ไปดูมาครับพี่หมอ เล่นดีร้องดีอย่างที่บอกเลยครับ บ่ายเมื่อวานโทรไปให้ BSO ช่วยหาที่ไว้ให้สำหรับสองคน ไปถึงเขาจัดตั๋วนักเรียนไว้ให้ 2 ใบ เขินเลย

ก็เลยได้จ่ายเงินไปแค่ 400 บาท กับค่าซื้อสูจิบัตรไปอีก 100 นึง คุ้มจริง ๆ
รอบเมื่อคืน ตลกดีครับ คือตอนฉากแรกที่มีพิธีกรรม พวกตัวประกอบวิ่งผิดคิว ไปชนรั่วเตี้ยเล็ก ๆ ฝั่งขวาล้มโครม ดีที่ไม่มีใครเจ็บ เล่นกันต่อได้ พอมาระหว่างฉาก 2-3 ที่วงเล่นดนตรีขั้นช่วงยาว ๆ นั้น มีอะไรหล่นมาจากข้างบนไม่ทราบ แต่ชิ้นคงไม่ใหญ่และไม่หนัก โชคดีอีกที่ไม่โดนใคร ตกมาแถว ๆ หน้าวงกับที่นั่งแถวหน้าพอดี ก่อนเปิดไฟเล่นฉากถัดไป เห็นเงา staff วิ่งออกมาเก็บของไป
ผมได้ที่นั่งด้านซ้ายของเวที ซึ่งตรงกับที่นักดนตรีตั้งวงกัน ถึงแม้จะอยู่แถวบนด้านหลังสุด ก็ได้ยินเสียงชัดเจนและ balanced ดีเลย (ต้องชมด้วยว่าระบบแอร์ที่หอเล็กฯ ที่ติดตั้งไว้นี้ เงียบดีมากครับ) ฉากท้าย ๆ ที่ chorus มาร้องด้านหลังนั้น รู้สึกเหมือนจะนั่งใกล้ลำโพง surround มากไปหน่อย กลัวน้ำลายหกใส่ง่ะครับ
Production ทำได้น่าสนใจดีครับ มีเนื้อเพลงทั้งอังกฤษและไทยให้อ่านด้วย ผมอ่านไม่ตลอด เพราะสลับกับหลับตาฟังซะเป็นส่วนใหญ่ตอนที่ไม่มี action อะไรมากบนเวที ที่น่าจะปรับปรุงได้คือ costumes ของ chorus ซึ่งผมก็ไม่แน่จะนะ ว่าตามบทที่จริงนี่ เขาต้องเล่นทั้งฝั่งนางเอก กับเป็นตัวร้ายพวกแม่มดรึเปล่า หรือว่าเป็นการแปลงตัวแซกทรึมเข้ามาในวัง อย่างไรก็ตาม น่าจะหาผ้าพันคอหรือสายรัดแขนที่ใส่-ถอดง่ายๆ แต่มีสีหรือลักษณะบ่งบอกซักหน่อย ว่าฉากนี้เล่นเป็นฝั่งผู้ดีหรือฝั่งผู้ร้าย
ช่วงสุดท้ายที่นางเอกก่อนตาย ร้องโหยหวนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ผมว่าไฟมันสว่างทั่วไปหน่อย ไม่ค่อย dramatic น่าจะทำให้บรรยากาศมืด ๆ เศร้า ๆ หน่อยแล้วใช้ spot โฟกัสที่นางเองคนเดียว
พระเอกก็ร้องดีนะครับ แต่เสียงไม่ค่อยหล่อหรือห้าวประทับใจผมเท่าไหร่ ส่วนนางเอกเสียงโอเคเลย conductor/harpsichord คุมวง/เล่นดีมากครับ ส่วนพี่กิตติคุณก็เล่น cello ได้แจ๋วเหมือนเดิม
อ้อ...พี่หมอช่วยบ่นผ่าน Bangkok Post หน่อยนะครับ ว่าห้องน้ำชายที่หอเล็กนี่ ทำไมกระทรวงวัฒนธรรม ถึงปล่อยให้กลิ่นมันแรงไปนิด เหมือนระบบ sanitizer ที่เป็นกล่อง ๆ นี่มันติดตั้งไม่ครบโถอะครับ น่าขายหน้า