หัวข้อ: อยากเรียนการทำตู้ลำโพง และอุปกรณ์เครื่องเสียงอื่นๆ

[หมีหมอเหม็ด]

อ่านของไทยก่อนเลยครับ
กระทู้ในนี้แหละ ห้องสมุดDIY, กระทู้ปักหมุด, GainClone step by step, สอนออกแบบแอมพ์ อ.Karin, 2A3 อ.Mc, รวมวงจรฯ, ฯลฯ
อ่านแล้วจะอยากมากขึ้น ก็หาอ่านภาษาอังกฤษเพิ่มครับ
อ่านไปทำไป จะเข้าใจมากขึ้นจากปัญหาที่เกิดระหว่างทำครับ
 

[-=(หวาก)=-]

ผมว่าถ้าอยากเรียนรู้ด้านนี้ อย่างแรกเลยที่ต้องรู้โดยละเอียดคือ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ความรู้อย่างน้อยๆก็ต้องเทียบได้กับระดับ ปวช หรือ ปวส ครับ
ไม่งั้นไปต่อยากมากๆ สิ่งต่อมาคือ คลื่นและเสียง หลายท่านในที่นี้อาจจะไม่ได้มีพื้นฐานทางนี้โดยตรง แต่ก็เรียนรู้เองเองก็นับว่ามีความรู้นะครับ ไม่ได้หมายความว่าต้องมีวุฒิ 


เดี๋ยวนี้ไม่รู้ทำไมวงการเครื่องเสียงชักเป็นไสยศาสตร์ มากกว่าวิทยาศาสตร์ซะแล้ว  อึมไม่พูดมากดีกว่าเดี๋ยวนอกประเด็น อิอิ

[Godshadow]

ขอบคุณทุกคำตอบครับ

ตามที่คุณ Yoss บอกมาผมเห็นด้วยทั้งหมดครับ
สำหรับผมไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างหรือจะสร้าง Brand ขึ้นมาผมก็ยินดีครับถ้าสามารถทำให้คนไทยหันมาใช้ของไทยครับ
ของที่จะเอาออกมาขายต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า (ตอนนี้ผมก็ยังไม่เ้ข้าใจว่าทำไมของ Hifi มันแพงนัก)
แต่ผมก็ยังไม่ค่อยรู้ว่าข้างในเครื่องมันมีอะไรบ้างอะครับเลยอยากศึกษา
ว่าที่เอามาขายแพงๆ นี่แพงเพราะอะไร เราสามารถทำให้มีดีสวยถูกได้รึเปล่า
โดยอยากจะให้คนไทยได้ใช้ของดีมีมาตรฐานและไม่เอาเปรียบ

ที่พูดมาทั้งหมดเป็นเพียงความฝันเท่านั้นแต่ถ้าทำได้ก็คงจะดีครับ

[yoss]

ผมขอเสนอแนวคิดในอีกมุมนึงนะครับ ก่อนอื่นอยากทราบว่าเป้าหมายที่ต้องการจะเรียนด้านนี้คืออะไรครับ ต้องการประกอบอาชีพทางด้านนี้ไช่ไหมครับ คำถามต่อไปคือต้องการเป็นลูกจ้างทำงานในบริษัททำเครื่องเสียงหรือจะสร้าง Brand ยี่ห้อของตัวเองขึ้นมาเลย เป็นเถ้าแก่เองว่างั้นเถอะ

ถ้าข้อแรก ผมขอบอกเลยว่าตลาดแรงงานในด้านนี้แคบและเล็กมากๆครับ อัตราการจ้างงานก็น้อย มูลค่าตลาดของเครื่องเสียง (ไม่รวมถึงเครื่องในระดับ Consumer นะครับ) ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆครับ

ทีนี้ถ้าข้อสอง ความสำเร็จของเครื่องเสียงแต่ละยี่ห้อเรื่องการตลาดสำคัญที่สุดครับ ทำแอมป์ให้เสียงดีอาจจะเป็นเรื่องยากแต่ทำแอมป์ให้เสียงดีและขายออก+มีกำไรเป็นสิ่งที่ยากกว่าครับ ยิ่งถ้าคุณต้องการจะเจาะตลาดคนไทยแล้วล่ะก็ คุณต้องฝ่าฟันอีกเยอะเลยครับ ที่สำคัญที่สุดและยากที่สุดคือทัศนคติของคนไทยครับ ไม่เฉพาะกับวงการเครื่องเสียง แต่เป็นกับทุกๆวงการ คนไทยไม่ค่อยเชื่อฝีมือคนไทย ไม่คิดว่าคนไทยจะทำของดีมีคุณภาพได้ จุดขายของสินค้าไทยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ความคุ้มค่า+ราคาถูกเท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่ความมีคุณภาพแบบสุดๆ คนไทยจะไม่ซื้อของไทยเพราะของไทยดี แต่จะซื้อเพราะของไทยราคาถูก ผมเชื่อว่าเราสามารถทำแอมป์ให้คุณภาพดีๆ ราคาแพงๆได้ แต่คนไทยจะไม่ซื้อ คนไทยจะคิดว่า "ราคาขนาดนี้ไปซื้อยี่ห้อ..........จากเมกา หรือยี่ห้อ........จากเมืองจีนดีกว่า" นักวิจารณ์ก็จะว่า "เพิ่มงบอีกหน่อยคุณก็จะได้ยี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้จากเมืองนอก ฯลฯ" ฝรั่งสามารถทำแอมป์ด้วยต้นทุนห้าหมื่นมาขายในราคาสองแสนได้ และคนไทย (และชาติอื่นๆ) ก็จะซื้อและยินดีจ่ายเงินโดยไม่มีข้อกังขา แต่คนไทยไม่สามารถทำได้ เพราะคนไทยจะไม่ซื้อและจะมีคำถามว่าทำไมมันถึงต้องแพงขนาดนั้น? นี่มันของไทยนะ ? ผลิตในเมืองไทยนะ? ฯลฯ แม้เครื่องจะมีคุณภาพพอๆกันก็ตามด้วยเหตุที่ว่ามันทำโดยคนไทยครับ...ถ้าจะให้ดีผมว่าควรจะไปตั้งฐานการผลิตที่ต่างประเทศดีกว่าแล้วค่อยส่งมาขายเมืองไทยและอย่าบอกด้วยว่าคนไทยทำ

ทีนี้ลองว่ากันเรื่องการออกแบบแอมป์บ้างครับ ผมไม่ไช่คนที่มี Background ทางการศึกษาทางด้านอีเลคโทรนิกส์นะครับ มีความรู้งูๆปลาๆ ออกแบบแอมป์ไม่เป็นยกเว้นแอมป์หลอดพอได้บ้าง แต่ผมก็พอจะบอกได้ว่าเทคโนโลยีด้านเครื่องเสียงมันไม่ได้ยากเย็นหรือซับซ้อนขนาดนั้นครับยิ่งถ้าแอมป์หลอดแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ความรู้ของคนที่เรียนมาทางไฟฟ้าในระดับ ปวส-ป.ตรี ก็เหลือๆที่จะเข้าใจหมดแล้วครับ พื้นฐานวงจรส่วนใหญ่ก็ออกแบบกันมานานแล้ว สิ่งที่เป็นจุดขายหรือแข่งขันกันในปัจจุบันน่าจะอยู่ที่เรื่องของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้และการ Fine tune มากกว่าครับ การเลือกสรรชนิดของอุปกรณ์ การปรับค่าต่างๆทีละนิดและทดลองฟังเพื่อหาจุดที่ลงตัวที่สุดนี่แหละเป็นสิ่งที่นักออกแบบเครื่องเสียงเขาทำกัน เป็นลักษณะของการ Trial&Error ครับ ลองดูแอมป์ Gain card สิครับ ใช้ IC ตัวเดียวกับ R/C อีกสามสี่ตัวก็ทำมาขายได้แล้ว แพงอีกต่างหาก พูดเหมือนง่ายแต่กว่าจะออกมาขายได้เขาก็ต้องผ่านกระบวนการ Trial&Error และทดลองฟังมาก่อนครับ กับอุปกรณ์ R/C ไม่กี่ตัวนี่แหละครับ

[Withaya]

แนะนำโรงเรียนนี้เลย

University of Essex, UK

ต้องเรียนกับคนนี้ด้วย
http://www.essex.ac.uk/csee/people/profile.aspx?id=33

ลองหาอ่าน paper ของเขาดูแล้วจะรู้ว่าน่าเรียนแค่ไหน

[Withaya]

ลองอ่านของหนังสือของ morgan jone หรือ Douglas self ก่อนก็ได้ครับ

http://www.htg2.net/index.php?topic=38120.0
http://www.htg2.net/index.php?topic=62915.0

เข้าใจทั้งสองเล่มอย่าปรุโปร่งก็แทบจะหากินได้แล้วครับ

[Godshadow]

พอจะมีพี่แนะนำบ้างรึเปล่าอะครับ ถ้าเริ่มอ่านเกี่ยวกับไฟฟ้าควรจะ่เริ่มแบบไหนดีอะครับ
ตอนนี้พอจะวัด VIR ได้แค่นั้นเองอย่างอื่น พวกการต่อ C ความต้านทาน Opamp อะไรต่างๆ ยังไม่เข้าใจ concept มันเลยครับ

[zero one]

ผมคิดว่าถ้าจะทำงานไปด้วยแล้วก็ศึกษาด้านนี้ไปด้วย งานผมจะไม่ค่อยได้เรื่องแล้วก็คงต้องใช้เวลาศึกษานานครับ
เลยคิดว่าถ้าจะเรียนแบบเอาจริงๆ เลย ซัก 2 ปี ถ้าได้ไปอยู่ต่างประเทศด้วยยิงดีเพราะผมอยากได้ภาษาด้วย
ถ้าเป็นไปได้อยากมาทำงานด้านนี้เลย อยากออกแบบวงจรเป็นอะครับ
คือตอนนี้ไฟฟ้าผมรุ้จักแต่ V I R แค่นี้ครับ รู้สึกเหมือนยังมีอีกเยอะที่ไม่รู้จัก

ปล. ตอนนี้เครื่องเสียงบ้านที่เป็นของไทยมียี่ห้ออะไรบ้างอะครับ

อืม เข้าใจครับ   

[Godshadow]

ผมคิดว่าถ้าจะทำงานไปด้วยแล้วก็ศึกษาด้านนี้ไปด้วย งานผมจะไม่ค่อยได้เรื่องแล้วก็คงต้องใช้เวลาศึกษานานครับ
เลยคิดว่าถ้าจะเรียนแบบเอาจริงๆ เลย ซัก 2 ปี ถ้าได้ไปอยู่ต่างประเทศด้วยยิงดีเพราะผมอยากได้ภาษาด้วย
ถ้าเป็นไปได้อยากมาทำงานด้านนี้เลย อยากออกแบบวงจรเป็นอะครับ
คือตอนนี้ไฟฟ้าผมรุ้จักแต่ V I R แค่นี้ครับ รู้สึกเหมือนยังมีอีกเยอะที่ไม่รู้จัก

ปล. ตอนนี้เครื่องเสียงบ้านที่เป็นของไทยมียี่ห้ออะไรบ้างอะครับ

[zero one]

คือผมเรียนทางด้านวิศวะเคมีมาครับแต่สนใจด้านนี้
ถ้าอยากจะศึกษาด้านนี้อย่างจริงจัง มีที่ไหนให้ไปศึกษาต่อได้บ้างครับ
ถ้าเป็นต่างประเทศที่พูดภาษาอังกฤษกันมีที่ไหนแนะนำมั้ยครับ

เรียนรู้ด้วยตนเองครับ  ถ้าเราสนใจซื้อหนังสือมาก่อน  อ่านเยอะได้เยอะ  อ่านแล้วก็ลงมือทำ  แต่ระวังเรื่องไฟสูงไว้นะครับ      มีไรสงสัยก็โทรมาถามได้ครับ

[Godshadow]

คือผมเรียนทางด้านวิศวะเคมีมาครับแต่สนใจด้านนี้
ถ้าอยากจะศึกษาด้านนี้อย่างจริงจัง มีที่ไหนให้ไปศึกษาต่อได้บ้างครับ
ถ้าเป็นต่างประเทศที่พูดภาษาอังกฤษกันมีที่ไหนแนะนำมั้ยครับ