ไป Image มาวันนี้ต้องไปดูหน้าตา VPI Classic รุ่น 20th Anniversary Audio Excellence
ปี้งมากๆ โคตรหนักเลย Classic ธรรมดา หนัก 20 โลเศษๆ รุ่นนี้ มี plinth เป็น Aluminium หนาพิเศษ
หนากว่า VPI Classic 3 ที่กำลังจะออก อีกพอสมควร เท่าที่รู้ VPI ทำให้ Audio Excellence 20 ตัว และ
Harry Pearson ได้ไปตัว แต่ไม่ได้เป็น piano black กับ Audi Silver paint finished แล้วก็ใส่ full option
เลย คือ มี ring clamp, Valhalla wire with VTA tower, SDS, HRX center weight, และที่ต่างจาก Classic
ธรรมดา นอกจากเรื่อง finished แล้วก็คือ มี aluminium plinth แทน เหล็ก หนักขึ้นอีก 10 โลกว่าๆได้
ใช้ bearing ของ HRX แทนของ Classic ธรรมดา มีขาใหม่ ใหญ่โตขึ้นอีก และมีสายไฟ ที่คัดพิเศษมาอีก สองเส้น และ
phono cable อีกเส้น 3 เส้นนี่ก็หลายหมื่นแล้วมั้ง และมี mat อะไร ไม่รู้นุ่มๆสี เทามาอีกอันด้วย
ราคา รอ อีกที แต่ Classic ธรรมดาที่ใส่
full option ปกติก็ร่วม 250,000 แล้ว ถ้ามาแยกใส่ทีหลังแบบผมที่ผมทำ
วันนี้เลยได้นั่งฟังอยู่นาน ใส่แค่หัวเข็ม Dyna 20X2 หัวใหม่เอี่ยม ห้องนี้ใช้ Magico V2 Asthetix Rhea, pre กับ power
เมื่อก่อนก็เคยฟังชุดนี้หลายที กับ Classic ธรรมดา กับหัว Mysonic ราคา 5 เท่าของหัว 20X2
บอกได้แต่ว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ ฟังแล้วชอบเสียง V2 เมื่อก่อนชอบ V3 มากๆ แต่พอใส่ V2 เข้าไปแทน รู้สึกว่าเสียง
กลางมันไม่อิ่มไม่ใหญ่ และ bass ขาด foundation ของ V3 ไปเยอะ เลยไม่ค่อยชอบ
แต่วันนี้ เสียงหลังจากที่ warm ได้สัก สองสาม ชม นี่ ปิ้งมากๆ Mysonic/ Classic ธรรมดา สู้ไม่ได้เลยทั้งๆที่ หัว
Mysonic เป็นหัวอันนึงที่ผมชอบมากๆ มากกว่า Dyna XV-1s อดีตตัวใหญ่ ของ Dyna อีก นี่ขนาดสาย หัวเข็มทุกอย่าง
เพิ่งใช้ใหม่เอี่ยมเลย สายเพิ่งมาวันนี้เอง เดี๋ยว VPI Anniversary นี่จะเอาไป เปิดตัวที่งาน อีกอาทิตย์นึงนี่ด้วย
เสียงกลางอิ่มใหญ่ขึ้นมา มากกว่าเดิม แต่เสียงสูงก็ยังเปิด clear ไม่ dark เลย
จนนึกถึงว่าเสียงเหมือน V3 มากกว่ V2 ที่เคยฟัง และ background เงียบลงไปอีกเยอะ
คราวนี้ก็ต้องนั่งเตรียมตัว รอตัวของผมมา แล้วเตรียมตัวขาย VPI ตัวเก่าของผม