้อย่างคือจะทำให้ไม่ต้องเร่งมากครับ จะขับง่ายกว่าลำโพง8ohmอยู่แว้ว :whistling :whistling


ออฟไลน์ Mr. One

  • Superstar..
  • ***
    • กระทู้: 3,226
มีใครเคยใช้ ลำโพง 6 ohm กับ เครื่องหลอดที่มี OPT ออก 8 ohm ตามปกติหรือไม่ครับ
มีข้อเสีย หรือ ข้อดีหรือไม่ครับ จะมีผลอะไรกับ เครื่อง OPT หรือ มีผลกับลำโพงเองหรือไม่ครับ  :)